บทที่ 574 ปล่อยพวกเราไปเถอะ

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 574 ปล่อยพวกเราไปเถอะ

บทที่ 574 ปล่อยพวกเราไปเถอะ

ทันทีหลังจากนั้น รูปร่างของพวกเขาเกือบจะเหมือนกัน คนหนึ่งท่าทางก่ำย่ำและอีกคนตัวบางกว่าเดินเข้ามา

นับตั้งแต่พวกเขาเข้ามา กู้เสี่ยวหวานก็ซ่อนอยู่ในความมืด ไม่ยอมปรากฏตัวออกมาให้เห็นมากเกินไป

เมื่อชายท่าทางก่ำย่ำเข้ามาก็เห็นกุ้ยชุนเจียวยืนนิ่งอยู่ราวกับนางฟ้าใต้แสงจันทร์ จ้องมองเขาด้วยดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยความงุนงง

เมื่อเขาเห็นกุ้ยชุนเจียวมีท่าทางเช่นนั้น รอยยิ้มชั่วร้ายก็ผุดขึ้นที่มุมปาก “สาวน้อยผู้นี้ท่าทางไม่เลวเลย นางตรงกับรสนิยมของข้าจริง ๆ หึ ๆ เด็กสาวเช่นนี้ยังเด็กกว่าหญิงในหอนางโลมเสียอีก แค่ไม่รู้ว่ามันรู้สึกอย่างไร…” เสียงของคนผู้นี้ดังก้อง และดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนที่บอกว่าตนเองเคยฆ่าคนและขโมยของ

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ จิตใจของกู้เสี่ยวหวานก็ว่างเปล่า เอะอะโวยวายเช่นนี้ เขาดื่มเหล้ามาใช่หรือไม่?

เขาไม่เคยเห็นผู้หญิงมาก่อนหรือ? เขาจะกล้าทำอะไรกับสาวน้อยสองคนนี้ได้ลงหรือ กู้เสี่ยวหวานรู้สึกประหม่า ถ้าคนผู้นี้ลงมือกระทำเช่นนั้นจริง ๆ นางคงไม่สามารถจัดการกับเขาได้!

นางกำลังคิดว่าถ้าถูหมิ่นและกุ้ยตงเหมยมาถึง พวกเขาอาจจะสามารถลากเขาออกมาด้วยคำพูดได้ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับชายผู้แข็งแกร่งที่ดื่มเหล้าแล้ว นางจึงไม่สามารถทำอะไรได้!

แม้ตอนนี้เขาจะสนใจกุ้ยชุนเจียว แต่ก็ไม่รับประกันว่าเป้าหมายต่อไปจะไม่ใช่ตัวนางเอง!

นอกจากนี้ นางเองก็เป็นผู้หญิง กุ้ยชุนเจียวก็เช่นกัน ดังนั้นนางจึงไม่สามารถดูกุ้ยชุนเจียวที่เข้าไปในปากของเสือโดยไม่ช่วยได้!

ขณะที่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เสียงแผ่วเบาของชายอีกคนหนึ่งก็ดังขึ้นอย่างเป็นกังวล “ท่านพี่ ท่านอย่างยุ่งกับนางเลย เขาบอกอย่างชัดเจนแล้วว่าอย่าแตะต้องหญิงคนนี้”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ กู้เสี่ยวหวานแอบรู้สึกโล่งใจ แต่แล้วคำพูดของชายเสียงสูงก็ทำให้หัวใจของนางเต้นระรัวอีกครั้ง

“ห้ามแตะต้อง? แล้วข้าควรทำอย่างไร? ข้าทนไม่ไหวแล้ว!” ชายเสียงอันดังขว้างเหยือกเหล้าเปล่าลงบนพื้น ถูมือเข้าหากัน คลี่ยิ้มชั่วร้าย และมองกุ้ยชุนเจียวที่ยืนอยู่ตรงข้ามด้วยความตื่นตระหนก

กุ้ยชุนเจียวตกตะลึงในขณะนี้ นางรู้ว่าหากเกิดอะไรขึ้นต่อไป ตนเองจะไม่มีทางหยุดมันได้อย่างแน่นอน!

กุ้ยชุนเจียวตัวสั่นด้วยความกลัว นางโอบกอดตนเองแน่นแล้วผงะถอยหลังจนชิดกำแพง นางจ้องไปยังท่าทางน่ากลัวของชายผู้นั้น หัวใจของนางดำมืดราวกับเถ้าถ่าน

ชายผู้นั้นดูเหมือนจะถูกดึงดูดโดยรูปลักษณ์ของกุ้ยชุนเจียว แม้ว่าเขาจะถูกขวางโดยผู้ที่เป็นน้องชาย แต่เขาก็ยังจ้องตรงไปที่ใบหน้าของกุ้ยชุนเจียว

กู้เสี่ยวหวานซ่อนตัวอยู่ที่มุมห้อง ลอบมองดูพวกเขาและคิดวิธีหาทางออกในใจ

เจ้าของน้ำเสียงแผ่วเบาเอ่ยขึ้น “ท่านพี่ ถ้าจะเล่นต้องถามให้ชัด อย่าทำคนที่นายจ้างต้องการ เมื่อถึงตอนนั้นเขาจะไม่ให้เงินเรา!”

“ก็จริง!” ชายอีกคนพยักหน้า “หากเจ้าไม่พูด ข้าก็ลืมไปแล้ว!”

เขาเหลือบมองไปที่กุ้ยชุนเจียว จากนั้นมองไปที่กู้เสี่ยวหวาน ปากของเขาคละคลุ้งไปด้วยกินเหล้า สายตามองสลับระหว่างกู้เสี่ยวหวานและกุ้ยชุนเจียว “ในพวกเจ้า ใครคือกุ้ยชุนเจียว?”

กุ้ยชุนเจียวและกู้เสี่ยวหวานมองหน้ากัน ดวงตาของกุ้ยชุนเจียวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

เมื่อได้ยินเช่นนี้ กู้เสี่ยวหวานก็มั่นใจอย่างเต็มที่แล้วว่าคนที่ลักพาตัวพวกนางมาเป็นใคร!

ตราบใดที่นางรู้ว่าเป็นใคร มันจะง่ายกว่ามาก!

ดวงตาของกู้เสี่ยวหวานเป็นประกายเล็กน้อย หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้นางก็พูดอย่างเย็นชาว่า “พี่ชายทั้งสองคน ผู้ชายที่ชื่อถูหมิ่นจ่ายเงินจ้างให้พวกท่านมาลักพาตัวเราใช่หรือไม่?”

“ห้ะ? เจ้ารู้ได้อย่างไร?” เจ้าของเสียงแผ่วเบาเอ่ยถามด้วยสีหน้างุนงง ก่อนที่ชายผู้เป็นพี่ใหญ่จะหยุดลง น้องชายของเขาก็ได้เปิดเผยข้อมูลลูกค้าออกมาแล้ว

เมื่อเห็นสายตาที่ต้องมองมาด้วยความโกรธ และอาจจะเป็นเพราะเขารู้สึกผิด เขาจึงก้มหน้าก้มตาและหลบหลังผู้เป็นพี่ใหญ่

“ใครคือกุ้ยชุนเจียว?” ชายผู้นั้นดูเหมือนจะยึดมั่นในจรรยาบรรณวิชาชีพมาก ดังนั้นเขาจึงเพิกเฉยต่อคำพูดของกู้เสี่ยวหวาน จ้องมองกู้เสี่ยวหวานและกุ้ยชุนเจียวอย่างดุดัน เขาพยายามมองใบหน้าพวกนางว่าใครคือกุ้ยชุนเจียว

กุ้ยชุนเจียวไม่รู้ว่าทำไมคนผู้นี้ถึงตามหาตน พลางคิดว่าเขาจะทำอะไรหลังจากที่รู้ว่าเป็นตนเอง จึงกัดฟันแน่นไม่กล้าตอบออกไป

“เพื่อการลักพาตัวข้ามาที่นี่ เขาจ่ายเงินให้พวกท่านเท่าไร ข้าจะให้เงินมากกว่าเป็นสามเท่าเพื่อไถ่ตัวพวกเรา!” กู้เสี่ยวหวานไม่ตอบคำพูดของชายผู้นั้น และเจรจาอย่างใจเย็น

“ว่าอย่างไรนะ นั่นเป็นเงินหนึ่งร้อยห้าสิบตำลึงเงินเชียวนะ!” ชายเจ้าของเสียงเบาดังออกมาจากด้านหลังด้วยความประหลาดใจ

เมื่อได้ยินดังนั้น เขาก็ตบน้องชายด้วยความโกรธจัด และอีกฝ่ายก็มุดหัวกลับไปด้วยความหวาดกลัว

ห้าสิบตำลึงเงินหรือ? เงินห้าสิบตำลึงสำหรับการลักพาตัวนางสองคน? กู้เสี่ยวหวานเยาะเย้ยในใจ ตนเองมีค่าเพียงเท่านี้เองหรือ?

แต่นี่เป็นสิ่งที่ดียิ่ง เงินน้อยยิ่งสามารถเกลี้ยกล่อมให้สองคนนี้ปล่อยพวกนางไปได้

“แค่ห้าสิบตำลึงเงิน? เงินเพียงห้าสิบตำลึงเงินสามารถทำให้เจ้าทำชั่วได้ขนาดนี้เชียวหรือ” กู้เสี่ยวหวานกล่าวอย่างดูถูก

เนื่องจากขี้เถ้าสีดำบนใบหน้าของนาง เขาจึงไม่สามารถบอกได้ว่ากู้เสี่ยวหวานหน้าตาเป็นอย่างไร แต่ดวงตาสีเข้มเหล่านั้นเปล่งประกายดุร้าย ซึ่งทำให้ผู้คนหวาดกลัวเล็กน้อย

เจ้าของเสียงสูงเหลือบไปที่กุ้ยชุนเจียว นางตัวสั่นสะท้านด้วยความกลัว ใบหน้าของนางซีดเซียว

ครั้นเหลือบมองกู้เสี่ยวหวานอีกครั้ง เด็กคนนี้ไร้ซึ่งความหวาดกลัว ยืนอยู่ไม่ไกลเพื่อต่อรองกับตัวเอง

เมื่อเขาเห็นสายตาที่จ้องมาอย่างดุร้ายของกู้เสี่ยวหวาน เขารู้สึกผิดเล็กน้อย “เจ้า…”

“สองร้อยตำลึงเงิน ข้าจะจ่ายสองร้อยตำลึงเงิน แล้วก็ปล่อยพวกเราไปเสีย! ข้าจะให้เงินพวกเจ้า! นอกจากนี้ข้าก็จะไม่ฟ้องทางการ” กู้เสี่ยวหวานยังคงเกลี้ยกล่อม

“ท่านพี่ สี่เท่าเลยนะ!” เมื่อผู้เป็นน้องได้ยินก็ตื่นตาตื่นใจ นั่นคือเงินที่ทั้งชีวิตของพวกเขาไม่สามารถหาได้!

เขาอยู่ท่ามกลางความสับสนมึนงง ความกระสันเมื่อครู่นี้มลายหายไปเมื่อเผชิญกับสิ่งล่อใจครั้งใหญ่

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

โจรชั่วสองคนจะเห็นแก่เงินและปล่อยทั้งสองไปหรือเปล่านะ

ไหหม่า (海馬)