บทที่ 547 การตายของตาเฒ่าเย่น

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่ 547 การตายของตาเฒ่าเย่น

ได้ยินดังนั้น!

ใจของราชครูเทียนเวิงก็จมลงทันที แอบเดินกำลังภายใน เมื่อเห็นเส้นเลือดบนมือที่ปูดขึ้นจนเหมือนจะแตก

เขาก็รีบเก็บกำลังทันที

เขาถูกวางยาเงียบๆ “เจ้าทำได้อย่างไร?”

เย่นโจกชิงที่เขารู้จักเป็นคนตรงไปตรงมา มั่นคงซื่อตรง ไม่เคยสนใจวิธีสกปรก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องวางยาพิษ

แต่ตอนนี้ไม่เพียงแต่วางยาพิษ แถมยังมาวางยาบนตัวเขาเงียบๆด้วยวิธีร้ายกาจเช่นนี้……

“มันสำคัญงั้นหรือ?”

ตอนนี้สำหรับตาเฒ่าเย่นที่กำลังจะตายแล้ว การอธิบายอะไรมันก็ไม่สำคัญ ที่สำคัญก็คือ ราชครูเทียนเวิงจะต้องตาย

เขาไม่ตาย ตัวเขาก็ตายตาไม่หลับ

“เฮอะ! ก็แค่ยาพิษเล็กๆ เจ้าคิดว่าจะทำอะไรข้าได้งั้นรึ?”

ราชครูเทียนเวิงสะบัดแขนอย่างแรง นั่งลงที่พื้นทันที ทันใดนั้นก็กรีดนิ้วตัวเอง ใช้กำลังภายในขับบาดแผลภายในออกมา

ก่อนหน้านั้นยังไม่ลืมที่จะออกคำสั่ง: “ฆ่ามันซะ สับให้เป็นหมื่นชิ้น”

ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าผู้ทำตามจะรอดชีวิต ผู้ที่ขัดขืนจะต้องตาย และยังต้องตามไปอย่างสู้ตาย งั้นก็ให้เขาไม่ตายดีก็พอ

“ขอรับ!”

หลังจากที่ได้รับคำสั่ง เหล่าเงาดำก็พุ่งอย่างรวดเร็วโจมตีไปยังตาเฒ่าเย่น ที่เท้าครึ่งหนึ่งก้าวเข้าไปในปรโลกแล้ว

มีลมแรงพัดเข้ามา ทำให้คนที่เข้าใกล้ตาเฒ่าเย่นทุกคนทยอยตกใจถอยหลังไป เหล่าเงาดำก็ยังเดินมาข้างหน้าต่อ แต่ในสายตากลับมีคนกลุ่มหนึ่งบินเข้ามาด้วยความเร็ว

“ตาเฒ่าเย่น”

หลานเยาเยาบินมาข้างกายตาเฒ่าเย่น รับร่างที่ล้มลงของเขา เมื่อเห็นเลือดสีแดงสดค่อยๆเปลี่ยนเป็นคล้ำขึ้น ในใจก็เย็นวาบทันที ตรวจหาชีพจรของเขา ดวงตาก็แดงขึ้นมาเกือบจะทันทีที่แตะชีพจรเขา

เส้นเลือดหัวใจแตกไปแล้ว ชีพจรค่อยๆอ่อนลง อีกทั้งยังโดนยาพิษซึ่งไร้ทางแก้ ที่ทำร้ายฝั่งศัตรูเป็นพันและฝั่งตัวเองเป็นแปดร้อย

ซึ่งแม้แต่เทพเจ้าก็ยังไร้แรงกลับสวรรค์

แต่หลานเยาเยาไม่เชื่อโชคชะตา ไม่เชื่อความอัปมงคล หยิบยาสองสามชนิดออกมาจากระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ต้องการจะยัดเข้าไปในปากของตาเฒ่าเย่น

แต่กลับถูกตาเฒ่าเย่นยื่นมืออันสั่นเทามาขวางไว้

“นังหนู อย่าเปลืองแรงเลย ปู่จะไปแล้ว เจ้าอย่าร้องไห้หล่ะ”

“ให้ข้าได้ช่วยท่าน ข้าช่วยท่านได้ ข้าทำได้”น้ำตาที่เอ่ออยู่ในดวงตาก็ไหลออกมาอย่างทนไม่ได้

“ข้ารู้ ปู่นั้นรู้มาตลอดว่าเจ้า······เก่ง แต่ข้าเหนื่อยแล้ว และก็ไม่มีห่วงอะไรแล้ว อยากจะไปที่ทางปรโลก······พบเพื่อเก่าเสียหน่อย ไม่ได้เจอมาหลายปีแล้ว ข้า ข้าเกือบจะลืมหน้าตาพวกเขาไปหมดแล้ว”

“ท่านปู่ ท่านอย่าพูดไร้สาระ ท่านยังต้องห่วงข้า ห่วงพวกตาเฒ่าพวกนั้น พวกเขาเฝ้ารอให้ท่านกลับไปอยู่นะ! ท่านทิ้งพวกเราไปไม่ได้ มา อ้าปากกินยาดีๆนะ”

ตราบใดที่ตาเฒ่าเย่นไม่ล้มเลิก ตราบใดที่เขายังมีความปรารถนาที่จะชนะ นางก็สามารถช่วยชีวิตเขาได้

“นัง นังหนู ดูแลพวกเขาดีๆ······”

“ไม่เอา ตาเฒ่าเย่น นี่มันเป็นเรื่องของท่าน ควรจะมีท่านดูแลเอง” ยาในมือถูกคีบไว้ในมือนิ่งๆ ทั้งๆที่รู้ว่าเพียงแค่ใช้แรง ก็สามารถเอายายัดเข้าไปในปากเขาได้

แต่คนที่ไม่มีความปรารถนาที่จะอยากมีชีวิตอยู่ แม้จะกินยาเข้าไป ก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้

ยิ่งไปกว่านั้น ยาในมือไม่มีทางที่จะช่วยเขาได้ ทำได้เพียงแค่ยื้อลมหายใจ

“ปู่รู้ว่าเจ้า······รับปากแล้ว”

“เปล่า ข้าเปล่า” หลานเยาเยาส่ายหัวสุดแรง

แต่ตาเฒ่าเย่นก็อาเจียนเอาเลือดออกมาอีก มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย เอ่ยปากอย่างยากลำบาก:

“นังหนู······โง่······”มือของตาเฒ่าเย่นตกไปอย่างห่อเหี่ยว ดวงตาค่อยๆลดลง

“ตาเฒ่าเย่น ตาเฒ่าเย่น ท่านปู่ ท่านปู่······”

หลานเยาเยากอดศพของตาเฒ่าเย่นไว้ น้ำตาพร่ามัว มือก็พยายามกรอกยาให้เขา แต่สุดท้ายยาที่อยู่ในมือก็กระจายหกลงกับพื้นเพราะตัวสั่น

ทันใดนั้นมือก็ถูกมือที่แสนอบอุ่นโอบเอาไว้ เสียงทุ้มน่าดึงดูดดังขึ้นมา

“เยาเยา เจ้ายังมีข้า”

หลานเยาเยาพยักหน้าเงียบๆ

ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาเสียใจ นางยังมีเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่าต้องทำ ดังนั้นจึงมอบศพของตาเฒ่าเย่นให้แก่จื่อซี จากนั้นก็ยืนขึ้นมาช้าๆ นัยน์ตาที่เย็นเยือกมองราชครูเทียนเวิงอย่างเย็นชา

เขาต้องตาย!

“ราชครูเทียนเวิงนั้นโดนพิษดูดจิต พิษนี้ร้ายแรงไม่มีทางแก้ หากใช้กำลังภายในมั่วซั่วก็จะทำให้ร่างกายระเบิดถึงตาย บังคับเลือดที่เป็นพิษออกมาแม้จะไม่มีทางแก้พิษ แต่ตราบใดที่เขาไม่ใช้กำลังภายใน ก็ไม่มีทางที่จะถึงชีวิต ที่พวกเราต้องทำก็คือบังคับให้เขาใช้กำลังภายใน”

พวกเย่หลีเฉินที่เคยสู้กับเงาดำและหน่วยกล้าตาย หลังจากที่ได้ฟังนางพูดก็พยักหน้าอย่างรู้กัน

แต่จำนวนของนักฆ่าเงาดำมีจำนวนมาก กันพวกเขาเอาไว้ตรงกลาง ทำให้พวกเขาโจมตีไม่ได้

หลานเยาเยาและเย่แจ๋หยิ่งมองกันและกัน

ต่างได้เห็นความคิดในใจของตัวเองจากดวงตาของฝ่ายตรงข้าม หลังจากนั้นพวกเขาสองคนก็แฉลบตัวอย่างรวดเร็ว พุ่งไปยังที่ที่เงาดำป้องกันได้อ่อนแอที่สุด

เงาดำในตอนนี้ไม่ได้อยู่ในมุมมืดแล้ว ทำได้เพียงพยายามขัดขวางทางของพวกเขา ไม่สามารถแสดงออกท่าศิลปะการต่อสู้แปลกๆได้ ถ้ามุทะลุไป พวกเขาเห็นได้ชัดว่ามันกินแรง

ดีที่พวกเขามีจำนวนคนเยอะ และยังมีหน่วยกล้าตายอยู่อีกมาก

แต่ว่า!

เย่แจ๋หยิ่งและหลานเยาเยารวมเข้าด้วยกัน ตรงไปฆ่าเงาดำที่มีการป้องกันอ่อนแอที่สุดอย่างรวดเร็วแม่นยำ ทันใดนั้นช่องก็ถูกฉีกออก เงาดำที่ป้องกันก็ทำให้ค่ายกลยุ่งเหยิงทันที ทำได้เพียงแค่กันของตัวเอง

แต่หน่วยกล้าตายสองสามนายที่มีปฏิกิริยาโต้ตอบเร็ว ทันทีที่การป้องกันล้มเหลว พวกเขาก็รีบแฉลบตัวไปปกป้องข้างกายราชครูเทียนเวิง

เมื่อเห็นสถานการณ์ดังนั้น ราชครูเทียนเวิงก็หยุดขับเลือด ลุกขึ้นมาทันทีมองเย่แจ๋หยิ่งและหลานเยาเยาที่กำลังสู้กับหน่วยกล้าตายสองสามคนตรงหน้า เขากำหมัดแน่นด้วยความโกรธ

น่าเกลียด!

เดิมทีคนพวกนี้ควรจะถูกเขาเหยียบไว้ใต้เท้าราวกับเป็นมด และยอมแพ้เขาไปแล้ว

ส่วนเขาที่บีบพวกเขาให้ตายง่ายๆได้เหมือนบีบมด ตอนนี้กลับถูกบังคับทำได้เพียงให้ลูกน้องมาปกป้อง

แต่เมื่อตกที่นั่งลำบากก็ต้องยอมถอย เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเบี้ยล่าง

ราชครูเทียนเวิงปัดแขนเสื้อแรงๆ และไปยังหลังฉากกั้น ตรงนั้นมีที่ให้ออกไป

แต่หลานเยาเยาไม่ได้ไล่ตามไป

เพราะนางรู้

ขณะนี้ เวลาที่นัดกับเย็นหงไว้ก็มาถึงแล้ว ดังนั้นกลไกทุกอย่างจะต้องเริ่มทำงานแล้ว ราชครูเทียนเวิงจะต้องเดินกลับมาเอง

ความตั้งใจไม่เป็นเช่นนั้น

ไม่นานนัก ราชครูเทียนเวิงที่จากไป ก็ปรากฏตัวข้างฉากกั้นอีกครั้ง ใบหน้าอึมครึม ทั้งตัวมีแต่ความอาฆาต

ในเมื่อหนีไม่ได้ งั้นก็ส่งพวกเขาไปนรกให้หมด

เงาดำและหน่วยกล้าตายก็กำลังลดน้อยลง พวกเย่หลีเฉินก็ได้รับบาดเจ็บไม่มากก็น้อย องครักษ์ลับก็ตายไปจำนวนหนึ่ง

หลานเยาเยาที่กำกริชอยู่ก็กลายเป็นภาพเบลอ ทันใดนั้นก็ไปข้างกายหน่วยกล้าตายนายหนึ่ง ในตอนที่เขาจะตอบโต้กลับมา ก็ได้ล็อคคอของเขาเอาไว้ มือก็ดึง กริชก็กรีดลงไป เลือดอุ่นๆพุ่งออกจากคอทันที

หน่วยกล้าตายรีบจับคอตัวเอง มือยังไม่ทันจับถึงก็ล้มลงไปกับพื้นแล้ว

ในตอนที่หน่วยกล้าตายคนสุดท้ายถูกฆ่า ยู่หลิวซูที่ศิลปะการต่อสู้อ่อนแอล้มลงไปกับพื้นก่อน ร่างกายของเขามีบาดแผลมากมาย เลือดยังคงไหลออกมา

“ยู่หลิวซู”

มีคนตะโกนเรียกเขา เขารับโบกมือบอกว่าตัวเองไม่เป็นไร หลังจากนั้นก็ปีนขึ้นมาช้าๆ พิงกับเสาทองขนาดใหญ่ กำลังจะฉีกผ้าบนตัวมาพันแผลตัวเอง

หลานเยาเยาได้ยินเสียงก็หันมา

เมื่อเห็นว่าร่างกายของเขาฟกช้ำดำเขียว แต่ไม่ได้ถึงชีวิตก็ลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก

จากนั้นก็หยิบผ้าพันแผลและยาน้ำออกมาจากระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ และโยนไปในอ้อมแขนของเขา จากนั้นก็มองไปยังราชครูเทียนเวิงที่อยู่ไม่ไกล ถือกริชชี้ตรงไปที่เขา

“เหลือแต่เจ้าแล้ว”

ความแค้นใหม่กับความเกลียดชังเก่า วันนี้จะต้องแก้แค้นรวมกัน