บทที่ 578 ไล่ล่า

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 578 ไล่ล่า

บทที่ 578 ไล่ล่า

เหตุการณ์ที่ไม่เป็นไปตามคำพูดนี้ทำให้จี้เติ้งถูรู้สึกละอายใจเช่นกัน “ยาเม็ดคืนวิญญาณได้ผลในสถานการณ์ส่วนใหญ่ แต่ไม่ใช่ทุกครั้ง อาการของหว่านหรูตอนนี้ถือเป็นหนึ่งในข้อยกเว้นอย่างชัดเจน”

ซูอันไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เขาได้ยิน

ให้ตายสิ คืนเงินมาให้ข้า!

เขาอารมณ์เสีย “งั้นเอาเงินของข้าคืนมา! ท่านหลอกเอาเงินข้าด้วยของที่ไม่น่าเชื่อถือเช่นนี้น่ะเหรอ!?”

จี้เติ้งถูกระโดดถอยหลัง เขาปฏิเสธ “ข้าจะไม่คืนเงินให้เจ้า! ไม่อย่างแน่นอน!”

ซูอันคว้าคอเสื้อของเขาและคำราม “งั้นก็ช่วยชีวิตแม่ยายข้าให้ได้!”

“คิดว่าข้าไม่อยากเหรอ!” จี้เติ้งถูผลักเขาออกไป เขาเดินไปด้านข้าง แล้วนั่งลงจุดยาสูบ ควันลอยขึ้นปิดบังใบหน้าของเขา

ซูอันต้องการจะพูดอย่างอื่น แต่จี้เสี่ยวซีหยุดเขาไว้ “อาซู อย่ารบกวนพ่อของข้าอีกเลย เขาก็โทษตัวเองในเรื่องนี้ เขากำลังพยายามคิดหาวิธีช่วยชีวิตนางอยู่แน่ ๆ”

“เสี่ยวซี เจ้าคิดว่าพ่อของเจ้าจะสามารถคิดอะไรได้บ้างไหม?” ซูอัน ถามอย่างใจร้อน

จี้เสี่ยวซีส่ายหัวและพูดเสียงเบาว่า “มันคงยาก ขณะนี้ฮูหยินฉู่อาการย่ำแย่เป็นอย่างมาก การที่นางยังคงมีชีวิตอยู่ได้จนถึงตอนนี้ก็นับว่าเป็นปาฏิหาริย์แล้ว”

ซูอันสิ้นหวังเมื่อได้ยินคำพูดนี้

เขาเดินเข้าไปหาฉินหว่านหรูซึ่งกำลังนอนอย่างสงบอยู่บนเตียง

เปลือกตาของนางยังคงปิดอยู่ แก้มของนางยังคงแดงก่ำจากผลของยาปลุกกำหนัดที่ยังหลงเหลืออยู่ รูปร่างของนางยังคงน่าทึ่งเหมือนเมื่อก่อน แต่ผิวของนางซีดเผือดเพราะอาการบาดเจ็บ

ซูอันรู้สึกท้อแท้ หากเกิดอะไรขึ้นกับฉินหว่านหรู เขาจะบอกชูเหยียนว่าอย่างไร? เขาจะสู้หน้าฮวนเจาได้อย่างไร?

แม้ว่าจะไม่ใช่เพราะเห็นแก่สองคนนั้น ความรู้สึกของเขาเกี่ยวกับฉินหว่านหรูก็เปลี่ยนไปหลังจากได้ใกล้ชิดนางมากขึ้นในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ เขาตระหนักได้ว่านางไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เคยคิดว่านางเป็น

หลังจากต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมา มิตรภาพก็ก่อตัวขึ้นระหว่างพวกเขาแล้ว นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมถึงไม่เต็มใจที่จะเห็นนางตายไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

จี้เติ้งถูลุกขึ้นทันที “ข้าจะไปเดินเล่น!” เขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

เขาเดินตรงออกไปโดยไม่รอคำตอบ ไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง

ซูอันอารมณ์เสีย “พ่อของเจ้ายังมีอารมณ์จะไปเดินเล่นในเวลานี้อีกงั้นเหรอ!?”

“พ่อของข้าจะออกไปเดินเล่นตอนที่เขาทุกข์ใจมากเท่านั้น” จี้เสี่ยวซีอธิบาย “เขาชอบเดินไปรอบ ๆ ภูเขามังกรซ่อนนอกเมือง ที่นั่นสงบและอากาศก็ปลอดโปร่ง การไปเดินเล่นที่นั่นช่วยให้เขาสงบลง”

ซูอันรู้ดีว่าภูเขามังกรซ่อน ถือได้ว่าเป็นบ้านของสัตว์ร้ายนานาชนิด เป็นสถานที่ที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยคิดจะย่างกรายเข้าไป อย่างไรก็ตาม ชายคนนี้กลับปฏิบัติต่อสถานที่สุดแสนอันตรายนี้เหมือนเป็นสวนหลังบ้านของตัวเอง!

จี้เสี่ยวซีน้ำตาคลอ “มีเพียงแค่โอกาสเดียวเท่านั้นที่พ่อของข้าจะไปเดินเล่นที่นั่น ซึ่งก็คือทุกวันครบรอบการตายของแม่ข้า”

ซูอันตกตะลึง “แม่ของเจ้าล่วงลับไปแล้วเหรอ? ข้าไม่เคยได้ยินเจ้าพูดถึงเรื่องนี้มาก่อน”

จี้เสี่ยวซีกล่าวว่า “แม่ของข้าเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากในระหว่างให้กำเนิดข้า แล้วจากนั้นนางก็…”

“ข้าขอโทษ ข้าไม่ควรพูดเรื่องนี้ขึ้นมาเลย” ซูอันรู้สึกประหลาดใจ จี้เติ้งถูเป็นหมอเทวะไม่ใช่หรือ? ทำไมภรรยาของหมอเทวะผู้นี้ถึงเสียชีวิตจากการคลอดบุตร อย่างไรก็ตาม เขาไม่ต้องการที่จะสอดรู้สอดเห็นเรื่องนี้ให้มากเกินไป เรื่องนี้เป็นแผลใจสำหรับจี้เสี่ยวซีอย่างชัดเจน

“ไม่เป็นไร ข้าทำใจได้นานแล้ว” แม้ว่าจี้เสี่ยวซีจะพูดแบบนี้ แต่การแสดงออกของนางก็ยังคงซึมเศร้า

ซูอันกางแขนออก “แม่ของเจ้าจากไปแล้ว และตอนนี้แม่ของภรรยาข้าก็กำลังจะจากไปในไม่ช้า ดูเหมือนเรามีบางอย่างคล้ายคลึงกันอย่างแท้จริง ด้วยความทุกข์ที่มีเฉกเช่นเดียวกัน ทำไมเราไม่มากอดปลอบกันสักหน่อยเจ้าว่าดีไหม?”

จี้เสี่ยวซีหัวเราะ “ท่านนี่จริง ๆ เลย รู้ไหม! ท่านยังมีอารมณ์ประพฤติตัวไม่เหมาะสมได้แม้ในสถานการณ์แบบนี้!”

ซูอันหัวเราะ “เจ้าคงเข้าใจข้าผิด ข้าไปประพฤติตัวไม่เหมาะสมตอนไหน?”

จี้เสี่ยวซีไม่ได้อารมณ์เสียแต่กลับหัวเราะคิกคักแทน “ขอบคุณ”

“เจ้าขอบคุณข้าเรื่องอะไร?” ซูอันถาม

จี้เสี่ยวซีพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ข้ารู้ว่าท่านพูดเช่นนั้นเพื่อให้ข้ารู้สึกดีขึ้น ข้ารู้ว่าตอนนี้ท่านก็รู้สึกเศร้าเหมือนกัน แต่ท่านก็ยังใส่ใจมาปลอบโยนข้า”

ซูอันถอนหายใจ “เสี่ยวซี ไม่เพียงแต่เจ้าจะน่ารักเท่านั้น แต่ยังใจดีและฉลาดเฉลียวอย่างแท้จริง ผู้ใดเป็นสามีของเจ้าในอนาคต คนผู้นั้นนับได้ว่าโชคดียิ่งนัก!”

จี้เสี่ยวซีหน้าแดงทันที “ข้าจะไม่แต่งงานกับใครทั้งนั้น!”

หลังจากที่นางพูดจบ นางก็วิ่งไปที่ด้านข้างของฉินหว่านหรูทันที แม้ว่านางจะไม่มีทางรักษาอีกฝ่ายได้ แต่นางก็สามารถช่วยบรรเทาความเจ็บปวดบางส่วนได้ ถ้าอาการของฉินหว่านหรูแย่ลงอย่างกะทันหัน นางก็สามารถให้ยาเพื่อรักษาชีวิตไว้ได้ทันท่วงทีจนกว่าพ่อของนางจะกลับมา

ซูอันไม่กล้าฝากความหวังไว้กับจี้เติ้งถู ท้ายที่สุดจี้เสี่ยวซีก็ได้กล่าวมาแล้วว่ามีความหวังไม่มาก เขาจะต้องหาทางอื่นเพื่อช่วยแม่ยายด้วยตัวเขาเอง

อย่างไรก็ตาม แม้แต่หมอเทวะจี้ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ตัวเขาที่ไม่ใช่หมอจะทำอะไรได้บ้าง?

แต่ในขณะเดียวกันนี้ เสียงเคาะดังมาจากข้างนอก

ตึงตึงตึง!

ตึงตึงตึง!

เรียกว่าการเคาะคงไม่ถูกต้อง ต้องเรียกว่าการทุบประตูอย่างหนักมากกว่า

“เปิดเดี๋ยวนี้!”

จี้เสี่ยวซีกระโดดด้วยความตกใจ นางวิ่งออกไปแล้วถามว่า “นั่นใคร? นี่ก็ดึกมากแล้ว ได้โปรดรอจนกว่าจะเช้าถ้าต้องการการรักษา!”

“ไม่มีใครต้องการการรักษา! เรากำลังตามหาคน!” เสียงที่กระโชกโฮกฮากดังมาจากข้างนอก

จี้เสี่ยวซีมองผ่านช่องว่างเล็ก ๆ ระหว่างประตู จากนั้นใบหน้าเล็ก ๆ ของนางเปลี่ยนสีซีด นางวิ่งกลับมาหาซูอัน “อาซู มีคนอยู่ข้างนอก ข้าคิดว่าพวกเขามาจากตระกูลฉู่ น่าจะมาจับท่าน!”

ซูอันเริ่มกังวล เขาวิ่งไปที่ประตูแล้วแอบดูเช่นกัน

มีทหารยืนอยู่ข้างนอก โดยคนที่นำหน้าคือฉู่เทียนเซิง รอยคล้ำรอบ ๆ ดวงตาของเขายิ่งเข้มขึ้นและท่าทางของเขาดูหัวเสียมาก เป็ดย่างที่กำลังจะกินกลับบินหนีไปทำให้เขาโกรธอย่างเห็นได้ชัด เขาโหยหาเทพธิดาฉินหว่านหรูทั้งวันทั้งคืนตลอดมา แต่เขาก็สูญเสียโอกาสไปตลอดกาล

หงจงยืนอยู่ไม่ไกลนัก ผมของเขาถูกหวีอย่างเรียบร้อยเช่นเคย อย่างไรก็ตาม หากตั้งใจมอง ก็คงไม่ยากที่จะสังเกตว่ามือของเขาสั่นเล็กน้อย นี่ไม่ใช่เพราะความกลัว แต่เป็นสัญญาณของความกังวลใจและความรู้สึกผิด

คนเหล่านี้สามารถติดตามเขามาที่นี่เร็วขนาดนี้ได้อย่างไร!

ไม่นานนัก ซูอันก็คิดได้ด้วยตัวเองว่าคำตอบคืออะไร

ฉินหว่านหรูถูกวางยาและได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นนางจึงจำเป็นต้องได้รับการรักษา ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดของเขากับเสี่ยวซีนั้นไม่เป็นความลับ ดังนั้นมันจะไม่แปลกเลยหากเขาพาฉินหว่านหรูมาที่นี่ทันทีเพื่อขอรับการรักษา

การที่หงจงเดินทางมาด้วยตัวเองอาจเป็นเพราะความวิตกที่มีต่อจี้เติ้งถู

ในคฤหาสน์ตระกูลฉู่ หงจงเป็นผู้บ่มเพาะอันดับสองรองจากฉู่จงเทียน แน่นอนว่าตอนนี้ระดับการบ่มเพาะของฉู่ชูเหยียนเพิ่มสูงขึ้น นางอาจจะสามารถประมือกับเขาได้แล้ว