ตอนที่ 563 ไม่เหมาะทำสงครามระยะยาว

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 563 ไม่เหมาะทำสงครามระยะยาว

“รีบไปตามหมอทหารมาเร็ว คุณหนูใหญ่ได้รับบาดเจ็บ!” หลูผิงหันไปสั่งองครักษ์คนหนึ่งของตระกูลไป๋

องครักษ์ผู้นั้นรับคำแล้วขี่ม้าจากไปทันที

ไป๋ชิงเหยียนเอื้อมมือสัมผัสใบหูที่อุ่นร้อนของตัวเอง เลือดสดไหลหยดลงบ่าของหญิงสาวตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้

ทว่า ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้ใส่ใจบาดแผลเพียงเล็กน้อยของตัวเอง

ต่งฉางเม่านำทหารสามพันนายขี่ม้าไล่ตามอาอวี๋ไปแล้ว ทว่า ต่งฉางเม่าต้องทำเป็นไล่ตามพวกเขาไม่ทัน เขาจะส่งมอบพลทหารม้าสามพันนายให้แก่ต่งฉางหลาน จากนั้นกลับมาขอทัพเสริมจากเติงโจว กล่าวว่าทหารม้าสามพันนายถูกลอบโจมตีจนเสียชีวิตลงทั้งหมด

ถัดจากฤดูใบไม้ผลิคือฤดูหนาว สภาพอากาศของทุ่งหญ้าในช่วงฤดูหนาวค่อนข้างแปรปรวน ไม่เหมาะทำสงครามระยะยาว…

ดังนั้น ในช่วงฤดูหนาวนี้ ฮ่องเต้จะทำได้เพียงปลอบขวัญกองทัพเติงโจวเพื่อให้พวกเรารักษาเมืองเติงโจวเอาไว้ให้ได้

ในช่วงเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นอาอวี๋หรือต่งฉางหลานล้วนจะได้ใช้ชีวิตในช่วงฤดูหนาวอย่างปลอดภัยและสงบสุข

หลังจากหนานหรงถูกโจมตีจนถอยทัพหนีกลับไป ต่งชิงเยว่จึงรีบส่งคนขี่ม้าเร็วไปรายงานให้ค่ายพักแรมทราบ สั่งให้ชาวบ้านเตรียมเก็บของให้เรียบร้อย พรุ่งนี้จะเดินทางกลับเมืองเติงโจวซึ่งมีสภาพดูไม่ค่อยได้หลังผ่านสงครามมา

นอกจากจวนต่งที่แม่ทัพหน้ากากผีใช้เป็นที่พักอาศัย จวนของขุนนางและเศรษฐีในเมืองเติงโจวต่างถูกรื้อค้นทั้งจวน

กองทัพเติงโจวช่วยกันซ่อมแซมและทำความสะอาดเมืองเติงโจวทั้งเมือง พวกเขาเก็บกวาดร่างของสหายในกองทัพเติงโจวและร่างของทหารหนานหรงออกไปจากเมืองเติงโจว ชาวบ้านจะได้ไม่หวาดผวา

กองทัพเติงโจวแบ่งหน้าที่กันทำงาน หัวหน้าทหารบางกลุ่มนำลูกน้องออกไปสำรวจทั่วเมืองเติงโจวว่ายังมีทหารหนานหรงแอบซ่อนอยู่บ้างหรือไม่ บางกลุ่มนำลูกน้องไปทำความสะอาดทั่วทั้งเมือง บางกลุ่มไปซ่อมแซมบ้านเรือนที่ถูกทหารหนานหรงรื้อพัง ทุกคนแบ่งงานกันทำอย่างรวดเร็ว

ไป๋ชิงเหยียนกลับไปที่จวนต่ง หมอทหารรีบมารักษาบาดแผลให้ไป๋ชิงเหยียน ลูกธนูดอกนั้นอันตรายมาก เฉียดลำคอของไป๋ชิงเหยียนไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น ไป๋ชิงเหยียนเกือบตกอยู่ในสภาพเดียวกันกับองค์หญิงหมิงเฉิงแห่งต้าเยี่ยนแล้ว

ต่งชิงเยว่มาดูบาดแผลของหลานสาว เขาอดใจหายไม่ได้ ปกติไป๋ชิงเหยียนเป็นคนระมัดระวังตัว เหตุนี้ต่งชิงเยว่จึงอนุญาตให้ไป๋ชิงเหยียนนำทัพทหารสองพันนายบุกโจมตีเมืองตามลำพัง

เขาคิดว่าคงเป็นเพราะอาอวี๋อยู่ในเติงโจว ตอนที่ไป๋ชิงเหยียนบุกโจมตีเมือง นางจึงทำอย่างสุ่มเสี่ยงเกินไป

เมื่อต่งชิงเยว่เห็นว่าไป๋ชิงเหยียนปลอดภัยดี เขาจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก ขณะเดียวกันก็คิดว่าหากต่งเหล่าไท่จวินเห็นบาดแผลที่ใบหูของไป๋ชิงเหยียน เขาต้องโดนบิดจนหูเกือบขาดแน่

เช้าวันต่อมา กองทัพเติงโจวทำความสะอาดเมืองเติงโจวเสร็จก่อนฟ้าจะสว่าง พวกเขาเปิดประตูเมืองต้อนรับชาวบ้าน

ขบวนแรกที่เคลื่อนเข้ามาในเมืองคือขบวนของตระกูลต่ง ถัดมาคือขบวนของครอบครัวขุนนางในเติงโจว ท้ายสุดของขบวนคือเกวียนของบรรดาชาวบ้าน

กองทัพเติงโจวเพิ่งใช้น้ำชะล้างเมือง แม้กลิ่นคาวเลือดจะไม่ได้แรงมากเท่าเดิมแล้ว ทว่า ก็ยังพอได้กลิ่นอยู่บ้าง ส่วนถนนยาวกลับมาดูสะอาดตาและเป็นระเบียบเรียบร้อย หน้าต่างและประตูที่ถูกทหารหนานหรงทำลายถูกซ่อมแซมกลับมาเป็นปกติตามเดิม

เซียวหรงเหยี่ยนติดตามกองทัพเติงโจวกลับมาในเมืองเติงโจวเช่นเดียวกัน ทว่า ชายหนุ่มไม่ได้ไปรบกวนพักที่จวนต่งแล้ว เขาเช่าโรงเตี้ยมอยู่เป็นการชั่วคราว ได้ยินว่าไม่นานชายหนุ่มจะเดินทางกลับไปแคว้นต้าเว่ยแล้ว

ไป๋ชิงเหยียนและต่งชิงเยว่ยืนรอต้อนรับต่งเหล่าไท่จวินอยู่ที่หน้าจวนต่ง มองเห็นรถม้าไม้แกะสลักของจวนต่งเคลื่อนตัวมาตามถนนยาวแต่ไกล ต่งชิงเยว่หันไปมองผ้าพันแผลที่บริเวณหูของหลานสาว “หากท่านยายของเจ้าด่าข้า เจ้าต้องช่วยกล่าวแทนข้าด้วยนะ!”

แววตาของไป๋ชิงเหยียนมีรอยยิ้ม “ข้าประมาทจนได้รับบาดเจ็บเอง ท่านยายจะโทษท่านน้าชายได้อย่างไรเจ้าคะ ท่านน้าชายกังวลมากไปแล้วเจ้าค่ะ”

องครักษ์จวนต่งลงมาจากหลังม้า รถม้าของชุยซื่อ เสี่ยวชุยซื่อ ต่งถิงอวิ๋นและต่งถิงจือตามหลังรถม้าของต่งเหล่าไท่จวินมาติดๆ ส่วนรถม้าของอี๋เหนียงทั้งสามคนอ้อมไปยังประตูข้างของจวนต่งเรียบร้อยแล้ว

หวังหมัวมัวประคองต่งเหล่าไท่จวินลงมาจากรถม้า ไป๋ชิงเหยียนก้าวเข้าไปทำความเคารพ “ท่านยาย!”

ท้องฟ้ายังไม่ทันสว่างดี บันไดของจวนต่งที่ถูกราดน้ำทำความสะอาดหลายรอบยังคงเปียกชื้นเล็กน้อย โคมไฟที่เขียนคำว่าต่งซึ่งแขวนอยู่ใต้ชายคาสูงของจวนแกว่งไปมาตามแรงลม เงาส่ายไปมา ต่งเหล่าไท่จวินชรามากแล้วจึงไม่ทันเห็นบาดแผลที่ใบหูของไป๋ชิงเหยียน นางยิ้มรับหลานสาว สายตามองไปยังประตูเคลือบน้ำมันบานใหญ่ของจวนต่ง “แม้ครั้งนี้ชาวบ้านต้องอพยพออกจากเมืองไปกับพวกเรา ทว่า ยังดีที่พวกเขาได้กลับมาอย่างปลอดภัย”

ชุนเถาก้าวลงมาจากรถม้าด้วยดวงตาที่แดงฉาน เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียน ดวงตาของนางแดงก่ำขึ้นทันที รีบถลาไปด้านหน้า ทว่า ไม่กล้าเดินเลยหน้าต่งเหล่าไท่จวินเข้าไปหาไป๋ชิงเหยียน จึงได้แต่ยืนทำความเคารพอยู่ด้านหลัง “คุณหนูใหญ่…”

ชุยซื่อเดินไปหยุดอยู่ข้างต่งเหล่าไท่จวิน ได้ยินไป๋ชิงเหยียนเอ่ยทักทายนาง นางจึงหันไปมองไป๋ชิงเหยียนและเห็นผ้าพันแผลที่หูของหญิงสาว “อาเป่า หูเจ้าเป็นอันใดไป”

ชุนเถากวาดสายตามองไปทางผ้าผันแผลที่หูของไป๋ชิงเหยียน ใบหน้าซีดเผือดด้วยความร้อนรน รีบถลาเข้าไปหาไป๋ชิงเหยียนอย่างไม่คำนึงถึงมารยาทอีกต่อไป “คุณหนูใหญ่ได้รับบาดเจ็บหรือเจ้าคะ!”

ต่งเหล่าไท่จวินหน้าซีดเผือดทันที รีบถลกชายกระโปรงเดินขึ้นไปบนบันไดอย่างรวดเร็ว นางรั้งตัวไป๋ชิงเหยียนไปสำรวจบาดแผลบริเวณใบหูของหลานสาว

“มิเป็นอันใดมากเจ้าค่ะท่านยาย! แค่เฉียดไปเท่านั้น ท่านน้าชายไม่วางใจจึงให้ท่านหมอพันแผลให้เจ้าค่ะ ข้าคิดว่าไม่จำเป็นต้องพันแผลด้วยซ้ำเจ้าค่ะ!” ไป๋ชิงเหยียนลูบผ้าพันแผลของตัวเองพลางยิ้มออกมา “หากท่านยายไม่เชื่อ พอท่านพักผ่อนเสร็จแล้ว ข้าจะให้ชุนเถาแกะพ้าผันแผลให้ท่านยายดูเจ้าค่ะ”

“เด็กคนนี้นี่…” ต่งเหล่าไท่จวินเอ็ดไป๋ชิงเหยียนเบาๆ พลางถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจ “ไม่ร้ายแรงจริงๆ ใช่หรือไม่”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้ายิ้มๆ “เมื่อครู่ท่านน้าชายยังกังวลอยู่เลยเจ้าค่ะ กล่าวว่าหากท่านยายต่อว่าเขา ให้อาเป่าช่วยแก้ต่างแทนเจ้าค่ะ!”

ต่งเหล่าไท่จวินกุมมือของไป๋ชิงเหยียพลางหันไปถลึงตาใส่ต่งชิงเยว่เล็กน้อย นางเดินเข้าไปด้านในพลางตำหนิต่งชิงเยว่ “ก่อนเจ้าพาอาเป่าออกไปรบ เจ้ารับปากข้าไว้ว่าอย่างไร เจ้ารับปากว่าจะไม่ให้นางเป็นอันใดไปแม้แต่น้อย นี่หรือที่เรียกว่าไม่เป็นอันใด!”

“ท่านแม่…” ต่งชิงเยว่ประคองแขนอีกข้างของต่งเหล่าไท่จวิน กล่าวเสียงเบาหวิว “บ่าวรับใช้อยู่กันพร้อมหน้า ท่านแม่ไว้หน้าข้าบ้างเถิดขอรับ”

“ท่านยาย ครั้งนี้ไม่ใช่ความผิดของท่านน้าชายจริงๆ เจ้าค่ะ อาเป่าใจร้อนอยากจับเป็นแม่ทัพหน้ากากผีจึงทำตัวบุ่มบ่ามเกินไป ครั้งนี้ได้รับบาดเจ็บก็ดีแล้วเจ้าค่ะ อาเป่าจะได้มีบทเรียน หากทำศึกครั้งหน้าจะได้ไม่ใจร้อนเช่นนี้อีกเจ้าค่ะ บาดแผลเล็กน้อยแค่นี้แลกกับการที่อาเป่าระมัดระวังตัวมากขึ้น อาเป่ารู้สึกว่ามันคุ้มค่ามากเจ้าค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวมีเหตุผล ต่งเหล่าไท่จวินบีบมือหลานสาวแน่น “เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังแก้ต่างแทนท่านน้าชายของเจ้าอย่างนั้นหรือ”

“อาเป่าทำผิดเอง ไม่อาจโทษท่านน้าชายได้เจ้าค่ะ” ไป๋ชิงเหยียนจับมือของต่งเหล่าไท่จวินเดินไปยังเรือนหลังอย่างไม่รีบร้อน

“เจ้าดูหลานสาวของเจ้าสิ ได้รับบาดเจ็บแล้วยังเข้าข้างเจ้าอีก เจ้าที่เป็นน้าชายแท้ๆ กลับขอให้หลานกล่าวแก้ต่างให้ รู้สึกอายบ้างหรือไม่” น้ำเสียงของต่งเหล่าไท่จวินสื่อว่านางหายโกรธแล้ว