บทที่ 580 นำตัวกุ้ยชุนเจียวไป

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 580 นำตัวกุ้ยชุนเจียวไป

บทที่ 580 นำตัวกุ้ยชุนเจียวไป

“โอ้…” เมื่อได้ยินเรื่องนี้ หัวหน้าสยงก็หยิบไม้ที่น้องชายของเขามอบให้ และในพริบตาเขาเห็นกุ้ยชุนเจียวชำเลืองมองถูหมิ่นอย่างโกรธจัดก่อนที่จะหลับตาแล้วทรุดตัวลงกับพื้น

“บัดซบ ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะบ้าขนาดนี้!” ชายคนนั้นเห็นว่ากุ้ยชุนเจียวหยุดเคลื่อนไหวในที่สุด เขาก็โยนไม้ในมือทิ้งแล้วสบถด่า

ตอนนี้มีผู้หญิงสามคนและผู้ชายสามคนอยู่ในกระท่อมเล็ก ๆ นี้ หญิงสองคนอยู่ในอาการหมดสติ

กู้เสี่ยวหวานนั่งอยู่ที่มุมห้อง ในสถานการณ์นี้ นางช่วยพวกเขาไม่ได้ นางไม่มีความสามารถเลย บางทีเมื่อถึงเวลาคงจะเป็นนางเองที่ต้องเป็นทุกข์

“เถ้าแก่ ตอนนี้เราควรทำอย่างไรต่อไปดี?” หัวหน้าสยงถามถูหมิ่นอย่างเสียขวัญเมื่อเห็นว่ามีคนสองคนนอนอยู่บนพื้น

“เจ้า…” ถูหมิ่นชี้ไปที่หัวหน้าสยงและด่าว่า “ช่วยข้าส่งผู้หญิงคนนี้ลงมาจากภูเขาด้วย! ส่วนเจ้าคอยดูผู้หญิงสองคนนี้ไว้ นอกจากนี้ ผู้หญิงสองคนนี้ข้ายกให้ อยากขายหรืออยากเล่น พวกเจ้าจะทำอะไรก็ได้!”

อะไรนะ? ยกเด็กสาวที่ยังไม่ถึงวัยแต่งงานให้อีกคนหรือ?

ดวงตาของหัวหน้าสยงเป็นประกาย และเขาเหลือบไปที่กู้เสี่ยวหวานที่กำลังก้มตัวอยู่ที่กำแพง และกุ้ยตงเหมยที่นอนสลบอยู่บนพื้น เขาก็น้ำลายไหลและพูดสะเปะสะปะ “โอ้ ขอบคุณเถ้าแก่ ขอบคุณเถ้าแก่!”

หลังจากพูดแบบนี้ เขาก็สูดน้ำลาย แล้วเหลือบมองกู้เสี่ยวหวานด้วยใบหน้าที่ชั่วร้าย

ถ้ากู้เสี่ยวหวานมองไม่ผิด ผู้ชายที่ถูกเรียกว่าหัวหน้าสยงมองกู้เสี่ยวหวานอย่างพอใจและลูบส่วนล่างของเขาต่อหน้านางพลางเผยรอยยิ้มที่น่ารังเกียจ

หัวใจของกู้เสี่ยวหวานสั่นไหวด้วยความหวาดกลัวและมือของนางก็กำแน่นขึ้น

“เจ้าจับตาดูพวกนางสองคนที่นี่ เมื่อข้ากลับมา เราก็เอาไปคนละคน! เข้าใจหรือไม่?” หัวหน้าสยงพูดกับน้องชายก่อนจะออกไป เมื่อเห็นเอ้อร์สยงรับปากแล้วว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น หัวหน้าสยงก็อุ้มกุ้ยชุนเจียวและเดินตามถูหมิ่นออกไป

เอ้อร์สยงรีบตามออกไป และลงกลอนประตูจากข้างนอก

เขาเฝ้าประตูเอาไว้อยู่ด้านนอก

กู้เสี่ยวหวานเดินไปที่หน้าต่าง มองผ่านรอยแยกของประตู นางเห็นชายที่นั่งอยู่ที่ประตูกำลังหลับใหล จึงมีความคิดขึ้นในใจ

กุ้ยตงเหมยยังคงนอนอยู่บนพื้น การล้มเมื่อครู่คงจะกระแทกอย่างรุนแรง

แม้ว่ากู้เสี่ยวหวานจะเกลียดกุ้ยตงเหมยอย่างมาก แต่เมื่อคิดว่านางเป็นก็แค่เด็กหญิงตัวเล็ก ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจริง ๆ กลัวว่าชีวิตจะจบลง

หลังจากคิดถึงเรื่องนี้ กู้เสี่ยวหวานรู้สึกว่ากุ้ยตงเหมยน่าสงสารมาก นางถูกถูหมิ่นหลอกใช้ และในที่สุดก็ถูกเขาทอดทิ้ง หากนางมีสติในตอนนั้นและรู้ว่าถูหมิ่นได้ยกนางให้โจรลักพาตัวสองคนนั้น ไม่รู้ว่านางจะเสียใจและอยากจะแขวนคอตัวเองหรือไม่!

แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องพวกนี้!

สิ่งที่อันตรายที่สุดคือชายที่ชื่อหัวหน้าสยง ก่อนจากไป แววตาลามกเป็นประกายออกมาจากดวงตาของเขา กู้เสี่ยวหวานสามารถมองเห็นได้ชัดเจน ความรู้สึกเช่นนั้นเหมือนกับถูกงูพิษเลื้อยพันทำให้ผู้คนหวาดกลัว!

หัวหน้าสยงตามถูหมิ่นออกไป กุ้ยชุนเจียวก็อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดี

กู้เสี่ยวหวานยังคิดหาทางออกไม่ได้ และนางก็ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้เลย

ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะหลบหนี กู้เสี่ยวหวานรีบไปปลุกกุ้ยตงเหมยที่หมดสติ

“กุ้ยตงเหมย กุ้ยตงเหมย ตื่นได้แล้ว ตื่นได้แล้ว!” กู้เสี่ยวหวานเขย่ากุ้ยตงเหมยและกระซิบอย่างกังวล

กุ้ยตงเหมยยังคงเวียนหัวอยู่ในขณะนี้ นางลูบหัวซึ่งเจ็บจากการล้มและเอ่ยถามอย่างงุนงง “อืม… ข้าอยู่ที่ไหน?”

กู้เสี่ยวหวานขมวดคิ้ว “อะไรนะ? เจ้ากับถูหมิ่นมาที่นี่เพื่อดูเรื่องตลกของพี่สาวเจ้ากับข้า เจ้าจำไม่ได้หรือ?”

กุ้ยตงเหมยที่คงยังมึนงงได้ตื่นขึ้นทันทีเมื่อได้ยินเสียงของกู้เสี่ยวหวาน และมองไปที่กู้เสี่ยวหวานด้วยความไม่เชื่อ

เมื่อมองไปรอบ ๆ นางก็พูดตะกุกตะกัก “เจ้า… เจ้า… เจ้าอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? ข้า… ทำไมข้าถึงยังอยู่ที่นี่?”

“ว่าอย่างไรนะ? เจ้ายังรอให้ถูหมิ่นพาเจ้ากลับบ้านและดูแลเจ้าเหมือนเป็นแขกอยู่อีกอย่างนั้นหรือ?” กู้เสี่ยวหวานพูดอย่างเย็นชาและประชดประชัน

“เจ้า… เจ้า… เจ้าหมายความว่าอย่างไร?” กุ้ยตงเหมยรู้สึกไม่ดีทันทีที่ได้ยิน

เมื่อมองไปรอบ ๆ นางก็ไม่เห็นร่างของถูหมิ่น!

“ถูหมิ่นล่ะ? ถูหมิ่นไปไหน? แล้วกุ้ยชุนเจียวล่ะ? กุ้ยชุนเจียวอยู่ที่ไหน?” กุ้ยตงเหมยเอ่ยถามด้วยความตกใจ

ในห้องเล็ก ๆ นี้ ตอนนี้เหลือเพียงนางและกู้เสี่ยวหวานสองคน แล้วคนอื่น ๆ ล่ะ? คนอื่น ๆ หายไปไหนกันหมด?

ทำไมนางยังอยู่ในห้องเล็ก ๆ นี้?

ทำไมถูหมิ่นไม่พานางไปด้วย?

“เจ้ายังหวังให้ถูหมิ่นพาเจ้ากลับไปอีกหรือ?” กู้เสี่ยวหวานเห็นท่าทางตะลึงงันของกุ้ยตงเหมยและเยาะเย้ย “เจ้าเลิกคิดเสียเถอะ! ถูหมิ่นได้ยกเจ้าให้กับโจรลักพาตัวสองพี่น้องนั่นแล้ว! ”

“อะไรนะ?” กุ้ยตงเหมยอ้าปากกว้างและกำลังจะตะโกน กู้เสี่ยวหวานกลัวว่าเสียงนางจะไปปลุกเอ้อร์สยงที่อยู่ข้างนอกประตู นางจึงก้าวไปข้างหน้าเพื่อปิดปากและพูดอย่างดุดันว่า “กุ้ยตงเหมย ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า ข้าก็จะไม่ถูกลักพาตัวมาไว้ที่นี่ ข้าขอเตือนเจ้าไว้นะ ถ้าอยากจะมีชีวิตอยู่ อย่ากรีดร้อง! และทำตามที่ข้าบอก!”

กุ้ยตงเหมยรู้ว่าถ้านางตกไปอยู่ในมือของสองพี่น้องนั่น มีเพียงทางเดียวเท่านั้นคือต้องตาย

ดังนั้นนางจึงพยักหน้าตอบตกลง ดวงตาของนางเบิกกว้างด้วยความสยดสยองราวกับจะบอกกู้เสี่ยวหวานว่านางจะทำในสิ่งที่กู้เสี่ยวหวานบอกทุกอย่าง

กู้เสี่ยวหวานปล่อยมือของนาง

หลังจากขยิบตา ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องก็ดังขึ้น “เจ้าเป็นอะไรไป? เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?” เสียงนั้นดูตื่นตระหนกราวกับว่ามีเหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้น และปลุกเอ้อร์สยงที่เฝ้าประตูอยู่ข้างนอกให้ตื่นขึ้น

ทันทีที่เอ้อร์สยงได้ยินเสียงร้องโหยหวนของกู้เสี่ยวหวาน เขาก็รีบลุกขึ้นและเอ่ยถามจากภายนอกว่า “เกิดอะไรขึ้น? เกิดอะไรขึ้น?”

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหลงกล กู้เสี่ยวหวานก็วิ่งไปที่ประตูและตะโกนอย่างกังวลว่า “พี่ชาย ผู้หญิงคนนี้มีเลือดออกมาก นางเลือดออกมาก เลือดเต็มไปหมดเลย! นางไม่ขยับ นางตายแล้วใช่หรือไม่? นางตายแล้วใช่หรือไม่?”

กู้เสี่ยวหวานดูหวาดกลัวชี้ไปที่กุ้ยตงเหมยที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นหลังประตูและกรีดร้อง

“อะไรนะ?” เอ้อร์สยงลุกขึ้นทันทีเมื่อได้ยิน

ถ้าผู้หญิงคนนี้ตาย เมื่อพี่ใหญ่กลับมาจะไม่ฆ่าตนเองให้ตายเลยหรือ?

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

แผนการของกู้เสี่ยวหวานจะสำเร็จหรือไม่คะเนี่ย

ไหหม่า (海馬)