War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 1944
ตอนที่ 1,944 : ตกเป็นรอง!

ฟู่มมมม!!!

ครู่ต่อมาพลังเซียนสุริยันในร่างของต้วนหลิงเทียน หลังจากดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดินโดยรอบเข้ามาหนุนเสริม พลังอำนาจของมันก็เพิ่มพูนทวีจนปะทุระเบิดออกมาอย่างรุนแรง!

เพียงเวลาชั่วพริบตาเดียว บัดนี้พลังเซียนสุริยันในกายต้วนหลิงเทียนก็เพิ่มพูนถึงขั้นที่สามารถเปรียบเทียบได้กับพลังเซียนขอบเขตเซียนปฐพีขั้นสูงสุดแล้ว!

เมื่อเช้าวันนี้ต้วนหลิงเทียนก็อาศัยพลังขอบเขตเซียนปฐพีขั้นสูงสุดดังกล่าว สยบจางจี้ผู้เป็นศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬมาช้านานอันมีพลังฝึกปรือถึงขอบเขตเซียนนภาขั้นต้นมาได้!

กระทั่งจางจี้ที่สามารถควบคุมใช้ออกด้วยเวทย์พลังจู่โจมระดับสูง ทั้งเวทย์พลังป้องกันขั้นกลางเขายังเอาชนะมาได้ ยังจะนับประสาอะไรกับหยวนหงผู้นี้ที่พลังฝีมือไม่อาจเทียบจางจี้ได้ติด!

และนับว่าโชคดีนักที่ต้วนหลิงเทียนตัดสินใจเข้าไปพักฟื้นบนชั้น 4 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ!

หาไม่แล้ว พลังวิญญาณของเขาตอนนี้หรือกระทั่งพลังเซียนสุริยันในกายคงมิอาจฟื้นฟูได้ถึงระดับนี้!

ถึงแม้ว่าอันที่จจริงแล้วพลังยังไม่ฟื้นฟูดังเดิม ทว่าเพียงเท่านี้ก็มากพอจะจัดการหยวนหง!

หยวนหงเป็นเพียงผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนนภาขั้นต้นทั่วๆไปเท่านั้น ยังไม่ถึงชนชั้นยอดฝีมือของด่านพลัง

ให้เป็นจางจี้ลงมือ ก็เกรงว่าไม่เกิน 10 กระบวนท่าก็เอาชนะหยวนหงได้!

แต่พลังฝีมือของต้วนหลิงเทียนยามลงมือเต็มที่ก็ไม่เป็นรองจางจี้แม้แต่น้อย กระทั่งยังแทบพลั้งมือฆ่าคน ไหนเลยยังต้องการถึง 10 กระบวนท่าจัดการหยวนหง!

“มาได้ดี!”

มองหยวนหงที่พุ่งทะยานเข้ามาลูกตาต้วนหลิงเทียนทอประกายเย็นเยียบวูบหนึ่ง ปีกอีกาทองคำคู่โตกลางหลังพลันสะบัดกระพืออย่างแรง ยังผลให้ความเร็วของเขาพุ่งทะยานสูงขึ้นในฉับพลัน ยังว่องไวยิ่งกว่าหยวนหงที่พุ่งเข้ามาเสียอีก!

“ไฉนถึงเร็วได้ขนาดนั้นกัน!?”

เห็นต้วนหลิงเทียนปะทุความเร็วออกมา เหล่าศิษย์แท่นบูชานกไฟอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงกันไปเป็นแถบ!

ในฐานะของผู้ชมมองเหตการณ์อยู่วงนอก ไหนเลยยังจะบอกกันไม่ได้ว่าความเร็วที่อยู่ๆต้วนหลิงเทียนก็ระเบิดออกมา มันเร็วกว่าของหยวนหงอยู่เล็กน้อย!

ฉากนี้ย่อมทำให้พวกมันตกใจเป็นธรรมชาติ!

เพราะจากข้อมูลข่าวสารที่พวกมันไดรับมานั้น ความเร็วสูงสุดที่ต้วนหลิงเทียนสามารถใช้ออกได้ ยามฆ่าศิษย์อัจฉริยะกู่หลงศิษย์ใหม่แท่นบูชาเต่าทมิฬที่มีพลังฝึกปรือเซียนปฐพีขั้นสูงสุดนั้น อย่างดีก็เทียบได้กับเซียนนภาขั้นต้นเท่านั้น!

“ให้ตายเถอะ…หากข้ามองไม่ผิด ความเร็วที่ต้วนหลิงเทียนใช้ออกยามนี้น่ากลัวจะเทียบได้กับพวกเซียนนภาขั้นกลางทั่วๆไปแล้วด้วยซ้ำ!”

ในบรรดาศิษย์แท่นบูชานกไฟที่มาชมดูเรื่องราวสนุกสนานย่อมไม่ขาดยอดฝีมือขอบเขตเซียนนภา ย่อมง่ายดายที่จะมองเห็นถึงเรื่องนี้

“ศิษย์พี่ท่านว่าอะไรนะ!? ความเร็วของต้วนหลิงเทียนเทียบได้กับเซียนนภาขั้นกลางเลยเชียวรึ!?”

ทันใดนั้นเหล่าศิษย์แท่นบูชานกไฟที่ได้ยินวาจาดังกล่าว ก็โพล่งอุทานถามไถ่กันออกมาด้วยความตกใจ

“ให้ตายเถอะ…นี่ยังพึ่งผ่านไป 10 วันเท่านั้น ไฉนความเร็วผู้คนกลับเพิ่มพูนได้ถึงขนาดนี้กันเล่า…นี่ที่แท้มันยังไงกันแน่ผู้ใดบอกข้าพเจ้าได้บ้าง!?”

“เห็นที 10 วันก่อนเป็นมันปกปิดพลังเอาไว้แน่!”

“อาจเป็นได้! จากข่าวที่พวกเราได้รับจากแท่นบูชาเต่าทมิฬเมื่อสองสามวันก่อน แม้พลังของต้วนหลิงเทียนจะทัดเทียมได้กับเซียนนภาขั้นต้น แต่ยังไม่ถึงขั้นจะคุกคามยอดฝีมือขอบเขตเซียนนภาขั้นต้นได้…เช่นนั้นเป็นไปได้อย่างยิ่งที่ยามประมือกับกู่หลงจะเป็นมันออมมือเอาไว้!”

“อันที่จริงยังมีความเป็นไปได้อยู่อีกประการหนึ่ง…นั่นคือหลังจากมันฆ่ากู่หลงแล้ว ในช่วงเวลา 10 วันที่ผ่านมันสามารถทะลวด่านพลังบรรลุถึงขอบเขตเซียนปฐพีขั้นกลาง!”

ทันทีที่ต้วนหลิงเทียนระเบิดความเร็วดังกล่าวออกมา ย่อมทำให้ผู้คนถกเถียงกันไม่น้อยถึงพลังที่แท้จริงที่ต้วนหลิงเทียนมี เพราะเรื่องนี้สร้างความตกใจให้พวกมันไม่น้อยแล้วจริงๆ

เพราะการต่อสู้ตรงหน้าย่อมเปิดเผยพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียนให้พวกมันเห็นกับตา!

อย่างไรก็ตามจากข่าวที่ได้มา ความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียนเมื่อ 10 วันก่อน หากนำเอามาเทียบกับตอนนี้เกรงว่าคงเทียบกันไม่ได้เลย!

คนละระดับอย่างสิ้นเชิง!

“เป็นไปได้ยังไงกัน!”

ขณะเดียวกันทางด้านหยวนค่วงที่หอบหิ้วสะกดกู่ลี่อยู่ ก็หน้าเสียทันทีเมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนปะทุความเร็วที่เหนือกว่าพี่ชายออกมา

“ฮ่าๆๆ…แค่กๆ…ฮ่าๆๆ…ดี! ดียิ่งน้องหลิงเทียน!!”

กู่ลี่เองก็ค้นพบเรื่องนี้เช่นกัน จึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอย่างสะใจ หากแต่ในใบหน้าแววตาที่ยินดีมีสุขยังฉายชัดถึงความประหลาดใจไม่น้อย

“เจ้าหัวเราะบัดซบอะไร หา!”

เพี๊ยะ!!

ได้ยินเสียงกู่ลี่หัวเราะร่าออกมา หยวนค่วงหน้าเปลี่ยนไปทันใด มือสะบัดตบหน้ากู่ลี่อีกครั้ง พาลให้ใบหน้าของกู่ลี่อีกครึ่งปูดบวมขึ้นมาเป็นลูก

“จะตีข้าก็ตีไป…แต่เจ้าอย่าได้คิดว่าจะวางท่าเช่นนี้ได้อีกนาน! หากเจ้าไม่กล้าฆ่าข้าเสียตอนนี้เจ้าอย่าหวังจะหนีไปที่ใดได้!!”

กู่ลี่ที่ถูกตบหน้าอีกครั้งพ่นโลหิตออกมาคำหนึ่ง ใบหน้าเริ่มแสยะยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย

และวาจาที่โหดเหี้ยมไม่หวั่นกลัวนี้ของกู่ลี่ กลับทำให้หยวนค่วงบังเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาแล้วจริงๆด้านหนึ่งยังทำให้มันมีโทสะอารมณ์นัก! แต่ว่ามันก็ไม่กล้าลงมือฆ่ากู่ลี่จริงๆ!!

“เจ้า…”

สุดท้ายหยวนค่วงที่ทั้งกลัวทั้งมีโมโหก็ได้แต่ลงมือตบหน้ากู่ลี่ไปอีกหลายครั้งเพื่อระบายอารมณ์ แต่แน่นอนว่าความกล้าจะฆ่ากู่ลี่หรือทำให้พิการไม่มีอยู่

อย่าว่าแต่มัน กระทั่งให้เป็นพี่มันหยวนหง ที่คิดระบายแค้นให้บรรพจารย์อย่างหลี่อัน ก็ยังไม่กล้าฆ่าต้วนหลิงเทียนจริงๆ

เพราะพวกมันล้วนหวาดกลัว ‘กฏ’ ของลัทธิบูชาไฟ!

หยวนหงจะอย่างไรก็เพียงมีพรสวรรค์รากวิญญาณสีเขียวเท่านั้น หากละเมิดกฏของลัทธิบูชาไฟล่ะก็ ไม่พ้นตกตายสถานเดียว!!

ถึงตอนนั้นจะให้เป็นอาจารย์ หรือบรรพจารย์อย่างหลี่อันก็ไม่อาจช่วยได้!

ถึงแม้พรสวรรค์รากวิญญาณของอาจารย์ของหยวนหงจะเป็นรากวิญญาณสีน้ำเงิน แต่หยวนหงก็คือหยวนหงอาจารย์ก็คืออาจารย์ ทั้งสองไม่อาจไม่แยกแยะ

เว้นเสียแต่พรสวรรค์รากวิญญาณของหยวนหงจะเป็นสีน้ำเงินบ้าง เช่นนั้นอาจารย์ของมันยังพอมีหนทางรักษาชีวิตของมันเอาไว้ได้…

“ไฉนมันถึงได้เร็วเพียงนี้!

เมื่อเห็นความเร็วดังกล่าวของต้วนหลิงเทียน หยวนหงย่อมตระหนักได้ในพริบตา หน้าของมันเองก็เปลี่ยนสีไปทันที

‘หรือมันจะทะลวงผ่านไปยังเซียนปฐพีขั้นกลางแล้วจริงๆ!?’

ทันใดนั้นความคิดดังกล่าวก็ผุดขึ้นในใจหยวนหง

เรื่องที่ตอนต้วนหลิงเทียนฆ่ากู่หลงว่าที่ศิษย์หลี่อันซึ่งมีพลังฝึกปรือขอบเขตเซียนปฐพีขั้นสูงสุดเมื่อ 10วันก่อน อีกฝ่ายยังมีพลังฝึกปรือเพียงเซียนปฐพีขั้นต้นย่อมแพร่กระจายมาแต่แรก

เช่นนั้นทันทีที่มันเห็นความเร็วที่ต้วนหลิงเทียนระเบิดออกมา มันจึงปักใจเชื่อทันทีว่าต้วนหลิงเทียนได้ทะลวงด่านพลังสำเร็จ บรรลุถึงเซียนปฐพีขั้นกลางเรียบร้อยแล้ว!

‘ดูเหมือนมันจะก้าวหน้าแล้วจริงๆ…กลิ่นอายพลังทั่วร่างของมันตอนนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าเซียนปฐพีขั้นสูงสุดแม้แต่น้อย! นี่น่ะเหรอพลังอำนาจของเวทย์พลังสายสนับสนุนขั้นสูงแปลกประหลาดที่มันมี ช่างร้ายกาจยิ่งนัก!’

ชั่วเวลาเสี้ยวพริบตาความคิดมากมายก็วิ่งผ่านใจของหยวนหง และยังเป็นความคิดอิจฉาริษยานัก!

ในสายตาหยวนหง ต้วนหลิงเทียนก็แค่เซียนปฐพีกระจ้อยร่อยเท่านั้น

ทว่าตัวตนเช่นนี้กลับบรรลุเวทย์พลังขั้นสูงถึงสองสาย!

นี่นับเป็นระเบิดห่าใหญ่ในใจของหยวนหงที่ไม่แม้แต่จะสำเร็จเวทย์พลังขั้นสูงอันใดนัก!

ด้วยเหตุนี้หยวนหงจึงอิจฉาต้วนหลิงเทียนทั้งยังริษยาคับแค้นนัก!

ทว่าแม้ต้วนหลิงเทียนจะเปิดเผยความเร็วที่เหนือกว่ามันออกมา แต่หยวนหงก็ยังไม่คิดยอมแพ้ง่ายๆ ‘เหตุผลเดียวที่มันรวดเร็วเหนือกว่าข้าได้เป็นเพราะเวทย์พลังสนับสนุนขั้นสูงนั่น หากไม่มี…ลำพังใช้เวทย์พลังเสริมเคลื่อไหวขั้นสูงอย่างเดียวมันยังคงช้ากว่าข้า!’

‘เว้นเสียแต่มันจะแตกฉานเวทย์พลังสายจู่โจมขั้นสูงอีกอย่าง…หาไม่แล้วต่อให้พลังของมันจะเพิ่มพูนจากเวทย์พลังสนับสนุนร้ายกาจนั่นเพียงใด พลังฝึกปรือของมันก็ยังเทียบได้กับเซียนปฐพีขั้นสูงุสดเท่านั้น มันยังไม่อาจทำร้ายข้าได้!’

ยิ่งคิดไตร่ตรองหยวนหงก็ยิ่งมั่นใจ

‘มันเร็วกว่าข้าได้แต่ทั้งหมดก็เพราะมีเวทย์พลังสนับสนุนนั่น หากระยะเวลาแสดงผลหมดลงเมื่อใด…ตอนนั้นความเร็วของมันก็จะตกลงเหมือนก่อนหน้า! ตอนนั้นยังจะมาเทียบชั้นอะไรข้าได้!!’

ลูกตาหยวนหงทอประกายเยียบเย็นออกมา ร่างมันที่ชะงักไปวูบหนึ่งพอคิดตกความเร็วก็ปะทุออกคืนสู่จุดสูงสุด จี้ตรงเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนอย่างไม่หวาดกลัวอีกต่อไป

ปงงง!!

เร็วดั่งอัสนีลั่นวาบ หยวนหงพลันยิงหมัดออกไปด้วยความเร็วสูงสุด!

หมัดนี้มองไปกล่าวได้ว่าธรรมดา หากแต่กลิ่นอายพลังกลับไม่ธรรมดาคล้ายมีอานุภาพลึกล้ำแฝงเร้น

หลังชกซัดออกไป มวลอากาศเบื้องหน้าก็แตกละเบิดดังสนั่น ลมลั่นดังปานฟ้าร้อง มวลพลังมหาศาลขุมหนึ่งปะทุโถมถันเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนทันที!

อานุภาพพลังหมัดนี้ เกรงว่าให้เป็นขุนเขาลูกใหญ่ก็เกรงว่าอาจจะถูกซัดทำลายหายไปได้ง่ายๆ!

เผชิญหน้ากับพลังหมัดอันมหาศาลของหยวนหง แววตาต้วนหลิงเทียนยิ่งเย็นลง

ฟุ่บ!

สะบัดมือขึ้นคราหนึ่ง พลันปรากฏกระบี่ร้อยอาคมเซียนที่ยึดมาจากหยางหวู่ กระบี่กรีดกรายฉับไวเผยเส้นแสงประกายหนึ่งวาบออก แม้จะตวัดออกไปคล้ายไร้เรื่องราวหากแต่แฝงเร้นพลังอำนาจลี้ลับจากเคล็ดเงากระบี่สัมพันธ์ใจอันเป็นเคล็ดกระบี่ขั้นที่ 2 ของยอดใจกระบี่!!

อำนาจลี้ลับจากเคล็ดเงากระบี่สัมพันธ์ใจที่ต้วนหลิงเทียนใช้ออก พลังอานุภาพของมันไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าวรยุทธ์เซียนระดับนภาโดดเด่นแม้แต่น้อย

และภายใต้สายตามองชมอย่างใจจดจ่อของทุกคน กระบี่ที่ต้วนหลิงเทียนฟันฟาดออกก็ปะทะเข้ากับหมัดอันเปี่ยมพลังสุดไพศาลของหยวนหงอย่างจัง!!

กล่าวให้ชัดเป็นรังสีพลังจากหมัดและกระบี่ทั้งสองที่แผ่พุ่งออกมาปะทะกัน!

การประจัญหน้าครั้งนี้เป็นต้วนหลิงเทียนพลังอำนาจของกระบี่ร้อยอาคมเซียนแล้ว หากแต่หยวนหงกลับชกซัดพลังออกจากหมัดเปล่าเปลือยเท่านั้น อาจกล่าวได้ว่าต้วนหลิงเทียนมีเปรียบไม่น้อย!

ปงงงง!!!

พร้อมกันกับเสียงดังสนั่นลั่นฟ้า คลื่นพลังสะท้อนอันน่าสะพรึงกลัวขุมหนึ่งพลันกำจายออกจากจุดปะทะ ก่อให้เกิดสายลมคุ้มคลั่งปานมหาพายุกวาดซัดออกไปยังเหล่าศิษย์แท่นบชานกไฟโดยรอบ!

เหล่าศิษย์แท่นบูชานกไฟที่พลังฝีมือสูงส่งเพียงเร่งเร้าพลังคลุมกายต้านทาน รองมาก็เพียงแค่หดหยีลูกตา ที่อ่อนด้อยก็ไม่กล้าแข็งขืนต้านทานเพียงปล่อยให้คลื่นลมชักนำร่างถอยไปหลายก้าวใหญ่

หลังผ่านไปครู่หนึ่ง

ทุกคนพลันมองไปยังจุดศูนย์กลางของการปะทะอีกครั้ง พบว่าหยวนหงยังคงลอยร่างหยุดค้างอย่างสงบ เพียงปล่อยให้คลื่นพลังสะท้อนทั้งสายลมพัดถล่มร่างอย่างไม่นำพา

กลับกันต้วนหลิงเทียนกลับปลิดปลิวกระเด็นออกไปจากพลังสะท้อน สีหน้ายังไม่ค่อยจะสู้ดีนัก!

โอ! อา!

เห็นฉากดังกล่าวเสียงอุทานฮือฮาพลันระงมขึ้นมาทันที

“ข้าคิดว่าต้วนหลิงเทียนที่มีความเร็วเหนือกว่าศิษย์พี่หยวนหงจะมีพลังกล้าแข็งกว่าด้วยเสียอีก…ไม่คิดเลยว่าที่แท้ยังมิอาจเทียบได้ถึงกับตกเป็นรองอย่างเห็นได้ชัดเพียงนี้! โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อครู่มันใช้พลังของอาคมเซียนนับร้อยไปแล้ว แต่ศิษย์พี่หยวนหงมิได้!”

“พวกเจ้าอย่าได้เลอะเลือนไป ลืมแล้วหรือว่าด่านพลังของต้วนหลิงเทียนยามนี้เพียงอยู่ในขอบเขตเซียนปฐพีขั้นสุงสุด แต่อย่างไรหยวนหงก็บรรลุเซียนนภาขั้นต้น อานุภาพความเข้มแข็งของพลังไหนเลยจะอ่อนด้อยกว่ากันได้! ที่ความเร็วต้วนหลิงเทียนนั่นเหนือล้ำกว่าเป็นเพราะมีเวทย์พลังเสริมเคลื่อนไหวปีกทองนั่นช่วย!”

“มิผิด! พลังจู่โจมของต้วนหลิงเทียนที่แม้จะได้เวทย์พลังสนับสนุนส่งเสริมก็เพียงอยู่ในขอบเขตเซียนปฐพีขั้นสูงสุดเท่านั้น! เรียกว่าทั้งหมดล้วนต้องขอบคุณเวทย์พลังหนุนเสริบร้ายกาจนั่น…แต่หากสิ้นระยะเวลาแสดงผลของเวทย์พลังนั่นเมื่อใด พลังฝึกปรือต้วนหลิงเทียนก็จำต้องตกลง ถึงยามนั้นยังจะมีหนทางเอาชนะหยวนหงหรือไร!?”

“นอกเสียจากว่า…มันจะมีเวทย์พลังสายจู่โจมขั้นสูงอีกชนิด หาไม่แล้วคงยากจะทำอันใดหยวนหงได้!”

……

เมื่อเห็นว่าวัดพลังกันครั้งแรกต้วนหลิงเทียนเป็นฝ่ายเสียเปรียบและตกเป็นรองอย่างเห็นได้ชัด เสียงสนทนนาของเหล่าศิษย์แท่นบูชานกไฟพลันระงมดังออกมาอีกครั้ง และผู้ที่พูดต่างไม่มีใครมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับต้วนหลิงเทียนเลย

“บางที…ต้วนหลิงเทียนอาจเชี่ยวชาญเวทย์พลังสายจู่โจมระดับสูงเช่นกัน เพียงแต่ยังมิได้ใช้ออก?”

ยังมีคนกลุ่มน้อยบางส่วนกล่าวความเห็นออกมา