ตอนที่ 1035 งานเลี้ยงวันเกิด (10) / ตอนที่ 1036 ร่วมมือ
ตอนที่ 1035 งานเลี้ยงวันเกิด (10)
ชวีซินรุ่ยกับจวินอู๋เสียดูสนิทสนมเป็นกันเองจนทำให้คนอื่นๆ ในงานเลี้ยงรู้สึกงุนงงสับสน
“โชคชะตาพาให้เรามาพบกัน ในเมื่อคุณชายจวินมาที่เมืองพันอสูรในฐานะแขก เช่นนั้นท่านก็เป็นแขกของคนทั้งเมืองพันอสูร” ชวีซินรุ่ยพูดพร้อมกับยิ้ม ก่อนที่สายตาของนางจะเบนไปมองหลินเฟิงที่ทำหน้าตาหดหู่อยู่ “เสี่ยวเฟิง ความเข้าใจผิดที่เจ้ามีต่อคุณชายจวินก่อนหน้านี้ ก็แก้ไขเสียวันนี้จะดีกว่านะ เจ้าน่าจะใช้โอกาสในงานเลี้ยงวันเกิดของข้าดื่มให้กับคุณชายจวินดีหรือไม่เล่า”
พอพูดจบชวีซินรุ่ยก็ให้คนนำจอกสุราชั้นดีสองจอกมาวางตรงหน้าหลินเฟิง
หลินเฟิงมีสีหน้าตกตะลึงทันที!
ชวีซินรุ่ยอยากให้ข้าขอโทษจวินเสียด้วยการดื่มสุราอย่างนั้นหรือ
หลินเฟิงไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง เขาจะทำเป็นมองข้ามที่ชวีซินรุ่ยไม่ได้เอาเรื่องจวินอู๋เสียหรือที่นางสนิทสนมกับจวินอู๋เสียในวันนี้ไปก็ได้ แต่…นี่นางอยากให้เขาขอโทษจวินอู๋เสียซึ่งเป็นคนที่เขาเกลียดมากจนอยากฉีกให้เป็นชิ้นๆ อย่างนั้นหรือ มันจะเป็นไปได้อย่างไร
หลินเฟิงเกลียดจวินอู๋เสียมาก แล้วตอนนี้จะคาดหวังให้เขาดื่มขอโทษต่อหน้าทุกคนที่นี่ หลินเฟิงจะทนความอัปยศอดสูเช่นนั้นได้อย่างไร
ชวีซินรุ่ยเห็นหลินเฟิงมีสีหน้าขุ่นเคืองและกำหมัดแน่น นางก็เริ่มมีสีหน้าไม่พอใจขึ้นมา หลินเชวียสังเกตเห็นสีหน้าไม่พอใจของชวีซินรุ่ยก็สะดุ้งทันที เขารีบกระตุกแขนเสื้อของบุตรชายเป็นการบอกให้เขารีบทำตามที่ชวีซินรุ่ยสั่ง
หลินเฟิงกัดฟันแน่น เขาจ้องจอกสุราสองจอกตรงหน้าอย่างมุ่งร้าย สายตาแสดงความไม่เต็มใจอย่างรุนแรง
แต่วินาทีต่อมาความไม่พอใจทั้งหมดก็หายไปจากใบหน้าของหลินเฟิงอย่างกะทันหัน และดูเหมือนเขาจะลืมอคติที่เขามีต่อจวินอู๋เสียทั้งหมดไปแล้ว จู่ๆ เขาก็ยิ้มแล้วลุกขึ้นพร้อมกับถือจอกสุราทั้งสองจอกและก้าวยาวๆ ตรงไปหาจวินอู๋เสีย
ความเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของหลินเฟิงทำให้ทุกคนประหลาดใจ ชวีซินรุ่ยเองก็ดูเหมือนจะพอใจมาก
ทุกคนมองตามหลินเฟิงที่ถือจอกสุราสองจอกเอาไว้ในมือ รอยยิ้มแปลกๆ ปรากฏขึ้นที่บนใบหน้าของเขา ในตอนที่เขาหันไป ปลายนิ้วของเขาก็ปาดรอบขอบจอกสุราจอกหนึ่งเบาๆ โดยที่ไม่มีใครทันสังเกต
“คุณชายจวิน ทั้งหมดที่ข้าทำลงไปก็เพราะความเป็นเด็กและหุนหันพลันแล่น ถ้าข้าทำอะไรล่วงเกินท่านไป ขอคุณชายจวินโปรดอย่าใส่ใจมันเลย” หลินเฟิงพูดพร้อมรอยยิ้มเสแสร้งแบบสุดๆ เขาส่งจอกสุราใบหนึ่งให้จวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียเลิกคิ้วมองหลินเฟิงที่มีท่าทีเปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหัน สายตาเย็นชาของนางจับจ้องไปยังจอกสุราที่หลินเฟิงส่งมาให้
ขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าจวินอู๋เสียยังคงไม่เต็มใจจะยกโทษให้หลินเฟิง จวินอู๋เสียก็ลุกขึ้นยืนและรับจอกสุราไปจากมือเขา
“ในเมื่อมันเป็นแค่ความเข้าใจผิด ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร” พูดจบจวินอู๋เสียก็ยกจอกสุราขึ้นแล้วดื่มหมดในรวดเดียว
หลินเฟิงเฝ้ามองจวินอู๋เสียกระดกสุราเข้าปาก แววตาของเขาทอประกายมุ่งร้ายอย่างไม่ปิดบังก่อนที่เขาจะดื่มสุราในมือของตัวเอง
“เรื่องที่เกิดขึ้นข้าเองก็มีส่วนผิดเช่นกัน ในเมื่อคุณชายหลินใจกว้างเช่นนี้ ข้าก็คงไม่อาจสงวนท่าทีอยู่ได้” หลินเฟิงตั้งใจจะกลับไปยังที่นั่งของเขา แต่จวินอู๋เสียก็กวักมือเรียกคนรับใช้ที่ถือเหยือกสุราอยู่ด้านข้าง
คนรับใช้นำเหยือกสุราเข้ามาและจวินอู๋เสียก็หยิบขึ้นมาเทสุราลงในจอกของตัวเองก่อนจะเทลงในจอกของหลินเฟิง
หลินเฟิงขมวดคิ้วมองจวินอู๋เสีย เจ้าเด็กนี่รู้แล้วรึ
แต่คิดอีกทีก็เป็นไปไม่ได้ที่จวินอู๋เสียจะสงสัยอะไร เขาจึงสลัดความสงสัยออกไปจากหัว
“ดื่มให้หมด แล้วอดีตก็คืออดีต” จวินอู๋เสียยกมือขึ้นและเป็นฝ่ายกระดกสุราลงคอไปก่อน
ตอนที่ 1036 ร่วมมือ
หลินเฟิงหัวเราะอยู่ในใจ แต่ใบหน้าของเขายังคงยิ้มขณะที่ดื่มสุราลงไป
ชวีซินรุ่ยมองจวินอู๋เสียและเห็นว่าจวินอู๋เสียเต็มใจรับคำขอโทษ นางก็พอใจมาก
แม้ว่าหน้าตาของจวินอู๋เสียจะเทียบกับหนุ่มๆ ที่คอยรับใช้นางในหอเมฆาสวรรค์ไม่ได้ แต่แค่ดวงตาคู่นั้นกับรัฐเหยียนที่อยู่เบื้องหลังเขาก็ทำให้ชวีซินรุ่ยชอบเขาได้แล้ว
“เอาล่ะ มาดื่มกันเถอะ” ชวีซินรุ่ยพูดด้วยความพอใจ
หลินเฟิงถอยกลับไปนั่งที่ของตัวเองอย่างเงียบๆ พร้อมกับรอยยิ้มน่าสงสัย เขามองจวินอู๋เสียด้วยสายตากระวนกระวายเจือความคาดหวัง
ตลอดทั้งงานคนอื่นๆ กลายเป็นฉากหลังในงานไปแล้วเมื่อชวีซินรุ่ยเอาแต่พูดคุยกับจวินอู๋เสียคนเดียวเท่านั้น
ต่อให้จวินอู๋เสียกลายเป็นคนโง่ขึ้นมาจริงๆ นางก็ยังมองเห็นได้ว่าชวีซินรุ่ยกำลังพยายามเอาชนะใจนาง แต่นางคิดไม่ออกว่าทำไมชวีซินรุ่ยถึงอยากได้นางเป็นพวกขึ้นมา
เมื่องานเลี้ยงดำเนินไปได้ถึงครึ่งทาง ชวีซินรุ่ยก็เห็นว่าได้เวลาแล้ว นางจึงพูดขึ้นว่า “คุณชายจวินเพิ่งขึ้นครองตำแหน่ง แต่แล้วก็มาที่เมืองพันอสูรของเราในทันทีแบบนี้ ดูเหมือนว่าท่านจะสนใจในเมืองพันอสูรไม่น้อย เมืองพันอสูรอาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่เท่ารัฐอื่นๆ แต่เราก็สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองในดินแดนนี้ คุณชายจวินอาจจะมีตำแหน่งและสถานะที่ยิ่งใหญ่มากพออยู่แล้ว แต่วัยเยาว์น่ะผ่านไปเร็วมาก และก็ไม่มีใครมีชีวิตอยู่ได้ตลอดกาล ถ้าข้าจะบอกท่านว่าเราสามารถมีร่างอมตะและมีชีวิตเป็นนิรันดร์ได้ คุณชายจวินจะว่าอย่างไร”
จวินอู๋เสียหรี่ตาลงเล็กน้อย นางรู้สึกว่าคำพูดของชวีซินรุ่ยค่อนข้างแปลก นางแสดงท่าเหมือนไม่สะทกสะท้านอะไรขณะที่พูดว่า “ในโลกนี้ทุกอย่างย่อมถูกกำหนดเอาไว้แล้ว”
ชวีซินรุ่ยหัวเราะแล้วตอบว่า “ตราบใดที่เราแข็งแกร่งมากพอ ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเปลี่ยนแปลงชะตาที่สวรรค์กำหนดมาไม่ได้หรอก คุณชายจวินเรียกข้าว่าคุณหนูชวี ท่านรู้อายุที่แท้จริงของข้าหรือเปล่า”
จวินอู๋เสียตอบว่า “ใบหน้าอ่อนเยาว์เช่นนี้คงประมาณยี่สิบปีได้”
ชวีซินรุ่ยหัวเราะเบาๆ นางมองไปทางชวีเหวินเฮ่า “คุณชายจวินช่างปากหวาน ท่านรู้หรือไม่ว่ากระทั่งเจ้าเมืองแห่งเมืองพันอสูรก็ยังต้องเรียกข้าว่าท่านยายตอนที่เขามาพบข้า อายุที่ท่านเดาไว้ข้าเกรงว่าต่อให้ท่านเอาเลขตัวแรกของอายุจริงๆ ข้าออกไป มันก็ยังมากกว่าที่ท่านเดาเอาไว้เป็นสิบปีหรือมากกว่าด้วยซ้ำ”
“จริงหรือ” จวินอู๋เสียแสร้งทำเป็นตกใจ
ชวีซินรุ่ยพยักหน้า “ข้าอายุเกินร้อยปีแล้ว แต่ก็ยังสามารถคงใบหน้าในวัยยี่สิบปีเอาไว้ได้ คุณชายจวินไม่รู้สึกสนใจบ้างหรือ”
จวินอู๋เสียตอบว่า “ถ้าสามารถเป็นอย่างคุณหนูชวีได้ ใครบ้างเล่าจะไม่สนใจ”
พลังวิญญาณขั้นสีม่วงสามารถยืดอายุขัยได้ แต่ไม่ถึงขั้นเปลี่ยนแปลงใบหน้าจนเหมือนที่ชวีซินรุ่ยเป็นได้ นางลอบสังเกตชวีซินรุ่ยอยู่เมื่อครู่ และเห็นว่าใบหน้าของชวีซินรุ่ยเป็นของจริง ไม่ได้ใช้วิธีใดๆ ปรับเปลี่ยนมันเลย
ดวงตาของชวีซินรุ่ยเป็นประกายด้วยความยินดี นางพูดขึ้นช้าๆ ว่า “ดูเหมือนว่าเราจะเข้ากันได้ดีนะ ข้าอยากรู้ว่าคุณชายจวินอยากร่วมมือกับข้าหรือไม่ เราสามารถร่วมมือกันทำงานใหญ่ได้ และหลังจากทำงานนี้สำเร็จ ข้าจะสามารถให้ทุกอย่างที่คุณชายจวินต้องการได้”
เมื่อได้ยินชวีซินรุ่ยพูดเช่นนั้น ทุกคนในงานเลี้ยงก็พากันเงียบกริบด้วยความตกใจ
ทุกคนต่างเข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของชวีซินรุ่ยดี มันบ่งบอกอย่างชัดเจนเลยว่านางต้องการร่วมมือกับจวินอู๋เสียและยังเสนอพลังวิญญาณขั้นสีม่วงให้เขาเป็นการแลกเปลี่ยนอีกด้วย!
ตั้งแต่โบราณกาลมา พลังวิญญาณขั้นสีม่วงเป็นสิ่งที่ดึงดูดทุกคนได้ แทบไม่มีใครสามารถต้านทานสิ่งที่ยั่วใจขนาดนี้ได้เลย!
ชวีเหวินเฮ่าที่นั่งอยู่อีกด้านหนึ่งใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม จากที่ชวีหลิงเย่ว์เล่าให้เขาฟัง เหตุผลที่จวินอู๋เสียยอมมาช่วยพวกเขาก็เพราะแผนที่ที่อยู่กับชวีซินรุ่ย และตอนนี้ชวีซินรุ่ยก็เสนอที่จะร่วมมือกับจวินอู๋เสียซึ่งจะต้องเป็นการตามหาที่ตั้งที่ระบุอยู่บนแผนที่ที่จวินอู๋เสียต้องการ แถมยังจะให้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงเป็นการแลกเปลี่ยนอีกด้วย ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน จวินอู๋เสียก็จะมีแต่ได้หากเลือกร่วมมือกับชวีซินรุ่ยแทน!
ชวีเหวินเฮ่ารู้สึกกังวลมาก แต่เขาไม่สามารถแสดงท่าทางหรือความรู้สึกอะไรออกไปได้