ตอนที่ 513 ไม่มีอันตราย

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 513 ไม่มีอันตราย

“พี่หญิง!” ต่งฉางหลานตะลึงงันไปเช่นเดียวกัน สีหน้าเป็นกังวล “พี่หญิงได้รับบาดเจ็บหรือขอรับ”

ไป๋ชิงเหยียนลงมาจากหลังม้าอย่างคล่องแคล่ว ก้มมองดูเสื้อผ้าของตนเอง กล่าวยิ้มๆ “เลือดของผู้อื่น ข้ามิเป็นอันใด”

ชุยซื่อตกใจจนใบหน้าซีดเผือดเช่นเดียวกัน เมื่อได้ยินไป๋ชิงเหยียนกล่าวเช่นนี้จึงใช้ผ้าเช็ดหน้าทาบอก รู้สึกท้องไส้ปั่นป่วน หญิงสาวรีบใช้ผ้าเช็ดหน้าทาบอกของตัวเองเพื่อข่มความรู้สึกนั้นไว้ นางกลัวเลือดมาตั้งแต่เด็ก

“ฉางหลาน หรงเจี๋ย…เดินทางปลอดภัยนะ!” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวยิ้มๆ

ต่งฉางหลานโค้งกายคำนับไป๋ชิงเหยียน ประคองชุยซื่อขึ้นไปบนรถม้า ชุยซื่อแหวกม่านรถม้าออกมากล่าวกับไป๋ชิงเหยียนยิ้มๆ “พี่หญิง หากมีเวลาอย่าลืมมาเติงโจวบ้างนะเจ้าคะ ท่านย่าคิดถึงพี่หญิงมากเจ้าค่ะ”

“ข้ารู้แล้ว!” ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า

“ถิงเจิน เจ้าไม่ไปเติงโจวจริงๆ หรือ” ชุยซื่อถามต่งถิงเจินอีกครั้ง

เดิมทีต่งฉางหลานและชุยซื่ออยากพาต่งถิงเจินกลับไปเติงโจวด้วย เมื่อทุกคนกลับมาเติงโจวในช่วงปีใหม่ ต่งถิงเจินจะได้เดินทางกลับเมืองหลวงไปพร้อมกับคนอื่นๆ ทว่า ต่งถิงเจินชอบซั่วหยางมาก อีกทั้งรู้สึกว่าต่งซื่อเหงาจึงไม่ยอมไปจากซั่วหยาง

ต่งถิงเจินส่ายหน้า “ข้าอยากอยู่เป็นเพื่อนท่านอาให้นานกว่านี้เจ้าค่ะ อยากตามน้องจิ่นจื้อไปดูสนามฝึกซ้อมทหารด้วยเจ้าค่ะ”

นี่คือสิ่งที่ไป๋จิ่นจื้อแอบรับปากต่งถิงเจินลับหลังไป๋ชิงเหยียน ไป๋จิ่นจื้อที่ลงมาจากหลังม้าได้ยินคำกล่าวของต่งถิงเจินจึงรีบหันไปมองท่านป้าสะใภ้ใหญ่ต่งซื่อทันที เมื่อเห็นว่าต่งซื่อไม่ได้มีท่าทีไม่พอใจจึงรีบกล่าวขึ้น “เรื่องเล็กน้อยเจ้าค่ะ!”

ต่งถิงเจินไม่อยากไป ชุยซื่อจึงไม่ได้บังคับ ได้แต่กำชับไม่ให้นางสร้างปัญหาให้ไป๋ชิงเหยียน

“ท่านป้า พี่หญิง ฉางหลานไปแล้วนะขอรับ ท่านป้าและพี่หญิงรักษาสุขภาพด้วยนะขอรับ เขียนจดหมายไปยังเติงโจวบ่อยๆ ท่านย่าจะได้สบายใจขอรับ!”

“ท่านพี่ฉางหลาน ฝากทักทายท่านอารองและอาสะใภ้รองด้วยนะเจ้าคะ” ต่งถิงเจินก้าวไปทำความเคารพต่งฉางหลาน

ต่งฉางหลานพยักหน้า โค้งคำนับต่งซื่อและไป๋ชิงเหยียน จากนั้นขึ้นไปบนหลังม้า พาขบวนรถม้าของตระกูลต่งจากไป

เมื่อต่งซื่อมองส่งต่งฉางหลานและชุยซื่อจากไปเสร็จจึงหันไปจูงมือไป๋ชิงเหยียนและไป๋จิ่นจื้อไปยังเรือนปัวอวิ๋น สั่งให้สาวใช้เตรียมน้ำให้คุณหนูทั้งสองอาบ

ต่งถิงเจินใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากหัวเราะ จากนั้นหันไปกล่าวกับสาวใช้ข้างกายของตน “พวกเราไปเตรียมของว่างให้พี่หญิงและน้องจิ่นจื้อดีกว่า พวกนางออกเดินทางไปปราบโจรแต่เช้า คงหิวกันมากแล้ว”

“ท่านป้าสะใภ้ใหญ่ ข้ามิได้บาดเจ็บจริงๆ เจ้าค่ะ ท่านพาพี่หญิงใหญ่ไปอาบคนเดียว ข้ากลับไปอาบที่เรือนของข้าดีหรือไม่เจ้าคะ” ไป๋จิ่นจื้อส่งยิ้มให้อย่างประจบ กลัวว่าต่งซื่อจะถอดเสื้อผ้าของนางออกเพื่อสำรวจบาดแผล

“ท่านแม่ ข้าก็ไม่ได้บาดเจ็บเจ้าค่ะ” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว

ต่งซื่อไม่กล่าวสิ่งใดทั้งสิ้น ลากทั้งสองไปยังเรือนปัวอวิ๋น สำรวจว่าไป๋ชิงเหยียนและไป๋จิ่นจื้อได้รับบาดเจ็บหรือไม่ด้วยตัวเอง

เมื่อแน่ใจว่าทั้งสองไม่ได้เป็นอันใด ต่งซื่อจึงวางใจ สั่งให้สาวใช้ไปนำเสื้อผ้าจากเรือนของไป๋จิ่นจื้อมาหนึ่งชุด

ไป๋จิ่นจื้อและไป๋ชิงเหยียนต่างอาบน้ำอยู่ในถังของตัวเองโดยมีฉากบางๆ กั้นอยู่ ไป๋จิ่นจื้อกล่าวกับไป๋ชิงเหยียนเสียงเบาหวิว “ตกใจหมดเลยเจ้าค่ะ ข้านึกว่าท่านป้าสะใภ้ใหญ่จะจับข้าเปลื้องผ้าแล้วตรวจสอบร่างกายอย่างละเอียด หากข้าไม่ทำตามก็จะตีแขนข้าเหมือนท่านแม่ของข้าเสียอีกเจ้าค่ะ นึกไม่ถึงเลยว่าท่านป้าสะใภ้ใหญ่จะอ่อนโยนถึงเพียงนี้ ปกติเห็นท่านป้าสะใภ้ใหญ่ดูนิ่งขรึม ข้ายังนึกว่าท่านจะดุกว่าท่านแม่ของข้าเสียอีกเจ้าค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนยิ้มกว้าง “เดี๋ยวพี่จะบอกท่านอาสะใภ้สอง”

“พี่หญิงใหญ่ ความลับระหว่างพี่น้อง ห้ามบอกผู้ใหญ่นะเจ้าคะ!” ไป๋จิ่นจื้อตะโกนลั่น

เมื่อทั้งสองคนอาบน้ำเสร็จแล้วจึงเดินออกมา ไป๋จิ่นจื้อนั่งลงบนเก้าอี้ข้างหน้าต่างพร้อมกับไป๋ชิงเหยียน นั่งให้สาวใช้เช็ดผมพลางทานน้ำแกงนกพิราบที่ต่งซื่อให้ฉินหมัวมัวนำมาให้และของว่างของต่งถิงเจิน

ไป๋จิ่นจื้อเงยหน้ามองไป๋ชิงเหยียนที่กำลังดื่มน้ำแกงอย่างตั้งใจ เอ่ยถามขึ้น “พี่หญิงใหญ่ เดี๋ยวข้าพาโจรป่าสองคนที่จับได้ไปให้องค์รัชทายาทที่เมืองหลวงดีหรือไม่เจ้าคะ เราสร้างผลงานได้ครั้งแรก ควรให้องค์รัชทายาทรับรู้ด้วยนะเจ้าคะ”

“เจ้าไม่ต้องไปหรอก เดี๋ยวพี่จะหาคนที่เหมาะสมไปเอง พี่มีเรื่องที่สำคัญกว่านั้นให้เจ้าทำ” ไป๋ชิงเหยียนส่งสัญญาณให้สาวใช้ที่กำลังเช็ดผมอยู่ออกไปก่อน

ไป๋ชิงเหยียนวางช้อนน้ำแกงลง ใช้ผ้าเช็ดหน้าซับที่มุมปาก เอ่ยขึ้น “พี่อยากให้เจ้าไปจัดการไป๋ฉีอวิ๋นที่ถูกขับไล่ออกจากตระกูลไป๋ไปแล้ว”

ไป๋จิ่นจื้อตะลึง มองไปทางไป๋ชิงเหยียนอย่างไม่เข้าใจ

“ไป๋ฉีอวิ๋นร่วมมือกับคนของหลี่เม่า คิดทำลายตระกูลไป๋ เจ้าไม่ต้องห่วงฝั่งของหลี่เม่า หาวิธีจัดการกับไปฉีอวิ๋นให้ได้ก็พอ ทว่า อย่าทำให้อดีตประมุขไป๋และคนตระกูลไป๋ที่ถูกขับไล่ออกไปจากตระกูลพร้อมตายไปพร้อมกับตระกูลไป๋เด็ดขาด” ไป๋ชิงเหยียนกำชับประเด็นสำคัญกับไป๋จิ่นจื้อ “เจ้าสามารถเรียกใช้ผู้ดูแลอูข้างกายของไป๋ฉีอวิ๋นได้ ทว่า อย่าหลงเชื่อคำกล่าวของเขา เจ้าจงคิดเองว่าควรจัดการเช่นไร ห้ามใช้แส้ในการแก้ไขปัญหา หากทำผิดพลาดก็มิเป็นอันใด ถือเสียว่าเป็นการฝึกฝน”

ไป๋จิ่นจื้อทำตามคำสั่งของพี่หญิงใหญ่มาโดยตลอด คราวนี้พี่หญิงใหญ่ให้นางจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง นางไม่รู้จะเริ่มต้นจากที่ใดก่อนจึงรู้สึกประหม่า

ไป๋จิ่นจื้ออยากเอ่ยถามไป๋ชิงเหยียนว่าควรเริ่มต้นจากที่ใด ทว่า เมื่อเห็นพี่หญิงใหญ่มองมาที่นางนิ่งๆ ไม่มีท่าทีว่าจะแนะนำตนแม้แต่น้อย ไป๋จิ่นจื้อจึงเม้มปากแน่น รู้สึกกระวนกระวายใจ

“เสี่ยวซื่อ ทำไม่ดีก็มิเป็นอันใด จัดการไป๋ฉีอวิ๋นได้หรือไม่ได้ล้วนไม่ใช่เรื่องสำคัญ พี่แค่อยากให้เจ้าได้ลองฝึกฝนเท่านั้น”

“เช่นนั้น…ข้าจะลองดูเจ้าค่ะ” ฝ่ามือของไป๋จิ่นจื้อชื้นไปด้วยเหงื่อ รู้สึกหวั่นวิตกยิ่งกว่าตอนที่ถูกโบยเนื่องจากจำตำราที่เรียนไม่ได้เสียอีก

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้ายิ้มๆ “อีกเรื่อง พรุ่งนี้เจ้าพาเสี่ยวอู่และเสี่ยวลิ่วไปซ้อมยิงธนูที่ค่ายฝึกด้วย”

ไป๋จิ่นจื้อชอบเรื่องนี้ สาวน้อยพยักหน้ายิ้มๆ “พี่หญิงใหญ่วางใจได้เจ้าค่ะ ข้าจะทำให้ดีที่สุดเจ้าค่ะ”

บ่ายวันที่กลุ่มของไป๋ชิงเหยียนลงมาจากภูเขา ไป๋ชิงผิงถูกท่านปู่ของเขาเรียกไปพบ

ไป๋ชิงผิงแหวกม่านเข้าไปด้านใน เห็นท่านลุงใหญ่ไป๋ฉีอวิ๋นที่ถูกขับไล่ออกจากตระกูลอยู่ด้วย ชายหนุ่มจึงโค้งกายคำนับคนทั้งสอง

“อาผิงไม่ต้องมากพิธี เจ้านั่งลงก่อน ปู่มีเรื่องอยากถามเจ้า!” ท่านปู่ของไป๋ชิงผิงถือไม้เท้าเคลือบเงาสีดำ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเมตตาและรอยยิ้มบางๆ

ไป๋ฉีอวิ๋นก็ฉีกยิ้มเช่นเดียวกัน เขามองไปทางไป๋ชิงผิงด้วยความเอ็นดูอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน

“ได้ยินว่าช่วงนี้เจ้าเรียกคนในตระกูลไป๋ไปช่วยงานองค์หญิงเจิ้นกั๋วหลายคน พวกเขาทำได้ดีใช่หรือไม่” ปู่ของไป๋ชิงผิงถามอย่างไม่รีบร้อน

สาวใช้แหวกม่านเดินเข้ามาด้านใน รินน้ำชาให้ จากนั้นกลับออกไปด้านนอก

“ขอรับ หากท่านปู่ต้องการทราบเรื่องนี้ ไม่สู้ตามท่านพ่อมาดีกว่าขอรับ ท่านพ่อทราบเรื่องนี้ดีกว่าข้ามากนักขอรับ” ไป๋ชิงผิงตอบอย่างนอบน้อม

ไป๋ฉีอวิ๋นมองไปทางบิดาของตน เร่งรัดให้บิดาเอ่ยถามเรื่องสำคัญออกไป ประหนึ่งว่าหากบิดาของเขาไม่ยอมถาม เขาจะถามออกไปเองในฐานะของท่านลุงใหญ่

ปู่ของไป๋ชิงผิงยกชาขึ้นจิบหนึ่งอึก เอ่ยถามด้วยท่าทีปกติ “ได้ยินว่าเช้าวันนี้องค์หญิงเจิ้นกั๋วพาทหารใหม่ขึ้นเขาไปปราบโจร พวกเขาหาตั๋วเงินที่ท่านลุงใหญ่ของเจ้าโดนปล้นไปเจอบ้างหรือไม่”