ตอนที่ 1173 พันธมิตร (2) ตอนที่ 1174 พันธมิตร (3)

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 1173 พันธมิตร (2) / ตอนที่ 1174 พันธมิตร (3)
ตอนที่ 1173 พันธมิตร (2)

“ฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียน” จวินชิงคำนับ

จวินอู๋เสียพยายามสงบใจเอาไว้และหันไปมองจวินชิง แววตาของนางงุนงงเล็กน้อย

จวินชิงพยายามไม่หัวเราะออกมาดังๆ และพูดว่า “กระหม่อมสงสัยว่าพันธมิตรที่ฝ่าบาทพูดถึงหมายความว่าอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ”

คำถามของจวินชิงทำให้ทุกคนในเมืองตื่นกลัวขึ้นมา ต้องรู้ว่าทหารหนึ่งล้านคนของรัฐเหยียนอยู่นอกเมืองนี่เอง และพวกเขาก็เห็นกับตาตัวเองแล้วว่าชายหนุ่มผู้มีใบหน้างดงามสมบูรณ์แบบที่ยืนอยู่ด้านหลังจวินเสียนั้นน่ากลัวแค่ไหน คำพูดของจวินเสียที่พูดเมื่อครู่ก็เห็นได้ชัดว่ามีเจตนาจะยึดรัฐชี แต่จวินชิงก็ยังถามคำถามแบบนี้ขึ้นมาอีก ทำให้ทุกคนที่นั่นเหงื่อแตกพลั่ก

การถูกรัฐทั้งสี่บุกโจมตีทำให้คนของรัฐชีอ่อนล้าทั้งกายและใจ และกองกำลังของรัฐชีก็ไม่สามารถเอาชนะกองทัพของรัฐเหยียนได้จริงๆ

พวกเขาเห็นจวินเสียเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง ทุกคนพากันใจสั่นและร้องอยู่ในใจว่า “ไม่นะ” ทหารบางคนของรัฐชีหยิบอาวุธที่เพิ่งวางขึ้นมาอย่างร้อนรน แต่ทหารกองทัพรุ่ยหลินทุกคนกลับดูสงบนิ่ง พวกเขามองพวกคนขวัญอ่อนอย่างเย้ยหยัน

“ก็หมายความตามนั้น” จวินอู๋เสียไม่เข้าใจว่าทำไมท่านอาเล็กของนางถึงถามขึ้นมาอีก พันธมิตรก็หมายความว่าพันธมิตรไม่ใช่หรือ

จวินชิงรู้สึกจนปัญญา เขาคิดว่าจวินอู๋เสียจะไหวตัวขึ้นมาบ้าง แต่จากที่เขาเห็น ท่าทางเขาคงหวังมากไปหน่อย เด็กน้อยคนนี้ยังไม่รู้ตัวเลยว่าคำพูดของนางทำให้คนที่นี่กลัวกันมากแค่ไหน

“กระหม่อมถามว่า…พันธมิตรนี่คือเป็นการร่วมกันของรัฐสองรัฐ หรือเป็นการที่รัฐเหยียนขึ้นปกครองอยู่เหนือสุดพ่ะย่ะค่ะ” จวินชิงรู้สึกว่าคำพูดของเขาไม่อาจตรงเข้าประเด็นได้มากกว่านี้แล้ว

คำถามจากจวินชิงยิ่งทำให้คนของรัฐชีหวาดกลัวมากขึ้นไปอีก

ฮ่องเต้ของรัฐเหยียนก็พูดชัดขนาดนั้นแล้ว ทำไมท่านจวินชิงยังดื้อแพ่งอยู่อีก

โชคดีที่ในที่สุดจวินอู๋เสียก็เข้าใจคำใบ้ที่ท่านอาเล็กของนางพยายามบอก นางกวาดสายตามองชาวเมืองที่ดูตึงเครียดกระสับกระส่าย แล้วหันไปมองพวกทหารที่หยิบอาวุธขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะตระหนักได้ว่าคำพูดของนางเมื่อครู่ต้องทำให้ทุกคนกลัวกันมากแน่

ด้วยช่องว่างความแตกต่างระหว่างรัฐทั้งสองจึงไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะเป็นพันธมิตรกันเลย ถ้าถามว่ารัฐไหนที่จะสามารถเอาชนะรัฐชีได้ด้วยความแข็งแกร่งของตัวเองเพียงลำพังละก็ มันก็คือรัฐเหยียนรัฐเดียวเท่านั้น ยิ่งกว่านั้นสถานการณ์ของรัฐชีในตอนนี้ก็อยู่ในภาวะย่ำแย่ถึงขนาดนี้ การพูดถึงพันธมิตรในเวลานี้ก็เท่ากับการรวบพวกเขาให้อยู่ในอำนาจนั่นเอง

จวินอู๋เสียกระแอมแล้วพูดว่า “ต้องเป็นการร่วมมือของสองรัฐสิ รัฐเหยียนจะยังเป็นรัฐเหยียนและรัฐชีก็ยังคงเป็นรัฐชี ทั้งสองรัฐอยู่ไกลกันมาก ถึงจะไม่สะดวกนัก แต่เราก็ยังคอยระวังให้กันและกันได้”

พอคำพูดพวกนั้นถูกเอ่ยออกมา ทุกคนในเมืองหลวงก็ทำตาโตพร้อมสีหน้าเหลือเชื่อ

รัฐเหยียนจะเป็นพันธมิตรกับพวกเขาจริงๆ หรือ ไม่ใช่จะยึดรัฐพวกเขาหรือ

บางคนอดสงสัยไม่ได้ว่ากำลังฝันอยู่หรือเปล่าก็เลยตบหน้าตัวเองไปเสียฉาดใหญ่ ความเจ็บทำให้แน่ใจว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น…เป็นความจริง!

จวินชิงยิ้มบางๆ เขาพยายามกลั้นยิ้มเอาไว้และพยักหน้าอย่างพอใจก่อนจะล่าถอยไปด้านข้าง

มั่วเฉี่ยนยวนได้สติขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าเขาไม่รู้จักจวินอู๋เสียดีเท่าจวินชิง เมื่อได้ยินคำพูดของจวินอู๋เสียเมื่อครู่ เขาก็เข้าใจนางผิดเหมือนคนอื่นๆ

“ฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนทรงมีพระเมตตา รัฐชีซาบซึ้งใจยิ่งนัก ถ้ารัฐเหยียนไม่รังเกียจ เช่นนั้นรัฐชีก็เต็มใจที่จะเป็นพันธมิตรกับรัฐเหยียนพ่ะย่ะค่ะ” มั่วเฉี่ยนยวนพูดเสียงดัง

จวินอู๋เสียพยักหน้า

การตอบรับของจวินอู๋เสียทำให้ผู้คนที่อยู่ในเมืองหลวงรัฐชีถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก พวกเขาเริ่มคิดว่าตัวเองได้เอาบรรทัดฐานความคิดของตัวเองมาตัดสินสุภาพบุรุษคนหนึ่งและรู้สึกผิดอย่างมากขณะมองไปที่จวินอู๋เสีย

เมื่อเห็นปฏิกิริยาของผู้คน บรรดาทหารกองทัพรุ่ยหลินก็ทำเสียงต่ำๆ ในลำคออย่างดูถูก

ทำไมคุณหนูใหญ่ของพวกเขาถึงจะอยากยึดรัฐชีกันเล่า

ตอนที่ 1174 พันธมิตร (3)

ถ้าจวินอู๋เสียอยากได้บัลลังก์ของรัฐชีจริงๆ มั่วเฉี่ยนยวนจะไม่มีโอกาสได้ครอบครองมันอย่างเด็ดขาด!

จู่ๆ คุณหนูใหญ่ของตัวเองก็กลายเป็นฮ่องเต้ของรัฐอื่นเช่นนี้ ทุกคนในกองทัพรุ่ยหลินไม่เพียงแต่ไม่ได้ไม่แสดงท่าทางไม่ยอมรับเท่านั้น แต่ทุกคนกลับตื่นเต้นกันมากอีกด้วย

เห็นหรือไม่ว่าคุณหนูใหญ่ของพวกเขาเจ๋งแค่ไหน

ออกไปนอกรัฐแค่ปีเดียวเท่านั้น นางก็ได้ครองบัลลังก์ของรัฐที่ใหญ่ที่สุดในแผ่นดินแล้ว!

นางคือความภูมิใจของพวกเขา

เมื่อจิตใจสงบลง ผู้คนก็รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น มั่วเฉี่ยนยวนกับจวินอู๋เสียพูดกันอีกสองสามประโยคก็หันไปจัดการให้พวกทหารและประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บให้ได้รับการรักษา ก่อนจะถามจวินอู๋เสียว่ารัฐเหยียนต้องการหมอหรือไม่ ซึ่งเหลยเชินก็กล่าวว่าหมอในกองทัพพวกเขามีมากพอแล้ว

เหลยเชินไม่ได้ปฏิเสธความช่วยเหลือของรัฐชี แต่…

พวกเขาไม่ได้บาดเจ็บอะไรกันมากมายจริงๆ และพวกเขามีหมออยู่ในกองทัพจำนวนมาก การได้เห็นกระบวนท่าอันน่าเหลือเชื่อของจวินอู๋เย่าซึ่งฆ่าทหารฝ่ายข้าศึกเกือบสองล้านคนในชั่วพริบตาทำให้เหลยเชินตระหนักว่า…ต่อให้จวินเสียไม่รับข้อเสนอของเขาในตอนแรก แค่พลังราวกับสัตว์ประหลาดของเขากับสหายของเขาก็สามารถช่วยรัฐชีได้เองอยู่แล้ว

ตอนนี้เหลยเชินรู้สึกโชคดีอย่างถึงที่สุดที่จวินเสียคำนวณพลาดเล็กน้อย ไม่อย่างนั้นเขาจะไปหาฮ่องเต้ที่บรรลุถึงขั้นพลังวิญญาณขั้นสีม่วงได้จากที่ไหนอีก

หลังจากจวินเสียขึ้นครองบัลลังก์ เขาก็นำกองทัพมาช่วยรัฐชีทันทีโดยไม่ยอมเสียเวลาเลยแม้แต่น้อย แม้ว่ากองทัพของรัฐเหยียนจะทำตามพระราชโองการเนื่องจากไม่สามารถฝ่าฝืนได้ แต่สำหรับฮ่องเต้เด็กที่นำพวกเขาเข้าสู่สงครามทันทีที่ขึ้นครองราชย์นั้น พวกเขาย่อมรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง

แต่เมื่อจวินเสียแสดงพลังวิญญาณขั้นสีม่วงออกมาในสนามรบ และยังมีสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติขนาดยักษ์อีกสองตัวคอยช่วย รวมกับสหายของเขาอีกหลายคนที่มีพลังวิญญาณขั้นสีม่วงเช่นกัน และจวินอู๋เย่าที่กวาดทหารฝ่ายข้าศึกสองล้านคนจนเกลี้ยงในพริบตาแล้วนั้น…

ทหารของรัฐเหยียนบางคนที่ยังยอมรับจวินเสียไม่ได้เต็มที่ บัดนี้ก็ยอมรับอย่างเต็มหัวใจ ตอนแรกพวกเขาคิดว่ามีฮ่องเต้ตัวเล็กๆ แบบนี้ก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นมาสำหรับพวกเขาเลย

แต่หลังจากวันนี้…

ทุกคนต่างปรารถนาจะหมอบกราบแทบเท้าของจวินเสียและตะโกนว่า “ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นหมื่นปี!”

ก็ตั้งแต่ก่อตั้งรัฐเหยียนขึ้นมา พวกเขาเคยมีฮ่องเต้ที่เก่งกาจราวกับสัตว์ประหลาดแบบนี้หรือไม่เล่า

พลังวิญญาณขั้นสีม่วงตอนอายุสิบห้าปี…

ฮ่า!

พวกเขาจะโม้เรื่องนี้ไปทั้งชีวิตเลย

ทหารของรัฐเหยียนพากันฮัมเพลงและร้องเพลงอย่างอารมณ์ดี พวกเขาได้เห็นแล้วว่าพลังของฮ่องเต้น้อยของพวกเขาโหดมากขนาดไหน!

แต่เมื่อพวกทหารของกองทัพรุ่ยหลินที่ถูกสั่งให้มาปนอยู่กับทหารของรัฐเหยียนได้ยินทหารของรัฐเหยียนเรียกจวินเสียว่าฮ่องเต้ของเราฮ่องเต้ของเราไม่หยุด…พวกเขาก็รู้สึกเจ็บปวดในใจ!

นั่นเป็นคุณหนูใหญ่ของพวกเขาต่างหาก!

ของพวกเขา!

พวกทหารของกองทัพรุ่ยหลินแทบจะกระอักโลหิตจากการเก็บความรู้สึกเอาไว้ข้างใน แต่พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้เนื่องจากจวินเสี่ยนสั่งเอาไว้ว่าพวกเขาต้องไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของจวินอู๋เสีย พวกเขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากสะกดกลั้นความรู้สึกเอาไว้…

ภายในเมือง มั่วเฉี่ยนยวนกลับไปที่วังหลวงพร้อมกับจวินอู๋เสียและคนของนางเพื่อปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องพันธมิตร

จวินอู๋เสียสั่งให้เหลยเชินกับคนอื่นๆ รออยู่ด้านนอกและคอยดูแลพวกทหารที่อยู่นอกเมืองขณะที่นาง จวินอู๋เย่า และเฉียวฉู่กับสหายคนอื่นๆ ไปที่ท้องพระโรงของวังหลวง

ภายในท้องพระโรงมีเพียงมั่วเฉี่ยนยวนกับสองพ่อลูกสกุลจวินเท่านั้น จากนั้นประตูท้องพระโรงก็ปิดลง แยกพวกเขาออกจากทุกสิ่งที่อยู่ข้างนอกท้องพระโรงโดยสิ้นเชิง

ทันใดนั้นจวินอู๋เสียก็เดินไปตรงหน้าจวินเสี่ยน นางปัดชายชุดคลุมด้านหน้าไปข้างๆ แล้วคุกเข่าลงบนพื้น!

“ท่านปู่!”

อารมณ์ที่จวินเสี่ยนพยายามอย่างหนักที่จะสะกดกลั้นเอาไว้ก็พุ่งขึ้นมาทันที เขาไม่สามารถจะเก็บพวกมันเอาไว้ได้อีกแล้ว เสียงเรียก ‘ท่านปู่’ นั้นเขาปรารถนาจะได้ยินมันอีกครั้งมานานเท่าไรแล้ว เขาปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาตามใบหน้าที่กรำศึกมาอย่างโชกโชนและยื่นมืออันสั่นเทามาพยุงจวินอู๋เสียให้ลุกขึ้น

“เจ้ากลับมาก็ดีแล้ว กลับมาก็ดีแล้ว ยืนขึ้นมาคุยกันเถอะ พื้นมันเย็น”

แม้ว่าจวินอู๋เสียจะเติบโตแข็งแกร่งจนคนมากมายไม่อาจอยู่เหนือนางได้ แต่ในสายตาของจวินเสี่ยน นางก็ยังเป็นหลานสาวตัวน้อยของเขา เป็นเด็กสาวไร้เดียงสาที่ยังทำผิดพลาดอยู่บ้างคนนั้น