ตอนที่ 549 กระบี่โบยบิน

My Disciples Are All Villains

พลังแผ่สวรรค์ของลัทธิขงจื๊อแม้ว่าจะดูอ่อนโยนแต่แท้จริงแล้วมันกลับทรงพลัง มันเป็นพลังที่มีทั้งความแข็งแกร่งและความนุ่มนวลอยู่ในตัว เมื่อพลังแผ่สวรรค์ถูกปลดปล่อยออกมา มันสามารถสร้างสรรค์ได้ตามความต้องการของผู้ใช้ พลังแผ่สวรรค์มีความคล้ายคลึงกับพลังลมปราณที่มีอยู่ในร่างกาย และเพราะแบบนั้นจึงมีคนจำนวนมากต้องการที่จะฝึกฝนวรยุทธในแบบฉบับของชาวลัทธิขงจื๊อ
  ที่เมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์มียอดฝีมือมากมายหลายคนในราชสำนักเองก็มียอดฝีมือชาวลัทธิขงจื๊ออยู่เช่นกัน ในบรรดาแม่ทัพใหญ่ทั้งแปดทั้งชู่เฉิงและกู่ยี่หรานต่างก็เป็นยอดฝีมือจากลัทธิขงจื๊อ
  กู่ยี่หรานเคยช่วยจักรพรรดิหย่งโชวต่อต้านชนเผ่าอื่นจนสร้างสันติภาพให้กับชาวดินแดนหยานได้…เพื่อดินแดนเพื่อประชาชนแล้ว กู่ยี่หรานจะไม่ยอมให้ใครมาขัดขวางจักรพรรดิหย่งโชวของตัวเขาแน่
  มีเสียงกระหึ่มดังขึ้นจากบนอากาศมันเป็นเสียงของพลังแผ่สวรรค์ที่กำลังแผ่ขยายออกมา พลังแผ่สวรรค์ได้ก่อตัวกันจนกลายเป็นตัวอักษร ตัวอักษรทั้งหลายปรากฏตัวขึ้นรอบๆ กู่ยี่หราน เพียงแค่ชั่วครู่เดียวเท่านั้นตัวอักษรทั้งหมดก็หลอมรวมกันจนกลายเป็นมังกรตัวยาว!
  “พลังผนึกอักษรมังกรทอง!”กู่ยี่หรานได้ส่งเสียงร้องออกมาเมื่อผนึกอักษรมังกรทองของตัวเขาทะยานขึ้น
  ดวงตาของหวางซื่อเจียเบิกกว้างหวางซื่อเจียได้ยกแขนทั้งสองข้างอย่างสุดกำลังก่อนที่จะสร้างม่านพลังเพื่อปกป้องตัวเองเอาไว้
  ตู๊ม!
  การโจมตีครั้งแรกของพลังผนึกอักษรมังกรทองได้ทำลายม่านพลังของหวางซื่อเจียในทันทีตัวเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกซะจากจะต้องล่าถอย
  แม้ว่าจะล่าถอยมาแล้วแต่พลังผนึกอักษรมังกรทองก็ได้ไล่โจมตีหวางซื่อเจียต่อ
  ในช่วงเวลาชี้เป็นชี้ตายนี้ทั้งสองฝ่ายต่างก็ต่อสู้โดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน
  หวางซื่อเจียรู้ดีว่าตัวเองจะต้องตายถ้าหากไม่ระวังตัวให้มากพอ
  กู่ยี่หรานในตอนนี้ได้ควบคุมพลังผนึกอักษรมังกรทองด้วยมือทั้งสองข้าง
  พลังผนึกอักษรมังกรได้พุ่งเข้าใส่หวางซื่อเจียเป็นครั้งที่สอง
  ดวงตาของมังกรทองดูคล้ายกับตัวอักษรอันใหญ่ยักษ์…
  หวางซื่อเจียขมวดคิ้วตัวเขาได้เคลื่อนไหวฝ่ามือก่อนที่จะป้องกันการโจมตีอีกครั้ง
  “หวางซื่อเจียเจ้าน่ะถูกหลอกแล้ว!”
  พลังผนึกอักษรมังกรทองได้แยกออกเป็นสองส่วนมันได้จู่โจมหวางซื่อเจียจากทางซ้ายและทางขวาอย่างพร้อมเพรียงกัน
  “แบบนี้แย่แน่!”
  ตู๊ม!
  เมื่อหวางซื่อเจียกำลังจะแยกฝ่ามือออกมาทุกอย่างมันก็สายเกินไป ก่อนที่จะสร้างม่านพลังขึ้นมาได้ หวางซื่อเจียก็ถูกหัวมังกรทองเข้าโจมตีซะก่อน หัวมังกรทองได้กระทบเข้ากับแขนของเขา หวางซื่อเจียที่ถูกโจมตีกระเด็นถอยกลับไป หวางซื่อเจียพยายามต่อสู้กับความเจ็บปวดในขณะที่ล้มลงกับพื้น
  กู่ยี่หรานพยักหน้าอย่างพึงพอใจผนึกอักษรมังกรทองคู่กำลังพันรอบตัวเขา “เจ้าเกาะหวาง เจ้ามีดีแค่นี้สินะ”
  “กู่ยี่หรานพี่จีได้ฝึกฝนจนมีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบเมื่อนานมาแล้ว ทำไมกันเจ้าถึงต้องดื้อด้านแบบนี้”
  “หวางซื่อเจีย…ถ้าหากไม่มีหลักฐานกับตาฝ่าบาทของข้าก็คงจะไม่เข้าถ้ำเสื้อโดยที่ไม่มีมูลแน่”
  “หลิวเก้อเป็นผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบด้วยอย่างงั้นเหรอ”
  “ในโลกนี้จะมีผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบไม่ได้…ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบข้าได้พูดในสิ่งที่ข้าต้องการพูดออกไปหมดแล้ว ได้เวลาส่งเจ้าแล้วล่ะ!” กู่ยี่หรานไม่อยากจะเสียเวลาพูดคุยอีก
  ในตอนนั้นเองพลังผนึกอักษรมังกรทองก็ได้รวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียวพลังผนึกอักษรมังกรทองได้หมุนวนอยู่บนอากาศก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่ใบหน้าของหวางซื่อเจีย
  “ข้าน่ะไม่ใช่พวกที่กลัวตายหรอกนะ!”หวางซื่อเจียปลดปล่อยพลังลมปราณออกมา
  ในตอนนั้นเอง…
  พรึ๊บ!พรึ๊บ!
  มีเสียงอะไรบางอย่างดังขึ้นมาจากด้านบน
  เสียงที่ดังขึ้นฟังดูไม่เหมือนอะไรมันได้ดึงดูดความสนใจของทั้งสองคนเอาไว้ได้
  บนท้องฟ้ากระบี่เล่มหนึ่งกำลังหมุนตัวลงมาเมื่อมองไปที่กระบี่ในแวบแรก มันไม่ได้ดูน่าสะดุดตาเท่าไหร่ แต่ถึงแบบนั้นความเร็วที่กระบี่มีก็ยังดูน่าตกใจ กระบี่นิลโลหิตที่กำลังหมุนตัวลงมาส่งเสียงแตกต่างจากอาวุธชิ้นอื่นๆ ที่สำคัญที่สุดก็คือเป้าหมายของมัน เป้าหมายของมันอยู่ที่พลังผนึกอักษรมังกรทองตัวใหญ่
  เมื่อกระบี่นิลโลหิตกำลังจะพุ่งเข้าใส่พลังผนึกอักษรมังกรทองกระบี่นิลโลหิตก็ได้ปล่อยพลังงานออกมา
  มันได้ตัดผ่านมังกรทองไปมังกรทองที่ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนสูญเสียการควบคุมไปในทันที พลังผนึกอักษรมังกรทองได้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ก่อนที่จะตกลงสู่พื้นภายในพริบตา
  พลังผนึกอักษรมังกรทองที่ถูกทำลายไปได้ทำให้ท่าทีของกู่ยี่หรานเปลี่ยนแปลงไปด้วยกู่ยี่หรานเดินโซเซกลับไปสิบก้าวก่อนที่จะตั้งหลักได้อีกครั้ง เมื่อได้เห็นกระบี่ที่อยู่ตรงหน้ากู่ยี่หรานก็รู้สึกใจคอไม่ดี
  กระบี่ที่ตัดพลังผนึกอักษรมังกรทองได้หมุนรอบตัวเองต่อไปก่อนที่จะปักลงบนพื้น
  แสงแดดได้ส่องไปยังกระบี่เล่มนั้นใครก็ตามที่มีสายตาที่แหลมคมจะบอกได้ทันทีว่ากระบี่เล่มนี้มีความพิเศษ เป็นที่รู้กันดีว่าอาวุธระดับสรวงสวรรค์จะสามารถทำลายพลังงานได้ กระบี่ที่สามารถสังหารพลังผนึกอักษรมังกรทองได้เช่นนี้…มีอยู่เพียงไม่กี่เล่มเท่านั้น คงจะมีแต่ผู้เป็นเจ้าของกระบี่นิลโลหิตเท่านั้นที่ปรากฏตัวในที่แห่งนี้ได้
  ทั้งหวางซื่อเจียและกู่ยี่หรานต่างก็นึกถึงคนคนเดียวกันคนคนนั้นก็คือยู่เฉิงไห่ ศิษย์คนแรกของศาลาปีศาจลอยฟ้า ชายผู้เป็นเจ้าสำนักอเวจีและเป็นยอดฝีมือผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบที่พยายามจะยึดครองโลก
  มันจะต้องเป็นยู่เฉิงไห่แน่!..
  กู่ยี่หรานรู้สึกประหม่าเล็กน้อยตัวเขาอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้น สายตาของเขาดูหวาดหวั่น ยู่เฉิงไห่ที่กำลังสวมใส่ชุดออกรบได้บินลงมาจากท้องฟ้า ไม่นานนักตัวเขาก็ลงสู่พื้นดินได้อย่างสง่างาม
  ตู๊ม!
  เกิดคลื่นพลังกระเพื่อมไปทั่ว
  ชิ๊ง!
  กระบี่นิลโลหิตลอยขึ้นมันได้บินกลับไปที่ฝ่ามือของยู่เฉิงไห่อย่างรวดเร็ว
  กู่ยี่หรานกลืนน้ำลายแม้แต่ผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบด้วยกันก็ยังมีความแตกต่างกัน แม้ว่าเขาจะเป็นแม่ทัพใหญ่และยังเป็นผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบ แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับยู่เฉิงไห่ ตัวเขาก็อดรู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่ายู่เฉิงไห่ไม่ได้ กู่ยี่หรานไม่ได้ต้องการสู้กับคู่ต่อสู้ที่เก่งกาจเช่นนี้
  ยู่เฉิงไห่หันกลับมาช้าๆก่อนที่จะมองไปยังกู่ยี่หราน “กู่ยี่หรานอย่างงั้นสินะ”
  “ยู่…ยู่เฉิงไห่”
  ทันทีที่กู่ยี่หรานพูดจบยู่เฉิงไห่ก็ใช้พลังฝ่ามือของตัวเอง
  ตู๊ม!
  กู่ยี่หรานป้องกันการโจมตีด้วยแขนก่อนที่จะสะดุดถอยหลังกลับไปหลายก้าว
  ยู่เฉิงไห่ส่ายหัว“แม่ทัพใหญ่มีดีแค่นี้”
  “เจ้า…เจ้า…”
  ยู่เฉิงไห่โจมตีอีกครั้งพลังฝ่ามือที่ถูกผลักไปข้างหน้าจู่โจมไปที่แขนของกู่ยี่หรานอย่างแม่นยำ
  ผั๊วะ!
  กู่ยี่หรานถอยหลังไปอีกห้าก้าว
  ยู่เฉิงไห่ได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม“เจ้ากล้าที่จะท้าทายศาลาปีศาจลอยฟ้าอย่างงั้นสินะ”
  “ข้า…ข้า…”
  ยู่เฉิงไห่ได้โจมตีเป็นครั้งที่สาม
  ตู๊ม!
  ด้วยการโจมตีครั้งนี้ทำให้กู่ยี่หรานเสียหลักตัวเขาเลือกที่จะลอยขึ้นไปบนฟ้าก่อนที่จะหันหลังกลับไป
  ‘ต้องหนี!’
  ช่วงเวลาที่กู่ยี่หรานมองเห็นยู่เฉิงไห่ตัวเขาก็รู้ได้ทันทีว่าไม่อาจเอาชนะได้ การหนีจึงเป็นทางเลือกเดียวเท่านั้น กู่ยี่หรานที่คิดแบบนั้นรีบบินขึ้นไปบนอากาศ พลังแผ่สวรรค์ได้ปกคลุมร่างอวตารดอกบัวแปดกลีบของเขาเอาไว้
  “เจ้าคิดจะหนีอย่างงั้นสินะนี่มันก็แค่เริ่มต้นเท่านั้น!” ยู่เฉิงไห่เหวี่ยงกระบี่นิลโลหิตอย่างรุนแรง
  กระบี่นิลโลหิตได้หมุนตัวเองก่อนที่จะพุ่งตัวออกไปด้วยความเร็วกระบี่นิลโลหิตได้เคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่มากกว่ากูยี่หราน
  เมื่อกระบี่นิลโลหิตลอยไปได้ครึ่งทางมันก็ได้ปล่อยพลังงานจากการหมุนอันทรงพลังออกมา
  มันคือพลังจากเคล็ดวิชาอนุสรณ์สรวงสวรรค์แห่งความมืดพลังแสงดาวสรวงสวรรค์แห่งความมืดนั่นเอง
  ต้นไม้และพืชพรรณทั้งหมดในระยะ400 เมตรถูกโค่นล้มโดยพลังมหาศาลในทันที
  ในที่สุดพลังแสงดาวสรวงสวรรค์แห่งความมืดก็ได้ตัดผ่านร่างv;9kiของกู่ยี่หรานไป
  ฉั๊วะ!
  ร่างอวตารของกู่ยี่หรานเริ่มเกิดรอยร้าวตัวเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องเก็บร่างอวตารที่มีไป สีหน้าที่กู่ยี่หรานมีเริ่มหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น ตัวเขาเตรียมพร้อมป้องกันอย่างเต็มตัวในขณะที่ยู่เฉิงไห่เข้ามาใกล้ “ข้าไม่ได้ต้องการที่จะสู้กับเจ้า!”
  “การต่อสู้มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับความต้องการเจ้าหรอกนะ”ยู่เฉิงไห่เอามือข้างหนึ่งไขว้หลังก่อนที่จะเดินไปหากู่ยี่หราน
  กู่ยี่หรานเป็นถึงแม่ทัพใหญ่ทั้งแปดในขณะที่ยู่เฉิงไห่เป็นเจ้าสำนักอเวจี ยังไงซะยู่เฉิงไห่ก็ต้องพิชิตเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าจะยังไงพวกเขาก็เป็นศัตรูกัน แล้วพวกเขาทั้งคู่จะไม่ต่อสู้กันได้ยังไง
  กูยี่หรานเดือดดาลด้วยความโกรธ“ข้ายอมรับว่าพลังวรยุทธของเจ้าสูงส่งกว่าข้า…แต่ถึงแบบนั้นเจ้าก็ไม่ได้เปรียบอะไรข้าหรอกถ้าหากพวกเราจะสู้กันจนตัวตาย”
  ยู่เฉิงไห่มองไปที่กู่ยี่หรานราวกับหมาป่าที่กำลังจ้องมองเหยื่อ“ของอย่างงี้ไม่ลองก็ไม่รู้” ยู่เฉิงไห่ที่พูดจบได้สะบัดมือข้างขวา
  พรึ๊บ!
  กระบี่นิลโลหิตหมุนตัวกลับมาอีกครั้ง
  ปราณกระบี่!
  กระบี่พลังงานหลายเล่มถูกสร้างออกมาพลังงานทั้งหลายทั้งดูลึกลับและดูแปลกประหลาดในเวลาเดียวกัน
  กู่ยี่หรานไม่ได้คาดคิดว่ายู่เฉิงไห่จะโจมตีในทันทีแบบนี้กู่ยี่หรานที่เห็นแบบนั้นก็ได้ปรับท่าทีของตัวเองอย่างรวดเร็ว พลังแผ่สวรรค์ของเขาได้ขยายตัวออกมาอีกครั้ง
  ในเวลาเดียวกันยู่เฉิงไห่ก็เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงมันเป็นความเร็วที่เหนือไปกว่ากระบี่นิลโลหิตซะด้วยซ้ำ
  สุดยอดเคล็ดวิชา!
  เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวยู่เฉิงไห่ก็ได้ปรากฏตัวต่อหน้ากู่ยี่หรานตัวเขาได้โจมตีอีกฝ่ายด้วยพลังฝ่ามือในทันที
  ตู๊ม!
  พลังฝ่ามือกระทบเข้ากับหน้าอกของกู่ยี่หราน
  กู่ยี่หรานกระเด็นลากไปกับพื้น
  ตู๊ม!
  กู่ยี่หรานกระเด็นไปจนชนเข้ากับต้นไม้
  กระบี่นิลโลหิตไม่ได้โจมตีแต่อย่างใดมันได้บินกลับมาในมือของยู่เฉิงไห่แทน
  กู่ยี่หรานเอามือกดหน้าอกก่อนที่จะเหลือบมองยู่เฉิงไห่อย่างตื่นตกใจแม้ว่าการโจมตีนี้จะไม่ได้รุนแรงอะไร แต่มันก็ถูกควบคุมมาเป็นอย่างดี เห็นได้ชัดว่าชายคนนี้มีประสบการณ์การต่อสู้ที่มากแค่ไหน
  ยู่เฉิงไห่พูดต่อ“เจ้าไม่ละอายใจตัวเองบ้างเหรอ หนึ่งในแปดแม่ทัพใหญ่กำลังกลั่นแกล้งชายชราน่ะ?”
  “…”กู่ยี่หรานอยากจะบอกว่าตัวเองก็เป็นชายชราเช่นกัน
  หวางซื่อเจียอึดอัดเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของยู่เฉิงไห่
  ยู่เฉิงไห่ยังคงเดินหน้าต่อไป
  ดวงตาของกู่ยี่หรานแดงก่ำในขณะที่พูดตอบกลับมา“เจ้าก็แค่พวกฉวยโอกาส ซ้ำคนเจ็บก็เท่านั้น”
  “ถ้าหากเจ้าคิดแบบนั้นข้าจะเปิดโอกาสให้เจ้าโจมตีข้าได้สามกระบวนท่า” ยู่เฉิงไห่ได้ยื่นมือข้างซ้ายออกมา ตัวเขากำลังทำท่าทางเชิญชวนอยู่นั่นเอง
  “เจ้าพยายามจะดูถูกข้าอย่างงั้นสินะ”ในตอนนี้กู่ยี่หรานก็ได้ตระหนักถึงความแข็งแกร่งของยู่เฉิงไห่ได้ ยู่เฉิงไห่สามารถสังหารตัวเขาได้ด้วยกระบวนท่าเดียวแน่ แต่ถึงแบบนั้นยู่เฉิงไห่กลับไม่ได้ทำแบบนั้น
  “อืม”ยู่เฉิงไห่พยักหน้า
  “ทหารฆ่าได้หยามไม่ได้”
  “คนบางคนน่ะไม่ควรค่าที่จะได้รับความเคารพหรอก”
  “ย่อมได้ย่อมได้ ย่อมได้…” กู่ยี่หรานได้พูดคำๆ เดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดูเหมือนว่าตัวเขาใกล้ที่จะจิตใจแตกสลายแล้ว