ตอนที่ 1145 จิตวิญญาณทหารหาญ (2) / ตอนที่ 1146 จิตวิญญาณทหารหาญ (3)
ตอนที่ 1145 จิตวิญญาณทหารหาญ (2)
ในเวลานั้นเหล่าแม่ทัพที่อยู่ภายใต้การบัญชาการของหลินอ๋องจวินเสี่ยนเป็นผู้ที่ดุร้ายเป็นพิเศษทุกคน แต่หลังจากก่อตั้งรัฐขึ้น ฮ่องเต้ก็ทำให้ความแข็งแกร่งและอิทธิพลของกองทัพรุ่ยหลินลดลง พระองค์บีบให้แม่ทัพที่ทำคุณงามความดีทางการทหารได้อย่างโดดเด่นลงจากตำแหน่งหลายคน ถอดยศทหารของพวกเขาและให้มารับใช้เจ้าเมืองในเมืองเล็กๆ ที่ห่างไกลด้อยความเจริญแทน
พวกแม่ทัพที่แข็งแกร่งไร้ผู้ต้านในสนามรบจำต้องออกจากกองทัพที่พวกเขาให้คำสัตย์ว่าจะจงรักภักดีตลอดไปเพราะความอิจฉาและความระแวงของฮ่องเต้ ปลดเกราะและดาบของพวกเขาออกและไปยังเมืองเล็กๆ เพื่อคอยดูแลจัดการเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่สำคัญ
และไม่มีใครในกองทัพรุ่ยหลินพูดวิพากษ์วิจารณ์อะไรเลยสักคำในเรื่องพวกนี้ พวกเขาถอนตัวออกจากกองทัพโดยไม่มีใครได้ยินคำบ่นของพวกเขาเลย
และหลงจั้นที่ยืนอยู่ตรงหน้าเจ้าเมืองตอนนี้ ก็คือหนึ่งในแม่ทัพที่ห้าวหาญดุดันที่สุดที่ถูกบีบให้ออกจากกองทัพรุ่ยหลิน!
และเขาก็ยังเป็นบิดาของหลงฉีแม่ทัพเอกของกองทัพรุ่ยหลินคนปัจจุบันอีกด้วย!
“ท่านแม่ทัพอาวุโสหลงจั้น! ทำไมท่าน…ทำไมท่าน…” เจ้าเมืองพูดไม่ออกขึ้นมากะทันหัน แม่ทัพทุกคนที่ถูกบีบให้ถอนตัวนั้นถูกมอบหมายให้ไปที่เมืองกันดารและห่างไกล เมืองที่หลงจั้นอยู่นั้นไม่ได้ใกล้กับที่นี่เลย และแม้ว่าหลงจั้นจะอายุมากแล้ว เขาก็ยังรีบเดินทางทั้งวันทั้งคืนเพื่อมาที่นี่
“ถึงข้าจะไม่ใช่ทหารกองทัพรุ่ยหลินแล้ว แต่ตาแก่คนนี้ก็ถูกฝึกปรือมาจากกองทัพรุ่ยหลิน ในสถานการณ์วิกฤตแบบนี้ จะให้ตาแก่คนนี้นั่งอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรเลยได้อย่างไร เมืองนี้อยู่ในเส้นทางที่จะไปยังเมืองหลวง รัฐจิ้วจะต้องผ่านที่นี่เพื่อบุกโจมตีเมืองหลวง แม้ว่าข้ากับคนของข้าจะแก่แล้ว แต่หากใช้ทุกสิ่งทุกอย่างที่มี ข้าก็ยังสามารถซื้อเวลาให้พวกเราได้บ้าง” หลงจั้นพูดอย่างมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว
เจ้าเมืองยังคงตกใจ แต่เขาก็ตระหนักได้ว่าหลงจั้นมาปรากฏตัวที่นี่ก็เพราะจิตวิญญาณของกองทัพรุ่ยหลินยังคงอยู่ในตัวเขา แม้ว่าเขาจะออกจากกองทัพรุ่ยหลินไปแล้วก็ตาม แต่ความภักดีต่อกองทัพรุ่ยหลินที่ประทับแน่นอยู่ในจิตวิญญาณของเขาไม่เคยลบเลือน!
“ท่านแม่ทัพหลง! โปรดรับการคารวะจากผู้น้อยด้วย!” เจ้าเมืองคุกเข่าลงทันที ดวงตาของเขาแดงก่ำ เขาเงยหน้าขึ้นมองหลงจั้นแล้วพูดว่า “ข้าจะยืนหยัดต่อต้านกองทัพของรัฐจิ้วกับท่านแม่ทัพหลงขอรับ!”
หลงจั้นหัวเราะออกมาดังลั่น “ดี! สมกับเป็นคนของรัฐชีเราจริงๆ”
เจ้าเมืองลุกขึ้นและรีบออกคำสั่งให้ทุกคนออกไปจากเมืองหลังจากอพยพชาวเมืองทั้งหมดแล้ว เนื่องจากอีกไม่นานสถานที่แห่งนี้จะกลายเป็นนรกขุมที่ลึกที่สุด
แต่ทว่า…
ไม่มีทหารของเมืองนี้สักคนที่ก้าวเท้าออกไป พวกเขายืนประจำตำแหน่งอย่างมั่นคงต่อไป
“รัฐต้องไม่ล่มสลาย พวกเรายินดีที่จะอยู่และตายไปพร้อมกับรัฐชี! ถ้าโลหิตและเนื้อหนังของข้าสามารถทำให้ฝ่าบาทมีเวลามากขึ้น นั่นก็คือเกียรติยศแล้ว!” พวกทหารต่างมุ่งมั่นกันมาก บางคนเพิ่งจะบรรลุนิติภาวะไปหมาดๆ ใบหน้าของพวกเขายังมีความเป็นเด็กอยู่เลย
แต่เมื่อรัฐถูกทำลาย บ้านของพวกเขาก็จะหายไปด้วย ยามที่รัฐเผชิญกับวิกฤตเช่นนี้ พวกเขาต้องไม่ยอมให้ตัวเองคิดถึงการหนีไปมีชีวิตอยู่อย่างชั่วช้าสารเลว
คนจะมีบ้านอยู่ก็ต่อเมื่อรัฐยังยืนหยัดอยู่ได้เท่านั้น
ถ้ารัฐชีล่มสลาย พวกเขาก็ไม่ต่างไปจากผีเร่ร่อนไร้บ้าน!
“ดี! ดี! ดี! ทุกคนยอดเยี่ยมมาก!” หลงจั้นกวาดสายตามองคนหนุ่มเลือดร้อนทั้งหลายด้วยดวงตาที่มีน้ำตาคลอ เขารู้สึกราวกับได้ย้อนกลับไปยังอดีตที่เขากับพี่น้องของเขาร่วมกันก่อตั้งกองทัพรุ่ยหลินมาพร้อมกับจวินเสี่ยน
ความเชื่อแบบเดียวกันนั้นเป็นแรงสนับสนุนค้ำจุนพวกเขาในยามที่พวกเขาตะกายออกจากการรบอันโหดร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า สหายของพวกเขาที่เสียชีวิตไปเป็นแรงผลักให้พวกเขาเดินหน้าต่อโดยไม่มีวันถอยกลับแม้แต่ก้าวเดียว!
“ทุกคนฟังคำสั่ง! จงปกป้องเมืองด้วยชีวิตของพวกเจ้า! พวกเราจะยืนหยัดให้นานที่สุดเท่าที่เราจะทำได้! เราต้องซื้อเวลาให้พี่น้องของเราในเมืองหลวง!” หลงจั้นตะโกนเสียงดัง ดาบของเขาถูกผนึกให้ฝุ่นจับมาหลายปี ในที่สุดก็ได้เวลาชักออกจากฝักอีกครั้งแล้ว!
ตอนที่ 1146 จิตวิญญาณทหารหาญ (3)
ควันไฟลอยขึ้นทั่วทุกทิศทาง เสียงร้องอย่างเจ็บปวดดังขึ้นทุกหนแห่ง พวกชาวเมืองที่หนีออกจากเมืองต่างอ่อนล้าและกังวลใจ พวกเขามองไม่เห็นความหวังหรือหนทางข้างหน้าใดๆ เลย เสียงฆ่าฟันด้านหลังทำให้ขาของพวกเขาอ่อนแรง แต่ความปรารถนาที่จะรอดชีวิตผลักดันพวกเขาให้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากก้าวต่อไป
“ท่านแม่ ท่านพ่ออยู่ไหน” เด็กน้อยที่ขดตัวอยู่ในตะกร้ามองด้วยดวงตาไร้เดียงสาอย่างหวาดกลัวท่ามกลางเสียงการต่อสู้ เขามองเมืองที่เคยอยู่อย่างสงบสุขค่อยๆ เล็กลงไปเรื่อยๆ
สตรีที่แบกตะกร้าไว้ที่หลังตัวแข็งทื่อ น้ำตาพลันไหลลงมาทันที นางไม่ส่งเสียง ไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงขึ้นสักนิด แค่ยกมือขึ้นปิดปากไว้และกลั้นเสียงสะอื้นไว้ในลำคอ
“ท่านพ่อ! ท่านพ่อ! ท่านแม่ ข้าจะหาท่านพ่อ! ท่านพ่อบอกว่าจะพาข้าไปขี่ม้า…ท่านพ่อบอกว่าจะสอนการต่อสู้ให้ข้าด้วย…” เมื่อไม่ได้คำตอบจากมารดา เด็กน้อยที่กำลังหวาดกลัวก็ทำได้แค่ร้องไห้ออกมา เสียงร้องไห้อย่างน่าสงสารนั้นทำให้ทุกคนในกลุ่มพากันเงียบงัน
เด็กน้อยร้องไห้อย่างไม่รู้จะทำอย่างไร ภาพของบิดาที่สวมเกราะเบาสูงสง่าเหมือนเทพสงครามผู้ไร้เทียมทานในความรู้สึกของเขา เขายังจำได้ถึงแขนอันแข็งแรงที่ยกเขาลอยสูงในอากาศ จำได้ถึงสัญญาที่บิดาให้ไว้ตอนที่เขาถูกอุ้มขึ้นม้า
สตรีนางนั้นไม่สามารถเก็บความเศร้าเสียใจเอาไว้ข้างในได้อีกต่อไป นางทรุดลงกับพื้นพร้อมกับเอามือปิดหน้าร้องไห้
สามีของนางเป็นทหารของเมืองนี้ ตั้งแต่ตอนที่เขาไปส่งนางกับบุตรชายออกจากเมือง นางก็รู้แล้วว่าสามีของนาง…จะไม่มีวันกลับมาอีก
เด็กน้อยยังคงร้องไห้ไม่หยุด และเมื่อรวมกับเสียงร่ำไห้อย่างสิ้นหวังที่สุดของสตรีนางนั้น มันก็เหมือนมีโซ่หนักๆ พันรอบคอของทุกคน ทำให้พวกเขารู้สึกหายใจไม่ออก
ชายหนุ่มคนหนึ่งที่เดินอยู่ในกลุ่มคนกำหมัดแน่นจนโลหิตไหลออกมาตามร่องนิ้วหยดลงพื้น เขาหันกลับไปทันทีและวิ่งไปทางทิศตรงกันข้ามกับที่คนทั้งกลุ่มกำลังมุ่งหน้าไป!
“เสี่ยวถู! เจ้าจะไปไหน!” สตรีนางหนึ่งตะโกนขึ้นอย่างตกใจ
ชายหนุ่มคนนั้นชะงักเท้าอย่างลังเล เขานิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะหันกลับมา ใบหน้าที่ยังดูเหมือนเด็กอยู่เล็กน้อยนั้นมีความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวอย่างแรงกล้า
“ท่านแม่ ทหารของรัฐชีกำลังหลั่งโลหิตเพื่อปกป้องบ้านและรัฐของพวกเรา ตอนนี้กองทัพของรัฐจิ้วกำลังมาที่นี่ และคนที่อยู่ในเมืองก็ไม่สามารถยับยั้งพวกเขาได้ ข้าจะกลับไปที่นั่น!”
“เจ้าเป็นเด็ก! ถึงกลับไปแล้วจะทำอะไรได้!” สีหน้าของสตรีนางนั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ชายหนุ่มคนนั้นตอบว่า “ถึงข้าจะไม่มีพลังวิญญาณสูงมากมายอะไร แต่ข้าก็ยังมีภูติวิญญาณของข้า! ข้าอาจจะไม่สามารถฆ่าพวกศัตรูได้มากนัก แต่ข้าไม่เชื่อว่าถ้าข้าใช้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้ามีแล้ว ข้าจะไม่สามารถกำจัดทหารของรัฐจิ้วได้เลยสักคน!”
คำพูดของชายหนุ่มคนนั้นมีความอ่อนต่อโลกของเด็กปนอยู่เล็กน้อย แต่พวกมันก็ยังเป็นคำพูดที่น่าตกใจมากอยู่ดี!
“ข้าจะกลับไปกับเจ้าด้วย!” ชายหนุ่มอีกคนก้าวเข้ามายืนข้างเขา
“ข้าด้วย!”
“ข้าไปด้วย!”
“บ้าเอ๊ย! บุรุษรัฐชีอย่างเราไม่เคยทำตัวเป็นเต่าหัวหด! เราทุกคนไปจัดการไอ้พวกบ้าเลือดพวกนั้นกัน! อย่าทำตัวขี้ขลาดหนีไปซ่อนที่เมืองอื่น ข้าเกลียดพวกเหยาะแหยะแบบนั้น!” บุรุษร่างกายกำยำคนหนึ่งที่ถือค้อนตีเหล็กคำรามออกมา!
ด้วยเสียงตะโกนราวฟ้าผ่านั้น บุรุษทุกคนในกลุ่มก้าวออกมาทันที แม้ว่าพวกเขาจะเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาที่ไม่รู้วิธีการใช้ดาบ แต่อย่างที่ชายหนุ่มคนนั้นพูด พวกเขายังมีภูติวิญญาณอยู่!
ต่อให้พวกเขาไม่สามารถเอาชนะศัตรูได้ พวกเขาก็ยังสามารถเอาชีวิตเป็นเดิมพันได้ กำจัดศัตรูได้หนึ่งคนก็เท่ากับศัตรูจะน้อยลงหนึ่งคน!
ถ้าชีวิตของพวกเขาจะลดจำนวนกองทัพของศัตรูลงได้สักเล็กน้อย มันก็จะลดความกดดันให้เมืองหลวงได้อีกนิด!
บุรุษเหล่านั้นรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมา พวกเขามองครอบครัวของตัวเองเป็นครั้งสุดท้ายแล้ววิ่งกลับไปที่เมืองด้วยความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า!