บทที่ 528 เป็นผู้มีบุญคุณของครอบครัวจางเช่นกัน

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 528 เป็นผู้มีบุญคุณของครอบครัวจางเช่นกัน

บทที่ 528 เป็นผู้มีบุญคุณของครอบครัวจางเช่นกัน

แต่เสียงที่แผ่วเบานี้ทำให้ทุกคนในที่นั้นหน้าซีดด้วยความตกใจ

“ว่าอย่างไรนะ? หมาป่าหกตัว?”

“ท่านพี่… ฮือ ๆ…” กู้เสี่ยวอี้ร้องไห้ออกมาด้วยความตกใจ

กู้หนิงผิงตกตะลึง ดวงตาของเขาเบิกกว้างและพูดไม่ออกชั่วขณะหนึ่ง ผ่านไปนานก็ส่งเสียงออกมาสั่นเครือ “ท่านพี่…”

ป้าจางอ้าปากกว้างจนสามารถใส่ไข่เป็ดในปากได้

จู่ ๆ ป้าจางก็พลันนึกถึงสภาพในตอนนั้นของสามีเมื่อเขากลับมาพร้อมอาการบาดเจ็บ

ตอนนั้นลุงจางไปล่าสัตว์บนภูเขา ถ้าเขาเจอหมาป่าเพียงตัวเดียว ลุงจางจะไม่มีวันสูญเสียขาหนึ่งข้างไป

ลุงจางเจอหมาป่าสองตัวและขาของเขาถูกหมาป่าขย้ำกัดกิน แต่ฉินเย่จือและกู้เสี่ยวหวานพบหมาป่าถึงหกตัว หมาป่าหกตัว หมาป่าหกตัว!

นี่มันเรื่องอะไรกันแน่!

ป้าจางปิดปากด้วยความกลัว นางไม่อยากเชื่อเลย!

“สาวน้อยเสี่ยวหวาน พวกเจ้า…พวกเจ้า…” ฉือโถวที่อยู่ด้านข้างเบิกตากว้าง ใบหน้าตกตะลึง

หากพวกเขาพบหมาป่าเพียงหนึ่งตัว พวกเขาก็คงจะถูกฝังอยู่ในท้องของหมาป่าไปแล้ว แต่นี่พวกเสี่ยวหวานต้องเผชิญกับหมาป่าถึงหกตัว

“อืม หมาป่าหกตัว ถ้าพี่ใหญ่ฉินไม่ปกป้องข้า เกรงว่าเมื่อวานนี้ข้าคงตายไปแล้ว!” กู้เสี่ยวหวานพูดเบา ๆ ราวกับว่าในฉากที่น่าตื่นเต้นเมื่อคืนนี้ นางไม่ใช่เหยื่อ แต่เป็นผู้ชม

“สาวน้อยเสี่ยวหวาน…” เมื่อเห็นท่าทางที่สงบนิ่งของกู้เสี่ยวหวาน ป้าจางก็เดาได้ว่าพวกกู้เสี่ยวหวานประสบกับสิ่งที่น่าตกใจเช่นไรเมื่อคืนนี้

“ไม่เป็นไรแล้ว หมอหม่าพูดแล้วไม่ใช่หรือว่า ตราบใดที่พี่ใหญ่ฉินกินยาและผ่านระยะปลอดภัยในคืนนี้ไปได้ เขาก็จะไม่เป็นอะไร!” กู้เสี่ยวหวานเห็นพวกเขาตกใจเช่นนั้นจึงรู้สึกสำนึกผิดเล็กน้อยในใจ ดังนั้นนางจึงปลอบโยนอย่างรวดเร็ว

“สาวน้อยเสี่ยวหวาน…”

“ท่านพี่… ข้าขอโทษท่านและอาจารย์…” เมื่อได้ยินกู้เสี่ยวหวานพูดว่าเมื่อคืนนี้นางเกือบตายบนภูเขาเพราะถูกหมาป่ากินเข้าไป ทั้งหมดเป็นเพราะเขา! ถ้าไม่ใช่เพราะความตะกละของเขา เรื่องพวกนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น

ในใจของกู้หนิงผิงเต็มไปด้วยการตำหนิตัวเอง และกู้เสี่ยวอี้ที่อยู่ข้างกันไม่สามารถควบคุมน้ำตาได้และร้องไห้อีกครั้ง

“เสี่ยวอี้ หนิงผิง พวกเจ้าอย่าร้องไห้ ข้าไม่เป็นไร! พี่ใหญ่ฉินก็จะไม่เป็นไร!” กู้เสี่ยวหวานเงยหน้าขึ้น เหลือบมองที่ฉินเย่จือและพูดอย่างหนักแน่น “แน่นอน พี่ใหญ่ฉินจะไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอน! พรุ่งนี้เขาจะตื่นขึ้นมาแน่”

ใช่แล้ว ฉินเย่จือพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยนาง แน่นอนว่าเขาหวังว่ากู้เสี่ยวหวานจะไม่เกิดเรื่องอะไร

ความแน่วแน่ในดวงตาของกู้เสี่ยวหวานทำให้คนอื่น ๆ เหลือบมองที่ฉินเย่จือและพยักหน้า

“สาวน้อยเสี่ยวหวาน เสี่ยวฉินผู้นี้จริง ๆ…” ป้าจางรู้สึกผิดมากและพูดอย่างอึดอัดใจเล็กน้อย ในช่วงเวลานี้ แม้ว่านางมักจะเห็นฉินเย่จืออยู่ที่บ้านของครอบครัวกู้ แม้ว่านางจะไม่พูดอะไร แต่นางก็กลัวว่าฉินเย่จือจะทำอะไรผิดปกติและทำร้ายกู้เสี่ยวหวานและคนอื่น ๆ

ในใจของนางมักจะมีระยะห่างเล็กน้อยจากฉินเย่จืออยู่เสมอ และรู้สึกว่ายังคงต้องระมัดระวังเพื่อป้องกันฉินเย่จือ

แต่คืนนี้ เมื่อได้ยินกู้เสี่ยวหวานพูดว่า ถ้าไม่ใช่เพราะฉินเย่จือ นางคงจะตายบนภูเขาและถูกหมาป่ากินเข้าไปแล้ว กู้เสี่ยวหวานไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ฉินเย่จือมีรอยแผลและนอนนิ่งอยู่บนเตียง

ป้าจางรู้สึกผิดอย่างยิ่ง

นางยังต้องสงสัยอะไรฉินเย่จืออีก!

คนที่ใช้ชีวิตของเขาเพื่อปกป้องกู้เสี่ยวหวาน เพราะความเมตตานี้ ฉินเย่จือก็จะกลายเป็นผู้มีบุญคุณของครอบครัวนางนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป

“ท่านป้า ฉินเย่จือจะเป็นคนในครอบครัวของข้าไปตลอดชีวิต ข้าเป็นหนี้เขาอยู่หนึ่งชีวิต และข้าควรจะตอบแทนเขาด้วยชีวิตของข้า!” กู้เสี่ยวหวานกล่าวอย่างหนักแน่น ใต้แสงสลัวของตะเกียงน้ำมัน ดวงตาของนางก็สว่างไสวและเต็มไปด้วยความแน่วแน่

ป้าจางพยักหน้าและตอบรับอย่างหนักแน่น “สาวน้อยเสี่ยวหวาน เด็กคนนี้ก็จะเป็นผู้มีบุญคุณของครอบครัวจางของข้าเช่นกัน เพื่อปกป้องเจ้าด้วยความเอาใจใส่เช่นนี้ ข้าเคยสงสัยว่าเขากำลังวางแผน แต่ตอนนี้ข้าคิดผิดครั้งใหญ่จริง ๆ!”

ป้าจางถอนหายใจยาว

นางไม่รู้ว่าฉินเย่จือช่วยชีวิตกู้เสี่ยวหวานจากเงื้อมือของเหมียวเอ้อร์ และนางมักจะคิดว่ากู้เสี่ยวหวานเป็นคนช่วยชีวิตเขาเอาไว้

ตอนนี้ฉินเย่จือใช้ชีวิตของเขาเพื่อปกป้องกู้เสี่ยวหวาน บุญคุณนั้นไม่เพียงแต่กู้เสี่ยวหวาน แต่ป้าจางก็จะปฏิบัติต่อฉินเย่จือในฐานะผู้มีพระคุณของครอบครัวจางเช่นกัน!

“ท่านป้าจาง อย่าโทษตัวเองเลย ข้ารู้ว่าท่านหวังดีต่อข้า ข้าไม่โทษท่านหรอก และพี่ใหญ่ฉินก็ไม่โทษท่านเช่นกัน!” เมื่อเห็นป้าจางโทษตัวเอง กู้เสี่ยวหวานก็รีบเร่งก้าวไปข้างหน้าและปลอบโยนป้าจาง “ตอนนี้ข้าไม่อยากคิดอะไรแล้ว ข้าแค่อยากให้พี่ใหญ่ฉินตื่นขึ้นมาเร็ว ๆ เพื่อที่ครอบครัวของเราจะได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขอีกครั้ง!”

หลังจากฟัง ป้าจางก็พยักหน้าอย่างหนัก “พรุ่งนี้เขาจะตื่นขึ้นมาแน่นอน!”

ป้าจางพักอยู่ที่บ้านของครอบครัวกู้ เตรียมอาหารกลางวันและอาหารเย็นให้ครอบครัวของกู้เสี่ยวหวาน เดิมทีกู้เสี่ยวหวานไม่ต้องการรบกวนป้าจาง แต่ป้าจางยืนยันที่จะทำเช่นนั้น กู้เสี่ยวหวานไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปล่อยให้ป้าจางทำไป

ตอนนี้ จิตใจของนางทั้งหมดอยู่ที่ฉินเย่จือ และนางจึงไม่มีจิตใจไปทำสิ่งอื่นได้

หลังอาหารเย็น ป้าจางและฉือโถวก็กลับไป

กู้เสี่ยวหวานต้มน้ำร้อนใส่หม้อสะอาดและเช็ดร่างกายที่เหลือของฉินเย่จือ ก่อนที่จะนั่งข้าง ๆ และเฝ้าดูฉินเย่จืออย่างเงียบ ๆ

หลังจากนอนหลับไปหนึ่งวัน ฉินเย่จือก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะตื่นขึ้นมา

ยาสำหรับกลางคืนถูกต้มอยู่ในหม้อ ป้าจางทำไว้ก่อนที่จะกลับไป เพียงแค่ต้องต้มสักครู่ก็จะสามารถนำไปดื่มได้

เพื่อชดเชยความผิดพลาด กู้หนิงผิงรีบทำทุกอย่างในบ้าน เขายังคงโทษตัวเองอยู่ในใจ ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เรื่องใหญ่โตเช่นนี้คงไม่เกิดขึ้นกับอาจารย์และพี่สาวของเขา

กู้หนิงผิงตำหนิตัวเองอย่างมาก และกู้เสี่ยวอี้ก็อยู่ที่บ้านโดยไม่พูดอะไร ไม่ว่าพี่สาวต้องการทำอะไร นางก็จะอยู่ข้าง ๆ เพื่อช่วยเสมอ!

กู้เสี่ยวหวานกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับฉินเย่จือ ดังนั้นนางจึงปล่อยให้กู้หนิงผิงและกู้เสี่ยวอี้ทำไป

ในขณะนี้ กู้เสี่ยวหวานนั่งเงียบ ๆ อยู่ข้างเตียง กู้หนิงผิงพากู้เสี่ยวอี้ไปล้างหน้าข้างนอก ในบ้านมีเพียงกู้เสี่ยวหวานและฉินเย่จือ

ฉินเย่จือนอนเงียบ ๆ บนเตียง ดวงตาของเขาปิดสนิทจนไม่สามารถเห็นดวงดาวในดวงตาของเขาได้