บทที่ 615 ผลัดกันสาบาน

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 615 ผลัดกันสาบาน

บทที่ 615 ผลัดกันสาบาน

เมื่อพวกเขามาถึงจวนผู้ตรวจการ ซ่างหงกำลังรอต้อนรับพวกเขาอยู่ที่ประตู

ชีวิตและความตายของลูกชายของเขาผูกติดอยู่กับซูอัน ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องกังวลกับการรักษาหน้าตาของตัวเอง ฉะนั้นจึงต้องให้เกียรติอีกฝ่าย

“ข้าไม่คู่ควรให้ผู้ตรวจการต้องมาต้อนรับเช่นนี้” ซูอันกล่าวขณะเผชิญหน้ากับชายวัยกลางคนที่มีหนวดเคราปกคลุมบนใบหน้า แม้ว่าชายผู้นี้จะดูอ่อนโยนและสุภาพ แต่ซูอันไม่พลาดที่จะเตือนตัวเองว่าจริง ๆ แล้ว ซ่างหงเป็นงูพิษซ่อนเขี้ยว!

“วันนี้ข้าไม่ได้อยู่ในฐานะผู้ตรวจการ แต่เป็นการพบปะกันตามปกติระหว่างเราทั้งสองตระกูล” ซ่างหงหัวเราะอย่างเต็มอารมณ์และกล่าวว่า “เจ้าเป็นเด็กที่โดดเด่นจริง ๆ! เป็นลูกเขยที่ยอดเยี่ยมของอ๋องฉู่”

ท่านยั่วยุซ่างหงสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 444!

แผนการต่าง ๆ ในการโค่นล้มตระกูลฉู่ที่เขาวางแผนมาอย่างพิถีพิถัน โดยคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ มากมาย และเต็มไปด้วยความมั่นใจในความสำเร็จ แต่ท้ายที่สุด มารตัวน้อยนี้ก็โผล่ออกมาจากที่ไหนก็ไม่รู้และทำลายแผนทั้งหมดของเขา!

เมื่อสังเกตเห็นคะแนนความโกรธแค้นที่หลั่งไหลเข้ามาบวกกับรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าของชายวัยกลางคน ซูอันก็อดไม่ได้ที่จะสาปแช่งในใจทันที เจ้านี่มันจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ชัด ๆ

เขาหัวเราะตอบและกล่าวว่า “ท่านซ่างก็มีลูกสะใภ้ที่ดีเช่นกัน แม่นางเจิ้งช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก”

ซ่างหงตกตะลึง เขาไม่รู้ว่าทำไมซูอันถึงเอ่ยถึงเจิ้งตานด้วยคำพูดแปลก ๆ

ใบหน้าของเจิ้งตานแดงขึ้น นางอยากจะกรีดร้องใส่ซูอัน นางรู้ว่าพ่อตาในอนาคตของนางเป็นคนใส่ใจในรายละเอียดทุกอย่าง นางกังวลว่าซ่างหงจะสงสัยอะไรบางอย่างจึงรีบตัดบทซูอันและย่อตัวทำความเคารพซ่างหง ในทันที “คารวะท่านลุงซ่าง”

ซ่างหงชี้ให้นางยืนขึ้น “ตานเอ๋อร์ วันนี้เจ้าดูดีมาก”

วันนี้เจิ้งตานดูร่าเริงและสดใสกว่าปกติมาก ซ่างหงคิดว่าการที่นางเป็นเช่นนี้เพราะดีใจที่ลูกชายของเขามีโอกาสจะรอด

เจิ้งตานกัดริมฝีปาก นางไม่กล้าตอบคำ กลัวจะเผลอพูดอะไรผิดไปให้สะกิดใจของอีกฝ่าย

ซูอันไม่คุ้นเคยกับการเสแสร้งต่อหน้าจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์นี้ และพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “ท่านซ่าง เราอย่าได้เสียเวลาอ้อมค้อมกันอีกเลย ข้าอยากจะทราบว่าท่านมีแผนจะปล่อยพ่อตาของข้าเมื่อใด?”

ซ่างหงยิ้ม “ไม่คิดเลยว่าหนุ่มน้อยเช่นเจ้าจะตรงไปตรงมาขนาดนี้ เช่นนั้นข้าจะเข้าประเด็นเลยก็แล้วกัน ที่จริงเราได้ปล่อยอ๋องฉู่แล้วในทันทีที่เจ้าเดินผ่านประตูหลักของจวนผู้ตรวจการเข้ามา”

ดวงตาของซูอันเป็นประกาย “ในเมื่อพ่อตาของข้าได้รับการปล่อยตัวแล้ว เช่นนั้นข้าขอตัวลาท่านไปหาเขาก่อนก็แล้วกัน” เขาหันหลังกลับทำท่าจะจากไป

ซ่างหงอ้าปากค้าง จ้องมองแผ่นหลังซูอันด้วยสายตาโง่งมและพูดอะไรไม่ออกไปพักหนึ่ง

ไอ้เด็กคนนี้ทำอะไรผิดไปจากความคาดหมายอยู่เรื่อย!

หลังจากปรับอารมณ์ได้ ซ่างหงหรี่ตาพลางเอ่ยอย่างเย็นชา “เช่นนั้น ข้าเกรงว่าการเดินทางจากคุกกลับมายังเมืองจันทร์กระจ่างอาจจะยาวนานสักหน่อย เนื่องจากถนนหนทางขรุขระทุรกันดาร โจรป่ามีอยู่ทั่วไป หรือไม่แน่ขบวนส่งตัวอาจจะพบภัยบางประการทำให้ล่าช้ายิ่งกว่าเดิมก็เป็นได้”

ซูอันหันกลับมาทันที “ข้าแค่ล้อเล่นเพื่อให้บรรยากาศมีชีวิตชีวาขึ้น! ตอนนี้ข้าอยู่ที่นี่แล้ว ข้าจะไม่อยู่พูดคุยกับท่านผู้ตรวจการซ่างสักหน่อยจะได้อย่างไร?”

เจิ้งตานเม้มริมฝีปากกลั้นหัวเราะ ผู้ชายคนนี้ไหลลื่นจริง ๆ!

วิธีที่นางถูกเลี้ยงดูมาทำให้นางไม่ชอบพฤติกรรมปลิ้นปล้อนแบบนี้ อย่างไรก็ตาม การดูซูอันประพฤติตัวแบบนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า นางจึงค่อย ๆ คุ้นชิน

ซ่างหงฝืนยิ้ม “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของเจ้า”

ซูอันเดินตามซ่างหงไปที่ส่วนห้องนอนอย่างรวดเร็ว ทันทีที่เข้าไป เขาก็ได้กลิ่นยาที่ฉุนรุนแรง

ซ่างเชียนกำลังนอนอยู่บนเตียง ร่างกายดูซีดเซียวและอ่อนแอ ดูเหมือนว่าเขาจะแก่ขึ้นมากตั้งแต่พบกันครั้งล่าสุด

ซ่างหงถอนหายใจ “ข้าได้พยายามทำทุกอย่างที่ทำได้แล้ว แต่ก็รักษาเขาไม่ได้ หากเจ้าสามารถช่วยเขาได้ นอกจากจะปล่อยอ๋องฉู่แล้ว ข้าสัญญาว่าข้าจะไม่ทำอะไรกับตระกูลฉู่อีก และยิ่งไปกว่านั้น ข้าจะถือว่าเจ้าเป็นมิตรของตระกูลซ่าง เจ้าสามารถขออะไรจากเราก็ได้”

เจ้าจะให้ลูกสะใภ้ในอนาคตกับข้าได้ไหม? ความคิดนี้ผุดขึ้นในสมองของซูอันทันที

อย่างไรก็ตาม ซูอันขัดขืนแรงกระตุ้นที่จะถามออกไปด้วยความยากลำบาก เขาไอเบา ๆ แล้วพูดว่า “ข้ายังไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นมาก่อน”

ซ่างหงยิ้ม “ไม่เป็นไร สัญญานี้ไม่มีวันหมดอายุ ตราบใดที่อยู่ในความสามารถของข้า ข้าจะไม่ปฏิเสธเจ้าอย่างแน่นอน”

ซูอันยิ้มอย่างคลุมเครือ “พูดตามตรง ข้ากังวลว่าท่านซ่างจะไม่รักษาคำพูด”

“นี่เป็นเพียงปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น” ซ่างหงได้คิดไว้ก่อนแล้วว่าเด็กหนุ่มผู้นี้จะไม่ไว้ใจ “ข้าสามารถให้คำสาบานได้ เจ้าย่อมรู้ว่าคำสาบานเป็นสิ่งที่ค่อนข้างทรงพลังไม่ว่ากับใคร”

ซูอันตกตะลึง เขาไม่คิดว่าชายวัยกลางคนผู้นี้จะถึงกับกล้าสาบาน

เมื่อไม่เห็นท่าทีต่อต้านจากซูอัน ซ่างหงจึงให้คำสาบานเสียงดังก้องเกี่ยวกับเงื่อนไขที่เขาเพิ่งวางไว้

ในที่สุด ซูอันก็มั่นใจ “อันที่จริงไม่จำเป็นที่ท่านซ่างจะต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้ ข้าจะสงสัยในเกียรติของท่านได้ยังไง? ฮ่า ๆ…”

ซ่างหงสาปแช่งในใจ ถ้าเจ้าเชื่อใจข้า ทำไมเจ้าไม่ห้ามข้าก่อนที่ข้าจะเอ่ยคำสาบาน!?

เด็กคนนี้เป็นจิ้งจอกน้อยเจ้าเล่ห์ตัวจริง!

เขาสูดลมหายใจ พยายามแสดงสีหน้าไม่สะทกสะท้าน “ถ้างั้น น้องชาย…”

ซูอันไม่มีอารมณ์จะอ้อมค้อมอีก เขาโยนขวดสีแดงให้ซ่างหงแทน “ป้อนสิ่งนี้ให้เขา แล้วเขาน่าจะฟื้นได้”

ซ่างหงใจเต้นแรงเมื่อได้รับขวดที่มีของเหลวสีแดงบรรจุอยู่เต็ม ท้ายที่สุด ชีวิตของลูกชายเขาจะรอดหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับมัน!

เขามองไปที่หมอข้างเตียงของลูกชาย แล้วยื่นขวดให้

หมอกำลังจะหยดยาเพื่อทดสอบฤทธิ์ แต่ซูอันหยุดเขาทันที “อย่าหาว่าข้าไม่เตือน! ยานี้มีค่ามาก ผู้ป่วยต้องกินเข้าไปให้หมด ถ้ามันล้มเหลวเพียงเพราะเสียเปล่าไปหยดหนึ่ง ก็อย่าได้มาโทษข้าเชียว!”

มือของหมอสั่น เขาจะกล้าทำการทดสอบยาต่อไปได้อย่างไร ถ้านายน้อยเสียชีวิตลงเพราะสิ่งที่เขาทำ ความผิดทั้งหมดจะตกอยู่ที่เขา!

ซ่างหงขมวดคิ้ว เขาชั่งน้ำหนักดีร้ายอยู่ในใจ

เห็นได้ชัดว่าเขาไม่แน่ใจ แต่ก็ถามต่อไป “ข้าให้คำสาบานเพื่อให้เจ้ารู้สึกสบายใจแล้ว เจ้ายินดีที่จะให้คำสาบานด้วยหรือไม่?”

ซูอัน “ณ ตอนนี้ ไม่มีทางที่ข้าจะพิสูจน์ได้ว่าท่านจะบิดพลิ้วคำสาบานหรือไม่ แต่กลับกัน ผลลัพธ์การกระทำของข้าจะออกมาชัดแจ้งในชั่วไม่กี่อึดใจถัดจากนี้ เช่นนั้นทำไมข้าจึงต้องเอ่ยคำสาบานให้ยุ่งยาก หากยาไม่ได้ผลจริง ท่านสามารถคิดบัญชีกับข้าได้ในทันที”