บทที่ 563 เสี่ยวหวานหายตัวไป

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 563 เสี่ยวหวานหายตัวไป

บทที่ 563 เสี่ยวหวานหายตัวไป

กุ้ยชุนเจียวไม่เคยขึ้นเขามาก่อน และไม่เคยมาเก็บฟืนที่นี่ แต่คนในหมู่บ้านเก็บฟืนในบริเวณใกล้เคียงจนหมดเกลี้ยง ถ้าต้องการต้มน้ำทำอาหารก็ทำได้เพียงต้องออกมาเก็บฟืน กุ้ยชุนเจียว ทำได้เพียงเดินเข้าไปข้างในเขาจนสุดทาง

ร่างที่อยู่ข้างหลังตามนางมาอย่างรวดเร็ว

หัวใจของกุ้ยชุนเจียวเต้นระรัว นางเงี่ยหูเพื่อฟังการเคลื่อนไหวรอบด้าน และคิดว่าหากนางเก็บได้สักครึ่งตะกร้าจะรีบกลับบ้านทันที แต่ใครจะรู้ว่ามีเสียงฝีเท้าเคลื่อนไหวดังขึ้นด้านหลัง

เสียงฝีเท้าเหยียบย่ำลงบนใบไม้ที่ร่วงหล่น ทำให้เกิดเสียงดังกรอบแกรบ

กุ้ยชุนเจียวไม่รู้ว่ามีผู้ใดตามอยูด้านหลัง เด็กสาวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย นางหันกลับไปอย่างรวดเร็ว หากแต่ไม่พบเจอสิ่งใดเลย! กุ้ยชุนเจียวรู้สึกประหม่าเล็กน้อย เมื่อครู่นางได้ยินเสียงฝีเท้าอย่างชัดเจน แต่เหตุใดถึงหายไปทันทีเมื่อตนเองหันกลับไป?

หัวใจของกุ้ยชุนเจียวเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ฟืนในตะกร้าเพิ่งเก็บมาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แม้แต่อาหารจานเดียวก็ยังทำไม่ได้! กุ้ยชุนเจียวทำได้เพียงหันหลังกลับ และเดินต่อไปอีกเล็กน้อย

ห่างออกไปเพียงสองก้าว เสียงดังกรอบแกรบดังขึ้นมาอีกครั้ง หัวใจของกุ้ยชุนเจียวกระเด้งกระดอนแทบจะหลุดออกมาจากหน้าอก

“นั่นใคร?” กุ้ยชุนเจียวตะโกนเสียงดังและรีบหันกลับไป หากแต่ไม่พบเจออะไรนอกจากหนทางที่นางเพิ่งเดินผ่านมา

เส้นทางที่นางเดินผ่านมาว่างเปล่าไร้เงาผู้อื่น ยกเว้นใบไม้ที่ร่วงหล่นทับซ่อนกันเป็นชั้น ๆ

ยิ่งนิ่งสงบมากเท่าไรก็ยิ่งให้หวาดกลัวมากเท่านั้น กุ้ยชุนเจียวกวาดสายตามองรอบ ๆ พลันรู้สึกหวาดกลัว นางกำสายสะพายตะกร้าบนหลังแน่นและตั้งใจเปลี่ยนเส้นทางเป็นกลับบ้าน

หากแต่ก่อนที่นางจะก้าวเดินอีกครั้งก็มีเสียงของแข็งฟาดลงมา และก่อนที่กุ้ยชุนเจียวจะร้องออกมานางก็รู้สึกเจ็บบริเวณศีรษะ หญิงสาวรู้สึกเวียนหัว และร่างกายก็ทรุดลงอย่างไม่อาจควบคุมได้

กุ้ยชุนเจียวหายตัวไป หากแต่ไม่มีผู้ใดรับรู้

กุ้ยซื่อที่นอนอยู่ที่บ้าน ร่างกายขยับเขยื้อนไม่ได้

หลังจากพักผ่อนในช่วงบ่าย กุ้ยชุนเจียวก็ยังไม่กลับมา

เดิมทีกุ้ยซื่อได้ยินกุ้ยชุนเจียวบอกว่าฟืนที่บ้านไม่มีเหลือแล้วและจะไปเก็บฟืน กุ้ยซื่อบอกนางว่าอย่าเดินไปไกลนัก จากนั้นกุ้ยซุนเจียวก็ออกจากบ้านไป กุ้ยซื่อคิดว่านางคงจะเห็นว่ารอบ ๆ ไม่มีฟืนจึงเดินออกไปไกลเล็กน้อย

นางจึงไม่ได้สนใจกุ้ยชุนเจียวมากนัก แต่เมื่อครู่ที่ลืมตาขึ้นและพบว่าพระอาทิตย์กำลังจะตกดินก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของกุ้ยชุนเจียว กุ้ยซื่อจึงหงุดหงิดเล็กน้อย

หากแต่กุ้ยซื่อไม่สามารถขยับตัวได้ ในใจครุ่นคิดว่าตนเองควรจะรอไปอีกสักหน่อย เมื่อท้องฟ้ามืดลง บางทีกุ้ยชุนเจียวอาจจะกลับมา

กุ้ยซื่อนอนรออยู่บนเตียงอย่างใจจดใจจ่อ

ทางฝั่งของกู้เสี่ยวหวาน เนื่องจากฝนไม่ได้ตกมาหลายวัน กู้เสี่ยวหวานกลัวว่ามันเทศบนภูเขาจะแห้งและเหี่ยวตาย ดังนั้นในวันนี้นางจึงมาที่บ้านของป้าจางอีกครั้ง เพื่อขึ้นไปบนภูเขากับฉือโถว

ไม่ไกลจากหุบเขามีลำธารสายเล็กไหลผ่าน ฉือโถวรับหน้าที่แบกน้ำ กู้เสี่ยวหวานรับผิดชอบรดน้ำและกำจัดวัชพืช มันเทศเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งของล้ำค่า บางทีมันอาจจะพัฒนาเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ได้

มันเทศสามารถกินได้หลากหลายแบบทั้งต้ม นึ่ง ตากแห้ง ทอด คั่ว ล้วนอร่อยทุกรูปแบบ ยิ่งกว่านั้นมันเทศยังให้ผลผลิตสูง ถ้าปีใดประสบพบเจอภัยพิบัติ มันเทศก็ยังได้ผลผลิตสูงกว่าข้าว

ด้วยวิธีนี้ หากปีใดพบเจอภัยธรรมชาติ ทุกคนจะไม่ต้องหิวท้องกิ่วอีกต่อไป

กู้เสี่ยวหวานรู้สึกตื่นเต้น โดยไม่ได้สังเกตเลยว่ามีบุคคลหนึ่งเดินตามนางมาจากด้านหลัง

กู้เสี่ยวหวานดึงหญ้ากำจัดวัชพืชอย่างชอบใจ ครั้นได้ยินเสียงฝีเท้าก็คิดว่าเป็นพี่ฉือโถวที่กลับมาจากการตักน้ำ

ไม่ทันที่จะได้หันหลังไป มือใหญ่ก็ยื่นออกมาจากด้านหลังเพื่อปิดปากของนาง กู้เสี่ยวหวานดีดดิ้นเพื่อเอาตัวรอด แต่ความแข็งแกร่งที่อยู่เบื้องหลังนั้นแข็งแกร่งอย่างน่าประหลาดใจ เมื่อกู้เสี่ยวหวานจะอ้าปากตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ นางก็ตกตะลึงจนกลืนมันกลับเข้าไปท้อง…

กู้เสี่ยวหวานคร่ำครวญอย่างหมดหวัง นางกัดนิ้วหัวแม่มือของคนผู้นั้นด้วยแรงมหาศาล ชายคนนั้นเจ็บปวดและกรีดร้องออกมา กู้เสี่ยวหวานกำลังจะหันไป พลันได้ยินเสียงลากท่อนไม้เดินเข้ามา กู้เสี่ยวหวานไม่ทันเห็นลักษณะของบุคคลนั้นก็ถูกตีจนสลบไป ห้วงสติสุดท้ายก่อนจะสลบไปก็เห็นกระสอบที่ถูกทำขึ้นเป็นหมวกใช้ปกคลุมใบหน้า

การมองเห็นของนางค่อย ๆ มืดลง ดวงตากู้เสี่ยวหวานปิดลง จากนั้นก็หมดสติไป

ฉือโถวกลับมาพร้อมกับน้ำ ครั้นไม่เห็นเงาของกู้เสี่ยวหวาน เขาก็รู้สึกสงสัยเล็กน้อย คิดว่าบางทีนางอาจกังวล และซ่อนตัวอยู่ในที่ซ่อน

ฉือโถวไม่ใส่ใจ และตักน้ำรดเถามันเทศต่อไป

แต่เมื่อรดน้ำมันเทศเสร็จแล้ว ฉือโถวยังถอดวัชพืชระหว่างรอกู้เสี่ยวหวาน หากแต่รออยู่นานก็เป็นกังวลขึ้นมา

แต่ฉือโถวไม่กล้าเดินไปไหน เพราะเขากลัวว่าถ้ากู้เสี่ยวหวานกลับมาในภายหลัง หากนางไม่เจอเขา กู้เสี่ยวหวานอยู่เพียงลำพังในหุบเขาอาจจะหวาดกลัวขึ้นมา

ด้วยวิธีนี้ หลังจากที่รอเป็นเวลานาน เมื่อฉือโถวกำลังรออย่างใจจดใจจ่อก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของกู้เสี่ยวหวาน คราวนี้เขาจึงรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาแล้วจริง ๆ สายตากวาดมองไปรอบ ๆ

แต่ก่อนที่เขาจะออกเดินก็เห็นฉือเย่จือกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้

ฉือโถ่วรุดขึ้นหน้าและเอ่ยถาม “เสี่ยวหวานกลับไปหรือยัง?”

ฉือเย่จือได้ยินพลันขมวดคิ้วมุ่น “ว่าอย่างไรนะ?”

ฉือเย่จือรออยู่ที่บ้านของป้าจางเป็นเวลานาน ป้าจางบอกเขาว่ากู้เสี่ยวหวานและฉือโถวเข้าไปที่ภูเขาเพื่อรดน้ำมันเทศ ฉินเย่จือรอสักครู่ สายตามองซ้ายและขวารอพวกเขาก็ยังไม่เห็นพวกเขากลับมา ฉินเย่จือเป็นกังวลเล็กน้อย และไม่อาจวางใจลงได้ จึงมุ่งหน้าขึ้นเขาทันที

อย่างไรก็ตาม ฉือโถวกลับถามเขาว่าเสี่ยวหวานกลับไปแล้วหรือยัง!

“นางไม่ได้อยู่กับเจ้าหรือ?” ฉือเย่จือตกใจเมื่อมองยังหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของฉือโถว

“เสี่ยวหวาน… นาง…” ฉือโถวมองไปรอบ ๆ อย่างตื่นตระหนก หวังว่านางจะกระโดดลงจากต้นไม้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

แต่ว่า…

ในหุบเขานี้ นอกจากต้นไม้แล้ว ล้วนเป็นต้นหญ้าและเสียงหวีดหวิวของสายลมเท่านั้น

ในหุบเขาตอนนี้ นอกจากเขาและฉือเย่จือแล้ว ยังมีร่างของสามคนอยู่ที่ไหนสักที่

“เจ้าตอบข้าสิ เสี่ยวหวานไปไหน” ฉินเย่จือกำหมัดแน่น และสีหน้าของฉือโถวบอกเขาไปแล้วว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับกู้เสี่ยวหวาน

“เสี่ยวหวาน… หายไปแล้ว!” ฉือโถวพึมพำ “ก่อนที่ข้าจะมา นาง… ยังอยู่ที่นี่อยู่เลย!”