War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 1897
ตอนที่ 1,897 : หยางหวู่สิ้นใจ…
หลี่อันรู้ดีกว่าใคร
หากมันทะลึ่งสอดมือเข้าแทรกแซงการประลองเป็นตายระหว่างหยางหวู่และต้วนหลิงเทียนตอนนี้ล่ะก็…มันได้ถูกขับไล่ออกจากลัทธิบูชาไฟแน่!!
ให้มันออกจากลัทธิบูชาไฟเพื่อหยางหวู่?
แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้!
ไม่ต้องกล่าวถึงว่าอีกฝ่ายเป็นแค่บุตรชายของสหายสนิท ต่อให้จะเป็นลูกชายแท้ๆของมันเอง มันก็ไม่มีวันกระทำการใดที่เป็นการล่วงละเมิดลัทธิบูชาไฟเด็ดขาด!
เพราะหากมันละเมิดกฏ มันได้ถูกขับออกจากลัทธิบูชาไฟแน่!
หนึ่งในข้อห้ามของลัทธิบูชาไฟก็คือ การสอดมือแทรกแซงการประลองเป็นตายอย่างโจ่งแจ้ง! เพราะนั่นจะเป็นการทำลายชื่อเสียงของลัทธิบูชาไฟ!!
“ต้วนหลิงเทียน!”
อย่างไรก็ตามแม้มันจะไม่กล้าสอดมือเข้าไปแทรกแซงการประลองอย่างโจ้งแจ้ง แต่การส่งเสียงไปขู่ข่มต้วนหลิงเทียน หลี่อันยังกล้าทำ “ปล่อยคนเสีย…หาไม่แล้วเจ้าจักต้องเสียใจ!!”
หลี่อันพอเปิดปากกล่าวคำ ก็ส่งเสียงผ่านปราณไปข่มขู่ต้วนหลิงเทียนให้ปล่อยหยางหวู่ทันที
“เสียใจ?”
ต้วนหลิงเทียนหันหน้าไปแหงนมองทันทีเมื่อได้ยินเสียงผ่านปราณของหลี่อัน แววตายังค่อยๆมองจ้องไปยังใบหน้าของหลี่อันช้าๆ
และครู่ต่อมาต้วนหลิงเทียนก็ระเบิดเสียงหัวเราะเยาะดังลั่น กล่าวโพล่งออกมาเสียงดังฟังชัดว่า “อาวุโสหลี่อัน…หากข้าจำไม่ผิดนี่มันการประลองเป็นตายระหว่างข้ากับหยางหวู่ไม่ใช่หรือไง?”
“แล้วเสียงที่ท่านส่งผ่านปราณมาข่มขู่ข้าแบบนี้…นี่มันหมายความว่าอย่างไรกัน? หากข้าไม่ปล่อยมันข้าจะต้องเสียใจงั้นเหรอ? ไม่ทราบว่าอาวุโสหลี่อันจะทำให้ข้าเสียใจอย่างไร?”
วาจาท้ายประโยค ตาต้วนหลิงเทียนยังหรี่ลงจับจ้องมองตาหลี่อันเขม็ง! กล่าวถามออกมาเสียงเข้มอย่างไม่ไว้หน้า!!
โอ! อา!
และทันทีที่เสียงของต้วนหลิงเทียนดังออกมา ฉากเรื่องราวโดยรอบพลันกลายเป็นโกลาหลปั่นป่วนทันที!
หลายคนถึงกับหันขวับไปจับจ้องยังร่างของหลี่อัน!!
ในสายตาเหล่านี้มีทั้งดูแคลนหยันหยามบ้างก็มีโมโห…เรียกว่าอาศัยแค่หนึ่งประโยคของต้วนหลิงเทียน ก็ผลักไสหลี่อันให้กลายเป็นเป้าหมายวิจารณ์ของสาธารณะชนทันที!!
ทั้งหมดเป็นเพราะมันทะลึ่งกล่าวขู่ข่มต้วนหลิงเทียน!
“เหอๆ…นี่น่ะหรืออาวุโสเพลิงเงินลำดับที่ 1 แห่งแท่นบูชาเต่าทมิฬของลัทธิบูชาไฟ?”
“เพ้ย! มันกระทั่งกล้าสอดมือในการประลองเป็นตายจริงๆ ช่างกระทำตัวให้เป็นที่อับอายขายขี้หน้าแท่นบูชาเต่าทมิฬของลัทธิบูชาไฟนัก!”
“หากต้วนหลิงเทียนไม่เปิดเผยออกมา ข้าคงไม่มีวันรู้ว่าที่แท้อาวุโสเพลิงเงินของลัทธิบูชาไฟก็มีด้านอุบาทว์ไร้ยางอายเช่นนี้ด้วย…ช่างน่ารังเกียจและน่าขยะแขยงนัก!”
…
หลังจากนั้นผู้คนก็เริ่มสบถกล่าววาจาดูแคลนรังเกียจออกมาทันที ในน้ำเสียงยังเต็มไปด้วยความไม่พอใจนัก
หลี่อันที่ได้ยินถึงกับโมโหจนหัวร้อนจัด!
“อาวุโสหลี่อัน เรื่องต่ำช้าเช่นนั้นท่านยังกล้ากระทำ?”
เถิงชานขมวดคิ้ว มองจี้ถามหลี่อันเสียงเข้ม
“อาวุโสเถิงชาน มันแค่พ่นวาจาเหลวไหล! ท่านยังหลงเชื่อคำของมันด้วย?”
หลี่อันกล่าวตอบออกมาด้วยความไม่พอใจ
หลังจากนั้นมันก็หันไปมองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนเสียงเย็น “ต้วนหลิงเทียน เจ้ารู้หรือไม่ว่าโทษของการใส่ร้ายป้ายสีผู้อาวุโสของลัทธิบูชาไฟเป็นอย่างไร? หากเจ้ายังมิอยากตายก็หุบปากเอาไว้เสียจักประเสริฐกว่า!!”
ขณะกล่าววาจาประโยคนี้ สายตาที่หลี่อันใช้มองต้วนหลิงเทียนก็เผยประกายอำมหิต เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าฟันชัดเจน!
เหตุผลที่มันกระทำเช่นนี้เพราะคิดข่มขู่ให้ต้วนหลิงเทียนหวาดกลัว!
มันไม่เคยคิดเคยฝันเลยว่า…ต้วนหลิงเทียนจะกล้าโพล่งคำขู่ของมันออกมาโต้งๆแบบนี้!
ความรู้สึกนี้ไม่ต่างใดจากการเลิกม่านผ้าชั้นสุดท้ายที่คลุมความอัปยศเอาไว้…
“ต้วนหลิงเทียน หากเจ้ายังไม่อยากตายก็หุบปากไปเสียให้สนิท!!”
ในขณะเดียวกันหลี่อันก็ไม่ลืมที่จะส่งเสียงผ่านปราณไปขู่ข่มต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง “อย่าได้คิดว่าข้าจะล้อเล่นกับเจ้า…หากเจ้ายังไม่ปิดปากแล้วพ่นลมอุบาทว์อันใดออกมาอีกแม้แต่ครึ่งคำ เจ้าเข้าร่วมลัทธิบูชาไฟเมื่อใดเจ้าได้ตายแน่!”
“ข้าหลี่อันเป็นถึงอาวุโสเพลิงเงินแห่งแท่นบูชาเต่าทมิฬของลัทธิบูชาไฟ…คิดฆ่าเจ้ายังง่ายดายดั่งตัดหญ้าฆ่าไก่!!”
เสี่ยงขู่ข่มของหลี่อันยิ่งมายิ่งเย็นยะเยือก
“ฮ่าๆๆ…!!!”
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่หลี่อันคิดว่าต้วนหลิงเทียนจะหวาดกลัวและเลือกหนทางประนีประนอมเพราะคำขู่ของมันนั้นเอง อยู่ๆต้วนหลิงเทียนก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น!!
หลังจากนั้นต้วนหลิงเทียนก็หันมองหลี่อันอีกครั้ง ทั้งกล่าวคำออกมาด้วยเสียงดังฟังชัดให้ทุกคนได้ยินทันทีว่า “อาวุโสหลี่อันท่านบอกว่าข้าใส่ร้ายป้ายสีท่านงั้นเหรอ…เช่นนั้นพวกเรามากล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์อัสนีดีหรือไม่…ให้รู้กันไปว่าผู้ใดพูดความจริง ผู้ใดมันพูดเท็จ?”
สาบานต่อทัณฑ์อัสนี!
ทันทีที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวคำนี้ออกมา ใบหน้าหลี่อันก็อัปลักษณ์ปั้นยากดูไม่ได้ทันที!
และสายตานับพันๆคู่ของผู้คนในแท่นบูชาไฟก็หันไปตกที่ร่างหลี่อันเป็นสายตาเดียวกัน ด้วยรอดูว่าหลี่อันจะกล้ากล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์อัสนีหรือไม่ หากไม่ใช่ก็แสดงว่ามันผิดจริงแล้ว!!
“อย่างเจ้าอาศัยอะไรให้ข้าลดตัวลงไปกล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์อัสนีด้วย?”
หลี่อันมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเหยียดหยาม กล่าวคำดูแคลนออกมาด้วยทีท่ารังเกียจ ก่อนจะเบี่ยงหน้าหนีทำเป็นเมินไม่เห็นหัว…
และเมื่อหลี่อันกล่าวคำนี้ออกมา เสียงโห่ก็ดังขึ้นลั่นแท่นบูชาเต่าทมิฬทันที! แน่นอนว่าทุกคนล้วนโห่ใส่หลี่อัน!!
ถึงแม้หลี่อันจะกล่าวออกมาเสียงดังฟังชัดด้วยท่าทางวางตัวเหนือกว่า แต่คนส่วนใหญ่ไหนเลยจะไม่รู้ความจริง!
หลี่อันต้องไม่กล้ากล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์อัสนีเพราะกลัวความผิด!
หลังจากต้วนหลิงเทียนมาไม้นี้ หลี่อันก็เสมือนล้างมือในอ่างทอง ไม่กล้าที่จะคุกคามขู่ข่มอะไรต้วนหลิงเทียนอีก
(ล้างมือในอ่างทอง = เวลาจะเลิกทำอะไรเด็ดขาดก็มักจะล้างมือในอ่างทอง)
หากแต่มันเลือกที่จะถอยไปมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาอาฆาต แววตายิ่งมายิ่งเย็นยะเยือกปานจะแช่แข็งผู้คน เต็มไปด้วยความเกลียดชังอันไร้สิ้นสุด!
ต้วนหลิงเทียนย่อมสัมผัสได้ถึงสายตานี้ของหลี่อันเป็นธรรมดา แต่เขาหาได้สนใจอะไรมันไม่!
เพราะเขารู้ดีแก่ใจ…ว่าตั้งแต่ที่เขาเลือกจะกล่าวคำเสียดสีหลี่อันว่า ‘สุนัขเฒ่า’ ก็เสมือนเขายืนฝั่งตรงข้ามหลี่อันเต็มตัว ไม่เหลือที่ว่างให้ประนีประนอมอะไรอีก!
และเขาไม่ได้เสียใจที่กระทำเช่นนี้แม้แต่น้อย!
เพราะก่อนหน้านี้ถ้าไม่ได้เถิงชานไหวตัวทันเร่งลงมือสลายพลังฝ่ามือของหลี่อันไป 5 ส่วนล่ะก็ เขาได้ถูกหลี่อันฆ่าตายไปแล้วแน่!
ตอนนั้นหลี่อันมันลงมืออย่างไม่ปราณีแม้แต่น้อย ซัดพลังสังหารใส่เขาตรงๆ!
เห็นได้ชัดว่ามันคิดฆ่าเขา!
เขาเองก็ไม่เคยพบเจอหลี่อันมาก่อน มันก็พึ่งเคยเจอเขาครั้งแรก แต่กลับคิดเอาชีวิตเขาแล้ว?
จะไม่ให้โกรธได้อย่างไร?
เช่นนั้นตั้งแต่วินาทีนั้น หลี่อันก็เป็นศัตรูที่ไม่อาจอยู่ร่วมโลกเดียวกันกับเขาได้!
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เขายังจะยอมให้หลี่อันข่มขู่เขาได้ง่ายๆอีกหรือ?
“แค่ก…แค่ก…ตะ…ต้วนหลิงเทียน…ได้โปรด…ปล่อยข้าไปเถอะ…ได้โปรด…แค่ก…”
ขณะเดียวกันหยางหวู่ที่ถูกต้วนหลิงเทียนบีบคออย่างแรง เมื่อตระหนักว่ากระทั่งหลี่อันก็ไม่อาจช่วยชีวิตมันได้แล้ว มันก็เริ่มดิ้นรนอีกครั้ง พยายามวิงวอนร้องขอความเมตตาจากต้วนหลิงเทียนทันที
ตอนนี้หยางหวู่ไหนเลยจะหลงเหลืออาการถือดีเย่อหยิ่งได้อีก?
“ให้ตายเถอะ…ข้าไม่คิดเลยว่าเรื่องราวจะกลับกลายเป็นเช่นนี้…นี่ถ้าหากข้าไม่ได้มาเห็นกับตา ข้าคงไม่มีวันเชื่อแน่!”
“นั่นสิ ตอนเริ่มประลองเป็นตายทุกคนล้วนคิดว่าต้วนหลิงเทียนต้องตายแน่ๆกันหมด….ใครจะไปคิดคาด ว่าสุดท้ายไม่เพียงจะไม่ตายแต่ยังลงมือสวนกลับจนเอาชนะหยางหวู่ได้ง่ายดาย เป็นผู้กุมชะตาชีวิตหยางหวู่เอาไว้ในกำมือแบบนี้…”
“พลังฝึกปรือที่แท้จริงของต้วนหลิงเทียนไม่มีทางเป็นแค่อริยะเซียนขั้นสูงสุดได้เลย!!”
“เหลวไหล! ในแง่ความแข็งแกร่งที่เผยออกเมื่อครู่ พลังฝึกปรือของต้วนหลิงเทียนจะมีแค่อริยะเซียนขั้นสูงสุดได้รึไง อย่างน้อยๆก็ต้องเป็นเซียนมนุษย์ขั้นสูงสุด!!”
……
ได้ยินหยางหวู่วิงวอนร้องขอความเมตตาจากต้วนหลิงเทียนอย่างน่าสมเพช โดยไม่เหลือทีท่าหยิ่งยโสถือดีอันใดอีก หลายคนที่ดูเรื่องราวอยู่อดไม่ได้ที่จะอึ้งไปเล็กน้อย สุดท้ายก็ถอนหายใจกันเป็นแถบ
“คุณชายรอง!!”
ชายชราที่ถูกเถิงชานทำร้ายบาดเจ็บ ได้แต่ยืนหน้าซีดตัวสั่น แววตาเผยความสะทกสะท้อนด้วยความรู้สึกไร้อำนาจ
ตัวมันก็บาดเจ็บสาหัสจนไม่อาจลงมือช่วยเหลืออะไรใครได้อีกแล้ว
ยิ่งไปกวานั้นต่อให้มันไม่บาดเจ็บ ก็อย่าคิดฝันว่าจะช่วยคนได้…
ด้วยมีเถิงชาน ที่ต้วนหลิงเทียนขอให้เป็น ‘สักขีพยาน’ การประลองเป็นตายอยู่แบบนี้
เป็นไปไม่ได้เลยที่มันจะลงมือช่วยชีวิตคนภายใต้จมูกของเถิงชาน!
“ปล่อยเจ้าไป?”
เจอการวิงวอนร้องขอความเมตตาจากหยางหวู่ ต้วนหลิงเทียนมองตามันด้วยความไร้แยแส “ข้าอยากรู้นัก ว่าหากเป็นชีวิตข้าที่ตกอยู่ในมือเจ้าแทน…เจ้าจะยังปล่อยข้าไปหรือไม่?”
หยางหวู่ได้ยินคำถามนี้ของต้วนหลิงเทียน ลูกตามันก็หดเล็กลงทันใด ร่างกายของมันยังแข็งเกร็งขึ้นมาด้วยกลัวว่าต้วนหลิงเทียนจะอ่านความคิดในใจมันออก
“เจ้าไม่ต้องพูดข้าก็รู้คำตอบดี…”
สายตาของต้วนหลิงเทียนค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา รังสีสังหารพุ่งยิงออกมาเด่นชัด “และคำตอบข้าก็เหมือนกันกับเจ้า…”
“ไม่…แค่ก…ไม่…อย่า…ไม่…”
หยางหวู่พยายามเค้นเรี่ยวแรงดูดนมมารดาออกมาดิ้นรนต่อต้านสุดชีวิต ขาเตะอากาศวุ่นวายมือพยายามงัดแงะทุบตีแขนต้วนหลิงเทียนไม่หยุดเมื่อเห็นถึงจิตสังหารอำมหิตในแววตาของต้วนหลิงเทียน ปากยังร่ำร้องออกมาอย่างหวาดกลัวและสิ้นหวัง
“อาวุโสหลี่อันมีอะไรจะบอกมันเป็นครั้งสุดท้ายหรือไม่? หากชักช้าก็ไม่มีโอกาสแล้วนะ…”
ก่อนที่จะฆ่าหยางหวู่ ต้วนหลิงเทียนยังเลือกจะหันไปมองถามหลี่อันในเวลาที่เหมาะสมออกมาเสียงเรียบ
ยั่วยุ!
นี่มันยั่วยุกันซึ่งๆหน้า!
จังหวะนี้ทุกคนสามารถสัมผัสได้ชัดเจน ว่าบรรยากาศระหว่างทั้งคู่ฟุ้งไปด้วยกลิ่นดินปืนนัก!
เจอต้วนหลิงเทียนยั่วยุด้วยสีหน้าวาจาแบบนี้ หลี่อันรู้สึกคล้ายปอดมันกำลังจะระเบิด! แต่ไม่ง่ายเลยที่มันจะลงมือทำร้ายใครต่อหน้าคนมากมายแบบนี้…
เพราะสุดท้ายแล้วทุกความเคลื่อนไหวและการกระทำของมัน ก็แทนหน้าตาของแท่นบูชาเต่าทมิฬ กระทั่งลัทธิบูชาไฟ!
“เสี่ยวหวู่…เจ้าไปอย่างสบายใจเถอะ อีกมินานลุงหลี่จะส่งมันไปตามทาง จักได้คอยรับใช้เจ้าในปรโลก!”
สุดท้ายหลี่อันก็เลือกที่จะส่งเสียงกล่าวไปถึงหยางหวู่เป็นครั้งสุดท้าย
และในตอนนี้น้ำเสียงของมันก็หนักอึ้งนัก
หยางหวู่ไม่ว่าจะกล่าวยังไง ก็คือบุตรชายคนเล็กของสหายที่ดีที่สุดของมัน การที่ต้องมาทนเห็นหลานตกตายวันนี้…ไม่ทราบว่าครั้งต่อไปที่ต้องเจอหน้าสหาย มันจะสู้หน้าอีกฝ่ายได้อย่างไร…
อย่างไรก็ตามตอนนี้มันไร้พลังอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้สืบไป ทำได้แค่มองวาระสุดท้ายของหยางหวู่เท่านั้น…
“ต้วนหลิงเทียน หากเจ้ากล้าลงมือฆ่าเสี่ยวหวู่ วันหน้าไม่เพียงแต่เจ้าจะต้องแบกรับโทสะของข้า…แต่เจ้ายังต้องแบกรับโทสะของอาวุโสลำดับ 5 แห่งวังอุดรไพศาลอีกด้วย…คราวนี้เจ้าได้ตายสมใจแน่!!”
หลี่อันจ้องต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเย็นชา วาจาที่กล่าวออกดั่งจะมอบโทษประหารให้ต้วนหลิงเทียน
แคร่ก!! กร๊อบ!!
เสียงแตกหักทั้งเสียงแตกละเอียดของกระดูกดังขึ้นเสนาะหู ต้วนหลิงเทียนหักคอหยางหวู่จนตกตายคามือ…
กระทั่งถูกฆ่าตายไปแล้ว หากแต่ลูกตาของหยางหวู่ยังคงเบิกโพลง เห็นชัดว่ามันตกตายอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจถึงที่สุด ไม่เต็มใจถึงขีดสุด…
หลังจากฆ่าหยางหวู่แล้ว ต้วนหลิงเทียนก็เก็บกระบี่ 100 อาคมเซียนรวมถึงแหวนพื้นที่ของหยางหวู่เอาไว้ ก่อนที่จะคลายมือที่บีบคอหยางหวู่ออก ปล่อยให้ร่างหยางหวู่ตกลงไปกองกับพื้น
ขณะเดียวกันนั้นเองร่างกายของเขาก็สั่นสะท้านขึ้นมาทันใด สีหน้ายังซีดลงไปอีกครั้ง
นั่นเพราะตอนนี้พลังอำนาจที่เพิ่มพูนขึ้นมาจากผลของเวทย์พลังปฐมเวทย์กลืนกินก็หมดลงแล้ว แถมพลังวิญญาณของต้วนหลิงเทียนแทบเหือดแห้งเต็มที
และเป็นเพราะเขารู้ว่าผลของปฐมเวทย์กลืนกินกำลังจะหมดลง อีกทั้งพลังวิญญาณก็เจียนหมด เขาเลยตัดสินใจฆ่าหยางหวู่ทันที ด้วยกริ่งเกรงวิกาลยาวนานฝันยุ่งเหยิง
(วิกาลยาวนานฝันยุ่งเหยิง = ยิ่งนานเรื่องราวยิ่งวุ่นวาย เกิดเหตุเปลี่ยนแปลงนู่นนี่นั่น)
“ตายแล้วหรือ?”
“บุตรชายคนรองตกตายไปแล้วแบบนี้ ไม่รู้อาวุโสลำดับ 5 แห่งวังอุดรไพศาลจะทำอย่างไร?”
“ฮึ่ม! หยางหวู่นั่นมันสมควรตายแล้ว! หากมันไม่หาเรื่องยั่วยุท้าทายผู้อื่นเขาก่อน มันจะถูกผู้อื่นฆ่าตายเช่นนี้รึ!!”
……
หลังจากที่หยางหวู่ถูกฆ่าตาย ฉากเรื่องราวที่เงียบสงบไปพักหนึ่งพลันระอุเดือดขึ้นมาอีกครั้ง!