EP 547
By loop
“หมอหลิง ฉันเจองานวิจัยชิ้นหนึ่งที่บอกว่าการเปิดแผลตรงกลางที่โค้งงอในเอ็นร้อยหวายจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนน้อยกว่าการใช้แผลด้านหลังโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการบาดเจ็บที่กระเพาะอาหารแผลด้านหลังจะมีอัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อนสูงขึ้น”
“สถานการณ์ของการให้เลือดสำหรับอวัยยวะที่หุ้มด้วยเอ็นร้อยหวายยังค่อนข้างซับซ้อนในตอนนี้มันทำให้เกิดปัญหามากขึ้นกับการรักษา”
“เรายังคงต้องพิจารณาการฟื้นตัวหลังผ่าตัด”
หมอลู่, หยูหยวน และ โจวซินเยียน กำลังสนทนากันอย่างเข้มข้นในห้องประชุม
บางครั้งหลิงรันจะพยักหน้าบางครั้งเขาส่ายหัวบางครั้งเขาก็แสดงความคิดเห็นสองสามครั้งแต่ละครั้งให้แรงจูงใจที่ดี
สำหรับสถาณะแพทย์ประจำแผนกสามคนที่เพิ่งเริ่มต้นการรักษาเส้นเอ็นร้อยหวาย เป็นเวลาหนึ่งปีสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าพวกเขามีค่ามากจนความยากลำบากของพวกเขา ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาไม่คุ้มค่าที่จะกล่าวถึง
พวกเขาได้รับประสบการณ์มากมายจากการพูดคุยเกี่ยวกับแผนการผ่าตัดกับผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาเอ็นร้อยหวายอันดับต้น ๆ ของประเทศ?
หลิงรันเองก็เป็นผู้ฟังที่ยอดเยี่ยมจริงๆ
เมื่อพวกเขาคิดว่าการผ่าตัดช่วงหลังๆ จะเกี่ยวข้องกับโรคอาการท้องผูก มันทำให้ทั้งสามคนนั้นรู้สึกตื่นเต้นมาก
พวกเขาติดตามหลิงรันมานานมากแล้ว แต่แพทย์ประจำบ้านก็ยังคงเป็นแพทย์ที่ต้องมั่นเรียนรู้ปละพัฒนาฝีมือขึ้นไปเรื่อยๆ
ลืมไปเลยว่าพวกเขาอยู่ในโรงพยาบาลมานานแล้ว มันน่าแปลกที่การที่พวกเขาทำงานมานานไม่เทียบเท่ากับการทำงานกับ หลิงรันเพียงปีเดีย
อย่างไรก็ตามเนื่องจากพวกเขาทำงานภายใต้การดูแลของหลิงรันและได้รับการฝึกฝนอย่างเข้มข้นเป็นเวลาเกือบหนึ่งปีพวกเขาจึงสามารถนำองค์ความรู้ต่างๆมากโต้เถียงกันได้แล้ว
หลิงรันก็เต็มใจที่จะรับฟังความคิดเห็นของพวกเขา
ท้ายที่สุดพวกเขาเป็นผู้ช่วยที่ติดตามเขาในการผ่าตัดประเภทเดียวกันมาแล้วมากกว่าหนึ่งร้อยครั้ง – หากพวกเขาถูกส่งไปที่โรงพยาบาลอื่นพวกเขาแต่ละคนจะเป็นศัลยแพทย์ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามสิทธิของตนเอง
แม้ว่าคำถามที่พวกเขาถามในฐานะผู้ช่วยอาจนำไปสู่การแก้ปัญหาได้บ้างเรื่อง แต่พวกเขาเองก็สามารถเก็บคำถามที่สงสัยมาให้หลิงรันเพื่อให้หลิงรันสามารถนำคำถามเหล่านั้นไปประยุกต์เป็นการรักษาและแก้ไขปัญหาระหว่างการผ่าตัดได้อย่างทันการณ์
ด้วยมาตรฐานการรักษาปัจจุบันของหลิงรันนั้นไม่มีอันตรายใด ๆกับการรักษาเลย
“ไปผ่าตัดกันเถอะ” เนื่องจากเหลือเวลาอีกไม่มากหลิงรันจึงมองนาฬิกาบนผนัง และลุกขึ้นยืนก่อนที่จะเดินจากไป
แพทย์ประจำบ้านทั้งสามมองหน้ากันอย่างเข้าใจว่าสิ่งที่หมอหลิงทำนั้นหมายถึงอะไรและเริ่มปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไป
การปรึกษาหารือดูเหมือนจะสิ้นสุดลงแล้วโดยไม่ได้ข้อสรุปใดแม้ว่าจะเป็นกาปรึกษาหารือที่ดูจริงจังก็ตาม แต่ทั้งสามคนก็ดูตื่นเต้นมากเมื่อไปประชุมกันเช่นนี้
เมื่อพิจารณาถึงท่าทางหลิงรัน มันเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะมาทนพูดอะไรที่ยืดยาวเช่นนี้
ในความเป็นจริงอย่าลืมเกี่ยวกับหลิงรัน แพทย์ที่เข้ารับการรักษาคนอื่น ๆ ที่โรงพยาบาลหยุนหัว ไม่ค่อยเปิดโอกาสให้แพทย์ประจำบ้านได้พูดคุยมากนักในกลุ่มเช่นนี้น้อยกว่ามาก
หากผู้ช่วยแพทย์ไม่ได้ใช้เวลาอันมีค่าของการปรึกษาหารือกันในกลุ่มเพื่อโต้แย้งกันในการทำงาน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการอวดอ้างความเก่งของตนเอง
ส่วนเนื้อหาการผ่าตัดน่ะเหรอ? ไม่มีประเด็นในการพูดคุยเนื่องจากเป็นวิธีการผ่าตัดหลักของพวกเขาซึ่งได้ทำการดำเนินการมาหลายพันครั้งแล้ว หากไม่ใช่วิธีการผ่าตัดหลักก็คงจะเป็นวิธีการผ่าตัดแบบใหม่ แน่นอนว่าสำหรับเหล่าพวกมือสมัครเล่นการพูดคุยเรื่องนี้คงจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
แพทย์ประจำแผนกทั้งสามนี้ชื่นชมกับโอกาสที่มอบให้พวกเขาในวันนี้ เมื่อพวกเขาขึ้นไปที่เตียงผ่าตัดพวกเขาก็จริงจังมากและพวกเขาก็เริ่มพูดคุยเกี่ยวกับอาการของผู้ป่วย พยาบาลในตอนนี้พบสิ่งนี้น่าประหลาดใจมาก
มีศัลยแพทย์สี่คนในห้องหนึ่งและสามคนนั้นเป็นผู้ชาย แต่ไม่มีคนใดพยายามที่จะพูดหยอกล้อกับนางพยาบาลเลย เห็นได้ชัดว่าบรรยากาศเช่นนี้มันน่าแปลกมาก
เหล่านางพยาบาลเองก็ถึงกับทำตัวไม่ถูก พวกเธอได้แต่มองไปที่กล้องงห้องผ่าตัดและพบว่าไม่มีไฟสีแดงติดอยู่
“ผู้ป่วยคนนี้คือใครกัน” เหล่านางพยาบาลกำลังงงงวยเล็กน้อยเธอจึงเดินมาที่หมอลู่และถามเขาด้วยเสียงกระซิบ
ตอนนี้หมอลู่เองเชื่อว่าการสร้างมิตรจะพาเขาไปสู่ความสำเร็จในการทำงานได้ ดังนั้นเขาจึงปฏิบัติต่อทุกคนอย่างจริงใจที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อถูกขัดจังหวะโดยพยาบาลสาวเขาก็ยิ้มอย่างสดใสออกมา “ ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นพวกขายของเก่า และผู้ป่วยก็มีอาการเอ็นร้อยหวายแตกเมื่อเขาถือกล่องกระดาษผู้ป่วยมาที่โรงพยาบาลสองวันหลังจากนั้นการผ่าตัดนี้มีความยากลำบาก แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะผู้ป่วยมี ความต้องการบางอย่างเกี่ยวกับระยะเวลาในการฟื้นตัวและความแข็งแรงของเอ็นร้อยหวาย ถ้าเราไม่สามารถรักษาผู้ป่วยได้ดี แสดงว่าผู้ป่วยเองก็อาจจะไม่สามารถไปทำงานได้ จนเข้าตกงาน “
“ขายของเก่าเขาจะทำรายได้ได้เท่าไรเชียว”
“งานเขาต้องหนักมากแน่ๆ”
“เขามาจากครอบครัวที่มีอิทธิพลหรือเปล่า”
“คนขายของเก่าจะมีครอบครัวที่มีอิทธิพลได้อย่างไร เขาก็เป็นพวกหาเช้ากินค่ำนะสิ”
พยาบาลถามคำถามอื่น ๆ อีกสองสามคำถาม แต่เธอไม่ได้รับคำตอบที่ต้องการได้เธอจึงเริ่มรู้สึกรำคาญ เธอจ้องไปที่ หมอลู่ และพูดว่า “ไม่ว่าการขายของเก่าจะยากแค่ไหนมันก็ไม่มีวันยากเท่ากับการเป็นหมอจริงไหมล่ะ?”
“เธอเองก็พูดถูก…”
“แต่เขาอาหารายได้ได้มากกว่าแพทย์ก็ได้นะ”
สีหน้าของหมอลู่เริ่มแข็งกร้าว และเขาก็ตะคอกทันทีและพูดว่า “มีหลายวิธีที่หมอจะหารายได้เพิ่ม”
“ นั่นน่าจะมีแค่หมอหลิงคนเดียวเท่านั้นที่ทำเช่นนั้นได้…” พยาบาลที่กำลังพูดคุยกันหัวเราะ เธอเดินไปรอบ ๆ เตียงผ่าตัดและยืนข้างๆพยาบาลอีกคนเพื่อที่เธอจะหาจุดที่มองหลิงรันได้ถนัด
หมอลู่เองมีข้อโต้เถียงมากมายที่อยู่ในใจ ในไม่ช้าเขาก็เปลี่ยนความคิดและพบว่าเขามีรายได้มากกว่าผู้ป่วยที่ขายของเก่าอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามด้วยอาชีพของเขานั้นก็ยังเสี่ยงกว่าคนขายของเก่ามาก
“เย็บเส้นเลือดตรงนี้” หลิงรันกำลังผ่าตัดโดยใช้เทคนิคการรักษาเอ็นร้อยหว่ายจู้หลิง อย่างกระตือรือร้น
ผู้ที่มาและมองหาเขาเพื่อทำเทคนิคการรักษาเอ็นร้อยหวายมักจะมีความต้องการสูงกว่าสำหรับการฟื้นตัวของเอ็นร้อยหวาย
ถ้าเป็นการผ่าตัดแบบทั่วไป การประสานกันของเอ็นร้อยหวายนั้นจะช้ามากและไม่สามารถหายกับมาเป็นปกติได้
และการผ่าตัดแบบทั่วไปนั้น แพทย์ส่วนใหญ่นั้นนิยมและมีความสามารถเพียงพอที่จะใช้เทคนิคทั่วไปนี้
หลิงรันใช้เทคนิคการรักษาเส้นเอ็นร้อยหวายอย่างช้าๆเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงก่อนที่เขามอบให้หมอลู่ทำการเย็บผิวหนัง
เมื่อเทียบกับหนึ่งปีที่ผ่านมาทักษะของหมอลู่ถือได้ว่าก้าวกระโดดมาก เขาเย็บขาที่มีขนดกหนา ดังนั้นเขาจึงต้องทิ้งรอยแผลเป็นไว้ข้างหลังเล็กน้อย
“ผ่าตัดเสร็จแล้วหมอโจวซินเยียนพาผู้ป่วยออกไป” หลิงรันถอดสครับ เขายืดตัวและพูดว่า “มาเราไปผ่าตัดตับกันต่อ”
“ฉันจะไปเตรียมการก่อน” หยูหยวนกระโดดลงจากบันไดต่อตัว และออกไปอย่างรวดเร็วเพื่อไปยังห้องผ่าตัดของแผนกการผ่าตัดตับและตับอ่อน
ห้องผ่าตัดของศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินไม่ได้ตั้งอยู่ที่ชั้นผ่าตัด เนื่องจากพวกเขาต้องไปที่ห้องผ่าตัดแห่งอื่นในตอนนี้พวกเขาจึงต้องดำเนินการอีกสองสามขั้นตอน
หลิงรันไม่ได้เร่งรีบที่จะเดินทางไปจุดนั้นเช่นกัน การเตรียมการก่อนการผ่าตัดจะชะลอการเริ่มต้นของการผ่าตัดเล็กน้อยและโดยปกติจะใช้เวลายี่สิบนาทีหยูหยวน ทำสิ่งต่างๆอย่างระมัดระวัง แม้ว่าทักษะการผ่าตัดของเธอจะด้อยกว่าเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่มีปัญหากับการทำการฆ่าเชื้อโรคและตรวจสอบอาการของผู้ป่วยอีกครั้ง
ขณะที่หลิงรันยังอยู่ในอาคารของศูนย์การแพทย์ฉุกเฉิน เขาวางแผนที่จะเดินไปเยี่ยมผู้ป่วยแถวหอผู้ป่วย เขาตัดสินใจไปเดินตรวจรอบวอร์ดซึ่งนั้นถือเป็นกิจกรรมพักผ่อนของเขา
เขาดื่มเซรั่มพลังงานตอนตีสาม และนี้เป็นเวลามากกว่าสี่ชั่วโมงนับจากการดื่มครั้งนั้น หลิงรันได้ทำการผ่าตัดถุงน้ำดีสามครั้งและการผ่าตัดแบบเปิดเพื่อรักษาเอ็นร้อยหวาย ระหว่างนั้นเขายังเข้ารับคำปรึกษาก่อนการผ่าตัด … ถ้าเขาไม่รวมหมออื่น ๆ ของเขาเขาก็มีงานทำศัลยแพทย์ครบตามโควต้าหนึ่งวัน
มาหยานลินกำลังเดินตรวจรอบวอร์ดคนเดียวในบริเวณหอผู้ป่วยของศูนย์การแพทย์ฉุกเฉิน
นักศึกษาฝึกงานทุกคนสำเร็จการศึกษาหมดแล้ว และตอนนี้หลิงรันไม่มีลูกน้องอีกต่อไปแล้ว ที่สำคัญที่ลูกมือของเขาอย่างมาหยานลินยังคงอยู่ภายใต้แผนกศัลยกรรมกระดูก เนื่องจากเขายังไม่ได้โอนมาที่แผนกฉุกเฉินอย่างเป็นทางการเขาจึงไม่มีสิทธิที่จะมาวุ่นวายในศูนย์การแพทย์ฉุกเฉิน
อีกทั้งมาหยานลินเองก็ยังต้องมีงานให้ทำทุกวันเขาเองต้องจัดการกับงานที่มาจากแผนกศัลยกรรมกระดูกเพื่อไม่ให้เพื่อนร่วมงานของเขาบ่นในตัวเขา แม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำการผ่าตัดและทำหน้าที่แค่เขียนบันทึกทางการแพทย์ แต่รายได้ของแผนกศัลยกรรมกระดูกก็ถือว่ายังสูงมาก ดังนั้นทุกคนจึงต้องการคว้างานที่มีอยู่และพวกเขาไม่เคยขาดแคลนกำลังคนเลย สิ่งเดียวที่พวกหมอเกลียดคือการเข้าเวรดึก
มาหยานลินเองก้มศีรษะลง เขาเองต้องการย้ายไปอยู่ภายใต้การดูแลของหลิงรัน แต่ถ้าเขาย้ายจากแผนกศัลยกรรมกระดูกไปยังแผนกฉุกเฉินคนที่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมในโรงพยาบาลจะคิดว่าเขาอาจจะเป็นบ้าได้เลย!
แผนกศัลยกรรมกระดูกเป็นแผนกที่ร่ำรวยมากจนแม้แต่แพทย์ที่เข้ารับการรักษาก็ไม่จำเป็นต้องเรียกร้องอะไรมากมาย พวกเขาเพียงใช้เงินในการออกไปเที่ยวกลางคืนในบางครั้ง ในขณะเดียวกันแผนกฉุกเฉินเป็นตัวอย่างทั่วไปของการเป็นแผนกที่เหนื่อยและก็สุดแสนจะงานหนัก แม้แต่ผู้ช่วยแพทย์ก็คิดจะทำธุรกิจของตัวเองเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา
รายได้ปัจจุบันของมาหยานลินไม่น้อยไปกว่าเพื่อนร่วมงานของเขาเลย แต่เมื่อพิจารณาถึงพัฒนาการในอนาคตของเขามาหยานลิo ยังคงชอบการผ่าตัดกระดูก … แม้ว่าเขาจะติดตามหลิงรัน แต่เขาก็ยังคงทำงานเกี่ยวกับการผ่าตัดกระดูก แต่ถ้าเขาถูกย้ายไปที่แผนกฉุกเฉิน มาหยานลินก็กังวลว่าเขาจะไม่มีเวลาให้ตัวเองเพราะภาระงานในแผนกฉุกเฉิน
“ตรวจกี่เตียงแล้ว” หลิงรันเดินออกไปจากด้านหลังอย่างรวดเร็วและกระชากมาเหยียนหลินออกจากความงุนงง
“ โอ้…ผมเพิ่งเริ่ม” มาหยานลินกระซิบ“ ไม่มีนักศึกษาฝึกงานแล้วมันค่อนข้างลำบาก…”
“นี่เป็นปัญหาจริงๆฉันจะมีการย้ายบุคลากรสองสามคนในไม่ช้า” เมื่อหลิงรันพูดเขามองไปที่โทรศัพท์ของเขาและตรวจสอบหมายเลขเตียงที่ส่งมาโดยโจวซินเยียน และพูดว่า “ลองดูคนเหล่านี้ที่ได้รับการผ่าตัดเมื่อวานนี้จากนั้นตามฉันไปที่แผนกศัลยกรรมตับและตับอ่อนหลังเดินตรวจรอบวอร์ดเสร็จ.”
ผู้ป่วยที่เพิ่งได้รับการผ่าตัดถุงน้ำดีทั้งหมดอยู่ที่หอผู้ป่วยในแผนกศัลยกรรมตับและตับอ่อน
“ งั้นผมจะแจ้งหมอจาง” มาหยานลินพยักหน้าอย่างรวดเร็วก่อนที่เขาจะมองไปที่ด้านหลังของ หลิงรันและรู้สึกอิจฉา คนที่กล้าไปรอบวอร์ดในแผนกอื่น ๆ ต้องมีความสามารถมากหรือมีความคิดที่เข้มแข็งจนทำให้พวกเขาไม่เข้าใจข่าวลือ มิฉะนั้นกฎที่ไม่ได้พูดในโรงพยาบาลจะต้องเสียค่าผ่านทาง
อย่างไรก็ตามหลิงรัน เติบโตมาพร้อมกับข่าวลือและซุบซิบและเขาไม่สนใจกฎที่ไม่ได้พูดในชุมชนเล็ก ๆ แห่งนี้
ความสามารถแบบนี้เป็นสิ่งที่มาหยานลินไม่มีวันเรียนรู้
หลิงรันเอามือไพล่หลังและเยี่ยมผู้ป่วยจากห้องหนึ่งไปอีกห้องหนึ่ง
ตอนนี้เขาเป็นผู้รับผิดชอบทีมรักษา ตามระบบการการรักษาสามขั้นตอนวอร์ดรอบสัปดาห์ละครั้งก็เพียงพอแล้ว รายละเอียดจะไม่เน้นในระหว่างรอบเดนตรวจรอบวอร์ด จุดสนใจหลักคือการแก้ปัญหาที่แพทย์ประจำและแพทย์ทั่วไปไม่สามารถแก้ไขได้
ในแง่ของสถานการณ์จริงในโรงพยาบาลผู้รับผิดชอบกลุ่มการรักษาส่วนใหญ่ต้องพูด 3 อย่างว่า “ฟื้นเร็ว ๆ พักผ่อนให้ดีมองหาแพทย์หากมีเหตุฉุกเฉิน”
เมื่อผู้ป่วยและญาติของผู้ป่วยเผชิญหน้ากับหัวหน้าของทีมบำบัดโดยปกติพวกเขามักจะไว้วางใจพวกเขามากหรือแม้กระทั่งอดทนมากขึ้น
หีบสมบัติปรากฏขึ้นทีละอันก็เพียงพอที่จะรู้ได้ว่าผู้ป่วยและเหล่าญาติรู้สึกยังไงกับการรักษานี้
เขาไม่ได้รับหีบสมบัติจสองเท่าจากการผ่าตัดที่ไม่ใช่การผ่าตัดถุงน้ำดี ถึงอย่างนั้นหลิงรันก็ได้รับหีบสมบัติเจ็ดใบพร้อมกัน ถ้าไม่ใช่เพราะเขามีเวลาจำกัด และไม่มีใครที่จะเข้าทำการผ่าตัด เขาเองก็อยากเดินตรวจรอบวอร์ดต่อ …
“ หมอหลิงครับ” จางอันหมินวิ่งไปพร้อมกับหมออีกคนที่เขาไม่รู้จัก
“ หมอจาง นาย ทำงานเสร็จแล้วเหรอ?” หลิงรันยิ้ม “ นายไม่ต้องมาหาฉันก็ได้ถ้างานนายยังมีเยอะอยู่…”
“หมอหลิงให้ผมมีคนที่จะแนะนำให้คุณรู้จัก” จางอันหมินกลั้นใจและขัดจังหวะการสนทนา “นี่คือแพทย์ ริวจงเหล่ย จากแผนกศัลยกรรมระบบทางเดินอาหารของเราเขาเคยเป็นหัวหน้าของผมมาก่อน … “
ริวจงเหล่ยเอง เขายิ้มไปที่หลิงรันและพูดว่า “ฉันสังเกตเห็นการผ่าตัดจากคุณสองสามครั้งหมอหลิงและฉันตั้งใจมาพบคุณในครั้งนี้ … “
“มีอะไรกับผมหรือเปล่า?” หลิงรันไม่ได้แสดงท่าทีใดๆออกมาเขาเคยชินกับการถูกขอให้ช่วยเหลือ
“วันนี้เราได้รับเคสผ่าตัด ภาวะหลอดเลือดโปร่งพองในหลอดอาหาร เมื่อเราเปิดหน้าท้องเราพบว่าผู้ป่วยเองก็เป็นโรคตับแข็งและเริ่มมีเลือดออกเราพยายามยัดผ้าก๊อซเข้าไปแล้ว แต่ผลลัพธ์ที่ได้มันกับแย่กว่าเดิม … ” การแสดงออกขอริวจงเหล่ยนั้นดูกังวลมากๆ
แน่นอนการผ่าตัดตับนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นการผ่าตัดที่ซับซ้อนมาก ตอนนี้เขาไม่รู้สาเหตุของเลือดออกและไม่กล้าแตะต้องกับตับเลย ดังนั้นวิธีเดียวที่เขาทำได้คือต้องมองหาความช่วยเหลือ
ปัญหาระหว่างการผ่าตัดแบบนี้ไม่เหมือนกับการปรึกษาหารือในการแก้ปัญหาตามปกติ ริวจงเหล่ยแสดงท่าทางที่ดูอ่อนน้อมถ่อมตนและกล่าวว่า “หมอหลิงคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดตับของโรงพยาบาลของเรา คุณสามารถไปห้องผ่าตัดของเราและช่วยเราแก้ไขปัญหานี้ได้ไหม”