ตอนที่ 547 สง่างามและสุภาพ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 547 สง่างามและสุภาพ

“อยู่ที่เรือนท่านยายของเจ้ามีสิ่งใดไม่สะดวกหรือไม่ หากมีข้าจะให้น้าสะใภ้ของเจ้าจัดเรือนแยกให้เจ้าอยู่”

ต่งชิงเยว่รู้มาว่าไป๋ชิงเหยียนต้องฝึกซ้อมร่างกายตอนเช้าเป็นประจำทุกวัน เมื่อมาที่เติงโจว ไป๋ชิงเหยียนพักที่เรือนของต่งเหล่าไท่จวิน นางคงไม่ได้ฝึกซ้อมร่างกายเลยสักวันเพราะกลัวว่าจะรบกวนการพักผ่อนของต่งเหล่าไท่จวิน

“ไม่มีเจ้าค่ะ อยู่เรือนเดียวกับท่านยาย ข้ายังได้ช่วยดูแลท่านยายแทนท่านแม่ อาเป่ามีความสุขมากเจ้าค่ะ” ไป๋ชิงเหยียนนั่งลงข้างต่งชิงเยว่ มองดูจอนผมของน้าชายที่เริ่มมีผมขาวแซมขึ้น “บัดนี้ฉางหลานมีความรับผิดชอบแล้ว ท่านน้าชายไม่ควรแบกรับไว้เองทุกเรื่อง ควรพักผ่อนบ้างนะเจ้าคะ”

ต่งชิงเยว่ส่ายหน้า “ฉางหลานยังเด็กเกินไป ต้องฝึกกับข้าอีกหลายปีถึงจะได้ความ ไม่คุยเรื่องนี้แล้ว วันนี้มีเวลาว่าง ข้ามีเรื่องอยากถามเจ้า เจ้าคิดว่าเซียวเซียนเซิงเป็นเช่นไรบ้าง”

ไป๋ชิงเหยียนมองต่งชิงเยว่ มือที่ซ่อนอยู่ในชายเสื้อกระชับแน่น “อย่างไรหรือเจ้าคะ”

“ดั่งที่ฉางหลานกล่าว การที่เซียวเซียนเซิงผู้นี้ปรากฏตัวท่ามกลางความอลหม่านของขบวนส่งตัวเจ้าสาวต้าเยี่ยนและหนานหรงมันบังเอิญเกินไป หากเขาอยากช่วยองค์หญิงต้าเยี่ยนเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากเป่ยหรงและต้าเยี่ยนจริงๆ แต่การที่เขามีองครักษ์เพียงน้อยนิดแค่นั้น เจ้าไม่คิดว่าเขาทำเกินตัวไปหรือ!” ต่งชิงเยว่หวนนึกถึงถ้อยคำที่เซียวหรงเหยี่ยนบอกกับต่งฉางหลาน

บัดนี้แม้ภายนอกจะดูเหมือนเซียวหรงเหยี่ยนกำลังพักรักษาตัวอยู่ในจวนต่ง ทว่า ชายหนุ่มเก็บตัวอยู่แต่ในเรือนอย่างระมัดระวัง ชายหนุ่มคงรู้ว่าครั้งนี้เขาบุ่มบ่ามเกินไป จึงพักรักษาตัวอยู่แต่ในเรือนอย่างสงบเสงี่ยม ไม่ได้อวดอ้างบุญคุณขอพบหน้าต่งชิงเยว่เลยสักครั้ง

ที่สำคัญต่งชิงเยว่ได้ยินบ่าวรับใช้กล่าวกันว่าเซียวหรงเหยี่ยนพักอยู่ในเรือนอย่างเจียมตัว ไม่เคยอาละวาดหรือดูถูกบ่าวรับใช้ เป็นคนที่สง่างามและสุภาพมาก

“หากท่านน้าชายต้องการสืบเรื่องนี้ ทางที่ดีที่สุดคือการพบหน้าเซียวเซียนเซิงด้วยตัวเองสักครั้งเจ้าค่ะ” ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้กล่าวปกป้องเซียวหรงเหยี่ยน

“อย่างไรเสียเขาก็เป็นผู้มีพระคุณของตระกูลไป๋ ไม่อาจกักขังเขาไว้ในจวนต่งนานได้…” ต่งชิงเยว่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเอ่ยขึ้น “บ่ายวันนี้จัดโต๊ะอาหารต้อนรับเซียวเซียนเซิงก็แล้วกัน!”

ไป๋ชิงเหยียนเดินออกมาจากห้องตำราของต่งชิงเยว่ เมื่อเดินไปถึงหน้าประตูเรือนไม่เห็นชุนเถาจึงขมวดคิ้วถาม “ชุนเถาเล่า”

“หวังหมัวมัวส่งให้ชิวหวนมาตามแม่นางชุนเถาเจ้าค่ะ เซี่ยอวี่และตงเหมยกลับไปที่เรือนต่งเหล่าไท่จวินเป็นเพื่อนนางแล้วเจ้าค่ะ” สาวใช้จวนต่งที่รออยู่หน้าประตูเรือนรายงานไป๋ชิงเหยียน

เมื่อได้ยินว่ามีคนไปเป็นเพื่อน ไป๋ชิงเหยียนจึงวางใจลง เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นชุนเถาเดินกลับมาพอดี

“ไปที่เรือนท่านยายมาหรือ” ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยถาม

ชุนเถาก้าวไปประคองแขนของไป๋ชิงเหยียน ส่ายหน้าพลางกล่าวขึ้น “ชิวหวนอ้างชื่อหวังหมัวมัวเรียกบ่าวไปขอโทษเจ้าค่ะ นางอยากกลับมารับใช้ข้างกายคุณหนูใหญ่ ทว่า บ่าวปฏิเสธไปแล้วเจ้าค่ะ!”

ชุนเถาไม่ได้บอกไป๋ชิงเหยียนว่าชิวหวนเรียกนางไปหาในที่ลับตาคน จากนั้นคุกเข่าขอขมานางอย่างไร้ศักดิ์ศรีจนชุนเถาทำตัวแทบไม่ถูก ชุนเถาฉุดให้นางลุกขึ้นอยู่นาน ทว่า นางก็ไม่ยอมลุกเสียที ชุนเถากลัวว่าไป๋ชิงเหยียนจะเรียกใช้นางจึงรีบกลับมาก่อน

“สาวใช้อีกสองคนตามเจ้าไปด้วยไม่ใช่หรือ พวกนางอยู่ที่ใดกัน” ไป๋ชิงเหยียนขมวดคิ้วถาม

“ถูกชิวหวนไล่ให้หลบฉากไปเจ้าค่ะ พอสาวใช้สองคนนั้นจากไป ชิวหวนก็คุกเข่าขอขมาบ่าว บ่าวตกใจแทบแย่เจ้าค่ะ!” ใบหูของชุนเถาแดงก่ำ “หากนางไม่ใช่หลานสาวของหวังหมัวมัว ไม่ว่าอย่างไรบ่าวก็ไม่มีทางไปกับนางหรอกเจ้าค่ะ จู่ๆ มาคุกเข่าให้บ่าวเช่นนี้ บ่าวทำตัวไม่ถูกเลยเจ้าค่ะ!”

ใบหน้าของไป๋ชิงเหยียนปรากฏรอยยิ้มบางๆ “เดี๋ยวข้าจะบอกให้หวังหมัวมัวไล่นางไปอยู่ที่อื่นก่อนจนกว่าพวกเราจะกลับซั่วหยาง”

ช่วงบ่าย ต่งชิงเยว่เชิญเซียวหรงเหยี่ยนไปรับประทานอาหารที่ศาลาเฟิงหย่า

เซียวหรงเหยี่ยนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ให้ต่งชิงเยว่ฟังอย่างละเอียดด้วยท่าทีนอบน้อมเช่นเคย

เซียวหรงเหยี่ยนเรียบเรียงทุกอย่างไว้ในใจหมดแล้ว เขาจึงเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟังอย่างไม่รีบร้อน กล่าวอย่างชัดเจนว่าตนบังเอิญเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้น จึงทำได้แต่ต้องช่วยองค์หญิงแห่งต้าเยี่ยนออกมาให้ได้ ชายหนุ่มยังถามถึงอาการขององค์หญิงแห่งต้าเยี่ยนอีกด้วย

เมื่อรู้ว่ากองทัพต้าเยี่ยนซึ่งตั้งฐานทัพอยู่ที่เป่ยหรงและคนของราชวงศ์เป่ยหรงจะส่งคนมารับตัวองค์หญิงไปแล้ว เซียวหรงเหยี่ยนจึงบอกเรื่องสำคัญอย่างหนึ่งให้ต่งชิงเยว่รับรู้ “เดินทางไปเป่ยหรงครั้งนี้ เหยี่ยนได้ยินมาว่าทหารของกองทัพต้าเยี่ยนซึ่งอยู่ในเป่ยหรงป่วยเป็นไข้หวัดซางหาน[1] กันมาก เชื้อโรคเริ่มแพร่กระจายไปสู่คนอื่น ส่งองค์หญิงต้าเยี่ยนไปตอนนี้จะเหมาะสมหรือขอรับ”

“ไข้หวัดซางหานอย่างนั้นหรือ” ต่งชิงเยว่คาดไม่ถึง

“เหยี่ยนแค่ได้ยินมาเท่านั้นขอรับ เหยี่ยนไม่ได้ไปยังที่พักของกองทัพต้าเยี่ยนจึงไม่รู้ว่าคือเรื่องจริงหรือไม่ขอรับ” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวอย่างจริงใจ

“นางคือองค์หญิงของต้าเยี่ยน ต้าจิ้นไม่มีสิทธิ์กักขังนางไว้ที่เติงโจว หากองค์หญิงต้าเยี่ยนทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตอยู่ที่ต้าจิ้น ต้าจิ้นคงต้องกลายเป็นศัตรูกับต้าเยี่ยนและเป่ยหรง” ต่งชิงเยว่เม้มปากพลางกล่าวออกมา “ทว่า ทางเราสามารถส่งหมอไปด้วยได้ ส่วนต้าเยี่ยนและเป่ยหรงจะยอมให้หมอของต้าจิ้นรักษาหรือไม่ก็สุดแล้วแต่พวกเขา”

ความจริงต่งชิงเยว่คิดว่ามันไม่มีผลอันใด เพราะหมอทุกคนล้วนกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าองค์หญิงแห่งต้าเยี่ยนไม่น่ารอดแล้ว บัดนี้ทำได้เพียงยื้อชีวิตนางไว้เพื่อส่งมอบตัวนางให้แก่ต้าเยี่ยนและเป่ยหรงเท่านั้น

เซียวหรงเหยี่ยนกำมือที่วางอยู่บนตักแน่น กล่าวออกมายิ้มๆ โดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ “ใต้เท้าต่งมีน้ำใจ ต้าเยี่ยนและเป่ยหรงย่อมรับน้ำใจของใต้เท้าแน่ขอรับ”

บัดนี้เซี่ยสวินเป็นไข้ซางหาน ผู้ที่เดินทางมารับองค์หญิงหมิงเฉิงจึงไม่ใช่เซี่ยสวิน หากองค์หญิงหมิงเฉิงไม่รอดจริงๆ ไม่รู้ว่านางจะมีโอกาสได้พบหน้าเซี่ยสวินอีกสักครั้งหรือไม่

ต่งชิงเยว่แยกสืบสวนองครักษ์ทุกคนของเซียวหรงเหยี่ยน แม้คำให้การจะวกวนไปบ้าง ทว่า เนื้อหาส่วนใหญ่ไปในทางเดียวกันทั้งหมด ต่งชิงเยว่จึงคิดว่าพวกเขาไม่น่าโกหก

หากคำให้การของทุกคนเหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน ต่งชิงเยว่ถึงจะสงสัยว่าพวกเขาเตรียมคำตอบกันไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

ดังนั้นต่งชิงเยว่จึงสั่งให้คนปล่อยตัวคนของเซียวหรงเหยี่ยนทั้งหมดออกมาในบ่ายของวันนั้น

บ่ายวันที่ยี่สิบสอง เดือนแปด พี่สาวและพี่เขยของท่านอ๋องแห่งเป่ยหรงนำทัพเป่ยหรงเดินทางมาถึงเติงโจวพร้อมกับแม่ทัพเผยของต้าเยี่ยนซึ่งตั้งค่ายทหารอยู่ในเป่ยหรง

ต่งฉางหลานได้รับคำสั่งให้ออกไปต้อนรับพวกเขาที่นอกเมือง ให้กองทัพของเป่ยหรงและต้าเยี่ยนรออยู่ที่นอกเมือง อนุญาตให้ต้าเยี่ยนและเป่ยหรงนำคนเข้าไปรับตัวองค์หญิงหมิงเฉิงในเมืองเพียงฝ่ายละยี่สิบคนเท่านั้น

องค์หญิงหมิงเฉิงคือตัวเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างต้าเยี่ยนและเป่ยหรง ทั้งสองฝ่ายจึงไม่อยากให้องค์หญิงหมิงเฉิงเป็นอันใดไปทั้งสิ้น

เซียวหรงเหยี่ยนได้ยินว่าพี่สาวแท้ๆ ของท่านอ๋องแห่งเป่ยหรงและแม่ทัพเผยแห่งต้าเยี่ยนเดินทางมารับตัวองค์หญิงหมิงเฉิงที่เติงโจว ชายหนุ่มเม้มปากแน่น เรียกเยว่สือเข้ามาหาพลางกระซิบสั่งเสียงเบา “เจ้าลอบส่งคนไปบอกแม่ทัพเผยว่าต้องหาทางให้องค์หญิงหมิงเฉิงอยู่รักษาตัวต่อที่เติงโจวให้ได้! หากเคลื่อนย้าย นางคงไม่รอดแน่!”

เยว่สือกำหมัดรับคำ “นายท่านวางใจได้ขอรับ เยว่สือจะจัดการให้เรียบร้อยขอรับ!”

“ระวังตัวด้วย ที่นี่คือจวนต่ง อย่าทิ้งหลักฐานให้ผู้ใดจับกุมได้เป็นอันขาด!” เซียวหรงเหยี่ยนกำชับ

[1] ไข้หวัดซางหาน เป็นโรคระบาดที่เกิดบ่อยมากในจีนสมัยก่อน เกิดจากการถูกพิษเย็น มีอาการเป็นไข้ ไม่มีเหงื่อ ปวดศีรษะ ชีพจรลอยแน่น