บทที่ 559 เทศกาลขอทาน

ถังหลี่มองเขาด้วยรอยยิ้ม …ช่างคิดจริงๆ

ในวันธรรมดาเว่ยฉิงยุ่งมาก แต่เมื่อเป็นวันหยุดเขาก็จะเดินตามภรรยาเสมอ เว้นแต่ว่ามีเรื่องเร่งด่วนเท่านั้น ชายหนุ่มเกาะติดถังหลี่ตลอดไม่ว่านางจะเดินหรือจะกิน เขาแทบจะป้อนอาหารให้นางด้วยซ้ำ ยามที่ถังหลี่ขมวดคิ้วเพียงนิดเดียวเขาก็ตื่นตระหนกราวกับว่าฟ้าจะถล่มลงมา

ถังหลี่มีความสุขที่ได้เห็นท่าทีแสดงออกเกินจริงของสามีดูแล้วตื่นตาตื่นใจมาก พอตกบ่ายอากาศร้อนขึ้นถังหลี่จึงอยู่แต่ในห้องนอน นางเอนกายนอนบนเก้าอี้อย่างง่วงงุน มีเว่ยฉิงอยู่ข้างๆคอยโบกพัดให้

“พี่สามเข้าวังเพื่อสมัครเข้าเป็นองค์รักษ์” ถังหลี่เอ่ยขึ้น

“มิน่าเล่า ข้าถึงได้ไม่เจอเขามาหลายวันแล้ว” เว่ยฉิงพูด

“เกิดอะไรขึ้นทำให้พ่อหนุ่มที่เอ้อระเหยแบบนั้นคิดจะจริงจังขึ้นมา”

“องค์หญิงจิ้งชูมีเสน่ห์มากเลยนะ” ถังหลี่พูด

“ฮูหยินของข้าคงจะได้มีพี่สะใภ้เพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่งแล้ว” เว่ยฉิงเอ่ย หญิงสาวยิ้มรับ

“ถูกต้อง พี่สามและองค์หญิงจิ้งชูเคยผ่านความทุกข์ยากมาก่อนในชาติที่แล้ว ในชาตินี้เมื่อได้พบกันก็คงจะดีถ้าพวกเขาได้รักกันตลอดไป” ถังหลี่กล่าว

“อืม” เว่ยฉิงพูด “ทุกคนที่อยู่รายรอบกายเจ้าสมควรได้รับความสุข”

“สามี เรื่องของตระกูลเซียวได้เกี่ยวข้องกับบุคคลผู้นั้นหรือไม่?” ถังหลี่ถาม ‘คนผู้นั้น’ ที่นางเอ่ยย่อมหมายถึง ผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร

“สกุลเซียวมีความจงรักภักดีมาหลายชั่วอายุคน แม้แต่กองกำลังของสกุลเซียวก็เลื่องชื่อในการปกป้องแคว้นต้าโจว พวกเขาเสียชีวิตในสนามรบ ไม่ว่ามองอย่างไรก็ต้องเป็นการใส่ร้าย ไม่ใช่เขาหรอกหรือที่ฆ่าผู้คนมากมายและกองทัพของสกุลเซียวเพื่อความยิ่งใหญ่ของตัวเอง..” คำพูดของเว่ยฉิงเต็มไปด้วยความประชดประชัน

“แต่เรื่องขององค์ไทเฮาทำให้ข้าหวั่นไหว ตระกูลหวัง ตระกูลหลูและองค์หญิงใหญ่ต่างมีความเป็นไปได้ แต่ใครกันที่ทำให้สกุลทั้งสามร่วมมือกันได้?

ถังหลี่รู้สึกถึงความเศร้าของเว่ยฉิง นางจับมือของสามีดึงเขาให้ขึ้นมานอนกับตัวเอง เว่ยฉิงอยากจะกอดและฝังศีรษะของตัวเองไว้ที่ซอกคอของนาง ตราบใดที่เขาได้กลิ่นหอมจากกายถังหลี่ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย แต่เขากลัวว่านางจะร้อนจึงใช้พัด ช่วยโบกให้นางแทน

“สามี ท่านเกลียดเขาไหม?” เว่ยฉิงพยักหน้า

ไม่เกลียดได้อย่างไร

ชายคนนั้นคือบิดาที่ให้กำเนิดเขาแต่เพราะความไม่ไว้วางใจ เขาจึงได้ฆ่าผู้คนในสกุลเซียว ทั้งๆ ที่คนเหล่านี้อุทิศชีวิตเพื่อต้าโจว พวกเขาไม่มีความผิดเลยสักนิด …แต่เป็นเพราะเกิดจากความระแวงจนหน้ามืดตามัวของฮ่องเต้

แน่นอนว่าเขาหวังจะแก้ไขทุกอย่างได้ ที่เว่ยฉิงต้องการคือการล้างมลทินให้กับตระกูลเซียว ก่อนหน้านี้เหมือนเขาได้เห็นแสงแห่งความหวัง แต่แล้วจู่ๆ กลับกลายเป็นภูเขาสูงใหญ่อยู่ตรงหน้าอีกครั้ง

“ฮูหยิน ช่างยากเหลือเกิน” เว่ยฉิงถอนหายใจบราวนี่ออนไลน์

ต่อหน้าคนอื่นไม่ว่าจะเป็นท่านลุงหรือลูกน้องของเขา เว่ยฉิงมีท่าทีที่น่ายำเกรงราวกับไม่มีสิ่งใดจะมากล้ำกรายเขาได้ แต่ต่อหน้าภรรยาเขาจะแสดงความอ่อนไหวเปราะบางและทุกข์ใจออกมาให้นางเห็น

“สามี ท่านมีข้าอยู่ด้วย” ถังหลี่พูดพร้อมกับลูบศีรษะเขา เว่ยฉิงโน้มตัวเข้าไปใกล้จุมพิตที่แก้มนาง หากมีภรรยาเขาอยู่เคียงข้างด้วย แม้แต่เรื่องที่ยากที่สุดก็จะสามารถแก้ไขได้

มันจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เขาคิดในใจ

เว่ยฉิงรีบเปลี่ยนหัวข้อและคุยเกี่ยวกับเรื่องที่มีความสุข “สามี เจ้าเพิ่งบอกว่าวันนี้เป็นวันเทศกาลซีซี[1]หรือ?” ถังหลี่ถาม เทศกาลซีซีเป็นเทศกาลใหญ่และมีชีวิตชีวามาก ดวงตาของถังหลี่สดใส ดูมีความสนใจขึ้นมา

“ใช่แล้วที่ถนนจูเชวี่ยคึกคักมีชีวิตชีวาน่าดู ฮูหยินอยากไปเดินชมไหม?” เว่ยฉิงถาม แม้ว่าจะมีคนเยอะแต่เขาสามารถปกป้องภรรยาของเขาได้แน่นอน หญิงสาวพยักหน้ารับ ในตอนเย็นหลังมื้ออาหาร เว่ยฉิงพาถังหลี่ออกไปข้างนอก รถม้าไปพาจอดอยู่ใกล้ๆถนนจูเชวี่ยเนื่องจากเป็นเทศกาล มีผู้คนเป็นจำนวนมากทำให้ไม่มีที่สำหรับการสัญจรโดยรถม้า พวกเขาจึงได้จอดไว้ตรงบริเวณนี้ ชายหนุ่มลงจากรถจากนั้นจึงได้อุ้มภรรยาของเขาลงไป สวมเสื้อคลุมให้นางจูงมือพาเดินไปที่ถนนจูเชวี่ย พวกเขาเดินช้าๆมีเด็กหนุ่มและเด็กสาวท่าทางมีความสุขเดินผ่านพวกเขาไป

เมื่อถึงถนนจูเชวี่ยก็มืดค่ำพอดี มีการจุดตะเกียงสว่างไสว เว่ยฉิงโอบนางไว้ในอ้อมแขน เขาตัวสูงถังหลี่ตัวเล็กมาก เขาจึงปกป้องนางไว้ได้ในอ้อมแขนของเขาได้เป็นอย่างดี ทั้งสองเดินเลี่ยงฝูงชนออกไปด้านนอก ถังหลี่ชะเง้อคอออกไปดูรอบๆด้วยอยากรู้อยากเห็น สายตาของนางไปหยุดที่คนขายโคมไฟที่ริมน้ำ

“ภรรยา เราปล่อยโคมกันไหม?” เว่ยฉิงถาม

ถังหลี่พยักหน้ารับ พวกเขาตัดสินใจปล่อยโคมลงในแม่น้ำ ชายหนุ่มซื้อโคมแล้วเขียนคำอธิษฐานลงไป เขาพาถังหลี่ออกจากฝูงชน เดินไปใกล้ริมตลิ่ง วางโคมลงในแม่น้ำปล่อยมันลอยออกไป ริมแม่น้ำมีแสงประทีปหลายดวงประดับประดาอยู่ทั่วไปราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า ที่ริมแม่น้ำมีผู้คนคลาคล่ำ ชายหนุ่มและหญิงสาวหลายคู่ดูเหมาะสมกันจนทำให้ผู้คนอดไม่ได้ที่จะมองซ้ำหลายหน

สายตาของถังหลี่เหลือบไปเห็นชายหญิงคู่หนึ่ง ผู้ชายรูปร่างสูงเพรียวสง่างาม ส่วนฝ่ายหญิงดูตัวเล็กกะทัดรัดน่ารัก แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ที่สำคัญคือสองคนนี้เป็นคนที่คุ้นเคยกันดี ถังหลี่อดไม่ได้ที่จะมองไปทางเว่ยฉิง เห็นเขามองนางอยู่เช่นกัน เว่ยฉิงขยิบตาให้ ถังหลี่ยิ้มรับอย่างรู้ทัน เขาจูงมือนางไปหาหนุ่มสาวคู่นั้น

“คุณชาย แม่นางน้อย โคมลอยน้ำของท่านหมายถึง ‘หงส์เพลิงโบยบินจับคู่ร้องประสาน’ ใช่หรือไม่?” เว่ยฉิงตั้งใจถาม

เมื่อทั้งสองได้ยินเสียงพวกเขาก็หันศีรษะไปพร้อมกันทั้งคู่ดูตกใจเมื่อเห็นถังหลี่และเว่ยฉิง ฝ่ายหญิงหน้าแดงขึ้นมาทันที บุรุษรูปงามข้างกายของนางก็ดูจะทำตัวไม่ถูกเช่นกัน พวกเขาดูเหมือนนกยวนยางที่โดนครอบครัวจับได้

“ไม่ใช่นะ ข้าลอยโคมอธิษฐานขอให้ครอบครัวมีความสุขต่างหาก” หญิงสาวพูดโต้แย้ง นางคือองค์หญิงจิ้งชูนั่นเอง ใบหน้าของนางแดงระเรื่อเต็มไปด้วยความเขินอายที่ไม่อาจบรรยายได้ นางแทบอยากยกมือปิดหน้าหนีไปเสีย

ถังหลี่มองทั้งคู่ด้วยแววตาล้อเลียนและไม่เชื่อถือ ในเทศกาลซีซีคู่รักชายหญิงจะมาที่ริมแม่น้ำเพื่อพบปะและลอยโคมอธิษฐานด้วยกันไม่ใช่หรือ?

“กู้หวนจิ่นเป็นองค์รักษ์ของข้า เขามาดูแลปกป้องข้า” องค์หญิงจิ้งชูอธิบายอีกครั้ง

“พวกเราลอยโคมสองอัน อันหนึ่งคืออธิษฐานให้ครอบครัวมีความสุข ส่วนอีกอันเป็นคำอธิษฐานที่มีความหมายเหมือนเช่นที่น้องเขยของข้าบอกไว้ ถูกต้องแล้ว” กู้หวนจิ่นบอก

องค์หญิงจิ้งชูหันไปมองกู้หวนจิ่นด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ นางพูดด้วยน้ำเสียงงุนงง

“เหตุใดข้าถึงไม่รู้”

“โคมของข้าเป็นความปรารถนาที่ข้าแอบเขียนลงไปเอง” กู้หวนจิ่นพูด องค์หญิงจิ้งชูตกตะลึงความร้อนพุ่งไปบนใบหน้าของนาง กู้หวนจิ่น…นี่หมายความว่าอย่างไร?

“อาจื่อข้าชอบเจ้า” กู้หวนจิ่นมององค์หญิงจิ้งชูด้วยท่าทางที่มุ่งมั่น จริงจัง ดวงตาที่มองเต็มไปด้วยความอ่อนโยน เขาค้นพบอาการสั่นไหวของหัวใจตนเอง เขาจึงตั้งใจที่จะไขว่คว้าหาหนทาง ชาตินี้เขาจะปกป้องผู้หญิงคนนี้ จะไม่ปล่อยให้นางต้องตายจากไปอย่างทุกข์ทรมานเหมือนในชาติที่แล้ว เขาจะให้นางเป็นองค์หญิงน้อยที่มีแต่ความสุขไปตลอดชีวิต

[1] เทศกาลชีซี ตรงกับวันที่ 7 เดือน 7 ของทุกปี ถือเป็นเทศกาลแห่งความรักและวันวาเลนไทน์ของชาวจีนตามตำนานเล่าขานกันมา