EP 508
By loop
หลิงรันได้ยินเสียงใครบางคนกวาดพื้นอยู่ลานหน้าคลินิคตอนเจ็ดโมงเช้า
เนื่องจากหลิงรันเองก็ตื่นแล้ว เขาจึงกลิ้งตัวและลุกขึ้นมา เขาเริ่มจากการมาอาบน้ำและส่วมกางเกงชั้นในตัวใหม่ที่พึงซื้อมา จากนั้นเขาก็ใส่ชุดนอนออกจากห้องและมองลงไปที่ระเบียง ‘ดงเฉินอย่างงั้นหรอ?’
ที่ลานบ้านมีชายร่างใหญ่ที่ดูแข็งแรงหลังเหยียดตรงกำลังกวาดพื้น เมื่อปรากฎร่างคือ หมอแม้วแพทย์นอกเวลาของคลินิกอยู่
เมื่อเขาได้ยินเสียงดังจากชั้นหนึ่งหมอแม้ว ที่หันหลังพิงหน้าต่างก็กวาดพื้นอย่างจริงจัง ดวงตาที่เหมือนเหยี่ยวของเขาพุ่งไปรอบ ๆ ลานและเขากำลังกวาดพื้นอย่างพิถีพิถันราวกับว่าเขาต้องการที่จะกำจัดใบไม้แห่งให้ซินซากไปจากลานกว้างส่ะ
หลิงรันเลิกคิ้วขึ้น ด้วยความประหลาดใจก่อนจะหันหลังกลับไปที่ห้องของเขา เนื่องจากดงเฉิน ไม่ได้อยู่ที่นี่เขาก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวเขา
ถ้าหลิงรันอยู่ในอารมณ์อยากจะสนทนากับใครเขาคงต้องไปที่โรงพยาบาลแล้ว เพราะทั้ง เฟิ้งซินเซียและนักเรียนของเขายังอยู่ที่นั่น
แต่หลิงรันตัดสินใจที่จะอยู่บ้านและพักผ่อนเพราะตอนนี้มีคนมากมายอยากจะคุยกับเขา
ในขณะเดียวกันแพทย์คนอื่น ๆ ในทีมรักษาของเขาก็ต้องหยุดพัก
หมอแม้วเองไม่ได้ยินเสียงใด ๆเลย ออกมาจากชั้นสองอีกเลยหลังจากกวาดพื้นอย่างจริงจังเป็นเวลานาน เขาหันไปและเห็นว่าระเบียงนั้นว่างเปล่า
‘นายไม่แม้แต่จะทักทายฉันแม้ว่าฉันซึ่งเป็นถึงศัลยแพทย์ และกำลังกวาดลานคลินิคให้พวกนายอยู่นี้นะ?’หมอแม้วเอง รู้สึกขุ่นเคืองมากขึ้นเมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้และเขาก็โยนไม้กวาดลงบนพื้น
* แตก *
หลิงรันเปิดประตูขณะที่เขาคุยโทรศัพท์กับใครบางคน “ใช่อยู่ข้างในคลินิคครับ มันจะมีไฟที่ประตู ใช่ผมสั่งพุดดิ้งเต้าหู้มาขอบคุณ”
หมอแม้วหยิบไม้กวาดขึ้นมาอีกครั้งและมองไปที่ประตูที่หลิงรัน ยืนอยู่ เขาพูดด้วยรอยยิ้ม “หมอหลิงไม่จำเป็นจะต้องสั่งอะไรมากินก็ได้นะ เดียวฉันออกไปซื้อให้ก็ได้”
“คุณเปลี่ยนงานและเป็นตัวแทนขายยาแล้วอย่างงั้นหรอ” หลิงรันดูประหลาดใจเล็กน้อย
หมอส่วนใหญ่ที่ทำงานในคลินิกจะไม่พูดประจบเจ้านายของตนเช่นนี้ นับประสาอะไรกับคนในครอบของเจ้านายเองอย่างหลิงรัน มันน่าแปลก
แม้ว่า หมอจียง ซึ่งทำงานเต็มเวลาที่คลินิคตระกูลหลิง มักจะพูดคุยกับ หลิงโจวเกี่ยวกับการขึ้นค่าจ้าง แต่เขาก็จะไม่ซื้ออาหารให้เจ้านายของเขาเพียงเพื่อให้ได้รับเงินเพิ่มขึ้น 5 หยวนอย่างแน่นอน
หมอเหมี่ยวยิ้มแย้มแจ่มใสจนหน้าแดงฉาน “ฉันรู้จักตัวแทนขายยาค่อนข้างน้อยหากคุณสนใจที่จะพบกับบางคนฉันสามารถแนะนำ … “
หลิงรันเพียงจ้องไปที่หมอแม้วโดยไม่พูดอะไร
หมแม้วตัวแข็งสักครู่แล้วหัวเราะเบา ๆ “มองมาที่ฉันทำไมฉันไม่รู้ทำไมคุณต้องให้ฉันแนะนำตัวแทนขายยาให้คุณด้วยการทำงานในโรงพยาบาลขนาดใหญ่เป็นเรื่องที่ดีมากเพราะคุณสามารถพบกับตัวแทนขายยาได้มากเท่าที่คุณต้องการย้อนกลับไปใน สมัยที่ฉันยังทำงานอยู่ในโรงพยาบาล…”
“อะไรคือจุดที่ทำให้รู้จักตัวแทนขายยาจำนวนมากมายขนาดนั้น” หลิงรันไม่เห็นด้วยกับแนวความคิดของหมอแม้วเลย เขาตัดหมอแม้วออกก่อนที่เขาจะพูดถึงอดีตของเขา
หมอแม้วไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกลืนคำพูดของเขา แต่เขาก็ยิ้มต่อไป “ ฉันอยากจะบอกว่ายิ่งคุณรู้จักคนมากเท่าไหร่คุณก็ยิ่งมีโอกาสมากขึ้นเท่านั้น แต่คุณพูดถูกคุณไม่ต้องการโอกาสมากมายขนาดนั้นด้วยซ้ำ”
“ หมอแม้ว ฉันไม่ชอบพูดคุยอะไร ไร้สาระ ” ตอนนี้สำหรับหลิงรัน หมอแม้วมีสนิทพอๆกับเพื่อนบ้านวัยกลางคนที่อยู่บ้านข้างๆ
“ฉันจะบอกความจริงกับคุณ … ” หมอแม้ว พึมพำ จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมองไปที่หลิงรันและพูดอย่างระมัดระวังว่า “หมอหลิงฉันฝึกเทคนิคการเย็บภายในผิวหนังและเทคนิคการเย็บเสริมแรงที่ฝังไว้ที่คุณสอนฉันและเมื่อเร็ว ๆ นี้ฉันรู้สึกว่าฉันสามารถทำมันออกมาได้ดีขึ้นเล็กน้อย ฉันอยากให้คุณลองดูฉันรู้ว่าฉันไม่ใช่แพทย์ประจำในคลินิกนี้ฉันคิดเรื่องนี้แล้วและตัดสินใจว่าเมื่อฉันมีทักษะในการเย็บเครื่องสำอางมากพอฉันจะทำงาน อีกอย่างน้อยสามปีในคลินิคตระกูลหลิงนี้ … “
“พูดได้ดี!” หลิงโจวที่อยู่ชั้นหนึ่งเริ่มปรบมือ เขาดูเหมือนอยากจะบินลงไปข้างล่างในขณะที่เขาตะโกนเสียงดัง“ สามปีสั้นเกินไปอย่างน้อยนายควรทำงานที่นี่อีกห้าปี!”
หมอแม้วกระพริบยิ้ม “ หัวหน้าหลิง ผมไม่ได้บอกว่าผมจะทำงานที่นี่อีกสามปีเท่านั้นผมหมายความว่าผมจะเชี่ยวชาญทักษะก่อนที่จะทำงานที่นี่อีกสามปีในตอนนั้นถ้าเราทั้งคู่ สามารถตกลงกันได้ ผมก็จะทำงานที่นี่ต่อไป “
“นายคงจะไม่ขอขึ้นค่าจ้างภายในสามปี?” หลิงโจวเปลี่ยนหัวข้อสนทนาในทันที
หมอแม้วหัวเราะเบา ๆ ขณะที่เขามองไปที่หลิงโจว และพูดว่า “ผมก็ยังได้รับค่าคอมมิชชั่นอยู่นิครับ”
หลิงจวใช้มือเช็ดตาที่ปิดอยู่ครึ่งหนึ่งแล้วพยักหน้าเล็กน้อย “แน่นอนนายจะได้รับค่าคอมมิชชั่น แต่ไม่ใช่เมื่อนายเรียนรู้จากหลิงรัน หลิงรัน ลูกหมอแม้วของเรา จะเรียนรู้สิ่งที่เขาต้องการนานแค่ไหน?”
“มันขึ้นอยู่กับตัวเขเอง และอาจใช้เวลาไม่กี่เดือนถึงสองสามปี” หลิงรันเชี่ยวชาญทักษะเนื่องจากเขามีระบบแต่กลับกันหมอแม้ว ไม่ได้รับการสนับสนุนจากระบบเขาจึงต้องใช้เวลาสักหน่อยในการเรียนรู้ทักษะต่างๆจากหลิงรัน
หมอแม้วรู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ เขารู้ว่าเขาจะเก่งขึ้นมากในการเย็บแผลแบบเรียบ ถ้าเขาเรียนรู้จากหลิงรันเขาอาจะเรียนรู้ได้เร็วกว่าแพทย์ส่วนใหญ่ก็เป็นได้
หลิงโจวยิ้มและกล่าวว่า “จากนั้นเราจะเริ่มนับสามปีหลังจากที่คุณเชี่ยวชาญทักษะนี้อย่างไรก็ตามหมอแม้ว เนื่องจากหลิงรันกำลังจะสอนเทคนิคการเย็บแผลแบบเรียบให้ นาย นายจะได้สถาณะเป็นเด็กฝึกงานของลูกของฉัน?”
หมอแม้วหันไปและตะโกนใส่หลิงรัน “รับทราบ ครับอาจารย์!”
เขาได้เห็นโลกมากมายและไม่รังเกียจที่จะละทิ้งอัตตาของเขาเพื่อความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่กว่า
หลิงโจวแม้ว่าจะรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ‘หลิงรันจะไม่เสียเปรียบจากการมีเด็กฝึกงานอายุเท่านี้หรือ? “
“ คุณมีคนไข้หรือยัง?” หลิงรันเปลี่ยนหัวข้อ
“ใช่มีคนไข้คนหนึ่งที่มีบาดแผลฉีกขาด ฉันขอให้เธอมาหาตอนประมาณแปดโมงเช้า” หมอแม้วทำงานอยู่ห่างจากโรงพยาบาลเป็นเวลาหลายปีและสร้างชื่อให้กับตัวเองเล็กน้อย ดังนั้นในบางครั้งจะมีลูกค้ามาหาเขาเพื่อรับการรักษา
แน่นอนสิ่งที่แตกต่างกันสำหรับศัลยแพทย์เมื่อเทียบกับอายุรแพทย์ที่มีคนไข้ประจำจำนวนมาก ตัวอย่างเช่นในขณะที่พวกเขาอาจมีขาประจำมากมาย แต่คน ๆ หนึ่งสามารถรับเคสต่างได้เพียงครั้งเดียว เช่นเดียวกับการผ่าตัดตาสองชั้น บอกความจริงแม้แต่หมออย่างหมอแม้ว ก็ไม่ชอบเห็นคนไข้คนเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า
มีหลายวิธีในการสร้างรายได้และสาเหตุหนึ่งที่แพทย์ยังคงทุ่มเทให้กับอาชีพของตนคือความรู้สึกถึงความสำเร็จที่มาพร้อมกับมัน
หมอแม้วต้องการความสำเร็จเช่นกัน
นับตั้งแต่เขาลาออกจากโรงพยาบาลของรัฐบาลที่เขาทำงานอยู่ ตัวเขาเองก็ต้องการความสำเร็จมากยิ่งขึ้น
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาเพียงแค่ทำการเย็บแผลแบบเรียบให้กับผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย หมอแม้วก็พยายามทำงานของเขาให้ดีที่สุด
ผู้ป่วยมาถึงคลินิก เวลา 7:40 น.
เธอเป็นผู้หญิงตัวใหญ่หน้ากลมและเธอกำลังถ่ายเซลฟี่ขณะเดินเข้าไปในคลินิก หลังจากที่เธอเข้าไปในห้องรักษา เธอก็พูดโดยไม่เงยหน้าขึ้นมาว่า “รอสักครู่ให้ฉันกำลังอัปโหลดรูปเหล่านี้อยู่”
จากนั้นเธอก็ถือโทรศัพท์ด้วยมือซ้ายที่ได้รับบาดเจ็บขณะที่เธอนำทางด้วยมือขวาที่ได้รับบาดเจ็บ แม้ว่าเลือดของเธอจะเกาะอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ แต่เธอก็แค่เช็ดมันด้วยผ้าพันแผลบนฝ่ามือ
หมอแม้วยิ้มอย่างอดทนขณะที่เขากล่าวว่า “คุณนายดง แผลของคุณมีเลือดออกทำไมคุณไม่บอกผมก่อนล่ะ?”
“อย่างงั้นช่วยจัดการบาดแผลที่มือซ้ายของฉันก่อนเลย ฉันจะถ่ายรูปด้วยมืออีกข้างขณะที่คุณกำลังรักษาอยู่” คุณนายดงยื่นมือซ้ายตามแฟชั่นขณะที่เธอถือโทรศัพท์ด้วยมือขวาและถ่ายภาพเซลฟี่อีกครั้ง เธอดูรูปเซลฟี่ที่เธอถ่ายและตัดสินใจว่าเธอไม่พอใจกับมัน จากนั้นเธอตั้งค่าตัวเลือกทั้งหมดของคุณสมบัติการรีทัชความงามของกล้องโทรศัพท์ของเธอเป็น 100% ก่อนที่จะถ่ายอีกอัน
ตอนนั้นหมอแม้ว ได้ถอดผ้าพันแผลที่มือซ้ายของเธอออก
“คุณบาดเจ็บสาหัสมาก เกิดอะไรขึ้นกับมือของคุณ?” หมอแม้ว ถาม
“ สามีของฉันเป็นคนทำ” คุณนายดงเม้มริมฝีปากของเธอ
“แผลมันลึกเอามากๆเลยนะ?” หลิงโจวที่กำลังจะเดินจากไปหยุดชะงักทันทีเมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น
คุณนายดงอดไม่ได้ที่จะวางโทรศัพท์ของเธอและมองไปที่หลิงโจว ด้วยคิ้วที่ขมวด “อย่าพูดเรื่องไร้สาระฉันแค่ตีเขาเบา ๆ ไม่กี่ครั้งและมีบาดแผลตื้น ๆ ฉันจะไปทำรุนแรงอะไรกับครอบครัวฉันได้จริงไหม?”
หลิงโจวตัวแข็งเมื่อได้ยินเช่นนี้
หมอแม้วไอสองสามครั้งและพูดว่า “อืมหัวหน้าหลิง คุณนายดงและสามีของเธอตีกันเป็นประจำอยู่แล้ว”
“และฉันเองก็ชนะเกือบทุกครั้ง” คุณนายดงงเงยหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ จากนั้นเธอก็วางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะและเริ่มเลื่อนดูฟีดข่าวของเธอ
ผู้หญิงที่มีใบหน้าเป็นรูปตัววีสามารถเห็นได้บนฟีดข่าวของเธอที่โพสท่าและแสดงบาดแผลที่เปื้อนเลือด มีรูปถ่ายทั้งหมดเก้ารูปและถูกจัดเรียงเป็นรูปแบบของกล่องซูโดกุ เนื่องจากโทรศัพท์อยู่ใกล้คนรอบโต๊ะมากทุกคนจึงสามารถเห็นคำบรรยายของเธอ: อย่าคิดว่าเพราะชัยชนะหรือท้อแท้ในกรณีที่พ่ายแพ้ แม้ว่ามือของฉันจะบาดเจ็บและมีเลือดไหลฉันก็จะไม่ร้องไห้หรือตะโกนออกมาแน่นอน!
“คุณต้องการเย็บแผลแบบเรียบไหม” หมอแม้วตรวจดูบาดแผลและพูดต่อว่า “มันอาจจะไม่ได้ผลขนาดนั้นบาดแผลของคุณฉีกมากเกินไป แต่ด้วยวิธีนี้มันอาจจะมีผลลัพธ์ที่พอจะรับได้อยู่”
“ ฉันไม่มีทางเลือกสามีแย่งเมล็ดแตงโม ฉันจะยอมเขาได้อย่างไร” คุณนายดงยื่นมือของเธอขณะที่เธอพูด “ แค่ทำให้ดีที่สุดและพยายามอย่าให้บาดแผลทิ้งรอยแผลเป็นไว้”
หมอแม้วอดไม่ได้ที่จะมองไปที่หลิงรัน
“แน่นอน” หลิงรันตอบโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อยขณะที่เขาตรวจดูบาดแผล เขามีเทคนิคการเย็บแบบระบุตำแหน่งระดับปรมาจารย์เทคนิคการเย็บภายในผิวหนังระดับมาสเตอร์และการเย็บเสริมแรงใต้ผิวหนังระดับมาสเตอร์ ด้วยทักษะทั้งหมดนี้มันไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาเลยที่จะเย็บบาดแผลแบบนี้โดยไม่ทิ้งรอยแผลเป็น
คุณนายดงเงยหน้าขึ้นอย่างกะทันหันแล้วพูดว่า “หมอคนนี้เสียงเพราะจังเลยๆ … ว้าวคุณหล่อมาก!”
หมอแม้วแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินสิ่งนั้น เขาไปรับยาชาเฉพาะที่ จากนั้นเขาก็กรอกเข็มฉีดยาและเล็งเข็มไปที่ฝ่ามือของ คุณนายดง “ ผมจะให้ยาชาเฉพาะที่ตอนนี้อาจจะเจ็บนิดหน่อย”
“มันคงไม่เจ็บกว่านี้แล้วล่ะ” คุณนายดงสายตาของเธอจับจ้องไปที่หลิงรันและเธอก็ไม่สนใจที่จะมองโทรศัพท์ของเธออีกต่อไป “คลินิกของคุณไม่ควรเสียเงินไปกับยาชาเพราะคนไข้ของคุณจะไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยเมื่อเจอหมอที่หล่อขนาดนี้!”