War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 1926
ตอนที่ 1,926 : ลงมือเต็มกำลัง!

ผู้คนทั้งหลายยังไม่ทันรู้ตัว อยู่ๆก็เห็นร่างกู่หลงพุ่งทะยานออกไปฉับไวปานสายฟ้าเสียแล้ว!

“เฮ่ย! กู่หลงนั่นมันเป็นเซียนปฐพีขั้นสูงสุด!!” กู่หลงพึ่งพุ่งร่างออกไปได้ไม่ทันไร ศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬที่มีพลังฝีมือสูงหลายคนก็สามารถระบุพลังฝึกปรือของมันได้ทันที!

“ให้ตายเถอะ เซียนปฐพีขั้นสูงสุด! ต้วนหลิงเทียนดูเหมือนจะยังพึ่งเป็นเซียนปฐพีขั้นต้นเท่านั้น…ต่อให้ต้วนหลิงเทียนจะใช้เวทย์พลังประหลาดเพิ่มพูนพลังฝึกปรือได้ แต่น่ากลัวพลังสูงสุดคงมิอาจต้านทานเซียนปฐพีขั้นสูงสุดได้แน่!!”

“หากอาวุโสไม่เร่งออกหน้าระงับเหตุ เห็นทีต้วนหลิงเทียนคงได้จบสิ้นกันเท่านี้!”

“ด้วยพลังของกู่หลงตอนนี้คิดฆ่าต้วนหลิงเทียนให้ตายทันทีย่อมมิใช่เรื่องยาก…ต่อให้อาวุโสจะออกหน้าระงับเหตุจริง แต่ข้ากลัวว่ามันจะสายเกินไป ต้วนหลิงเทียนคงตายไปซะก่อน!”

“เช่นนั้นต้วนหลิงเทียนก็ถือว่าต้องตายเปล่าแล้วสิ! จะอย่างไรกู่หลงมันก็มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีน้ำเงิน ถึงแม้มันจะละเมิดกฏของลัทธิบูชาไฟจริง แต่มันคงไม่ถึงกับโดนโทษตาย อย่างดีก็แค่ถูกกักขังและรับทัณฑ์ทรมาน!”

“ไม่ผิด! อัจฉริยะที่มีพรสวรรค์รากวิญญาณสีน้ำเงินในลัทธิบูชาไฟเรายังมีไม่ถึงร้อยคนด้วยซ้ำ…ตัวตนเช่นนี้เป็นดั่งขุมกำลังหลักในวันหน้า คุณค่าย่อมมิใช่อะไรที่ศิษย์รากวิญญาณสีเหลืองจะเทียบได้!”

ในขณะเดียวกันกับที่เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬกระซิบกระซาบกล่าวออก สายตาของพวกมันก็มองจ้องไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยความสงสาร

วู้มมม!!

อาจเป็นเพราะกลัวอาวุโสของแท่นบูชาเต่าทมิฬสอดมือเข้าแทรกจริงๆ กู่หลงจึงไม่คิดออมรั้งยั้งมืออะไร มันยังรีบควบรวมพลังสร้างเขตแดนโดยเร็วที่สุด

สนามพลังที่ถูกควบสร้างจาก พลังเซียน นั้นย่อมต่างจากเขตแดนที่ถูกสร้างขึ้นจาก ปราณแรกกำเนิด หลายส่วน มันมีพลังอำนาจเหนือกว่ากันอย่างมาก

พริบตาที่เขตแดนของกู่หลงปรากฏออก กลิ่นอายพลังเสียดแทงคมกล้าพลันแผ่ซ่านปะทุออกไปโดยรอบ!

หากมองให้ดีจะพบว่าเขตแดนของกู่หลงกลับเป็นทิวทัศน์หนึ่ง!

และในทิวทัศน์ดังกล่าวกลับมีกระบี่ปักเสียบเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นสันเนิน ผื้นดิน แท่นหิน! แถมกระบี่เหล่านี้ยังปะปนกันไประหว่างกระบี่ใหม่ กระบี่เก่าที่บ้างผุพังบ้างยังมีสนิมเกาะ!

เรียกว่าฉากดังกล่าวมองไปคล้าย สุสานกระบี่ ก็ไม่ปาน!

นี่คือเขตแดน สุสานพันกระบี่ ของกู่หลง!

‘เขตแดนนี่ ว่าไปก็มีส่วนคล้ายกับเขตแดนหมื่นกระบี่ของข้าอยู่บ้าง…แต่ตอนนี้มั่นใจได้เต็มสิบส่วนแล้วว่าเจ้ากู่หลง มันยังเป็นแค่เซียนปฐพีขั้นสูงสุดเท่านั้น!’

เมื่อเห็นกู่หลงระเบิดพลังสังหารพุ่งเข่นฆ่าเข้ามา พลังเซียนสุริยันทั่วร่างต้วนหลิงเทียนก็โคจรหมุนคว้างเร็วรี่ ไหลเวียนตามต้นแบบเวทย์พลังปฐมเวทย์กลืนกินทันที!

เพราะหากไม่ใช้ปฐมเวทย์กลืนกินล่ะก็…ต้วนหลิงเทียนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของกู่หลงเลย!!

เพราะสุดท้ายแล้วตอนนี้พลังฝึกปรือของเขาก็พึ่งเป็นแค่เซียนมนุษย์ขั้นต้น! ต่อให้พลังเซียนสุริยันจะเด่นล้ำมีอำนาจเหนือ แต่ก็ทำให้พลังของเขาทัดเทียมได้กับผู้ฝึกตนด่านพลังเซียนปฐพีขั้นต้นเท่านั้น!!

ยังนับว่าห่างไกลนัก หากจะเทียบกับกู่หลงที่เป็นเซียนปฐพีขั้นสูงสุด!

ช่องว่างดังกล่าวเขาจึงต้องใช้ ปฐมเวทย์กลืนกินมาถมกลบ!

‘จะอย่างไรข้าเองก็ต้องรีบลงมือฆ่ามันให้เร็วที่สุดแล้วกลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณของมันให้ได้! หากอาวุโสแท่นบูชาเต่าทมิฬมาถึงก่อนก็คงต้องเสียโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย! มันต้องตายตอนนี้!!’

ฉุกคิดถึงจุดนี้พลังเซียนสุริยันของต้วนหลิงเทียนก็ปะทุใช้ออกด้วยปฐมเวทย์กลืนกินทันที!

พริบตานั้นเอง โดยมีต้วนหลิงเทียนเป็นจุดศูนย์กลาง ความว่างเปล่าโดยรอบพลันสะเทือนสะท้าน วังวนหนึ่งอุบัติขึ้น วังวนดังกล่าวยังหมุนเร็วขึ้นและเร็วขึ้นทุกวินาที สุดท้ายก็คล้ายจะเป็นวังวนที่มีอำนาจดูดกลืนมหาศาล!!

มิผิด เป็นวังวนพลังดูดกลืนของปฐมเวทย์กลืนกิน!

และทันทีที่วังวนดูดกลืนดังกล่าวปรากฏขึ้น พลังวิญญาณฟ้าดินรอบกายต้วนหลิงเทียน ก็กรูกันเข้าร่างต้วนหลิงเทียนด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ สุดท้ายรอบกายก็เสมือนกลายเป็นสุญญากาศพลังในชั่วพริบตา!!

“เฮอะ! นั่นน่ะเหรอเวทย์พลังที่ใช้จัดการน้องข้า! ข้าจะให้เจ้าได้สำนึกจนวันตาย ว่าต่อหน้าพลังอำนาจที่เหนือชั้นกว่า เวทย์พลังของเจ้ามันก็แค่ปาหี่หลอกเด็ก!!”

เมื่อต้วนหลิงเทียนใช้ออกด้วยปฐมเวทย์กลืนกิน กู่หลงย่อมตระหนักได้ทันที หากแต่มันเพียงยิ้มหยันดูแคลนออกไปเท่านั้น

เพราะอย่างไรก็แค่ผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนปฐพีขั้นต้น!

แต่มันเป็นถึงเซียนปฐพีขั้นสูงสุด!

ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่เวทย์พลังของอีกฝ่ายไม่น่าจะเป็นเวทย์พลังขั้นสูงเลย…แต่ต่อให้เป็นมันก็เท่านั้น!

เพราะสุดท้ายแล้วต่อให้จะเป็นเวทย์พลังขั้นสูง อานุภาพจะร้ายกาจหรืออ่อนด้อยก็ขึ้นอยู่กับพลังฝึกปรือของผู้ใช้!

หากพลังฝึกปรือของผู้ใช้อ่อนแอ อานุภาพของเวทย์พลังที่ใช้ออกก็ย่อมต้องอ่อนแอตามไปด้วยเป็นธรรมชาติ

ด้วยเหตุนี้กู่หลงจึงไม่กลัวปฐมเวทย์กลืนกินที่ต้วนหลิงเทียนใช้ออกแม้แต่น้อย

“ต้วนหลิงเทียนยามเจ้าเดินไปยังยมโลกก็จงจดจำใส่กะโหลกของเจ้าเอาไว้เสียให้ดี…วันนี้ผู้ที่สังหารเจ้าคือข้า กู่หลง!!”

ภายใต้สายตาของทุกคน กู่หลงที่ทะยานร่างเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนปานดอกศรพลันคำรามออกมาด้วยอำมหิต!

ทันใดนั้นเอง ก็คล้ายความเร็วของมันจะปะทุสูงขึ้นในชั่วพริบตา!!

ขณะเดียวกันกระบี่ยาวในมือของมัน ที่ฉาบไว้ด้วยแสงพลังอาคมเซียนนับร้อย ก็เปล่งรังสีกระบี่คมกล้าแผ่พุ่งออกไปรอบกายของมันไม่หยุด!

ความเร็วในการแผ่พุ่งออกไปยังเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ!

วู้ม! วู้ม! วู้ม! วู้ม! วู้ม!

……

หากผู้ใดสัมผัสให้ดี จะพบว่าทุกคราที่รังสกระบี่ปะทุออกมาจากกระบี่ พลังกระบี่ที่ห้อมล้อมปกคลุมไปทั่วร่างของกู่หลงก็เพิ่มพูนสูงขึ้นไปด้วย!

หลังจากนั้นมวลพลังก็ควบรวมอัดแน่นจนคล้ายจะปะทุระเบิดออก!

“นิ…นี่มันเวทย์พลัง ประทับจิตเก้าทบ!”

ตอนนี้เองมีศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬบางคนที่จดจำเวทย์พลังที่กู่หลงใช้ออกได้พลันโพล่งกล่าวออกมาเสียดัง

“ประทับจิตเก้าทบ? ข้าเองก็เคยได้ยิน…มันเป็นเวทย์พลังระดับกลาง! อย่างไรก็ตามเห็นว่าแม้มันจะเป็นเวทย์พลังระดับกลาง แต่ในบรรดาเวทย์พลังระดับกลางด้วยกันมันจัดว่าเป็นแนวหน้า”

“ดูเหมือนกู่หลงจะแตกฉานประทับจิตเก้าทบมิใช่น้อย…ตอนนี้มันประทับได้ 8 ทบแล้ว!”

“พรสวรรค์เด่นล้ำ ไหวพริบปฏิภาณสูงส่ง…กู่หลงนี่นับเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากยิ่ง!”

เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬเห็นแล้วก็อดชื่นชมออกมาไม่ได้

เวทย์พลัง ประทับจิตเก้าทบนั้เป็นเวทย์พลังระดับกลางที่ค่อนไปทางสูง มีพลังอำนาจทับซ้อนพลังของผู้ใช้ไปเป็นทบๆ

และตอนนี้หากมองให้ละเอียดจะพบว่าทั่วร่างของกู่หลงนั้น

มีรังสีพลังกระบี่คมกล้าทับซ้อนกันอยู่ถึง 8 ทบ ขาดอีกเพียงแค่ทบเดียวก็จะครบ 9 ทบแล้ว!

“ยอดฝีมือขอบเขตเซียนปฐพีขั้นสูงสุดกลับใช้ออกด้วยเวทย์พลังสายจู่โจมระดับกลาง ประทับจิต 9 ทบ เพื่อจัดการกับผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนปฐพีขั้นต้น…ดูเหมือนว่ากู่หลงเองก็กังวลไม่น้อย ท่าทางมันจะกลัวผู้อาวุโสมาถึงก่อนที่มันจะฆ่าต้วนหลิงเทียนได้จริงๆ!”

“ถึงแม้ว่าเวทย์พลังประหลาดของต้วนหลิงเทียนนั่น ข้าดูแล้วมันก็มิน่าจะใช่เวทย์พลังธรรมดาๆ…แต่พลังฝึกปรือของผู้แซ่ต้วนยังต่ำเกินไป แม้เวทย์พลังหนุนเสริมนั่นจักเป็นระดับสูง ก็มิอาจเป็นคู่มือให้กู่หลงได้”

“นั่นสิ จะอย่างไรด่านพลังฝึกปรือของต้วนหลิงเทียนก็ยังพึ่งเป็นเซียนปฐพีขั้นต้นเท่านั้น”

……

ไม่มีใครมองต้วนหลิงเทียนในแง่ดีสักคน ทั้งหมดคิดว่าคราวนี้ต้วนหลิงเทียนถึงวาระตายตกแน่แล้ว!

อย่างไรก็ตามฟังจากวาจาของทุกคน คล้ายทั้งหมดคิดว่าต้วนหลิงเทียนเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนปฐพีขั้นต้นกันหมดทั้งสิ้น

ไม่รู้ว่าหากพวกมันทราบว่าที่แท้พลังฝึกปรือของต้วนหลิงเทียนยังเป็นเพียงเซียนมนุษย์ขั้นต้น พวกมันจะทำหน้าอย่างไร…

พวกมันหาได้รู้ด้วยซ้ำว่าเวทย์พลังประหลาดที่ต้วนหลิงเทียนใช้ในสายตาของพวกมัน ที่แท้จะเป็นเวทย์พลังชั้นสูงในหมู่เวทย์พลังชั้นสูงอีกที!

ปฐมเวทย์กลืนกินนั้น สามารถดูดกลืนพลังทั้งหมดในอาณาบริเวณโดยรอบมาเสริมสร้างพลังให้แก่ผู้ใช้

ถึงแม้ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนจะมีความชำนาญในการใช้ปฐมเวทย์กลืนกินไม่น้อย หากแต่ความสำเร็จของเขายังมิอาจเทียบได้กับชายชราอันเป็นบททดสอบสุดท้ายในพื้นที่สืบทอดมรดกเวทย์พลัง…ขาดอีกเล็กน้อยเท่านั้น!

ตอนนี้ด้วยพลังเซียนสุริยันในกาย ทำให้พลังรบเขาเทียบได้กับเซียนปฐพีขั้นต้น พอได้พลังหนุนเสริมจากปฐมเวทย์กลืนกิน มันก็พุ่งขึ้นไปทัดเทียมได้กับเซียนปฐพีขั้นเชี่ยวชาญทันที!

ห่างจากเซียนปฐพีขั้นสูงสุดเพียงแค่ก้าวเดียว!!

“รัศมีพลังที่ร้ายกาจนัก!”

ในขณะที่ร่างกู่หลงทะยานมาฉับไวเจียนบรรลุถึงร่างต้วนหลิงเทียน ในที่สุดต้วนหลิงเทียนก็เสร็จสิ้นกระบวนการดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดินโดยรอบ และพลังเซียนสุริยันของเขาก็ทวีพลังอำนาจไปทัดเทียมได้กับขอบเขตเซียนปฐพีขั้นเชี่ยวชาญเรียบร้อย!

และตอนนี้ต้วนหลิงเทียนก็รู้สึกเหมือนทั่วร่างอัดแน่นไปด้วยพลัง เจียนระเบิด!

เป็นครั้งแรกที่ตัวเขารู้สึกว่าร่างกายเปี่ยมล้นไปด้วยพลังมหาศาลเช่นนี้!

“นะ…นั่นมัน!”

และทันทีที่กลิ่นอายพลังดังกล่าวระเบิดออกมา เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬจำต้องอื้ออึงกันยกใหญ่แล้ว เพราะพวกมันย่อมสัมผัสได้ถึงระดับพลังของต้วนหลิงเทียนที่อยู่ๆก็เปลี่ยนไปในฉับพลัน!

“กลิ่นอายพลังนั่นมันมิใช่เซียนปฐพีขั้นต้นแล้ว! นี่มันกลิ่นอายพลังของยอดฝีมือเซียนปฐพีขั้นเชี่ยวชาญชัดๆ!!”

“สวรรค์ช่วย! เวทย์พลังของต้วนหลิงเทียนที่แท้เป็นเวทย์พลังอันใดกันแน่! ไฉนถึงได้ยกระดับพลังฝึกปรือได้ถึง 2 ขีดขั้นเลยเล่า?!”

“สมควรเป็นเวทยพลังหนุนเสริมมิผิดแน่! ยังคล้ายกับเวทย์พลังสายสนับสนุนประจำแท่นบูชามังกรครามนัก! และเวทย์พลังนั่นเห็นว่าก็เป็นรูปแบบดั้งเดิมของเวทย์พลั้งคุ้มคลั่งประจำเผ่ามังกร แม้จะคงอยู่ไม่นานแถมผลกระทบที่ได้รับก็มิน้อย แต่ยามสำแดงผลก็ร้ายกาจนัก!!”

“เช่นนั้นหมายความว่าพลังของต้วนหลิงเทียนจะเพิ่มพูนสูงขึ้นแค่มินาน…หลังจากนั้นระดับพลังฝึกปรือก็จะถดถอย กลายเป็นตกอยู่ในสภาวะอ่อนแองั้นสิ?!”

……

คราวนี้พอได้เห็นกันชัดๆ ไม่นานทุกคนก็สามารถระบุได้แน่ชัดแล้ว ว่าเวทย์พลังของต้วนหลิงเทียนสมควรมีลักษณะเดียวกับเวทย์พลังหนุนเสริมจำพวก เพิ่มพลังฝึกปรือในช่วงระยะเวลาหนึ่ง

เวทย์พลังนี้ก็คล้ายคลึงกับเวทย์พลังหนุนเสริมมังกรคุ้มคลั่ง ประจำแท่นบูชามังกรคราม

เนื่องจากเวทย์พลังหนุนเสริมมังกรคุ้มคลั่งประจำแท่นบูชามังกรครามมีผลกระทบร้ายแรง เช่นนั้นศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬโดยรอบก็เห็นว่าเวทย์พลังนี้ของต้วนหลิงเทียนสมควรมีผลข้างเคียงดุจเดียวกัน

“เวทย์พลังสนับสนุน? ในชั่วระยะเวลาหนึ่งสามารถยกระดับเจ้าที่เป็นเพียงเซียนปฐพีขั้นต้นให้บรรลุถึงเซียนปฐพีขั้นเชี่ยวชาญ?”

กู่หลงมองกล่าวด้วยสายตาเหยียดหยามดูแคลน

ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะยกระดับพลังฝึกปรือจนเทียบได้กับเซียนปฐพีขั้นเชี่ยวชาญแล้วยังไง?

ขอโทษที แต่ตัวมันเป็นถึงสุดยอดฝีมือขอบเขตเซียนปฐพีขั้นสูงสุด!

“ตายเสีย!!”

เสียงคำรามสนั่นปานอัสนีกึกก้องของกู่หลง พาลให้ศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬที่พลังฝึกปรืออ่อนด้อยกว่ามันรู้สึกแก้วหูสะท้านสะเทือนอยู่บ้าง

ขณะเดียวกันเขตแดนสุสานพันกระบี่ของกู่หลงที่ลอยล่องติดตามมารอบกายก็บังเกิดความเปลี่ยนแปลง ตอนนี้กระบี่ทั้งหมดคล้ายมีชีวิตพุ่งทะยานขึ้นมาตั้งลำก่อตัว ก่อนที่จะพุ่งออกไปจู่โจมสังหารพร้อมกันกับกระบี่ร้อยอาคมเซียนของกู่หลง ดั่งห่าพิรุณ…!

ผิดก็แค่ห่าพิรุณคราวนี้ไม่ได้ร่วงหล่นจากฟ้า หากแต่พุ่งขวางฟ้าไปหาต้วนหลิงเทียนอย่างดุร้าย!

ตอนนี้เรียกว่าไม่เพียงแต่กระบี่ที่ฉาบไว้ด้วยอาคมเซียนนับร้อยในมือ พร้อมด้วยรังสีพลังกระบี่น่ากลัวจากเวทย์พลัง ประทับจิตเก้าทบกอปรทั้งห่าพิรุณกระบี่นับพัน ยังมีคลื่นพลังกระบี่ขุมหนึ่งที่ปลดปล่อยออกมาจากกระบี่ร้อยอาคมเซียนของกู่หลงอีกด้วย!

เป็นวรยุทธ์เซียนสายกระบี่ระดับนภาโดดเด่น ที่กู่หลงฝึกปรือจนบรรลุขั้นตอนไร้ตำหนิ!!