บทที่ 581 สถานการณ์ได้กับได้

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 581 สถานการณ์ได้กับได้

บทที่ 581 สถานการณ์ได้กับได้

“ทุกคนไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับข้าอีกต่อไป ข้ารู้ตัวดีว่าวันนี้ข้าคงถึงฆาตแล้ว” เสียงที่อ่อนแอของฉินหว่านหรูดังขึ้นทำลายความเงียบ นางพยายามลุกขึ้นนั่ง ซูอันจึงรีบสาวเท้าเดินไปประคองนาง

ฉินหว่านหรูมองดูเขาอย่างขอบคุณ นางรวบรวมกำลังก่อนจะพูดว่า “แม้ข้าจะตายวันนี้ข้าก็ไม่เสียใจ แต่ข้ากังวลเกี่ยวกับฮวนเจาที่ยังคงอยู่ในคฤหาสน์ตระกูลฉู่ และจงเทียนของข้าที่กำลังถูกขัง อาซู เจ้าสัญญากับข้าได้ไหม…”

เสียงอันอ่อนแอของนางเปรียบเหมือนดั่งมีดทิ่มแทงหัวใจของซูอัน เขาตัดบททันที “ยังไม่ถึงเวลาสั่งเสียหรอก!”

เขาหันกลับมาทันทีและพูดกับเจียงลั่วฝูและจี้เสี่ยวซีว่า “ข้ามีบางอย่างที่ข้าต้องพูดกับแม่ยายเป็นการส่วนตัว เราขอเวลาอยู่กันตามลำพังสักหน่อยจะได้หรือไม่?” พวกนางสองคนพยักหน้าและออกจากห้องไป

แต่ก่อนที่เจียงลั่วฝูจะทันได้ก้าวออกจากห้อง ซูอันหันไปกล่าวย้ำด้วยสีหน้าจริงจัง “อาจารย์ใหญ่โปรดอย่าฟังการสนทนาของเรา”

ระดับการบ่มเพาะของนางนั้นสูงส่งจนสามารถฟังสิ่งที่พวกเขาจะพูดคุยกันภายในห้องได้อย่างง่ายดาย

เจียงลั่วฝูเม้มริมฝีปาก

“ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าไม่สนใจบทสนทนาของเจ้าแม้แต่น้อย!”

ท่านยั่วยุเจียงลั่วฝูสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 111!

ฉินหว่านหรูมองซูอันอย่างสับสน “เจ้าต้องการพูดอะไรกับข้า?”

ซูอันรีบเดินไปปิดประตูแล้วจากนั้นขยับเข้าไปใกล้หูของฉินหว่านหรู

ฉินหว่านหรูรู้สึกไม่สบายใจกับความใกล้ชิดในตอนนี้ นางจึงกระถดตัวออกไป

ซูอันพูดอย่างรวดเร็วว่า “ข้าจะบอกบางอย่างที่สำคัญอย่างยิ่งกับท่าน จึงไม่มีใครสามารถรู้เรื่องนี้ได้”

ฉินหว่านหรูหยุดเคลื่อนไหวเมื่อได้ยิน อย่างไรก็ตาม ดวงตาของนางยังคงส่องประกายด้วยความงุนงง

หลังจากลังเลเล็กน้อย ซูอันเอ่ยขึ้นถ้อยคำชัด “ท่านได้ยินอาจารย์ใหญ่เจียงเอ่ยถึงวิธีการรักษาที่เป็นไปได้หรือไม่?”

ฉินหว่านหรูพยักหน้า “มันต้องการคนที่มีพรสวรรค์ระดับเลิศล้ำกับ ‘วิชาปฐมบทแรกเริ่ม’ แต่ทั้งสองสิ่งนี้พบได้แต่ในตำนานเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเสียเวลาคิดเกี่ยวกับพวกมัน”

“อันที่จริง…” ซูอันหยุดชั่วคราว “ข้ามีทั้งสองสิ่งนี้!”

“อะไรนะ!?” ฉินหว่านหรูไม่สามารถตกใจไปกว่านี้ได้อีกแล้ว นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ‘วิชาปฐมบทแรกเริ่ม’ คืออะไร ดังนั้นนางจึงไม่แปลกใจกับเรื่องนั้นมากนัก อย่างไรก็ตาม นางเชื่ออย่างชัดเจนว่าพรสวรรค์ระดับเลิศล้ำมีแต่เพียงในตำนานเท่านั้น!

พรสวรรค์ที่ฉู่ชูเหยียนมี ทำให้นางได้รับการยอมรับจากสาธารณชนว่าเป็นยอดอัจฉริยะ นางสามารถบ่มเพาะได้อย่างรวดเร็วเหนือล้ำกว่าคนรุ่นเดียวกันแบบที่ไม่มีใครเทียบเทียมได้ และนั่นทำให้นางได้รับการยกย่องจากผู้คนทั่วทุกสารทิศแม้กระทั่งในเมืองหลวง!

แต่แล้วขณะนี้ ซูอันกลับบอกว่าตัวเขามีพรสวรรค์เหนือล้ำกว่าลูกสาวของนางที่เป็นยอดอัจฉริยะ เรื่องราวแบบนี้นางจะตามทันได้อย่างไร?

“เอาเป็นว่าตอนนี้ท่านยังไม่ต้องคิดฟุ้งซ่านเรื่องอื่น” ซูอันพูดอย่างเร่งรีบ “แม้ว่าข้ามีวิธีที่จะช่วยท่านได้ แต่วิธีการรักษามันน่าละอายอย่างยิ่ง ท่านต้องเป็นคนเลือกเองว่าจะรับการรักษาหรือไม่…”

ฉินหว่านหรูสับสน “แน่นอน ข้าต้องการให้เจ้าช่วยข้า ทำไมข้าถึงไม่ต้องการมันเล่า?”

การทรยศของฉู่เทียนเซิงและหงจงได้จุดเพลิงโทสะขนาดใหญ่ในใจนาง เมื่อนางฟื้นกำลัง นางจึงวางแผนจะแก้แค้นทันที

หากนางยอมแพ้ชะตาและเลือกที่จะตาย เรื่องทุกอย่างจะยิ่งเลวร้าย เก้าอี้ผู้นำตระกูลฉู่จะยิ่งเปลี่ยนมือได้ง่ายยิ่งยวด ฮวนเจาจะต้องพบกับจุดจบอันน่าสังเวชและสามีของนางเองจะไม่มีทางเป็นอิสระ

เมื่อครู่นี้ไม่มีทางเลือก นางจึงปลงกับความตายจนถึงขั้นออกปากสั่งเสีย แต่พอมาถึงตอนนี้ นางจะยอมแพ้ได้อย่างไรในเมื่อยังมีหวัง?

เมื่อเห็นการแสดงออกที่ลังเลของเขา ฉินหว่านหรูกล่าวว่า “ไม่ต้องกังวล ข้าจะร่วมมือกับเจ้าไม่ว่าจะรุนแรงหรือเจ็บปวดเพียงใด ขอแค่เพียงเจ้ารักษาข้าให้มีชีวิตอยู่ได้นานพอที่จะเห็นตระกูลฉู่มั่นคงอีกครั้ง ข้ายอมแลกด้วยทุกอย่าง!”

ความขัดแย้งภายในใจซูอันนั้นชัดเจน “ท่านแม่ยาย ข้าขอร้องว่าอย่าตกลงเร็วเกินไป ให้ข้าอธิบายสิ่งที่ต้องทำเพื่อการรักษาก่อน”

เขาให้คำอธิบายอย่างรวดเร็วเกี่ยวกับวิธีการใช้วิชาปฐมบทแรกเริ่ม และแก่นแท้โลหิตในการรักษา นอกจากนี้เขายังบอกนางเกี่ยวกับประสบการณ์ของเขากับฉู่ชูเหยียนในมิติลับหยกจรัส

ฉินหว่านหรูสับสนในตอนแรก แต่เมื่อคำอธิบายของเขาสิ้นสุดลง ใบหน้าของนางก็แดงไปหมด “พอแล้ว! เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก ข้าไม่มีทางเห็นด้วยกับวิธีนี้แน่ ๆ!”

เมื่อนางคิดถึงตัวเองและซูอัน…

นางสั่นสะท้าน การรอดด้วยวิธีนี้คงเป็นชะตากรรมที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย!

ซูอันยิ้มอย่างขมขื่น “ข้าบอกท่านแล้วว่าอย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจ วิธีนี้น่าละอายเกินไปจริงหรือไม่?”

ปฏิกิริยาของนางไม่ได้เหนือไปกว่าที่คาดหมายเลย

เขาถอนหายใจ ดูเหมือนว่าต้องยอมรับโชคชะตาเท่านั้น

ในที่สุด ฉินหว่านหรูก็เข้าใจว่าทำไมการแสดงออกของเขาถึงดูขัดแย้งกันตลอดเวลา นางไม่คิดว่าเขาจงใจหลอกนาง เพราะลูกสาวของนางเคยบอกนางเล็กน้อยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในมิติลับหยกจรัส

อย่างไรก็ตาม ไม่มีทางที่นางจะตกลงกับวิธีการรักษาเช่นนี้ได้ ทั้งสองคนจะมองหน้ากันได้อย่างไรหลังจากนี้? และยิ่งไปกว่านั้น นางจะเผชิญหน้ากับชูเหยียนได้อย่างไร นางจะเผชิญหน้ากับฉู่จงเทียนได้อย่างไร และนางจะเผชิญหน้าโลกทั้งใบได้อย่างไร!?

ทันใดนั้น ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในใจนาง นางจำยาที่ฉู่เทียนเซิงพูดขณะที่เขาขู่นาง ยานั้นสามารถทำให้นางลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นหลังจากตื่น หากนางและซูอันกินยานี้ไป ทั้งคู่จะจำเรื่องราวน่าอดสูนั้นไม่ได้ มันจะเป็นสถานการณ์ที่มีแต่ได้กับได้หรือไม่…?

หัวใจของนางเริ่มเต้นแรงทันทีที่ความคิดนี้เข้ามาในหัว นางสะบัดศีรษะ นี่นางบ้าไปแล้วหรือ? ทำไมถึงคิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้!

นางรีบรวบรวมสติและพูดกับซูอัน “อาซู ข้าไม่เคยนึกคิดเลยว่าเจ้าจะมีพรสวรรค์ระดับเลิศล้ำ นับประสาอะไรกับทักษะที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้! ข้ามีตาหามีแววไม่ที่เคยหยามเหยียดเจ้า ทั้ง ๆ ที่แท้จริงเจ้าไม่ได้ไร้ค่าแม้แต่น้อย เอาล่ะ ก่อนที่ข้าตาย เจ้าช่วยสัญญากับข้าทีว่าเจ้าจะปกป้องฮวนเจาและช่วยพ่อตาของเจ้า จงเทียนปฏิบัติต่อเจ้าอย่างดีเสมอมา ดังนั้นเจ้าอย่าทำให้เขาต้องผิดหวัง”

เมื่อได้ยินนางเน้นย้ำคำว่า ‘พ่อตา’ ซูอันตระหนักได้ว่านางแอบย้ำเตือนเขาอยู่ เขาถอนหายใจแล้วพูดว่า “อย่ากังวลเลย ท่านแม่ยาย ข้าจะทำสิ่งเหล่านั้นทั้งหมดแม้ว่าท่านจะไม่ได้เอ่ยบอกข้า”

ในที่สุดรอยยิ้มที่สงบก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฉินหว่านหรู “ดูเหมือนว่าข้าไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว…”

เสียงของนางเบาลงเรื่อย ๆ และมือของนางก็ค่อย ๆ ไร้เรี่ยวแรง ซูอันตื่นตระหนกทันที “เสี่ยวซี! เสี่ยวซี! มาเร็ว ช่วยด้วย!”

เจียงลั่วฝูและจี้เสี่ยวซีรีบเข้ามาเมื่อพวกนางได้ยินเสียงของเขา เมื่อเห็นอาการของฉินหว่านหรู จี้เสี่ยวซีก็ให้ยาแก่นางอย่างรวดเร็วและเริ่มรักษานางด้วยการฝังเข็ม

เจียงลั่วฝูจ้องซูอันเขม็ง “เจ้าพูดอะไรยั่วยุนางหรือเปล่า? ไม่มีเหตุผลอะไรที่อาการของนางจะแย่ลงเร็วแบบนี้!”

ซูอันไม่ได้โต้เถียงกับนาง เขาเพียงนั่งลงข้างเตียงและเริ่มระดมสมองเพื่อหาทางอื่นที่จะช่วยฉินหว่านหรู

ทันใดนั้น เขาก็จำบางอย่างได้ หากวิธีการใดในโลกนี้ใช้ไม่ได้ผล เขาก็ลองใช้คีย์บอร์ดก็ได้นี่!

ถ้าข้าสามารถสุ่มอะไรดี ๆ ขึ้นมาได้…

เดี๋ยวก่อน! ข้าไม่ต้องการอะไรใหม่ ๆ แค่ได้สิ่งนั้นก็เกินพอ!