บทที่ 557 ข้อมูลคือสิ่งสำคัญ
บทที่ 557 ข้อมูลคือสิ่งสำคัญ
เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ ไม่มีใครในฝูงชนเคยคิดว่าพวกเขาจะเจออะไรแบบนี้!
พวกที่ขี้ขลาดกว่าก็หนีไปทันที ส่วนพวกผู้ที่มีภูมิหลังโดดเด่นหรือมีระดับการบ่มเพาะที่สูงกว่าก็ตัดสินใจที่จะอยู่ต่อและคอยดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น
บรรดาผู้ที่ทำงานให้กับพ่อค้าตลาดมืดต่างพากันตกตะลึง ผู้คุ้มกันหลายคนมีท่าทางขวัญหนีดีฝ่อ
หญิงสาวผู้ดูแลการประมูลหันไปมองทางพวกเขา จากนั้นนางก็ฝืนยิ้มและเดินไปหาซ่างเชียน “นายท่าน คงมีอะไรเข้าใจผิดกัน กิจกรรมทั้งหมดของเราได้ทำการบอกกล่าวกับเจ้าหน้าที่แล้ว”
นางหยิบตั๋วเงินจำนวนหนึ่งให้เขาขณะพูด
ตลาดมืดในเมืองจันทร์กระจ่างมีความเจริญรุ่งเรืองมาหลายปี การจะเป็นเช่นนี้ได้ ต้องสร้างเส้นสายจากความสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่ทางการ งานประมูลครั้งนี้ได้จ่ายสินบนล่วงหน้าไปแล้ว และเตรียมเงินสินบนเพิ่มเติมสำหรับการประมูลคืนนี้ เผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉิน
ซ่างเชียนผลักนางออกไป “ไม่ต้องมาทำอุบายแบบนี้กับข้า ค้นให้ทั่ว!”
“รับทราบ!” ทหารลาดตระเวนลำน้ำต่างกระโดดขึ้นไปบนเวทีทันที ของอื่น ๆ ที่ถูกนำมาประมูลได้ขายไปหมดแล้ว ใบอนุญาตค้าเกลือเป็นเพียงรายการเดียวที่เหลืออยู่
ฉินหว่านหรูตกใจ “เจ้าบอกเองว่าเขาจะไม่พาคนทั้งหมดของตัวเองมาไม่ใช่เหรอ? นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” นางถามเบา ๆ
ซูอันชี้ไปที่เสื้อผ้ากลุ่มคนของซ่างเชียน “ลองดูสิ ไม่มีใครสวมเครื่องแบบเลย ทั้งหมดอยู่ในชุดลำลอง นอกจากนี้ สิ่งแรกที่ซ่างเชียนกล่าวคือเขาได้รับแจ้งว่ามีสินค้าผิดกฎหมาย เขาไม่ได้พูดถึงใบอนุญาตค้าเกลือเลย เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องการจัดการกับเรื่องนี้อย่างเงียบ ๆ”
การแสดงออกของผู้ดูแลหญิงเริ่มฉายแววไม่พอใจ “ผู้บัญชาการซ่าง ทำแบบนี้มันไม่ถูกนะ!”
เป็นธรรมดาที่นางจะคุ้นเคยกับบุคคลสำคัญทั้งหมดในเมืองจันทร์กระจ่าง โดยเฉพาะคนที่มีสถานะอย่างซ่างเชียน มันไม่แปลกเลยที่นางจะจำเขาได้
“ไม่ถูกยังไง? ข้ามีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ถ้าสิ่งที่เจ้าทำทั้งหมดเป็นไปตามกฎหมาย ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล เราไม่มีเจตนาที่จะให้ร้ายใคร แต่เราจะไม่ปล่อยให้อาชญากรพ้นผิดไปได้” ซ่างเชียนพูดขึ้นด้วยทัศนคติที่กล้าหาญและชอบธรรม
บรรดาผู้ที่ทำงานในตลาดมืดรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างชัดเจน หลายคนโกรธมากจนอยากจะเผชิญหน้ากับซ่างเชียน แต่ก็ถูกเพื่อนของพวกเขาหยุดไว้
เมื่อเห็นว่าซ่างเชียนไม่มีทีท่าจะผ่อนปรน พ่อค้าในตลาดมืดก็ดูเหมือนจะยอมรับชะตากรรมของพวกเขา ส่วนบรรดาแขกล้วนจากไปอย่างรวดเร็วทีละคน
ซูอันคว้ามือฉินหว่านหรู “รีบไป!”
“เราจะไปกันอย่างนี้เหรอ?” ฉินหว่านหรูตกตะลึง นางไม่มีอารมณ์จะตำหนิซูอันที่คว้าตัวนางอย่างไม่เคารพ
“จะไม่มีใครสังเกตเห็นหากเราออกไปตอนนี้ แต่ถ้าเราถูกทิ้งไว้เป็นพวกท้าย ๆ จะดึงดูดความสนใจทันที” ซูอันอธิบาย “นอกจากนี้ นี่ไม่ใช่สถานที่ที่พวกเขาทั้งสองฝ่ายจะต่อสู้กัน”
ฉินหว่านหรูไม่เชื่อหูของนาง “เจ้าคิดจริง ๆ เหรอว่าพวกพ่อค้าตลาดมืดเหล่านี้จะกล้าหันดาบเข้าหาซ่างเชียน?”
“คงไม่ทำอย่างโจ่งแจ้ง แต่ที่แน่นอนคือพวกเขาย่อมทำอะไรบางอย่างเพื่อเป็นการโต้กลับแน่” ชิวฮัวเล่ยเตือนเขาอย่างจริงจังไม่ให้ขัดแย้งกับกลุ่มพ่อค้าตลาดมืด เห็นได้ชัดว่ากลุ่มอิทธิพลที่นางทำงานให้ไม่ใช่ตัวตนที่สามารถยั่วยุได้
แม้ว่าใบอนุญาตค้าเกลือเหล่านี้จะมีมูลค่าไม่กี่ล้านตำลึง แต่ปัญหาสำคัญมันอยู่ที่ซ่างเชียนได้ล้ำเส้นก่อน
หากปล่อยซ่างเชียนไปโดยไม่ทำอะไรเลย ชื่อเสียงของตลาดมืดจะถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง
ชื่อเสียงนี้สำคัญยิ่งกว่าเงินสิบล้านตำลึงด้วยซ้ำ
น่าเสียดายที่ซ่างเชียนไม่รู้เรื่องนี้ เหมือนกับที่ฉินหว่านหรูได้กล่าวไว้ก่อนหน้าว่า บรรดาขุนนางของเมืองจันทร์กระจ่างไม่ได้เข้าใจอิทธิพลของพวกพ่อค้าตลาดมืดมากนัก
ไม่มีใครรู้ว่ามีกลุ่มอิทธิพลที่น่าเกรงขามคอยสนับสนุนพวกพ่อค้าตลาดมืดอยู่
เฮ้อ…นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อข้อมูลในมือของเจ้ามีไม่เพียงพอ
ซูอันและฉินหว่านหรูพากันออกจากบ้านประมูล อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่ได้ไปไกล แต่แอบหลบอยู่ใกล้ ๆ ตามกิ่งก้านของต้นไม้ใหญ่
แม้ว่าฉินหว่านหรูจะไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่ แต่น้ำเสียงที่มั่นใจของซูอันกลับทำให้นางยอมใจอ่อนตามมาด้วยได้
พวกเขาซ่อนตัวอยู่ในกิ่งก้านของต้นไม้และเฝ้ารอ ดวงตาของฉินหว่านหรูหรี่ลงอย่างกะทันหัน เมื่อนางเห็นอันธพาลสี่คนที่ล่วงเกินนางก่อนหน้านี้ได้เข้ามาอยู่ในสายตา
“บัดซบเอ๊ย คิดไม่ถึงว่าพวกเจ้าหน้าที่ทางการจู่ ๆ จะปรากฏตัวมา ข้ายังหานังลูกเจี๊ยบน่าเกลียดตัวนั้นไม่เจอเลย!”
“น่าแปลกจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่นางเป็นคนขี้เหร่ขนาดนั้น แต่ทำไมยิ่งข้าคิดถึงนางมากเท่าไหร่ ข้าก็ยิ่งต้องการนางมากขึ้นเท่านั้น มันแปลกมากจริง ๆ”
“เฮ้…ก้นกับนมใหญ่แบบนั้น ใครจะสนเรื่องใบหน้ากันล่ะ?”
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกพีชน้ำผึ้งที่สุกงอม น่ารักและชุ่มฉ่ำ! ข้าล่ะอิจฉาไอ้หนุ่มที่อยู่ข้าง ๆ นางคนนั้นจริง ๆ มันคงมีความสุขราวกับได้ขึ้นสวรรค์ทุกวันแน่ ๆ!”
ซูอันรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย ปากของไอ้พวกนี้หยาบโลนจริง ๆ แต่เขาไม่มีวิธีใดที่จะปิดปากคนจากระยะไกลได้
ฉินหว่านหรูโกรธจนใบหน้าของนางแดงก่ำ นางเด็ดใบไม้สองสามใบแล้วใช้นิ้วสะบัดมันไปข้างหน้า เกิดเป็นลำแสงสีเขียวพุ่งทะลุความมืดมิด
ซูอันตกตะลึง อย่างที่คาดเอาไว้เลย ผู้บ่มเพาะระดับหกย่อมทำเรื่องน่าอัศจรรย์แบบนี้ได้!
“อา! ก้นของข้า!”
“ใครตีข้า!”
“เอวข้า!”
“บัดซบเอ๊ย! ใครตบหน้าข้า! ฟันข้าหัก!… ”
คนทั้งสี่ร้องโหวกเหวก ทุกคนมองไปรอบ ๆ แต่ไม่พบอะไร
“ผีไม่มีอยู่จริง…ใช่ไหม?”
“ทำไมตอนนี้จู่ ๆ ข้ารู้สึกหนาวที่กระดูกสันหลัง?”
“ออกไปจากที่นี่กันเถอะ!”
…
ซูอันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นพวกเขาหนีไป “ท่านแม่ยาย ทำไมท่านไม่ฆ่าพวกเขา?”
“ข้าดูเหมือนผู้หญิงที่อำมหิตนักหรือไง?”ฉินหว่านหรูพูดด้วยความรำคาญ “แม้ว่าพวกมันจะน่ารังเกียจ แต่ก็ยังไม่สมควรตาย แค่สอนบทเรียนให้พวกมันก็พอแล้ว”
ซูอันหัวเราะ “คนที่มีฝีปากที่เฉียบแหลมอย่างท่าน ข้าไม่คิดเลยว่าท่านจะมีหัวใจที่อ่อนนุ่มเหมือนเต้าหู้!”
ใบหน้าของฉินหว่านหรูกลายเป็นสีแดง “เงียบไปเลย มีคนมาแล้ว!”
ซูอันมองผ่านช่องว่างระหว่างใบไม้ แน่นอนว่าเป็นกลุ่มของซ่างเชียนที่โผล่เข้ามาในระยะสายตา พวกเขาลากเกวียนที่บรรทุกหีบใหญ่หลายใบอยู่ข้างใน สิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นใบอนุญาตค้าเกลือ
“แปลก…พวกเขาไม่ได้จับใครเลย” ระดับการบ่มเพาะของฉินหว่านหรูสูงกว่าซูอัน ดังนั้นสายตาของนางจึงคมชัดกว่า นางกวาดสายตาไปทั่วทั้งกลุ่ม