ตอนที่ 634 สามีภรรยาพูดคุยยามดึก

แม่ปากร้ายยุค​ 80

ตอนที่​ 634 สามีภรรยา​พูดคุย​ยามดึก​

ทั้ง​ครอบครัว​พา​ไป๋​ซวง​กลับมา​ด้วย​สีหน้า​มืดมน​

พ่อ​ไป๋​สั่งให้​ไป๋​ซวง​คุกเข่า​ลง​ทันทีที่​เข้า​มาถึงห้องนั่งเล่น​ และ​ถามหล่อน​ว่า​ทำไม​ถึงแสร้ง​ทำเป็น​ป่วย​

ไป๋​ซวง​ก้มหน้า​ร้องไห้​สะอึกสะอื้น​และ​พูดว่า​ “ตอนแรก​หนู​ไม่ได้คิด​จะแกล้ง​ทำเป็น​ป่วย​นะคะ​ หนู​แค่​จำได้​ว่า​ตอน​เด็ก​ ๆ ร่างกาย​หนู​ไม่แข็งแรง​ พ่อแม่​ชอบ​มาเอาใจ​ตอน​หนู​ป่วย​ แถมพี่ชาย​พี่สาว​ยัง​ไม่ถือสา​หนู​ พอ​ขึ้น​ชั้นประถม​ร่างกาย​หนู​ก็​ค่อย ๆ​ ดีขึ้น​เรื่อย ๆ​ ไม่ค่อย​ป่วย​แล้ว​ พ่อแม่​ก็​ไม่รัก​หนู​เหมือน​เมื่อก่อน​ ตอน​อยู่​บ้าน​ได้​กินดีอยู่ดี​เล่น​ไป​เรื่อย​ ไม่ต้อง​มาคอย​นั่ง​เลือก​ของเหลือ​ ได้​เล่น​จน​เบื่อ​แล้ว​ค่อย​ส่งต่อให้​พี่ชาย​พี่สาว​ แต่​พอ​โต​ขึ้น​ พี่ชาย​ก็​เอาแต่​เลือก​ของ​ดี ๆ​ ไป​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ตก​มาถึงหนู​ หนู​อยาก​ให้​พ่อแม่​รัก​และ​ตามใจ​หนู​เหมือน​เมื่อก่อน​ ถึงได้​แกล้ง​ทำเป็น​ป่วย​ หนู​ไม่ได้​มีเจตนาร้าย​อะไร​สักหน่อย​”

“เฮอะ​ ๆ! กล้า​พูดว่า​ไม่มีเจตนาร้าย​ทั้งที่​ตัวเอง​เลวทราม​มาก​เนี่ย​นะ​!” ไป๋​เซี่ย​เยาะเย้ย​ “จะต้อง​ถึงขั้น​ฆาตกรรม​และ​วางเพลิง​หรือไง​ถึงจะเรียก​ว่า​เจตนาร้าย​?”

ไป๋​ซวง​พูด​อย่าง​น่าสงสาร​ “หนู​ก็​แค่​อยาก​ให้​พ่อแม่​รัก​หนู​มากกว่า​นี้​~”

พ่อ​ไป๋​พูด​ด้วย​สีหน้า​เย็นชา​ “แค่​อยาก​ให้​พ่อแม่​รัก​มากขึ้น​ ถึงกับ​ต้อง​ทำผิด​มากมาย​ขนาด​นี้​เชียว​เหรอ​? เห็นแก่ตัว​เกินไป​แล้ว​!”

ไป๋​ซวง​ร้องไห้​ไม่หยุด​ และ​พูด​ยอมรับ​ความผิด​

คนอื่น​ต่าง​พา​กัน​ไม่สนใจ​ ทว่า​แม่ไป๋​กลับ​ใจอ่อน​ลง​

สอง​สามีภรรยา​นอน​อยู่​บน​เตียง​ใน​ตอนกลางคืน​ ทั้งสอง​ต่าง​ไม่รู้สึก​ง่วงนอน​แม้แต่น้อย​

พ่อ​ไป๋​รู้สึก​ว่า​ไป๋​ซวง​เลวร้าย​มาก​จน​เกิด​ความคิด​ที่จะ​ส่งตัว​หล่อน​กลับ​ไป​ยัง​บ้าน​สกุล​หลิน​

ทว่า​แม่ไป๋​รู้สึก​ว่าการ​ที่​ไป๋​ซวง​กลาย​มาเป็น​แบบนี้​ พวกเขา​สอง​สามีภรรยา​ควรจะ​ทำหน้าที่​ให้​ดีกว่า​เดิม​

หล่อน​หัน​กลับมา​ลูบ​หลัง​พ่อ​ไป๋​เบา​ ๆ จาก​ทาง​ด้านหลัง​ และ​ถามว่า​ “คุณ​ยัง​โมโห​ซวงเอ๋อร์​อยู่​หรือเปล่า​คะ​?”

พ่อ​ไป๋​ถามกลับ​ “แล้ว​คุณ​ไม่โมโห​ลูก​บ้าง​หรือไง​?”

แม่ไป๋​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​และ​พูด​ขึ้น​ว่า​ “ตอนแรก​ฉัน​ก็​โมโห​ซวงเอ๋อร์​มาก​ ลูก​ใจร้าย​เกินไป​ คอย​กีดกั้น​ไม่ให้​เรา​ทำความรู้จัก​กับ​ม่าย​จื่อ​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ แต่​พอ​มาคิดดู​แล้ว​ ลูก​เอง​ก็​น่าสงสาร​มาก​”

พ่อ​ไป๋​ถึงกับ​ฉุน​จัด​เมื่อ​เห็น​ว่า​ตรรกะ​ความคิด​ของ​ภรรยา​ชักจะ​มีปัญหา​

เขา​เอ่ย​ถามด้วย​ความโกรธเคือง​กลับ​ “ลูก​ได้​กินดีอยู่ดี​ใส่เสื้อผ้า​ดี ๆ​ อยู่​ใน​บ้าน​อบอุ่น​ มีชีวิต​ที่​ดี​ ทำไม​ถึงยัง​น่าสงสาร​อยู่​อีก​? ในขณะที่​ม่าย​จื่อ​ต้อง​เดือดร้อน​เพราะ​บ้าน​สกุล​หลิน​!”

“ม่าย​จื่อ​เอง​ก็​ต้นร้ายปลายดี​ คุณ​ก็​เห็น​ว่า​ตอนนี้​หล่อน​มีชีวิต​ดี​แค่​ไหน​ พวกเรา​เทียบ​นิ้วเท้า​หล่อน​ไม่ติด​เลย​”

พ่อ​ไป๋​จึงพูด​ชี้ประเด็น​ “แต่​ไม่ว่า​ม่าย​จื่อ​จะอยู่ดี​สัก​แค่​ไหน​ ทั้งหมด​ก็​ไม่ได้​ขึ้นอยู่กับ​เรา​ ขณะที่​ซวงเอ๋อร์​มีชีวิต​ดี​เพราะ​ขึ้นอยู่กับ​พวกเรา​!”

“เรา​อย่า​ไป​พูดถึง​เรื่อง​นั้น​เลย​ค่ะ​ มาพูดถึง​ซวงเอ๋อร์​ดีกว่า​” แม่ไป๋​พูด​ “สำหรับ​เด็ก​วัย​กำลัง​เจริญเติบโต​ มัน​ไม่ใช่แค่​กินดีอยู่ดี​ แต่งตัว​ดี ๆ​ หรอก​นะ​ แต่​เรา​ต้อง​ให้ความสนใจ​ลูก​ด้วย​ เป็น​เรา​เอง​ที่​ทำ​ตรงนี้​ได้​ไม่ดี​พอ​”

พ่อ​ไป๋​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​เย็นชา​ “แต่​ผม​ไม่คิด​แบบ​นั้น​นะ​”

แม่ไป๋​พูด​ให้เหตุผล​กับ​เขา​ “คุณ​ไม่ได้ยิน​ที่​ซวงเอ๋อร์​พูด​ก่อนหน้านี้​เหรอ​ว่าที่​ลูก​ทำ​อะไร​สุดโต่ง​เพราะว่า​ก่อนหน้านี้​เรา​ให้​ความรัก​ลูก​มาก​พอ​ แต่​จู่ ๆ เรา​ก็​ไม่ได้​มอบ​ความรัก​ให้​ลูก​เลย​ ลูก​ถึงได้รับ​ไม่ไหว​และ​เผลอ​ทำผิด​ไป​”

พ่อ​ไป๋​หัวเราะเยาะ​สอง​สามครั้ง​และ​ไม่ได้​สนใจ​หล่อน​ต่อ​ เห็นได้ชัด​ว่า​เขา​ไม่เห็นด้วย​

แม่ไป๋​ที่​เป็น​อาจารย์​ มีความยืดหยุ่น​สูง จึงคอย​พูด​เกลี้ยกล่อม​พ่อ​ไป๋​และ​พูด​ล้างสมอง​เขา​ว่า​

“ช่วง​นั้น​ซวงเอ๋อร์​ยัง​เด็ก​ แค่​หก​เจ็ด​ขวบ​เอง​ ลูก​ยัง​ต้องการ​ผู้ใหญ่​มาแนะนำ​แนวทาง​นะคะ​ แต่​คุณ​กับ​ฉัน​เอาแต่​เมิน​ลูก​ เพราะ​เห็น​ว่า​ลูก​อาการ​ดีขึ้น​ทุกวัน​ ทุกอย่าง​ดู​เป็นไป​ด้วยดี​ ลูก​ถึงได้​เคว้งคว้าง​ หวาดกลัว​… ก็​เลย​…”

แต่​ไม่ว่า​จะพูด​อย่างไร​ พ่อ​ไป๋​ที่​เป็น​ประธาน​ธนาคาร​ย่อม​มีความคิด​ถี่ถ้วน​ จะถูก​แม่ไป๋​ล้างสมอง​ได้​อย่างไร​?

เขา​ตะคอก​อย่าง​หมด​ความอดทน​ “พอ​สักที​! ไม่ต้อง​มาแก้​ตัวแทน​ไป๋​ซวง​หรอก​! มีลูกบ้าน​ไหน​เหมือน​หล่อน​บ้าง​ไหม​ อายุ​สิบเอ็ด​สิบสอง​ก็​รู้จัก​ถอด​กระโปรง​ข่มขู่​คนอื่น​แล้ว​ แถมเป้าหมาย​ที่​หล่อน​ข่มขู่​ยัง​เป็น​ถึงเจ้าหน้าที่​ราชการ​คนใหญ่คนโต​! ผม​ยอมรับ​ว่า​ผม​ละเลย​ลูก​ไป​หน่อย​หลังจากที่​อาการ​ลูก​ดีขึ้น​ แต่​ตอนที่​ลูก​ยัง​ไม่มาอยู่​บ้าน​เรา​ เซี่ยเซี่ย​เป็น​ที่รัก​ของ​คนใน​บ้าน​มาก​ เซี่ยเซี่ย​ต้อง​ไป​อยู่​แถว​หลัง​ทันทีที่​หล่อน​เข้ามา​ แต่​ตอนที่​คุณ​เห็น​ว่า​เซี่ยเซี่ย​ไม่ใช่ลูก​รัก​ของ​คุณ​อีกต่อไป​ เขา​เกลียด​ซวงเอ๋อร์​ที่​เข้ามา​เป็น​น้องใหม่​บ้าง​ไหม​ล่ะ​? เขา​ไม่เคย​เกลียด​ซวงเอ๋อร์​เลย​ กลับ​หวงแหน​น้องสาว​มาก​ด้วย​ แล้ว​ซวงเอ๋อร์​ทำ​กับ​เขา​ยังไง​บ้าง​ แค่​เพราะ​ร่างกาย​หล่อน​แข็งแรง​ขึ้น​ทุกวัน​ เซี่ยเซี่ย​ถึงได้​กลับมา​เป็น​ที่รัก​อีกครั้ง​ แต่​หล่อน​กลับ​ไม่พอใจ​เซี่ยเซี่ย​ เอาแต่​โทษ​เซี่ยเซี่ย​ว่า​เป็น​คน​ทำให้​โรคหัวใจ​หล่อน​กำเริบ​ จน​ทำให้​คุณ​ทำตัว​เย็นชา​กับ​เซี่ยเซี่ย​มาตั้ง​หลาย​ปี​ ทั้งที่​ได้รับ​ประสบการณ์​คล้าย​กัน​ แต่​นิสัย​ของ​ลูก​ทั้งสอง​กลับ​ต่างกัน​มาก​ คุณ​ยัง​จะพูด​อยู่​อีก​ไหม​ว่า​ทั้งหมด​เป็น​ความรับผิดชอบ​ของ​ผู้ปกครอง​? งูพิษ​ก็​คือ​งูพิษ​ ลูก​ของ​งูพิษ​ไม่สามารถ​เปลี่ยน​กรรมพันธุ์​ของ​งูพิษ​ได้​หรอก​ ถึงแม้ว่า​ทาง​ตำรวจ​จะบอก​เด็ก​ถูก​สลับ​ตัว​กัน​เป็น​เพราะ​ความผิดพลาด​ทาง​ของ​ทาง​โรงพยาบาล​ แต่​ผม​เชื่อ​ว่า​คู่สามีภรรยา​บ้าน​สกุล​หลิน​จะต้อง​เป็น​คน​ทำ​ แค่​หา​หลักฐาน​ที่​พวกเขา​ทำ​ไม่ได้​เท่านั้น​ พ่อแม่​ชั่วร้าย​ขนาด​นั้น​ ลูก​จะแสน​ดี​ได้​ยังไง​? จะปล่อย​ให้​ไป๋​ซวง​อยู่​ต่อ​ไม่ได้​ ส่งหล่อน​กลับ​ไป​บ้าน​สกุล​หลิน​ซะ!”

แม่ไป๋​ตกตะลึง​ และ​เริ่ม​ร้องไห้​หลังจากนั้น​ไม่นาน​ “ซวงเอ๋อร์…​ เจ็บปวด​มาก​ขนาด​นี้​ ถ้าเรา​ไม่ต้องการ​ลูก​ และ​ส่งลูก​กลับ​ไปหา​พ่อแม่​ ลูก​จะน่าสงสาร​ขนาด​ไห​น.​..”

พ่อ​ไป๋​พูดไม่ออก​ไป​ครู่หนึ่ง​

ไป๋​ซวง​เป็น​ลูก​รัก​ของ​เขา​มาสิบ​แปด​ปี​ และ​เขา​ทน​ไม่ได้​ที่จะ​ต้อง​ส่งหล่อน​กลับ​ไป​

ยิ่งไปกว่านั้น​เรื่อง​แบบนี้​เคย​เกิดขึ้น​มาแล้ว​ครั้งหนึ่ง​ หัวใจ​ของหล่อน​คงจะ​บอบช้ำ​มาก​

แต่​ถ้าเขา​ไม่ส่งหล่อน​กลับ​ไป​ เขา​จะไม่สามารถ​ผ่านการทดสอบ​ใน​ใจได้​ เด็ก​คน​นี้​อันตราย​เกินไป​! ปล่อย​ให้​อยู่​ที่​บ้าน​จะกลายเป็น​หายนะ​!

พ่อ​ไป๋​พูด​อย่าง​อารมณ์เสีย​ว่า​ “เอาไว้​คุย​กัน​วันหลัง​ ตอนนี้​ดึก​แล้ว​”

แม่ไป๋​ถอนหายใจ​เฮือก​ใหญ่​ และ​หลับตา​ลง​

คืน​ฤดู​ร้อนใน​ปักกิ่ง​ค่อนข้าง​เย็นสบาย​กว่า​ใน​เจียง​เฉิงมาก​ ในขณะที่​คืน​ฤดู​ร้อนใน​เจียง​เฉิงร้อนระอุ​ถึงแม้ว่า​จะมีพัดลม​ไฟฟ้าใช้ก็ตาม​ ทำให้​ไป๋​ลู่​ไม่เคย​นอนหลับ​สบาย​ใน​เจียง​เฉิงสัก​คืน​

และ​ทำให้​อีก​คน​นอน​หลับสนิท​กว่า​อีก​คน​ทันทีที่​กลับ​มาถึงบ้าน​

หลับไหล​ไป​จนกระทั่ง​ตอนสาย​ของ​อีก​วัน​

ป้า​แม่บ้าน​ที่มา​ทำงาน​ที่​บ้าน​ถามพี่น้อง​ไป๋​เซี่ย​ว่า​อยาก​รับประทาน​อะไร​

ทั้งสอง​พูด​พร้อม​เพียง​กัน​ว่า​อยาก​กิน​บะหมี่​ผัด​ราด​ซอส​

ใน​ฐานะ​พลเมือง​จาก​เมืองหลวง​ พวกเขา​รู้สึก​ไม่สบายใจ​เมื่อ​ไม่ได้​กิน​บะหมี่​ผัด​ทุก​สอง​สามวัน​

ป้า​แม่บ้าน​ตอบรับ​ด้วย​รอยยิ้ม​ และ​กำลังจะ​ไป​เคาะ​ประตู​ห้อง​ของ​ไป๋​ซวง​ ถามหล่อน​ว่า​เช้านี้​อยาก​กิน​อะไร​

ไป๋​ซวง​มักจะ​ได้รับ​การปฏิบัติ​ดี​ที่สุด​ใน​บ้าน​สกุล​ไป๋​

ไม่ว่า​หล่อน​อยาก​จะกิน​อะไร​ ป้า​แม่บ้าน​จะทำให้​หล่อน​กิน​ทุกอย่าง​ และ​ไม่มีใคร​ใน​ครอบครัว​ได้รับ​การปฏิบัติ​เช่นนี้​

พ่อ​ไป๋​ขมวดคิ้ว​และ​พูดว่า​ “ตั้งแต่​วันนี้​ไป​ไม่ต้อง​ทำอาหาร​ตามใจ​ซวงเอ๋อร์​อีก​นะ​”

ป้า​แม่บ้าน​อุทาน​คำ​หนึ่ง​ และ​เข้าไป​ทำ​บะหมี่​ผัด​ราด​ซอส​

หลังจากนั้น​ไม่นาน​บะหมี่​ผัด​ราด​ซอส​ก็​พร้อม​เสิร์ฟ​ ขณะที่​ไป๋​เซี่ย​ไป​ซื้อ​ต้ม​ถั่วเขียว​กลับมา​

บ้าน​สกุล​ไป๋​กำลัง​เตรียมตัว​รับประทาน​อาหารเช้า​ แต่​ไป๋​ซวง​ยัง​ไม่ตื่นขึ้น​มา

พ่อ​ไป๋​พูด​ด้วย​สีหน้า​มืดมน​ “การ​สอบ​เข้า​มหาลัย​จบ​ลง​แล้ว​ ไม่รู้​ว่า​จะสอบ​เข้า​มหาลัย​ได้​หรือเปล่า​ ถ้าสอบ​เข้า​มหาลัย​ไม่ได้​ก็​ต้อง​ไป​เรียน​ซ้ำใหม่​ จน​ป่านนี้​ยัง​เอาแต่​นอนหลับ​ไม่ยอม​ตื่นขึ้น​มาอีก​!”

แม่ไป๋​รู้ดี​ว่า​เขา​กำลัง​พูดถึง​ไป๋​ซวง​ และ​เคยชิน​กับ​การ​บอ​กว่า​ไป๋​ซวง​สุขภาพ​ไม่แข็งแรง​

แต่​จู่ ๆ หล่อน​ก็​กลืน​คำพูด​ดังกล่าว​ลง​ทันที​เมื่อ​จำได้​ว่า​ลูกสาว​ไม่ได้​ป่วย​

แม่ไป๋​ลุกขึ้น​ยืน​ “เดี๋ยว​ฉัน​ไป​เรียก​ซวงเอ๋อร์​ให้​ค่ะ​”

หล่อน​พูด​และ​เดิน​ตรง​ไป​ที่​ห้อง​ของ​ไป๋​ซวง​ เคาะ​ประตู​อยู่​ครู่หนึ่ง​ แต่กลับ​ไม่มีเสียง​ตอบรับ​จาก​ภายใน​

ใบหน้า​ของ​พ่อ​ไป๋​มืดมน​ลง​กว่า​เดิม​ “ปล่อย​มัน​นอน​ไป​ ดู​สิน​ว่า​มัน​จะตื่นขึ้น​มาตอน​ไหน​!”

แม่ไป๋​ยังคง​ตะโกนเรียก​อยู่​อีก​พัก​หนึ่ง​ แต่กลับ​ไม่มีเสียง​ตอบรับ​จาก​ภายใน​

บะหมี่​ผัด​ราด​ซอส​จะอร่อย​ที่สุด​ตอน​ร้อน​ ๆ แม่ไป๋​ไม่อยาก​ให้​ไป๋​ซวง​กิน​บะหมี่​ผัด​ราด​ซอส​เย็นชืด​ จึงคิด​จะปลุก​หล่อน​ขึ้น​มาให้ได้​

หาก​อีก​ไม่กี่​วัน​ไป๋​ซวง​ถูก​ส่งตัว​ไป​อยู่​กับ​พ่อแม่​ผู้ให้กำเนิด​ หล่อน​จะต้อง​มีชีวิต​ลำบาก​แน่​

แม่ไป๋​หวัง​ว่า​หล่อน​จะได้​ใช้ชีวิต​อย่าง​มีความสุข​ที่​บ้าน​สัก​สอง​สามวันก่อน​จะกลับ​ไป​ที่นั่น​

แต่​ไม่ว่า​จะร้อง​ตะโกน​เรียน​อย่างไร​ ใน​ห้อง​ก็​ยังมี​ไม่การเคลื่อนไหว​อยู่ดี​

แม่ไป๋​รู้สึก​มีบางอย่าง​ผิดปกติ​ จึงไป​เรียก​พ่อ​ไป๋​เข้ามา​ “คุณ​เปิด​ประตู​ที​ ไปดู​ว่า​มีอะไร​เกิด​ขึ้นกับ​ซวงเอ๋อร์​หรือเปล่า​”

สีหน้า​ของ​พ่อ​ไป๋​ดู​จริงจัง​ขึ้น​มาทันที​

ถึงแม้ว่า​เขา​จะเกลียดชัง​ความ​ชั่วร้าย​ของ​ไป๋​ซวง​ แต่​เขา​ก็​ไม่เคย​คิด​จะปล่อย​ให้​หล่อน​ตาย​

เขา​กระแทก​ประตู​อย่าง​แรง​อยู่​สอง​สามครั้ง​ ก่อน​จะเปิด​ประตูออก​

ไป๋​ซวง​นอน​หลับตา​อยู่​บน​พื้น​ทั้งที่​น้ำลาย​ฟูมปาก​ ราวกับว่า​ได้​ตาย​ไป​แล้ว​

…………………………………………………………………………………………………………………………

สาร​จาก​ผู้แปล​

คุณพ่อ​ควร​พา​ภรรยา​ไป​ตรวจ​สมอง​นะคะ​ ไม่รู้​ว่า​ตอนนี้​เหลืออยู่​เท่าไหร่​แล้ว​ ไม่แน่​ว่า​อาจ​โดน​นัง​ไป๋​ซวง​กิน​ไป​ก็ได้​

เล่น​แผน​นี้​เลย​เหรอ​นัง​งูพิษ​ งั้น​ขอให้​ตาย​จริงๆ​ แล้วกัน​ค่ะ​

ไหหม่า​(海馬)