บทที่ 547 อย่าทำในสิ่งที่จะทำให้เสียใจไปตลอดชีวิต

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

หลังจากที่ลี่จุนถิงตกลงกับซูซานเป็นที่เรียบร้อย เขาก็เปลี่ยนโรงแรมที่พัก แม้ว่าซูซานจะไม่เต็มใจ แต่เขาต้องรักษาระยะห่างจากซูซาน ลี่จุนถิงไม่อยากให้เจียงหยุนเอ๋อเกิดความรู้สึกหึงหวงเพราะเรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาดที่จะเปลี่ยนโรงแรมที่พัก

โรงแรมแห่งนี้อยู่ใกล้กับบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป ลี่จุนถิงสามารถตรวจสอบบริษัทได้สะดวกยิ่งขึ้น และสังเกตความเคลื่อนไหวของลี่หยูนห่วนกับลี่หุยได้สะดวกยิ่งขึ้น

หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อเลิกงาน เธอเรียกให้ผู้ช่วยของเธอไปที่ห้างสรรพสินค้าพร้อมกับเธอ ดูจากภายนอกแล้ว เธอแค่ไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้ถวนจื่อ แต่จริงๆแล้วเธอกำลังหลบหนีจากลูกน้องของลี่หยูนห่วนที่ตามเธออยู่

ในร้านค้าร้านหนึ่งในห้างสรรพสินค้า เจียงหยุนเอ๋อแกล้งเดินเข้าไปลองเสื้อผ้า จากนั้นเธอก็แลกเปลี่ยนเสื้อผ้ากับพนักงานขายในร้าน แล้วขอให้พนักงานขายแกล้งทำเป็นตัวเองแล้วไปช็อปปิ้งกับผู้ช่วยต่อ ที่แท้ร้านนี้ก็เป็นร้านที่ลี่จุนถิงซื้อให้เจียงหยุนเอ๋อในช่วงก่อนเพื่อเป็นของขวัญวันเกิด แต่ไม่มีใครรู้เรื่องนี้

ในตอนแรก ตอนที่ลี่จุนถิงยืนยันที่จะซื้อให้เจียงหยุนเอ๋อ เจียงหยุนเอ๋อยังไม่อยากได้ แต่คิดไม่ถึงว่ามันจะมีประโยชน์ในตอนนี้

หลังจากที่หลบหนีจากลูกน้องของลี่หยูนห่วนได้แล้ว เธอก็ขับรถไปยังโรงแรมที่ลี่จุนถิงพักอยู่

เจียงหยุนเอ๋อและลี่จุนถิงหารือเกี่ยวกับแผนการที่จะทำต่อไปพร้อมกับนั่งกินข้าวไปด้วย

“จุนถิง ตอนนี้พวกลี่หยูนห่วนรู้เกี่ยวกับเอกสารที่ถูกแย่งกลับคืนมาแล้ว พวกเขาจะต้องมีแผนอื่นอย่างแน่นอน ตามข้อมูลของสายสืบรายงานมา สองสามวันมานี้พวกเขาได้ติดต่อกับผู้ถือหุ้นรายอื่น”

“ฉันเดาว่าพวกเขาคงต้องการซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายอื่น แล้วรวบรวมหุ้นในมือของพวกเขา เราควรทำอย่างไรต่อไปคะ”

ลี่จุนถิงพยักหน้า ก่อนจะขมวดคิ้วและครุ่นคิดอยู่สักพัก

“ผมจัดการเรื่องนี้เอง ไม่ต้องห่วง คุณพักผ่อนให้เพียงพอก็พอแล้ว”

หลังอาหารเย็น เจียงหยุนเอ๋อบอกลาลี่จุนถิง และเตรียมที่จะกลับบ้าน

ลี่จุนถิงยืนมองเจียงหยุนเอ๋อสวมเสื้อผ้า ก่อนจะหยิบกระเป๋าขึ้นมา มุมปากของเขายกขึ้น ทันใดนั้นเขาก็มีความคิดพิเรนทร์ขึ้นมาในใจ

“หยุนเอ๋อ คุณแน่ใจหรือว่าอยากจะกลับไป คุณไม่อยากจะอยู่เป็นเพื่อนผมก่อนเหรอครับ”

เจียงหยุนเอ๋อมองรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของลี่จุนถิง แล้วหน้าแดงก่ำ ก่อนจะพูดทิ้งท้ายแล้ววิ่งหนีไป

“ลี่จุนถิง ทำไมคุณถึงลามกแบบนี้เนี่ย”

ลี่จุนถิงเห็นว่ากินข้าวเสร็จแล้วยังมีเวลาเหลืออีกเยอะ เพื่อไม่ให้เสียเวลา เขาจึงตัดสินใจให้ชิงโม่ใช้ชื่อของลี่จุนซินเพื่อทำการนัดผู้ถือหุ้นของบริษัทมาที่หอตงซิง

ลี่จุนถิงเห็นว่ามีผู้ถือหุ้นหลายคนมาถึงห้องอาหารห้องข้างๆแล้ว เขาจึงเคาะประตูห้อง แล้วเปิดประตูเข้าไป

ผู้ถือหุ้นหลายคนคิดว่าลี่จุนซินมาถึงแล้ว พวกเขาไม่ได้ยืนทักทายเพราะพวกเขาอายุมากกว่าลี่จุนซิน ด้วยเหตุนี้ พอหันไปมองแล้วเห็นว่าเป็นลี่จุนถิง

บรรดาหุ้นส่วนต่างก็ตกใจ แล้วรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว พวกเขามองไปทางลี่จุนถิงด้วยสีหน้าตกใจและตะลึงงัน

ลี่จุนถิงโบกมือให้สัญญาณพวกเขานั่งลง ก่อนจะเดินไปนั่งบนที่นั่งประธานด้วยตัวเอง

ทุกคนต่างพากันตื่นเต้นมากเมื่อเห็นลี่จุนถิงกลับมา พวกเขาถามลี่จุนถิงว่าหลายวันมานี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ไม่นาน ทั้งห้องก็วุ่นวายขึ้นมาทันที

ผู้ถือหุ้นหลายรายที่มักจะมีสีหน้าเคร่งขรึมต่อหน้าลูกน้อง แต่ในเวลานี้กลับเหมือนได้เจอญาติสนิทที่หายไปนานหลายปีในที่สุดก็กลับมาแล้ว รู้สึกว่าเสาหลักกลับมาแล้ว

เมื่อเห็นปฏิกิริยาของบรรดาหุ้นส่วน ลี่จุนถิงรู้สึกอุ่นใจมาก เขายกแก้วไวน์ขึ้นเพื่อแสดงความเคารพพวกเขา

“คุณอาทุกท่าน ในช่วงเวลานี้ที่ผมหายไป รบกวนพวกคุณดูแลหยุนเอ๋อแล้ว ความภักดีของพวกคุณและการสนับสนุนบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป ผมซาบซึ้งมากและจะจดจำไว้ในใจ ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผมจะไม่ลืมมันไปตลอดชีวิต”

หลังจากลี่จุนถิงพูดจบ เขาก็ดื่มไวน์ในแก้วจนหมด เมื่อบรรดาผู้ถือหุ้นเห็นแบบนี้ พวกเขาก็ยกแก้วไวน์ขึ้นเพื่อแสดงความเคารพต่อลี่จุนถิงเช่นกัน ลี่จุนถิงวางแก้วลงแล้วพูดต่อ

“ตอนนี้ทุกท่านคงจะทราบสถานการณ์ของบริษัทดี ดังนั้นผมจะไม่พูดวกวน ลี่หยูนห่วนมีความทะเยอทะยานมาก จากนี้พวกเขาอาจจะมีแผนการใหม่อีก ผมหวังว่าคุณอาทุกท่านจะยึดมั่นในจุดยืนของตัวเอง อย่าให้สิ่งที่ทุกท่านสร้างขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรงตกไปอยู่ในมือของคนอื่นได้ อย่าทำในสิ่งที่จะทำให้เสียใจไปตลอดชีวิต “

บุคคลเหล่านี้เป็นผู้อาวุโสของบริษัทที่ทำงานอย่างหนักมาตั้งแต่รุ่นพ่อและปู่ของลี่จุนถิง แน่นอนว่าพวกเขาเชื่อมั่นในตัวของลี่จุนถิงมาก แน่นอนว่าต้องปกป้องหุ้นของตนเองไว้

ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่ลี่จุนถิงเข้ารับตำแหน่งประธาน บริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปก็ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นหนึ่งในองค์กรชั้นนำใน เมืองจิ่งเฉิง และแม้แต่ในหวากั๋วก็ถือว่าไม่เป็นสองรองใคร และยังทำให้พวกเขาได้รับกำไรมหาศาลอีกด้วย การสนับสนุนลี่จุนถิง ทำให้พวกเขารู้สึกมั่นคงที่สุดแล้ว

“สุดท้ายนี้ ผมอยากขอความร่วมมือจากทุกท่าน เรื่องที่ผมกลับมาแล้ว ช่วยเก็บเป็นความลับไว้ก่อน โดยเฉพาะพวกลี่หยูนห่วน ต้องระวังให้ดี รบกวนคุณอาทุกท่านแล้ว”

ลี่จุนถิงเห็นว่าพวกเขาไม่มีท่าทางโต้แย้งใดๆ จึงยกแก้วไวน์ขึ้นมาแสดงความเคารพพวกเขาอีกครั้ง

หลังจากที่ลี่จุนถิงชนแก้วกับทุกคนบนโต๊ะเสร็จ เขามองไปรอบๆห้อง แล้วพบว่ามีผู้ถือหุ้นรายหนึ่งมีท่าทางแตกต่างจากคนอื่นๆ คนคนนั้นนั่งเหม่อลอย จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แต่อีกฝ่ายไม่ได้สังเกตว่าลี่จุนถิงกำลังจับตาดูเขาอยู่

ลี่จุนถิงนึกขึ้นได้ว่าคนคนนี้สนิทกับลี่เจี้ยนเย่คุณลุงรองของเขา และคงจะกลายเป็นคนของลี่หยูนห่วน ดังนั้นเขาจึงต้องป้องกันเอาไว้ก่อน

เมื่ออาหารมื้อนี้กำลังจะจบลง ลี่จุนถิงจึงพูดกับชายคนนั้นว่า

“คุณอาหลี่ กรุณารอสักครู่ ผมมีเรื่องจะขอคุยด้วย”

เมื่อคุณอาหลี่ได้ยินลี่จุนถิงเรียกเขาไว้ ร่างกายของเขาก็สั่นเทาโดยไม่รู้ตัว ดวงตาของเขามองไปรอบด้าน แต่เขาไม่กล้าสบตากับลี่จุนถิงโดยตรง

พอลี่จุนถิงเห็นเขาทำท่าทางร้อนตัว จึงเข้าใจในทันที

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ลี่เจี้ยนเย่พยายามดึงคนเข้ามาในกลุ่มของเขา และคนคนนี้คือหนึ่งในนั้น ส่วนคนอื่นๆเขาจะค่อยๆหาให้เจอให้ได้ทั้งหมด

การกระทําของลี่เจี้ยนเย่ในบริษัทไม่ค่อยใสสะอาดมากเท่าไหร่ ดังนั้นผู้ที่ติดตามเขา ตลอดหลายปีมานี้คงจะได้ผลประโยชน์จำนวนมากเช่นกัน

ในอดีต ลี่จุนถิงพยายามปิดตาข้างหนึ่ง ในสิ่งที่ลี่เจี้ยนเย่ทำ ตราบใดที่อีกฝ่ายไม่ได้แตะต้องผลประโยชน์ของบริษัท เขาก็ไม่ได้คิดจะทำอะไรอีกฝ่าย

แต่ว่า ในตอนนี้บริษัทกำลังประสบปัญหา ลี่เจี้ยนเย่และลี่หยูนห่วนยังคงมีความคิดที่จะแย่งบริษัทมาเป็นของตัวเอง ครั้งนี้ เขาจะปล่อยพวกเขาไปไม่ได้อีกแล้ว

เห็นได้ชัดว่าลี่จุนถิงได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว หลังจากที่ทุกคนออกไปแล้ว เขาสั่งให้ชิงโม่ยื่นหลักฐานให้อีกฝ่ายได้ดู

หลักฐานทีละอย่างปรากฏขึ้นมาต่อหน้าหัวหน้าหลี่ ทำให้ผู้ถือหุ้นหลี่หน้าซีดไปทันทีเมื่อเห็นสิ่งเหล่านี้

“ถ้าหากคุณไม่อยากติดคุก ก็ให้ความร่วมมืออย่างเชื่อฟังด้วย แน่นอนว่าคุณสามารถเลือกที่จะไม่ร่วมมือด้วยก็ได้ แต่คุณน่าจะรู้วิธีการจัดการของผมดี”

ลี่จุนถิงจ้องเขม็งไปที่เขาแล้วพูด จ้องราวกับจะจ้องจนร่างกายของเขาเป็นรู

หัวหน้าหลี่เห็นแววตาของลี่จุนถิง จึงยิ่งรู้สึกหวาดกลัวเข้าไปอีก หน้าของเขาที่เดิมทีดำก็ซีดเผือดด้วยความตกใจ ไม่กล้าพูดอะไรออกมา

ลี่จุนถิงจัดคนไปส่งหัวหน้าหลี่กลับ ตอนที่เขากำลังจะลงจากรถ จึงทำการเตือนเขาอีกครั้ง เมื่อผู้ถือหุ้นหลี่กลับถึงบ้าน เขายังจำแววตาที่น่ากลัวของลี่จุนถิงได้ดี