บทที่ 543 เวยเวยเป็นคนรุก

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

มัน​รู้​ว่านี​่​เป็น​เพียงแค่​กลอุบาย​แกล้ง​ให้​ตัวเอง​เจ็บตัว​เพื่อ​เรียก​ความสงสาร​จาก​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​!

แต่​มัน​ไม่รู้​ว่า​หลังจากนี้​นายท่า​นกำ​ลัง​วางแผน​อะไร​อยู่​…

“​เจ้า​ยัง​ไม่​รีบ​ไป​อีก​หรือ​”​ ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ตวัด​สายตา​มอง​กิเลน​อัคคี​ ​น้ำเสียง​ของ​เขา​ยังคง​สุขุม​เยือกเย็น​ ​”​อยาก​ให้​ข้า​จับ​เจ้า​ขัง​อีก​รึ​”

ขน​สีแดง​ทั่ว​ร่าง​ของ​กิเลน​อัคคี​สั่น​ ​มัน​ไม่กล้า​อยู่​ต่อ​ ​มัน​รีบ​หันหลัง​แล้ว​ออกจาก​วัง​หลวง​อย่างรวดเร็ว​ ​จากนั้น​จึง​กาง​กรงเล็บ​แล้ว​เช็ด​เหงื่อ​เย็น​ๆ​ ​ของ​ตัวเอง

นายท่าน​โหดเหี้ยม​เกินไป​แล้ว​!

เขา​วางแผน​ที่จะ​จับ​มัน​ขัง​อีกแล้ว​!

มัน​ไม่​อยาก​เข้าไป​นั่ง​สำนึกผิด​อยู่​ใน​ ​’​หลุมดำ​ขนาดเล็ก​’​ ​อีก​ ​ชีวิต​ที่​ขาด​การ​วิ่งไล่​จับ​ผีเสื้อ​ก็​เหมือนกับ​การถูก​ทรมาน​ดี​ๆ​ ​นี่เอง​!

ยิ่งกว่านั้น​ ​มัน​ก็​เป็น​ที่รัก​ของ​สัตว์​ตัว​อื่นๆ​ ​มากมาย​ ​ดังนั้น​มัน​จะ​ถูก​ขัง​ไม่ได้​!

“​ลูกพี่​นี่​นา​!​”

“​ลูกพี่​ของ​พวกเรา​ช่างหล่อ​เหลา​ยิ่งนัก​!​”

“​จะ​ว่า​หล่อ​ก็​หล่อ​ ​แต่​ทำไม​สีหน้า​ของ​ลูกพี่​ถึง​ได้​ดู​ย่ำแย่​ถึง​เพียงนี้​เล่า​”

บรรดา​สัตว์​ศักดิ์สิทธิ์​ตัว​น้อย​ที่ซ่อน​ตัว​อยู่​นอก​วัง​หลวง​พร้อมใจกัน​มอง​ไป​ที่​กิเลน​อัคคี​ ​ดวงตา​เปี่ยม​ไป​ด้วย​ชีวิตชีวา​ของ​พวก​มัน​เป็นประกาย​ทันทีที่​เห็น​กิเลน​อัคคี​!

กิเลน​อัคคี​ยืน​หลัง​ตรง​ ​พลาง​เชิดหน้า​และ​กลับมา​ยืด​อก​ด้วย​ท่าทาง​สง่าผ่าเผย​เช่น​เดิม

“​ลูกพี่​ช่าง​ทรง​เสน่ห์​ยิ่งนัก​!​”

“​ลูกพี่​จะเข้า​ไป​ข้างใน​แล้ว​!​”

“​เป็นไปไม่ได้​หรอก​ ​เมื่อครู่นี้​ลูกพี่​ก็​เพิ่ง​ออกมา​จาก​ที่นั่น​เอง​มิใช่​หรือ​”

“​ลูกพี่​อาจจะ​ออกมา​เดินเล่น​สูด​อากาศ​บริสุทธิ์​ ​และ​อยาก​มาดู​ให้​แน่ใจ​ว่า​พวกเรา​ไม่ได้​ตกอยู่ในอันตราย​ก็ได้​ ​พอ​เขา​มั่นใจ​แล้ว​ว่า​พวกเรา​ปลอดภัย​ ​เขา​ก็​เลย​คิด​จะ​กลับ​เข้าไป​ข้างใน​อย่างไร​ล่ะ​”

กิเลน​อัคคี​ ​:​ ​…​มัน​บอก​ตอน​ไหน​กัน​ว่า​มัน​อยาก​กลับ​เข้าไป​ใน​นั้น​ ​มัน​ไม่กล้า​แม้แต่​จะ​ย่างเท้า​กลับ​เข้าไป​อยู่​ใน​สถานที่​อัน​น่าสะพรึงกลัว​เช่นนั้น​ด้วยซ้ำ​!

“​ลูกพี่​!​”​ ​สัตว์​อสูร​พสุธา​ตัว​น้อย​วิ่ง​เข้ามา​หากิ​เลน​อัคคี​ ​แล้ว​ถาม​ด้วย​ความ​ขัดเขิน​ว่า​ ​”​ถ้า​ท่าน​จะ​กลับ​เข้าไป​ใน​นั้น​ ​พวก​ข้า​ขอ​ตาม​ท่าน​ไป​ด้วย​ได้​หรือไม่​ ​พวก​ข้า​อยาก​เห็น​ว่า​ด้านใน​ของ​อาคาร​หลัง​มหึมา​นั่น​จะ​ยิ่งใหญ่​เพียงใด​”

“​ข้า​…​”​ ​กิเลน​อัคคี​เพิ่งจะ​อ้า​ปาก

สัตว์​อสูร​พสุธา​ตัว​น้อย​อีก​ตัว​ตัดบท​ก่อนที่​มัน​จะ​ทัน​ได้​ตอบ​ว่า​ ​”​ลูกพี่​ของ​พวก​ข้า​หล่อเหลา​ยิ่งนัก​!​ ​เขา​จะ​ต้อง​ตอบรับ​คำขอ​ของ​พวกเรา​อย่างแน่นอน​!​”

“​จริง​หรือ​”​ ​สัตว์​อสูร​พสุธา​ตัว​น้อย​ที่​หมอบ​อยู่​ตรงหน้า​กิเลน​อัคคี​ช้อนตา​ขึ้น​ ​ดวงตา​ของ​มัน​เป็นประกาย​ระยิบระยับ​ ​”​เช่นนั้น​ ​ลูกพี่​ ​พวกเรา​เข้าไป​ใน​อาคาร​หลัง​นั้น​กัน​เลย​ดีกว่า​!​”

กิเลน​อัคคี​ ​:​ ​…

เรื่อง​มาถึง​ตรงนี้​ได้​อย่างไร​!

มัน​ยัง​ไม่ได้​พูด​อะไร​แม้แต่​คำ​เดียว​ ​แต่​พวก​มัน​กลับ​คิด​เอง​เออ​เอง​ว่า​กิเลน​อัคคี​ตกปากรับคำ​โดย​ไม่​ถาม​ความสมัครใจ​ของ​มัน​ด้วยซ้ำ

อะ​แฮ่ม​ๆ​!​ ​กิเลน​อัคคี​กระแอม​ขึ้น​สองครั​้ง​ราวกับ​เพิ่ง​นึก​อะไร​ขึ้น​มา​ได้​ ​”​เมื่อครู่นี้​พวก​เจ้า​บอกว่า​ตัวเอง​ตกอยู่ในอันตราย​ ​พวก​เจ้า​กำลัง​เผชิญ​กับ​อันตราย​อัน​ใด​อยู่​หรือ​”

สัตว์​อสูร​พสุธา​ตัว​น้อย​สบตา​กัน​ ​แล้ว​จากนั้น​จึง​มอง​ไป​ทางซ้าย​ที​ขวา​ที​ก่อน​จะ​ตอบ​ว่า​ ​”​พัก​นี้​มีบา​งอย​่าง​ปรากฏตัว​ขึ้น​ใน​วัง​หลวง​ ​มัน​น่ากลัว​มาก​เลย​ขอรับ​”

“​มัน​คือ​อะไร​รึ​”​ ​กิเลน​อัคคี​ถาม​พร้อมกับ​หรี่​ตาลง​ทันที​!

สัตว์​อสูร​พสุธา​ตัว​น้อย​ทั้งสอง​ส่ายหน้า​ ​แล้ว​ตอบ​ว่า​ ​”​พวก​ข้า​ก็​ไม่รู้​ว่า​มัน​คือ​ตัว​อะไร​ขอรับ​ ​ทันทีที่​มัน​ปรากฏตัว​ขึ้น​ ​พวก​ข้า​ก็​ทำได้​เพียงแค่​รีบ​หา​ที่ซ่อน​ตัว​เท่านั้น​”

“​ทำไม​ข้า​จึง​สัมผัส​ถึง​มัน​ไม่ได้​ล่ะ​”​ ​กิเลน​อัคคี​เหลือบมอง​กรงเล็บ​ของ​ตัวเอง​ ​หาก​มัน​เป็น​สัตว์​อสูร​ประเภท​ใด​ประเภท​หนึ่ง​ละ​ก็​ ​ไม่มีทาง​ที่​มัน​จะ​ไม่ได้​กลิ่น​ของ​พวก​มัน

สัตว์​อสูร​พสุธา​ตัว​น้อย​ๆ​ ​พวก​นั้น​ลด​เสียง​ลง​ ​”​เจ้า​สิ่ง​นั้น​มัน​สามารถ​ปกปิด​ร่องรอย​ของ​ตัวเอง​ได้​ขอรับ​ ​มิหนำซ้ำ​ยัง​มี​มนุษย์​จำนวน​หนึ่ง​ช่วย​ให้การ​คุ้มครอง​มัน​อยู่​ด้วย​ ​ใน​ช่วง​ที่​ท่าน​หาย​ไป​จาก​วัง​หลวง​ ​มัน​ก่อ​ปราณ​แห่ง​ความเคียดแค้น​เอาไว้​เป็น​จำนวนมาก​ทีเดียว​ขอรับ​…​”

“​ตอนนี้​มัน​อยู่​ที่ไหน​”​ ​กิเลน​อัคคี​หรี่​ตาลง​เรื่อยๆ

สัตว์​อสูร​พสุธา​ตัว​น้อย​ส่ายหน้า​อีกครั้ง​ ​และ​พูดว่า​ ​”​พวก​ข้า​ไม่รู้​ขอรับ​ ​พวก​ข้า​ไม่เคย​เผชิญหน้า​กับ​มันต​รง​ๆ​ ​สัตว์​อสูร​พสุธา​ตัวเล็ก​ตัว​ใด​ที่​ได้​พบ​มัน​ก็​ล้วนแต่​ถูก​มัน​จับ​กิน​หมด​เลย​ขอรับ​!​”

ขณะ​เล่าเรื่อง​นี้​ให้​อีก​ฝ่าย​ฟัง​ ​สัตว์​อสูร​พสุธา​ตัว​น้อย​ทั้งสอง​ก็​เริ่ม​รู้สึก​กลัว​ขึ้น​มา​ ​ร่าง​เล็ก​ๆ​ ​ของ​พวก​มัน​สั่น​ไป​ทั้งตัว

“​แต่​พวก​ข้า​พอ​จะ​รู้​คร่าวๆ​ ​ว่า​มัน​อยู่​ที่ไหน​ ​พวก​ข้า​ไม่กล้า​เสี่ยง​เดิน​เข้าไป​ที่นั่น​เลย​ขอรับ​”​ ​สัตว์​อสูร​พสุธา​ตัว​น้อย​ตอบ​พลาง​หันหน้า​ไป​ทาง​ทิศตะวันออก​ ​แล้ว​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​”​ที่นั่น​ขอรับ​!​”

“​ตำหนัก​เจา​หยาง​หรือ​”​ ​กิเลน​อัคคี​เอ่ย​พร้อมกับ​กาง​กรงเล็บ​ ​และ​ขมวดคิ้ว​เข้าหา​กัน​ ​นั่น​คือ​ที่​ที่​ฮ่องเต้​ประทับ​อยู่​มิใช่​หรือ

ในขณะที่​กิเลน​อัคคี​กำลัง​จ้องมอง​ไป​ยัง​สถานที่​แห่ง​นั้น​ราวกับ​ตกอยู่ในภวังค์​ ​ทันใดนั้น​จู่ๆ​ ​ก็​มี​ใครคนหนึ่ง​ปรากฏตัว​ขึ้น​จาก​ทาง​ด้านหลัง​ของ​มัน​!

สัตว์​อสูร​พสุธา​ตัว​น้อย​เหล่านั้น​หวาดกลัว​สุดขีด​ ​พวก​มัน​กอด​กัน​กลม​พร้อมกับ​ร้อง​ออกมา​ว่า​ ​”​ลูกพี่​ ​ลูกพี่​ ​ลูกพี่​ขอรับ​…​”

กิเลน​อัคคี​สัมผัส​ได้​ถึง​ลมหายใจ​ที่อยู่​ข้างหลัง​ ​มัน​กำลังจะ​ใช้​กรงเล็บ​ของ​ตัวเอง​จัดการ​กับ​สิ่ง​นั้น​ ​แต่​แล้ว​คอ​ของ​มัน​ก็​ถูก​ใครคนหนึ่ง​คว้า​เข้า​เสียก่อน

“​วันนี้​พี่​สาม​ไม่อยู่​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​ข้า​ก็​จะ​ต้อง​จับ​เจ้า​กิน​ให้​จง​ได้​เชียว​!​”

เมื่อ​กิเลน​อัคคี​ได้ยิน​เสียง​นั้น​ ​มัน​ก็​รู้​ได้​ทันที​ว่า​ร่าง​ปริศนา​นั้น​คือ​ใคร​ ​ดังนั้น​มัน​จึง​ร้อง​ออกมา​ว่า​ ​”​องค์​ชาย​เจ็ด​”

“​เนื้อ​กิเลน​คง​อร่อย​ไม่ใช่เล่น​”​ ​เด็กชาย​ตัว​น้อย​ว่า​อย่าง​อารมณ์ดี​พร้อมกับ​ใช้​นิ้ว​จี้​เข้าที่​ศีรษะ​ของ​มัน​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง

ตอนนั้น​เอง​ที่​กิเลน​อัคคี​เพิ่ง​ตระหนัก​ได้​ว่า​มัน​พราง​ตัว​อยู่​ ​หากว่า​กันตา​มห​ลัก​แล้ว​ย่อม​ไม่มีทาง​ที่​มนุษย์​ธรรมดา​คนใด​จะ​สามารถ​มองเห็น​มัน​ได้​ ​นอกจาก​เจ้านาย​ของ​มัน​คนเดียว​!

องค์​ชาย​เจ็ด​มองเห็น​มัน​ได้​อย่างไร

กิเลน​อัคคี​เงยหน้า​ขึ้น​อย่างรวดเร็ว​ ​นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​มัน​ได้​เห็น​ร่าง​เล็ก​อัน​คุ้นตา​มอง​มัน​อย่าง​ตั้งอกตั้งใจ​ ​มัน​ค่อยๆ​ ​หรี่​ตาลง​ทีละน้อย

องค์​ชาย​เจ็ด​ตัว​น้อย​ไม่สน​ใจ​ว่า​กิเลน​อัคคี​คิด​อะไร​อยู่​ ​เขา​ตัดสินใจ​แล้ว​ว่า​จะ​ต้อง​จับ​กิเลน​อัคคี​ย่าง​ใน​ระหว่าง​ที่​พี่​สาม​ไม่อยู่​!

เด็กชาย​ตัว​น้อย​ก้มหน้า​ลง​แล้ว​มอง​ไปร​อบ​ๆ​ ​แล้ว​คว้า​หาง​ของ​กิเลน​อัคคี​เอาไว้​ ​ก่อน​ลาก​มัน​ออก​ไป​อย่างรวดเร็ว​ ​เขา​ไม่สน​ใจ​ว่าการ​ลาก​กิเลน​อัคคี​จะ​ทำให้​พืช​ที่อยู่​รอบ​ๆ​ ​ถูก​ทำลาย​ไปมาก​เพียงใด​ ​ไม่ว่า​จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​ ​เขา​ก็​จะ​ไม่มีวัน​ล้มเลิก​ความคิด​ที่จะ​กิน​กิเลน​อัคคี​ตัว​นี้​เด็ดขาด​!

ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ที่อยู่​ใน​ห้อง​มองเห็น​สิ่ง​ที่เกิด​ขึ้น​ด้านนอก​ได้​อย่างชัดเจน​ผ่าน​ทาง​หน้าต่าง​ ​ริมฝีปาก​บาง​ของ​เขา​โค้ง​ขึ้น​เล็กน้อย​ราวกับ​กำลัง​พอใจ​กับ​สถานการณ์​ปัจจุบัน​ยิ่งนัก​ ​ในที่สุด​เขา​ก็​สามารถ​กำจัด​ ​’​ก้างขวางคอ​’​ ​ทั้งสอง​นั้น​ไป​ได้เสีย​ที

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ยัง​รู้สึก​ห่วง​เขา​อยู่​ ​”​ท่าน​เริ่ม​มี​อาการ​ตั้งแต่​เมื่อไหร่​”

“​อาการ​อะไร​หรือ​”​ ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋​ยละ​สายตา​กลับมา​มอง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​อย่างไร​้​เรี่ยวแรง

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เห็น​ริมฝีปาก​ติดจะ​ซีด​เล็กน้อย​ของ​เขา​ ​นาง​จึง​ถาม​ต่อว่า​ ​”​การ​ที่​ท่าน​สูญเสีย​พลัง​ปราณ​ไป​บ่อยครั้ง​เช่นนี้​มีสา​เหตุ​มาจาก​เหตุ​เพลิงไหม้​ที่​เคย​เกิดขึ้น​ก่อนหน้านี้​หรือ​”

“​อาจจะ​เป็น​เช่นนั้น​”​ ​มือ​ของ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ทิ้ง​ลง​อย่าง​หมดแรง​ ​เขา​ดูไม่ได้​สนใจ​กับ​คำถาม​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​มาก​นัก​ ​แล้ว​จากนั้น​เขา​จึง​ถาม​นาง​ว่า​ ​”​เจ้า​ก็​รู้เรื่อง​เหตุ​เพลิงไหม้​ที่เกิด​ขึ้น​เหมือนกัน​หรือ​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ตอบ​ ​พร้อมกับ​อธิบาย​เสริม​ว่า​ ​”​ทุกคน​ใน​เมืองหลวง​ต่าง​ก็​รู้เรื่อง​นี้​กัน​ทั้งนั้น​ ​จาก​ที่​ข้า​ได้ยิน​ว่า​ ​พวกเขา​บอกว่า​เพลิงไหม้​ใน​ครั้งนั้น​รุนแรง​ใช่​เล่น​ ​มัน​เผา​วัง​จน​วอดวาย​ไป​ทั้ง​หลัง​ ​หลังจาก​เหตุการณ์​ใน​ครั้งนั้น​ท่าน​ก็​ป่วยหนัก​ ​และ​สูญเสีย​พลัง​ปราณ​ไป​จน​หมดสิ้น​”

“​ป่วยหนัก​หรือ​”​ ​เสียงหัวเราะ​เบา​ๆ​ ​ของ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​แฝง​ไป​ด้วย​ความ​เย้ยหยัน

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เลิก​คิ้ว​ ​”​ข้า​พูด​ผิด​หรือ​”

“​เปล่า​เลย​ ​เจ้า​พูด​ถูก​แล้ว​”​ ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋​ยก​อด​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​ดวงตา​ของ​เขา​หม่น​แสง​ลง​ ​เรื่อง​บาง​เรื่อง​นาง​ก็​ไม่สมควร​ที่จะ​ได้​รู้​ ​และ​จะ​ไม่มีวัน​ได้​รู้​เด็ดขาด​!

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เคลื่อน​สายตา​ขึ้น​มอง​เขา​ ​”​ไม่ต้อง​ห่วง​ ​ข้า​จะ​ทำให้​คนที​่​ทำร้าย​ท่าน​ได้​ตกนรก​หมกไหม้​อย่างแน่นอน​ ​พวกเขา​เป็น​คนที​่​ทำให้​ท่าน​มี​อาการ​เช่นนี้​ ​ข้า​จะ​ให้​พวก​มัน​หลั่ง​เลือด​เพื่อ​สังเวย​ให้​กับ​ท่าน​เอง​”

ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋​ยม​อง​ใบหน้า​เคร่งเครียด​ที่​ปรากฏ​อยู่​ตรงหน้า​ ​เขา​พลิกตัว​แล้ว​ทับ​ร่าง​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​จน​จม​หาย​ลง​ไป​กับ​ผ้าห่ม​สีแดง​ ​เขา​เอ่ย​ขึ้น​พร้อมกับ​ค่อยๆ​ ​หลับตา​ลง​ทีละน้อย​ ​”​ตอนนี้​ข้า​ไม่มี​พลัง​ปราณ​แล้ว​ ​การ​เสพสังวาส​ย่อม​เป็น​วิธี​ที่​มีประสิทธิภาพ​และ​รวดเร็ว​ที่สุด​ใน​การฟื้นฟู​พลัง​ปราณ​ ​แต่​ตา​ข้า​ยัง​มองเห็น​ไม่ชัด​เจน​นัก​ ​ดังนั้น​เจ้า​คง​ต้อง​เป็น​คน​เริ่ม​พิธี​เสพสังวาส​ด้วยตัวเอง​”

“​เขา​พูด​ถูก​!​”​ ​หยวน​หมิง​ปรากฏตัว​ขึ้น​ด้วย​ความตื่นเต้น​ ​และ​พูด​ต่อว่า​ ​”​แม่นาง​ ​รีบ​เสพสังวาส​กับ​เขา​เร็ว​เข้า​!​ ​ทั้ง​เจ้า​และ​เขา​ต่าง​ก็ได้​รับ​ผลประโยชน์​จาก​การ​เสพสังวาส​ด้วยกัน​ทั้งนั้น​ ​เขา​จะ​ได้​ฟื้นฟู​พลัง​ปราณ​ของ​ตัวเอง​ ​ส่วน​เจ้า​ก็​จะ​ได้​…​”

ก่อนที่​หยวน​หมิง​จะ​ทัน​ได้​พูด​จบ​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ก็​ปิด​มิติ​สวรรค์​ด้วย​การกะ​พริบตา​อย่างรวดเร็ว​ ​สายตา​ของ​นาง​จับจ้อง​อยู่​ที่​ใบหน้า​หล่อเหลา​ที่สามา​รถ​ล่อลวง​หญิงสาว​ได้​อย่างง่ายดาย​ ​นาง​ได้ยิน​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋​ยลด​เสียง​ลง​ ​น้ำเสียง​ติดจะ​แหบ​พร่า​เล็กน้อย​นั้น​เอ่ย​ขึ้น​อย่าง​ลังเล​ว่า​ ​”​ถ้า​เจ้า​ไม่​อยาก​ทำ​ ​เช่นนั้น​ข้า​ก็​จะ​ไม่​ฝืนใจ​เจ้า​…​”

“​ใคร​บอกว่า​ข้า​ไม่​อยาก​ทำ​ ​ข้า​ก็​แค่​ต้อง​เป็น​คน​รุก​เอง​ใช่​หรือไม่​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​พูด​หลังจาก​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง

ด้วยเหตุนี้​ ​การ​เสพสังวาส​ครั้งนี้​จึง​เกิดขึ้น​โดย​มี​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เป็น​คน​รุก​!

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ขยับตัว​เข้าหา​เขา​อย่างรวดเร็ว​ ​แล้ว​พรม​จูบ​ลง​บน​ใบหน้า​ของ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ ​จากนั้น​จึง​ไล่​ลงมา​ที่​ริมฝีปาก​ ​จนกระทั่ง​มาถึง​สัน​กราม​ได้รูป​นั้น​…