บทที่ 529 ภารกิจของโลกแห่งเซียน

ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี

บทที่ 529 ภารกิจของโลกแห่งเซียน

บทที่ 529 ภารกิจของโลกแห่งเซียน

ทันทีที่ได้ยินคำพูดของซูเซียงเสวี่ย ไป๋ลี่ก็ยินดียิ่งพร้อมโค้งคำนับแล้วกล่าวว่า

“ท่านอาจารย์ที่สอง โปรดชี้แนะแก่ข้า!”

ซูเซี่ยงเสวี่ยเหลือบมองผู้คนโดยรอบพร้อมกับภรรยาใหม่ของเขาที่เพิ่งได้พบ ก่อนจะกล่าวถามว่า

“แน่ใจหรือว่าเราจะพูดคุยกันที่นี่?”

ไป๋ลี่ลุกขึ้นพร้อมกับคณะละครทั้งหมดที่ออกไป เหลือเพียงลู่เยว่เอ๋อร์และคนอื่น ๆ

ซูเซียงเสวี่ยเห็นว่าทุกคนจากไปแล้ว นางจึงบอกไป๋ลี่เกี่ยวกับแผนการที่มี

หลังจากได้รับฟัง ไป๋ลี่ก็ยินดีอย่างยิ่งและกล่าวว่า

“ภรรยาที่สองของท่านอาจารย์นับว่ามีพรสวรรค์นักแล้ว!”

“หยุดพล่ามเสีย!”

ซูเซียงเสวี่ยชำเลืองมองสามีของตนด้วยแววตาซับซ้อนราวกับนางเพิ่งเอาชนะศัตรูทรงพลังได้หลังจากประสบสงครามนับทศวรรษ หลังจากนั้น ทั้งสองก็ได้พบเจอกันโดยบังเอิญในอีกหลายปีต่อมา ก่อนจะถอนหายใจออกแผ่วเบา

“ทุกคน ออกไปก่อน”

“ข้าคิดว่าความคิดของเจ้ายังไม่ดีเท่ากับของข้า ซึ่งสามารถรักษาที่ต้นเหตุได้” ไป๋ชิวหรานกางมือพร้อมกล่าวต่อ “วิธีการของเซียงเสวี่ยไม่มีอะไรมากไปกว่าการเปลี่ยนโทษประหารให้กลายเป็นรอลงอาญาเท่านั้น”

“อาวุโสชิวหราน ท่านคิดจะเอาชนะพวกเราในอนาคตด้วยหรือไม่?” หลีจิ่นเหยากล่าวแทรกขึ้นมา

“ความรุนแรงในครอบครัวนับว่าเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ ข้าจึงคิดว่าวิธีแก้ปัญหาของเซียงเสวี่ยจึงดีมาก!”

ไป๋ชิวหรานเปลี่ยนคำพูดทันที

“อืม เช่นนั้นก็ดีแล้ว”

“ข้าพอใจมากแล้วที่สามารถเปลี่ยนความตายด้วยไหวพริบอันชาญฉลาดนี้ ข้าจะสามารถหาช่องว่างเพื่อจัดการเรื่องราวต่อไปได้อย่างแน่นอน” ไป๋ลี่กล่าวออกมาอย่างมั่นใจ “อย่างไรต้องขอบคุณภรรยาที่สองของท่านอาจารย์แล้ว!”

เขาโค้งคำนับซูเซียงเสวี่ยและเดินไปที่ประตูราวกับพร้อมจะเริ่มดำเนินแผนการในทันที

ไป๋ชิวหรานและคนอื่น ๆ ได้ยินเสียงของไป๋ลี่ตะโกนออกไป

“บรรทัดตรงนี้เขียนเช่นนี้ได้อย่างไร? บอกกี่คราวแล้วว่าให้ดัดแปลงให้รื่นไหลมิใช่เรียบเรียงมั่วซั่วเช่นนี้ อีกทั้งมุกตลกมันไม่ใช่การใส่เรื่องไร้สาระลงไป กลับไปแก้ไขใหม่เดี๋ยวนี้!”

ไป๋ชิวหรานและซูเซียงเสวี่ยมองหน้ากัน

“ข้าคิดว่า…”

ไป๋ชิวหรานกล่าวกับซูเซียงเสวี่ยว่า

“หลังจากบุตรชายของเราถือกำเนิด เราต้องกันเขาให้ห่างจากพี่ชายผู้นี้”

ซูเซียงเสวี่ยสัมผัสท้องส่วนล่างพร้อมพยักหน้าเห็นด้วย

ไม่กี่วันถัดมา ไป๋ชิวหรานพาภรรยาและบุตรสาวของเขาพร้อมด้วยศิษย์สายตรงอกแบน ภายใต้การจัดการของไป๋ลี่ พวกเขาจึงมีช่วงเวลาที่ดีในอาณาจักรเซียนเหนือแห่งนี้

ในช่วงเวลานี้ อุปสรรคชั่วร้ายของไป๋ลี่ที่สร้างไว้เมื่อชาติก่อนวนกลับมาหาเขาอีกครั้ง พวกนางคิดรื้อฟื้นคืนความสัมพันธ์

และไป๋ลี่ยังคงใช้ ‘เคล็ดลับ’ ที่ซูเซียงเสวี่ยมอบให้เพื่อจัดการกับพวกนาง กลยุทธ์ของซูเซียงเสวียคือให้เขา ‘จัดการ’ กับพวกนางทีละคนเพื่อชดเชย!

มันเรียบง่ายและหยาบโลนมาก จึงไม่มีอะไรสามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะท้ายที่สุดแล้วไป๋ลี่หาใช่ชายไร้เรี่ยวแรง

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของซูเซียงเสวี่ย การจัดการกับหนึ่งคนอย่างถึงที่สุดในคืนเดียวย่อมดีกว่าการจัดการกับนางสนมทั้งเจ็ดสิบสองคนในคืนเดียว!

ไป๋ลี่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างยิ่ง ดังนั้นนับตั้งแต่เขาได้เผชิญหน้ากับนางสนมของจักรพรรดิเซียนองค์แรก เขาจึงพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้นางสนมแต่ละคนพึงพอใจ ขณะที่เขากำลังจัดการกับนางสนมของตนเอง ไป๋ชิวหรานและเจียงหลานจะพาไป๋ซวี่เซียงไปอยู่ใกล้ ๆ และปฏิบัติต่อสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังแสดงราวกับรับชมละครรัก และยังสอนให้ไป๋ซวี่เซียงเลือกสรรค์คู่หูของตนให้ดีในอนาคต

แน่นอนว่าระหว่างรับชมละครรัก ไป๋ซวี่เซียงยังใช้ความสามารถของนางเพื่อสร้างปัญหาให้กับเขาเสมอ!

หลายร้อยปีผ่านไป พลังเหนือธรรมชาติของไป๋ซวี่เซียงก้าวหน้าไปอย่างมาก ทั้งความสามารถ ความคิด ทุกสิ่งล้วนเติบโตอย่างก้าวกระโดด แต่ด้วยนิสัยของนางยังคงซุกซนเช่นเคย อีกทั้งรูปร่างของนางก็ยังเจริญเติบโตช้ามาก จึงต้องใช้เวลาอีกสองถึงสามร้อยปีจึงจะสามารถใช้คำว่าหญิงสาวได้

ตอนนี้ไป๋ชิวหรานสามารถอุ้มนางวางบนตักได้โดยไม่ต้องอึดอัดใจ…

เพียงแต่ความแตกต่างจากไป๋ซวี่เซียงก็คือบุตรในท้องของซูเซียงเสวี่ยนั้นเติบโตอย่างรวดเร็ว! นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องแปลกมากที่จะบอกว่าซูเซียงเสวี่ยเป็นมนุษย์ครึ่งอสูร อย่างไรก็ตามด้วยความช่วยเหลือของไป๋ชิวหราน นางฝึกฝนหนึ่งวิญญาณสองร่างกายเสร็จสิ้นแล้ว นางจึงแยกร่างมนุษย์ออกจากร่างอสูรโดยสมบูรณ์ ดังนั้นจึงควรนับว่านางคือเผ่าพันธุ์มนุษย์และเผ่าพันธุ์อสูรที่สมบูรณ์ไปพร้อม ๆ กัน

แต่คราวนี้ บางทีร่างกายของทารกน้อยอาจจะแปลกประหลาดเกิดไป อาจจะไม่ใช่ร่างกายมนุษย์ที่กำลังตั้งครรภ์ แต่เป็นร่างอสูรของซูเซียงเสวี่ยแทน ตอนนี้ซูเซียงเสวี่ยจึงไม่มีทางเลือกนอกจากใช้รูปลักษณ์อสูรในการเดินเตร็ดเตร่ไปมาด้านนอก

แน่นอนว่าบุตรในครรภ์ของทั้งสองจึงเป็นสายเลือดผสมของสวรรค์ริษยาและเผ่าอสูรโดยสมบูรณ์

แม้ซูเซียงเสวี่ยจะเป็นราชวงศ์สายโลหิตบริสุทธ์ของเผ่าอสูร แต่เผ่าอสูรก็ยังอ่อนแอกว่าเทพเจ้าที่มีความแข็งแกร่งตั้งแต่กำเนิด ดังนั้นบุตรชายของไป๋ชิวหรานจึงพัฒนาได้รวดเร็วยิ่งกว่าพี่สาวของเขา

ปัจจุบันท้องของซูเซียงเสวี่ยนูนออกมาแล้ว และคาดว่าจะมีสมาชิกใหม่เกิดในตระกูลเหล่าไป๋ในไม่ช้านี้

ทั้งครอบครัวล้วนตั้งตารอ แม้แต่ไป๋ซวี่เซียงยังกระตือรือร้นที่จะเป็นพี่สาวที่ดี แน่นอนว่าบิดามารดาอย่างไป๋ชิวหรานและเจียงหลานคาดหวังเพียงว่าไป๋ซวี่เซียงจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น หลังจากได้กลายเป็นพี่สาว นางไม่ควรจะใช้ความสามารถของตนเองเพื่อกลั่นแกล้งน้องชายหรือกระทำสิ่งที่ไม่สมควร

อย่างน้อยก็อย่าได้ผนึกคนที่เกลียดไว้ในบ่ออาจมของโลกมนุษย์ก็เพียงพอ!

หลังจากเดินทางในอาณาจักรเซียนเหนือมาสักระยะหนึ่ง ต่อให้ไป๋ลี่จะอยู่ในสภาพเช่นนี้แล้วอย่างไร? สุดท้ายแล้ว “ชีวประวัติของจักรพรรดิเซียนซู่หัว” นั้นต้องใช้เวลายาวนานหลายปี ดังนั้นหลังจากไป๋ชิวหรานและคนอื่น ๆ สนุกสนานในอาณาจักรเซียนเหนือเพียงพอแล้ว เขาจึงกล่าวคำลากับไป๋ลี่และคนอื่น ๆ เพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน

แต่เมื่อไป๋ชิวหรานและคนอื่น ๆ ส่งไป๋ซวี่เซียงกลับสู่อ้อมอกเทพีซีเหอ ทันใดนั้นโรงหลอมเหล็กสวรรค์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่แยกย่อยออกมาจากโรงงานเซียนส่งก็คนมาบอกกล่าวข่าวดีกับไป๋ชิวหราน

ไป๋ชิวหรานขอให้เจียงหลานและคนอื่น ๆ กลับบ้านไปก่อน ขณะที่เขาและชายคนนั้นมุ่งหน้าสู่โรงหลอมเหล็กสวรรค์ และได้พบกับบุคคลที่รับผิดชอบ

ปัจจุบันคนที่ดูแลโรงหลอมเหล็กสวรรค์เป็นช่างฝีมือผู้มีใบหน้าหล่อเหลานามว่า อวี้เหริ่นหาน ชายผู้นี้มีใบหน้าราวกับหยกอย่างแท้จริง อีกทั้งยังเป็นช่างฝีมือที่เก่งกาจมากในอดีต

เมื่อเห็นไป๋ชิวหรานตรงเข้ามา อวี้เหริ่นหานก็เดินตรงเข้าหาพร้อมกับส่งกล่องใบใหญ่ให้ไป๋ชิวหรานอย่างอ่อนน้อม

“บรรพชนกระบี่ เราได้ออกแบบสิ่งที่ท่านต้องการเรียบร้อยแล้วขอรับ”

ไป๋ชิวหรานเปิดกล่องและเห็นว่าภายในมีโครงสร้างเชิงพื้นที่ที่แปลกประหลาด ภาพวาดภายใต้การออกแบบทั้งภายในและนอก วัสดุต่าง ๆ ล้วนแต่เป็นสิ่งประณีตบรรจง ทั้งหมดถูกบรรจุไว้อย่างแน่นหนา และเรียงทับซ้อนกันจนไร้ที่ว่าง

“ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักของเจ้าแล้ว”

ไป๋ชิวหรานปิดกล่องพร้อมกับถอนหายใจแผ่วเบา

“หลังจากนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้า มันไม่ดีนักหากจะให้พวกเจ้าทำงานหนักเพื่อข้ามากเกินไป”

“ท่านบรรพชนกระบี่อย่าได้เกรงใจ หากไม่มีท่านพวกเราคงไม่อาจเอาชนะเทพจักรกลได้ และเราจะไม่ได้รับทักษะพลังแห่งยันต์ที่มีประโยชน์มากมายเหล่านี้ได้เลย”

อวี้เหริ่นหานกล่าวเคร่งขรึม

“ยิ่งไปกว่านั้น หากเราสามารถให้คนจากโรงหลอมเหล็กสวรรค์เข้าร่วมในการปรับแต่งคราวนี้ได้ เราก็จะได้รับทักษะความรู้มากมายจากมัน ในอนาคตเราอาจจะสามารถพัฒนาหุ่นกลจักรพรรดิในโลกแห่งเซียนง่ายขึ้น… เช่นนั้นข้าจึงอยากร้องขอท่านบรรพชนกระบี่ว่า… พวกเราขอเข้าร่วมแผนการนี้ได้หรือไม่?”