บทที่ 573 ฝูงยักษ์กลืนกิน

ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี

บทที่ 573 ฝูงยักษ์กลืนกิน

บทที่ 573 ฝูงยักษ์กลืนกิน

ไป๋ชิวหรานและถังรั่วเวยเดินตามหลังฝูงแมลง เฝ้าดูพวกมันที่ตื่นตระหนกหนีไปคนละทิศทาง

“อำนาจของข้าอยู่เหนือพวกเขาก็จริง แต่ก็นับว่าต่ำต้อยนัก”

ถังรั่วเวยกล่าวเสียงแผ่ว

“แมลงเหล่านี้จะตอบสนองต่อคำสั่งที่บอกกล่าวให้พวกมันหนีเท่านั้น ดูเหมือนว่ามันจะเป็นความหวาดกลัวที่ฝังลึกอยู่ในจิตใจของห่วงโซ่อาหารของเผ่าพันธุ์ทั้งหมด”

“อะไรจะหวาดกลัวมากเช่นนั้น…”

ไป๋ชิวหรานพึมพำอย่างสงสัย

“ดูราวกับว่าพวกมันเห็นเผ่าพันธุ์ตนเองถูกสังหารหมู่หมดสิ้น”

“บางทีครอบครัวพวกมันอาจถูกสังหาร เผ่าพันธุ์ทั้งหมดถูกฆ่าล้างบางก็ย่อมได้”

ถังรั่วเวยควบคุมร่างนางพญาแมลงและสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวที่ไม่อาจลบลืมในร่างกายนี้ได้ แต่เพราะนางไม่ใช่แมลง นางจึงไม่อาจสัมผัสถึงความลึกซึ้งนั้นเหมือนกับพวกมันโดยตรง

ทั้งสองติดตามอยู่ด้านหลังฝูง แต่ขณะนั้นถังรั่วเวยหยุดฝีเท้ากระทันหัน

“มีอะไรผิดปกติ?”

ไป๋ชิวหรานกล่าวถามเมื่อเห็นท่าทีอีกฝ่าย

“ข้าไม่สามารถสัมผัสถึงแมลงห้วงแห่งความว่างเปล่าด้านหน้าได้”

ใบหน้าของถังรั่วเวยซีดขาว

“ไม่! มีบางอย่างเกิดขึ้นกับพวกมัน… และสิ่งนั้นทำลายมันอย่างรวดเร็ว!”

“ไปดู!”

ไป๋ชิวหรานเหยียดมือคว้าร่างถังรั่วเวยก่อนจะเรียกวารีสารทกระจ่างฟ้าพุ่งไปด้านหน้าด้วยกำลังทั้งหมด

ทั้งสองกลายเป็นลำแสงสีฟ้าทะยานผ่านห้วงแห่งความว่างเปล่า ภายใต้คำบอกกล่าวจากถังรั่วเวย ทั้งสองผ่านพ้นฝูงแมลงจำนวนนับไม่ถ้วนตรงไปยังสถานที่ที่แมลงจำนวนมากหายไป

แมลงเหล่านี้กำลังหนีเอาชีวิตรอด พวกมันไม่คิดสนใจที่จะโจมตีถังรั่วเวยและไป๋ชิวหรานซึ่งเผยร่างที่แท้จริงออกมา พวกมันตกอยู่ในสภาวะตื่นตระหนกและคิดหลบหนีเอาชีวิตรอดเท่านั้น

ไป๋ชิวหรานทะยานไปด้านหน้าด้วยความเร็วสูงสุด ทั้งสองมาถึงห้วงความว่างเปล่าที่แมลงหายไปอย่างรวดเร็ว ไป๋ชิวหรานจึงชะลอตัวลงและหลบซ่อนตัวภายในรอยแตกของมิติ

“แมลงพวกนั้นยังคงหายไปอยู่หรือไม่?”

ไป๋ชิวหรานกล่าวถามถังรั่วเวย ขณะที่กำลังเคลื่อนไหวเชื่องช้า

“สัมผัสไม่ได้แล้ว”

ถังรั่วเวยพยายามตรวจสอบ

“ร่างแยกของข้าอยู่ไกลมาก พลังเหนี่ยวนำลดลง… ไม่ อ๊ะ นั่น!”

“เกิดอะไรขึ้น?”

ไป๋ชิวหรานรีบถาม

ถังรั่วเวยหลับตาลงพร้อมกับตรวจสอบอย่างระมัดระวัง

“แมลงจำนวนมากกลับมาจากแนวหน้า พวกมันตื่นตระหนกราวกับไม่สนใจคำสั่งข้า อย่างกับ…”

“มันเหมือนกับการสัมผัสถึงกลิ่นอายของข้างั้นหรือ?”

ใบหน้าของไป๋ชิวหรานเริ่มจริงจัง

“ยอดเยี่ยมโดยแท้จริง ข้าไม่คิดมาก่อนว่าเราจะได้พบมหาเทพในเวลานี้ รั่วเวย ระวังตัวด้วย เราจะเข้าไปรับชมสักหน่อย”

“แมลงอยู่ที่ไหน?”

ถังรั่วเวยกล่าวถาม

“ไม่เป็นไร อย่างไรมันก็เป็นเพียงแค่เครื่องมือ”

ไป๋ชิวหรานครุ่นคิด

“ลองดูว่าเจ้าจะให้องครักษ์พานางพญาแมลงหนีได้หรือไม่ สำหรับแมลงที่เหลือ เจ้าก็เพียงปล่อยให้พวกมันสังหารกันเอง!”

“ขอข้าลองดูสักหน่อย อย่างไรแล้วแมลงพวกนั้นมันไม่สมควรฝ่าฝืนคำสั่ง…”

ถังรั่วเวยพยายามเล็กน้อยและให้ร่างแยกนางพญาแมลงปลดปล่อยคลื่นความถี่ส่งสัญญาณให้ผู้คุ้มกันปกป้องมันและหลบหนี โชคดีที่สมองขององครักษ์แมลงมีขนาดใหญ่ พวกมันได้ยินคำสั่งของนางพญา แม้จะลังเล แต่สุดท้ายมันก็บินตรงเข้าโอบล้อมร่างของนางพญาแมลงและปกป้อง ก่อนจะมุ่งหน้าสู่ต้นน้ำของสายธารแห่งความว่างเปล่า

“สำเร็จแล้ว ร่างแยกตัวนั้นมีความคิดข้าสถิตอยู่ มันจึงจำศีลแล้วเราค่อยออกค้นหามันภายหลัง”

ตามที่ถังรั่วเวยกล่าว นางจับเสื้อผ้าของไป๋ชิวหรานไว้แน่นหนา

“งั้นก็นั่งเฉย ๆ ก่อน ดูหน่อยเถิดว่าแมลงพวกมันมันหวาดกลัวสิ่งใด”

ทักษะการเคลื่อนไหวของไป๋ชิวหรานนั้นยอดเยี่ยม บวกกับการใช้เวทมิติของไป๋ซวี่เซียง ร่างกายของเขาและถังรั่วเวยจึงแบนราบก่อนจะถูกบีบอัดเป็นเส้นตรงยาว สุดท้ายกลายเป็นเพียงจุดสีดำเล็ก ๆ จากนั้นจุดสีดำจึงพุ่งไปยังทิศทางที่แมลงกำลังหลบหนีด้วยความเร็วสูง

ทั้งสองบินออกไปชั่วขณะ ไม่ช้าก็พบเจอกับฝูงแมลงที่บินกลับมา ในความว่างเปล่าตอนนี้แมลงยักษ์หลากสีสันมีอยู่ทุกหนแห่งอัดแน่นในความมืด และพวกมันก็ระเบิดออกทั่วสารทิศ ความเร็วของพวกมันสูงมากแต่กลับไร้สติ ทั้งหมดสิ้นหวังโดยสมบูรณ์

จุดเล็ก ๆ ซึ่งเป็นร่างของทั้งสองทะลุผ่านร่างกายของแมลงเหล่านี้เข้าสู่ร่างกายของแมลง ของเหลวสีน้ำเงินนับไม่ถ้วนชุ่มร่างกายของไป๋ชิวหรานและถังรั่วเวย ทั้งสองมองเห็นภายในของแมลงได้ชัดเจนในขณะลอยทะลุผ่าน

จุดเล็ก ๆ สีดำทะลุผ่านหลอดเลือดและช่องท้องของแมลงเหล่านั้น ภาพที่ปรากฏน่าขยะแขยงไม่น้อย

ด้วยวิธีการเหล่านี้ ทั้งสองจึงไม่ได้รับความสนใจจากฝูงแมลงทั้งหมด พวกเขาผ่านพ้นพวกมันจนมาถึงจุดสิ้นสุดของฝูง

เมื่อมาถึงสถานที่แห่งนี้ พวกเขาได้พบกับสิ่งมีชีวิตที่สามารถสลักความหวาดกลัวลงบนสัญชาตญาณของแมลงนี้แล้ว…

ด้านบนของสายธารแห่งความว่างเปล่า ภายในมหาสมุทรกว้างใหญ่เต็มไปด้วยพายุพลังงานนับไม่ถ้วน… ปรากฏคลื่นพลังมหาศาลปะทุออกมาเป็นระลอก

คลื่นขนาดใหญ่สาดกระเซ็นมาจากมหาสมุทรนั้น ผลักโลกโดยรอบหลายสิบออกไป สิ่งที่คล้ายกับหยดน้ำความจริงแล้วคือพายุพลังงานขนาดใหญ่ซึ่งสามารถทำลายกองเรือเหาะนับสิบได้ง่ายดาย

คลื่นขนาดใหญ่ยังคงปั่นป่วน และมหาสมุทรแห่งความว่างเปล่าเปรียบกับทะเลในเก้ามหาทวีปสิบแผ่นดิน ราวกับว่ามีสัตว์ร้ายขนาดยักษ์ซุกซ่อนอยู่ภายใน

จากนั้น ละอองน้ำขนาดใหญ่พลันสาดกระเซ็น ใจกลางของพายุพลังงานแผ่ขยายออกไปทุกทิศทาง เจ้ายักษ์ใหญ่ที่ไม่อาจจินตนาการถึงความน่าสะพรึงปรากฏตัวออกจากเวิ้งมหาสมุทร

ยักษ์ตัวนี้มีผิวสีครามทั่วร่างกาย พลังงานไร้ลักษณ์เคลือบร่างกายของมันเจือจาง ทว่ากลับแข็งแกร่ง และยังมีแสงกะพริบคล้ายดวงดาวประดับอยู่บนผิวหนัง

ศีรษะของมันใหญ่มาก ใหญ่โตยิ่งกว่าหุ่นเซียนเนรมิต บนศีรษะของมัน ถังรั่วเวยมองเห็นเพียงหลุมดำขนาดใหญ่ แต่สายตาของไป๋ชิวหรานยอดเยี่ยมกว่า เขามองเห็นว่ามีหลุมดำอีกสองหลุมอยู่เหนือหลุมดำดวงใหญ่นั้น

มันอาจจะเป็นดวงตาและปากของสิ่งมีชีวิตตัวนี้

สิ่งมีชีวิตตัวนี้ผุดออกจากมหาสมุทรแห่งความว่างเปล่า ปากอ้ากว้างสามารถกลืนกินทุกสรรพสิ่งที่อยู่ในแนวระนาบทั้งหมดได้เพียงขยับมุมปาก การเคลื่อนไหวของมันคล้ายกับจระเข้ออกล่า มันเพียงแค่อ้าปากและเคลื่อนไหวพุ่งไปด้านหน้า ก่อนจะกลืนฝูงแมลงตรงหน้าด้วยลมหายใจเดียว

มันเพียงงับปากส่งเดช แต่ดูเหมือนจะมีพลังล้นหลามในการดูดกลืน มันกัดกินเพียงหนึ่งคำ ก็ทำให้ฝูงแมลงหายไปกว่าครึ่งค่อนฝูง!!