บทที่ 616 การหยั่งเชิงที่ชั่วช้า

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

ท่าทางที่ดูรีบร้อนอย่างฉับพลันเช่นนั้น ทำให้คนที่รายงานข่าวสารตกใจมาก ไม่ได้ตอบสนองในเวลาอันสั้น ทำได้เพียงมองดูเจ้าของเรือจากไป

แต่ว่า!

หานแสเหาะพุ่งออกไป หลานเยาเยาที่ไปอย่างรีบร้อนเพิ่งออกจากป่าไปเมื่อครู่ เห็นแสงเย็นวาบ มีดแหลมคมเปล่งแสงแวววาวโจมตีมาในพริบตา

หานแสล้มไปด้านหน้า หมุนตัวห่างจากพื้นสองสามครั้ง จึงหลบจากมีดที่แหลมคม หลังจากมีที่แหลมคม เป็นผู้หนึ่งที่สวมชุดดำ ผู้หญิงที่คลุมหน้าด้วยผ้าสีดำ เผยดวงตาสองข้างที่เฉียบคมน่ากลัวออกมา

นางโจมตีอย่างฉับพลันพลาดพลั้ง ก็ปรากฏตัวสังหารด้วยตัวเอง

เพราะเหนือความคาดหมาย แรกเริ่มได้เปรียบ ดังนั้น นางกดดันทีก้าว กระบวนท่าถึงชีวิต แต่กลับไม่สามารถสังหารหานแสได้ตามประสงค์

รอจนหานแสดึงสติกลับมาได้ ภายใต้ไม่กี่กระบวนท่า จึงตอบโต้ได้อย่างเด็ดขาด เป็นฝ่ายได้เปรียบ

คราวนี้ จากวิธีการของหานแส จะสามารถปล่อยคนที่ตั้งใจสังหารตัวเองได้อย่างไร?

ด้วยเหตุนี้ หาจุดอ่อนของคนที่ลอบสังหารพบ เขาโจมตีออกไปฝ่ามือหนึ่งอย่างรุนแรง หญิงชุดดำถูกตีลอยไปไกลหลายฟุต ล่วงลงพื้นอย่างแรง กระอักเลือดอย่างฉับพลัน ทั้งคนไออย่างรุนแรง

แต่ทว่า นี่ยังไม่จบ ระหว่างที่นางพยายามลุกขึ้น ทั้งร่างไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ราวกับว่าถูกอะไรดูดเช่นนั้น แรงดึงดูดยังมากมายที่สุด

ลากลำตัวไปด้านหน้าโดยตรง ทั้งยังขยับเขยื้อนไม่ได้ และขัดขืนไม่ได้ บนพื้นทิ้งไว้เพียงรอยข่วนของสองเท้าเท่านั้น

หญิงชุดดำเงยหน้ามองไปทันที สีหน้าเปลี่ยนไปมากทันใด พยายามสุดขีดคิดต้องการสลัดแรงดึงดูดที่แข็งแกร่งให้พ้น เวลานี้มือข้างหนึ่งของหานแสยื่นออกมาทางนาง มุมปากผุดรอยยิ้มเย็นยะเยือกของการสังหารที่ชั่วร้ายขึ้น

ผู้ที่ขวางข้า ตาย!

ไม่ว่าเป็นผู้ใด

ใกล้แล้ว หญิงชุดดำคลุมหน้าด้วยผ้าดำถูกดูดแล้ว เผยใบหน้าที่คุ้นเคยออกมา

เดิมทีบนใบหน้านั้นมีอรชรขาวสะอาด สูญเสียความอ่อนเยาว์ ทั้งๆที่ยังคงเป็นวัยที่งดงามโดดเด่น กลับเห็นถึงความเย็นชาเล็กน้อย มีประสบการณ์ เห็นนาง หานแสหรี่ตาลงเล็กน้อย!

“เป็นเจ้าอีกแล้ว!”

ฮัวหยู่อันผู้นั้นที่เว้นไปช่วงหนึ่งแล้วจะโผล่มาสังหารเขาครั้งหนึ่ง ทุกครั้งเขาล้วนมีใจปล่อยนางไป ให้นางได้ได้รับบาดเจ็บหนักหลบหนี

แต่หลังจากช่วงเวลาหนึ่ง นางก็คิดทุกวิถีทาง ปรากฏตัวต่อหน้าเขาสังหารเขา เจ้าเล่ห์ขี้โกงขึ้นทุกครั้ง จัดการยากขึ้นทุกครั้ง ปีแล้วปีเล่า เริ่มใหม่เป็นรอบๆ

หากไม่ใช่เพราะคนผู้นั้น เขาจะปล่อยนางไปทุกๆครั้งได้อย่างไร?

หานแสแสยะยิ้ม : “เจ้าไม่รู้จักความเป็นตายจริงๆ”

ฮัวหยู่อันมีสัญชาตญาณความกลัวในการเผชิญหน้ากับความตาย แต่มองดูหานแส นึกถึงคนเหล่านั้นที่ตายไป นางก็ไม่กลัวขนาดนั้นแล้ว “ชีวิตนี้ เจ้าไม่ตาย ก็ข้าตาย”

นางไม่อยากอยู่ตั้งนานแล้ว

และจะสนใจความเป็นความตายได้อีกอย่างไร?

แต่แค่…….

นางค่อนข้างไม่พอใจ ทำไมตายไปไม่สามารถลากหานแสตายไปด้วยกันได้?

ช่างเหอะ!

ชะตาก็เป็นเช่นนี้ โทษคนอื่นไม่ได้

มองดูความตายเข้าใกล้ตัวเองเรื่อยๆ ฮัวหยู่อันหลับตาลงเงียบๆ ก็ไม่รู้ว่านึกเรื่องอะไรได้ คิดไม่ถึงว่านางยกมุมปากขึ้น ยิ้มหวาน เช่นนั้นถึงจะเป็นรอยยิ้มบริสุทธิ์ที่วันของนางควรจะมี

หานแสมองดูนางปิดตายิ้ม รู้สึกทิ่มแทงตาเป็นพิเศษ

เช่นนั้นคือการเยาะเย้ยเขาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เดิมทีเขาไม่ควรไว้ชีวิต กำจัดรากถอนโคน แต่นาทีนั้นที่ต้องการจะบีบคอฮัวหยู่อัน เขาฝืนหยุดกำลังภายใน จากนั้นเมื่อปัด ก็ทำให้ฮัวหยู่อันล่วงลงพื้น

“เหอะ เกือบลืมไปแล้ว เจ้ายังมีมูลค่านิดหน่อยให้ใช้”

คิดต้องการรู้ว่าซ่างกวนหนานซู่เป็นใครกันแน่ ฮัวหยู่อันจะทำให้เกิดผลอย่างมาก

“มาสิ พานางไป”

…….

ออกมาจากทะเลสาปหนานหู หลานเยาเยากลับเมืองหลวงโดยตรง นางยังมีธุระต้องทำ ตอนนี้ที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องคนโดนมนต์ดำและการซุ่มสังหารทูต

เรื่องทูตถูกฆ่า จัดการโดยเย่แจ๋หยิ่ง นางช่วยได้ไม่มากเท่าไหร่ แต่เรื่องคนโดนมนต์ดำ จำเป็นต้องเข้าใจแล้ว เพื่อตัดรากถอนโคน

ใกล้เมืองหลวง

ล้อรถม้าไม่หยุดหมุนบดพื้นผิว มั่นคงเสถียรตลอดทาง สะดุดน้อยมาก

ไม่รู้ว่าอย่างไร หินใหญ่ก้อนหนึ่งปรากฏต่อหน้าล้อรถม้ากะทันหัน เมื่อรถม้าดำเนินบดบีบอย่างรวดเร็ว ทำให้รถม้าเอนเอียง ล้มไปด้านข้างโดยตรง หลานเยาเยารีบแฉลบตัวออกมาอย่างรวดเร็ว ถึงไม่ได้พลิกล้มไปกับรถม้า

ม้าที่ล้มลุกยืนอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยกำลังของนางผู้เดียว พยุงรถม้าให้ตรงลำบากมาก

แต่ตอนนี้พยุงรถม้าให้ตรงไม่ใช่จุดประสงค์หลัก

เวลานี้ หลานเยาเยากำลังถูกถนนหนทางด้านหน้า คนที่ล้มนอนบนพื้นผู้หนึ่งดึงดูดสายตา

คนผู้นั้นสวมชุดดำ ล้มขวางกลางถนน หันหลังทางนาง มองเห็นหน้าไม่ชัด แต่จากรูปร่าง เป็นผู้หญิง มองจากชุด เป็นขอทาน

หืม?

คนที่นี่ก็นิยมรีดไถ?

นางเดินไปด้านหน้าช้าๆ หยุดลงข้างกายของหญิงชุดดำ ใช้เท้าสะกิดเป็นการหยั่งเชิงที่ร่างกายของนาง ไม่มีการตอบสนองใด

ดูท่าแล้วคือเป็นลมไปแล้ว

แต่ว่า!

หลานเยาเยาไม่ได้โน้มตัวลงไป เอาคนหมุนกลับมา เพราะว่า เวลานี้นางพบว่าบนตัวของหญิงชุดดำมัดด้วยด้ายเงินเส้นเล็ก ปลายของด้ายเงินเส้นเล็กคดเคี้ยวทอดยาว ยืดออกไปถึงในกอหญ้าข้างถนน

ที่แท้ก็กำลังล่อเหยื่อนี่เอง!

ดูท่า นางกลายเป็นปลาตัวใหญ่แล้ว และคนที่ซ่อนอยู่ในที่ลับก็คนตกปลา

เมื่อเป็นเช่นนี้ นางยิ่งอยากรู้มากขึ้น ถูกคนวางไว้ที่นี่คือใคร?

ด้วยเหตุนี้ นางพลิกตัวหญิงชุดดำที่เป็นลมด้วยความรวดเร็ว หญิงชุดดำถูกพลิกตัวมา ใบหน้าที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นในดวงตา

“เสี่ยวฮัว!”

คือฮัวหยู่อัน หลังจากที่ชนเผ่าหยินไห่ถูกฆ่า นางใช้เวลาสามปีกลายเป็นเทพธิดา เพื่อแก้แค้นเดินทางไปทุกทาง เพื่อแก้แค้น กลับไปที่เมืองหลวงอีก

หลังจากนั้น นางก็ได้พบกับฮัวหยู่อันเพียงสองครั้ง

นางรู้ นางมีชีวิตที่ไม่ดี เหมือนกับนางในเวลานั้น ถูกความแค้นปิดตาทั้งสองข้าง มีชีวิตเพียงเพื่อล้างแค้น

ตอนนี้ได้พบนางอีก เรื่องในอดีตทุกอย่างปรากฏชัดในดวงตา อารมณ์ท่าทางของนาง ทุกคำพูดทุกการกระทำ ล้วนผุดขึ้นในสมองตอนนี้

และตอนนี้กลับมีคนเอานางมาทำเป็นเหยื่อ…….

ใจหลานเยาเยาครุ่นคิด สีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมเล็กน้อย

ชักมีดสั้นออกมาจากช่วงเอว ก็ต้องการทำให้ด้ายเงินที่มัดบนตัวฮัวหยู่อันหลุด และเหมือนที่นางคาดคิด ทุกการกระทำของนาง ผู้ที่แอบซ่อนอยู่ในที่ลับก็อดทนไม่ไหวแล้ว

มีคนออกแรงดึง พาฮัวหยู่อันไปจากข้างกายของนางโดยตรง

ไม่ได้หยุดยั้ง เพราะนางรู้ ด้ายเงินคืออาวุธที่มีประสิทธิภาพร้ายกาจมากชนิดหนึ่งในการฆ่าคน ผู้ที่มีความอดทนและสามารถควบคุมสามารถใช้ด้ายเงินฆ่าคนได้ในเวลาพริบตา อีกทั้งบนด้านเงินเป็นสีดำจางๆ เห็นได้ชัดว่าคือวางยาพิษ

นางไม่สามารถให้ฮัวหยู่อันถูกฆ่าคาที่ได้ ดังนั้นนางจึงไม่ได้หยุดยั้ง

นางเพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น มองดูฮัวหยู่อันถูกคนลากเขาไปในกอหญ้า อดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่น

“ออกมา หานแส อย่าหลบๆซ่อนๆเลย”

จนถึงตอนนี้ คนที่เกิดความสงสัยกับตัวตนของนางไม่น้อย แต่คนที่ทดสอบนางโดยไม่ว่าวิธีการใด คาดว่าก็มีเพียงหานแสแล้ว ไม่ว่าอย่างไรนางก็เพิ่งพบหน้าเขาไม่นาน

เป็นดังคาด!

สิ้นสุดหางเสียง

เสียงปรบมือดังชัดเจนก็ดังเข้าหูของเขา

มีไม่กี่คนออกมาจากกอหญ้า หานแสก็เป็นหนึ่งในนั้น เขามองดูนาง ในแววตาเต็มไปด้วยความเย็นชา ทั้งร่างแผ่กระจายกลิ่นอายที่อันตรายอย่างฉุนเฉียว

ด้านหลังเขามีผู้หนึ่ง ในมือถือปลายด้ายเงินอีกด้านไว้ ฮัวหยู่อันก็อยู่ในมือเขา

“เป็นเจ้าจริงๆ! เจ้าต้องการทำอะไร?”

“คิดว่าข้าต่ำทรามใช่หรือไม่? ไม่ละอายต่อพฤติกรรมชั้นต่ำเช่นนี้ของข้าใช่หรือไม่? เช่นนั้นแล้วอย่างไรล่ะ? ยิ่งเป็นพฤติกรรมที่ชั้นต่ำน่าละอายยิ่งได้ผล ดูสิ ตอนนี้ก็เป็นการพิสูจน์ที่ดีที่สุด

ข้าไม่รู้ว่าควรเรียกเจ้าว่าซ่างกวนหนานซู่ หรือเรียกเจ้าว่าเทพธิดา หรือเรียกว่าหลานเยาเยา?”

แม้ว่าจะใช้ฮัวหยู่อันมาทดสอบ หานแสก็ยังไม่กล้ายืนยันว่า คนตรงหน้าก็คือหลานเยาเยาหนึ่งในสี่ของอดีตผู้ดูแลใหญ่ของเขา

กับการตอบสนองทุกอย่าง ทุกสัญญาณล้วนแสดงได้ชัดว่านางน่าจะเป็นหลานเยาเยานี่!

แต่ว่า……

รูปร่างของนาง ท่าทางของนาง กระทั่งความสูงของนาง ทั้งหมดไม่เหมือนหลานเยาเยาก่อนหน้านี้ แต่พวกเขาก็เหมือนกันมาก

“เรียกตามใจสิ! ข้าไม่มีปัญหา”

หลานเยาเยาไม่ได้ตอบคำถามโดยตรง และไม่ได้ปฏิเสธอย่างสุดความสามารถ โดยรวมก็คือค่อนข้างเป็นไปได้สองทาง ทำให้หานแสยิ่งสงสัยมากขึ้นแล้ว

“เจ้าคือหลานเยาเยาหรือไม่กันแน่?” หานแสถามตรงๆ

สายตาจ้องตรงที่นาง ราวกับว่าต้องการจ้องนางจนเป็นรู

“หากว่าพูดจาทำเรื่องได้ผลกว่า เจ้าก็ทำเหมือนข้าเป็นหลานเยาเยาก็ได้ ข้าไม่ถือสาสักนิด” หลานเยาเยายิ้มบางๆ

“เจ้า…..