เจียงหยุนเอ๋อตื่นขึ้นมาทันที ลี่จีถองสังเกตเห็นเจียงหยุนเอ๋อที่อยู่ในอ้อมกอดเขามีอาการสั่น และตื่นขึ้นมา จึงยื่นมือไปลูบศีรษะ เพื่อปลอบเธอ แต่กลับลูบโดนเหงื่อเต็มหัว และเขาก็ยื่นมือไปจับร่างกายของเจียงหยุนเอ๋อ เต็มไปด้วยเหงื่อเหมือนกัน
ลี่จีถองรีบเปิดไฟหัวเตียง แล้วมองไปที่เจียงหยุนเอ๋อ “หยุนเอ๋อ คุณเป็นอะไร?”
ถึงแม้เจียงหยุนเอ๋อจะตกใจตื่นแล้ว แต่เธอยังคงจมอยู่กับความฝันที่เต็มไปด้วยเลือด และสายตาเม่อลอย
ลี่จีถองมองดวงตาที่ไร้จุดโฟกัสของเจียงหยุนเอ๋อแล้ว รีบกดลงไปที่จุดเหรินจงของเจียงหยุนเอ๋อ เมื่อเจียงหยุนเอ๋อสัมผัสถึงความเจ็บปวด จึงตื่นขึ้นมา
หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อตื่นมาแล้ว ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความกลัว แล้วจับแขนของลี่จีถองไว้ ร้องไห้ออกมา
ลี่จีถองรีบดึงเจียงหยุนเอ๋อไปกอดไว้ ปลอบใจเธอตลอดเวลา ผ่านไปสักพัก เจียงหยุนเอ๋อจึงเริ่มใจเย็นลง และเล่าความฝันของเธอให้ลี่จีถองฟัง
“จีถอง เมื่อกี้ฉันฝันแปลกมาก มีคนกลุ่มหนึ่งคลุมหน้าไว้แล้วจับตัวฉันไป จากนั้นจับฉันไปขังไว้ในห้องเล็กๆ ห้องหนึ่งและปิดตาฉันไว้ และในห้องนั้นมีแค่เตียงเดียว หลอดไฟก็ไม่มี มีแค่หน้าต่างหนึ่งบานและเล็กมาก ส่วนฉันก็หาประตูไม่เจอ ฉันขอความช่วยเหลืออย่างสุดชีวิต แต่ก็ไม่มีใครมาช่วยฉัน”
“หลังจากนั้น ฉันเป็นลมไป และเมื่อฉันตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ฉันก็ขึ้นไปนอนอยู่บนเตียงแล้ว มือทั้งสองข้างกับเท้าทั้งสองข้างของฉันถูกมัดไว้ จากนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งถูกเข็นเข้ามา ผู้หญิงคนนั้นเต็มไปด้วยสายน้ำเกลือ หลับตาเหมือนคนตายไปแล้ว ฉันอยากจะเรียกเธอ แต่ฉันก็ไม่สามารถออกเสียงได้ อีกอย่างดวงตาของฉันถูกปิดด้วยผ้าก๊อซ มองเห็นหน้าเธอชัดเจนเลย”
“หลังจากที่เธอถูกวางลง คุณหมอที่เข็นเธอเข้ามาพวกนั้น ก็มาอยู่ข้างกายฉัน พวกเขาปิดหน้าไว้อย่างมิดชิด แต่สายตาพวกเขาเหมือนกำลังมองเหยื่อ ต่อจากนั้นฉันเห็นพวกเขาผ่าท้องของฉันออก แล้วเอาลูกของฉันออกมาจากท้อง เขาตัวเล็กขนาดนั้น ร่างกายเต็มไปด้วยเลือด แล้วถูกโยนทิ้งไป”
“จากนั้นพวกเขาสูบเลือดฉันไป เพื่อสูบให้กับหญิงสาวที่อยู่ข้างๆ ฉันคนนั้น หลังจากนั้นพวกเขาเข็นเธอออกไป เหลือเพียงฉันนอนอยู่เตียงนอนผู้ป่วยที่เย็นยะเยือกนั้น ร่างกายเต็มไปด้วยเลือด จากนั้นก็ค่อยๆ ตายไป และฉันก็ตกใจตื่นขึ้นมา ความฝันนั้นช่างเหมือนความจริงเหลือเกิน
ในขณะที่เจียงหยุนเอ๋อพูดอยู่นั้น เริ่มร้องไห้ขึ้นมา และไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อยู่เป็นเวลานาน
ลี่จีถองเห็นเจียงหยุนเอ๋อน้ำตานองหน้า รู้สึกปวดใจมาก เช็ดน้ำตาให้เจียงหยุนเอ๋ออย่างอ่อนโยน พูดกับเจียงหยุนเอ๋ออย่างจริงจังว่า: “นี่เป็นแค่ความฝัน ไม่ใช่ความจริง อีกอย่างผมจะปกป้องคุณเอง ถ้าใครกล้าทำอะไรคุณ ผมจะให้พวกมันตายอย่างไร้ที่ฝังเลย”
ภายใต้การปลอบใจของลี่จีถอง อารมณ์ของเจียงหยุนเอ๋อค่อยๆ สงบลง และนอนหลับไป
วันรุ่งขึ้น หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อตื่นนอน ได้นึกถึงความฝันเมื่อคืนอีกครั้ง รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที แต่เพื่อลูกในท้องแล้ว เธอเก็บความกลัวนั้นไว้ ไม่ให้ตัวเธอไปนึกถึงความฝันนั้นอีก
แต่ว่า เมื่อเจียงหยุนเอ๋อกำลังดูข่าวในวันนี้อยู่นั้น จู่ๆ ก็มีข่าวเด่นปรากฏขึ้นมา ซึ่งข่าวเด่นนี้กล่าวถึงคดีคดีอาญาเกี่ยวกับอาชญากรรมระหว่างประเทศ
เจียงหยุนเอ๋อกดเข้าไปดู เนื้อหาข่าวเขียนว่า: “ช่วงนี้ หลายประเทศทั่วโลกมีคดีเกี่ยวกับหญิงมีครรภ์ที่ถูกควักตัวเด็กในท้องตัวเป็นๆ ออกไปจากท้องแม่ ซึ่งฝีมือโหดเหี้ยมมาก ตอนนี้ หลายประเทศได้ร่วมมือกันออกหมายจับระหว่างประเทศแล้ว”
อีกอย่าง ในเนื้อข่าวมีภาพประกอบที่ถูกเซนเซอร์ไว้หลายใบประกอบอยู่ด้วย ทำให้เจียงหยุนเอ๋อกลัวจนตัวสั่น ความกลัวที่กดทับไว้โผล่ขึ้นมาอีกครั้ง เจียงหยุนเอ๋อนึกถึงความฝันเมื่อคืนที่ตัวเองนอนจมกองเลือดขึ้นมาอีกครั้ง อดไม่ได้ที่จะอยากอาเจียนแต่ก็อาเจียนไม่ออก
ลี่จีถองที่อยู่ข้างๆ เจียงหยุนเอ๋อมองเห็นเหตุการณ์นี้ รีบปิดหน้าเวฟข่าวลง และเอาไอแพดจากเจียงหยุนเอ๋อมา วางไว้อีกข้าง จากนั้นสวมกอดเจียงหยุนเอ๋อไว้ เพื่อปลอบใจเธอ
“คุณไม่ต้องกลัว ไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นกับคุณแน่ ผมจะส่งคนมาปกป้องคุณเพิ่มมากขึ้น คราวหลังไม่ว่าคุณจากออกนอกบ้านไปทำอะไร ผมจะไปเป็นเพื่อนคุณเอง”
เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้า คิดเหมือนกันว่าตัวเธออาจจะคิดมากเกินไป
เมื่อเวลาผ่านไปอย่างสงบในแต่ละวัน เรื่องนี้จึงเงียบหายไป
และในเวลาเดียวกันนั้น ซูซานกำลังรอโอกาสที่จะลงมือ อีกอย่างเธอยังให้อลันหาเรื่องลี่จีถองต่อ อยากใช้เรื่องของบริษัทลี่ซี่อกรุ๊ป มาเบี่ยงเบนความสนใจของลี่จีถอง
อลันได้ทำตาม จากนั้นแจ้งให้กู้เฟยหลินเริ่มปฏิบัติการ กู้เฟยหลินอยากนัดเจออลันเพื่อออกมาคุยรายละเอียด แต่เนื่องจากซูซานอยู่
กู้เฟยหลินไม่รู้ว่าซูซานกลับมาแล้ว ก็ยังคงชวนอลันออกมาอย่างไม่ย่อท้อ
“คุณอลัน ทำไมเหรอ?ตอนนี้คุณเบื่อฉันแล้วเหรอ?คุณไม่อยากออกมาเจอฉันจริงเหรอ?”
“เป็นไปได้ยังไง?คุณกู้เฟยหลินออกจะสวยขนาดนี้ ผมจะเกลียดคุณได้ยังไงกัน”
“ถ้าอย่างนั้นทำไมคุณไม่ออกมาเจอฉันล่ะ?”
“มันไม่สะดวกจริงๆ ผู้หญิงที่ผมรักที่สุดกลับมาแล้ว ผมต้องอยู่เป็นเพื่อนเธอ”
“โอ้ว~อย่างนั้นเหรอ ถ้างั้นก็ได้ ฉันไม่รบกวนคุณอลันแล้ว”
หลังจากนั้น กู้เฟยหลินใช้โทรศัพท์ติดต่อกับอลันเท่านั้น
ตอนนี้กู้เฟยหลินรับผิดชอบสองโปรเจคใหญ่ของบริษัท สองโปรเจคนี้ได้รับความสนใจจากทั้งผู้บริหารและพนักงานของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปมาก ดังนั้นสายตาทั้งหมดของบริษัทต่างพุ่งเป้าและจับตามองมาที่กู้เฟยหลิน
ด้วยความสามารถของกู้เฟยหลินแล้ว ทั้งสองโปรเจคนี้ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ดังนั้นทั้งสองโปรเจคนี้ที่เธอรับผิดชอบอยู่จึงดำเนินการได้อย่างราบรื่น ทั้งแผนกและแม้แต่พนักงานทั้งบริษัทต่างชื่นชมเธอมาก
คนเดียวที่สามารถแข่งกับเธอได้คือพนักงานขายต่างประเทศคนนั้น และก็คือกวนเซ่าเผิงที่ผลงานอันดับหนึ่งมาตลอดทั้งปีคนนั้น
กวนเซ่าเผิงคนนี้ ตั้งแต่เข้ามาในบริษัท ด้วยความสามารถที่เก่งมากทางด้านการตลาด ได้รับความสนใจและให้ความสำคัญ ตอนนี้โปรเจคในมือ ล้วนใหญ่กว่าของกู้เฟยหลินทั้งนั้น
ตอนแรก เมื่อตอนที่กู้เฟยหลินเข้ามาในบริษัท กวนเซ่าเผิงกำลังคุยธุรกิจอยู่ต่างประเทศ หลังจากที่เขากลับมา ก็เคยได้ยินผลงานของกู้เฟยหลินเหมือนกัน และก็ชื่นชมเธอมากด้วย เพราะคนเก่งที่ยอดเยี่ยมเหมือนเขา ไม่ค่อยเห็นบ่อยมากนัก
แต่เนื่องจากโปรเจคที่ทั้งสองคนรับผิดชอบไม่เหมือนกัน ดังนั้นทั้งสองคนจึงไม่ค่อยได้เจอกันมากนัก ถึงแม้จะเจอกัน ก็แค่พยักหน้าทักทายกันเท่านั้นเอง
โปรเจคยาที่กวนเซ่าเผิงรับผิดชอบอยู่ ปัจจุบันบริษัทกำลังจะวิจัยสำเร็จ ยาชนิดนี้ถ้าวางขายในตลาดได้ ต้องทำให้เกิดกระแสตอบรับอย่างมหาศาลทั้งในตลาดและทางด้านการแพทย์แน่นอน
หลังจากที่กู้เฟยหลินรู้ว่ามีโปรเจคนี้อยู่ จึงรีบรายงานให้อลันทราบ อลันให้กู้เฟยหลินขโมยข้อมูลของโปรเจคนี้ และกู้เฟยหลินก็ยอมทำตามแต่โดยดี
กู้เฟยหลินเพื่อขโมยข้อมูล เริ่มตีสนิทกับกวนเซ่าเผิง กวนเซ่าเผิงถึงแม้จะสงสัยว่าทำไม่ช่วงนี้กู้เฟยหลินชอบหาเขา แต่เป็นเพราะว่าเป็นผู้หญิงที่สวยและเก่งขนาดนี้ กวนเซ่าเผิงก็เต็มใจและยินดี