ภาค-4-ดรุณีสีเพลิง ตอนที่ 24 สยบคลื่นลมตงไห่ (1)

ตำนานสุยอวิ๋นยอดกุนซือ

ตอนที่ 24 สยบคลื่นลมตงไห่ (1)

เย่ว์เหวินฮั่นกับเย่ว์ชิงเยียนแลกสายตากัน เย่ว์เหวินฮั่นเอ่ยเสียงกังวานว่า “มิว่าทุกท่านเก่งกาจเท่าใด วันนี้ก็อยู่ในกำมือพวกเราพี่น้องแล้ว แม้ฉีอ๋องมิกลัวพิษกู่ แต่ท่านอ๋องก็คงมิต้องการเห็นชิ่งอ๋องตายอยู่ที่นี่กระมัง ถึงเวลาแม้ท่านอ๋องจะโชคดีหนีรอดไปได้ เกรงว่าจักรพรรดิต้ายงก็คงคลางแคลงว่าท่านอ๋องยืมดาบสังหารคนกระมัง”
หลี่เสี่ยนยิ้มฝืดเฝื่อน ต่อให้ไม่ใช่เพราะสาเหตุนี้ เขาก็มิอาจมองดูตงไห่โหวกับลูกชายและพี่สามตายที่นี่ได้ มิต้องพูดถึงคุณธรรมกับความผูกพันของครอบครัว หากตงไห่โหวกับบุตรชายตาย กองทัพทหารเรืออันแข็งแกร่งที่กำลังจะตกอยู่ในกำมือของต้ายงกองนี้ต้องแตกสานซ่านเซ็น ถึงเวลานั้นเกรงว่าโจรสลัดคงออกอาละวาด ยิ่งไปกว่านั้น อนาคตจะบุกตีหนานฉู่ต้องมีผู้นำทัพเรือที่เก่งกล้า หากกล่าวถึงการศึกทางน้ำ น่ากลัวว่าต้ายงคงมิมีผู้ใดเหนือกว่าตงไห่โหวกับบุตรชายอีกแล้ว
ส่วนชิ่งอ๋อง จุดนี้เย่ว์เหวินฮั่นก็กล่าวถูกต้อง ตนมิเห็นชิ่งอ๋องอยู่ในสายตา แต่ฐานะของเขาคือชินอ๋องผู้มีศักดิ์สูงที่สุดในต้ายงและเป็นพี่ชายของตน หากปล่อยให้ชิ่งอ๋องตายที่นี่ ยังไม่ต้องพูดถึงผู้ใต้บัญชาของชิ่งอ๋องคงมิเลิกราโดยดี แม้แต่ขุนนางใหญ่ในราชสำนักก็คงสงสัยว่าตนเองมีเจตนาอื่นแอบแฝง ตั้งใจสังหารญาติสนิทเชื้อพระวงศ์และขุนนางคนสำคัญของแว่นแคว้น ถึงเวลาพวกเขารวมกลุ่มโจมตี แม้แต่จักรพรรดิก็ปกป้องตนมิได้ ต่อให้ไม่ถูกลงโทษ ตราแม่ทัพนี่ก็คงต้องประคองส่งให้ผู้อื่น ยามนั้นผู้ใดจะต้านหลงถิงเฟยได้เล่า
มิหนำซ้ำหลินเอ๋อร์ยังอยู่บนเกาะ ต่อให้ตนใจเหี้ยม แต่จะตัดใจเสียสละสายเลือดเพียงหนึ่งเดียวที่ภรรยาเหลือไว้ได้หรือ
หลี่เสี่ยนยิ่งคิดยิ่งคับแค้น เขาเคยอัปยศเช่นนี้เมื่อใด หากมีคนกล้าใช้ตัวประกันข่มขู่เขา วิธีที่เขามักใช้บ่อยที่สุดก็คือให้ศัตรูกับตัวประกันพินาศไปด้วยกัน แต่พี่น้องตระกูลเย่ว์คู่นี้กำจุดอ่อนของเขาไว้ ใช้ตัวประกันที่เขาสละมิได้มาข่มขู่เขา
ตอนนี้หลี่เสียนได้แต่ยิ้มเฝื่อน ในใจอดมิได้คิดขึ้นว่า เจียงเจ๋อผู้น่าตาย หากมิใช่ท่านให้ข้ามาร่วมชมพิธี ยามนี้ข้าคงอ้อยอิ่งอยู่บ้านท่านแล้ว มิต้องตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากเช่นนี้
เขาลอบสาปแช่งอยู่เนิ่นนาน ทันใดนั้นหลี่เสี่ยนก็ได้สตินึกได้ว่าเรื่องที่ตนมาที่นี่ เจียงเจ๋อทราบอยู่แล้ว อีกทั้งโหรวหลันบุตรีสุดรักของเขาก็อยู่บนเกาะ เขาเคยส่งคนมาแจ้งตนว่าในงานเลี้ยงต้องมีเรื่องวุ่นวายแน่ ยามนี้ก็เกิดเรื่องขึ้นจริง ถ้าเช่นนั้นคงมิใช่ว่าเขามิได้เตรียมการไว้กระมัง เมื่อคิดถึงตรงนี้ ในใจเขาก็สงบลงเล็กน้อย แล้วลอบภาวนา เจียงเจ๋อ ท่านเจียง น้องเขยคนดี ข้าไม่ขอเรื่องอื่น ท่านรีบแสดงฝีมือปราบพี่น้องตระกูลเย่ว์คู่นั้นทีเถิด
ดูเหมือนสวรรค์จะตอบรับคำภาวนาของเขา มีคนเอ่ยเสียงราบเรียบขึ้นว่า “เจ้าตระกูลน้อยเย่ว์ คุณหนูเย่ว์ ทั้งสองท่านมิต้องฝืนเล่นละครแล้ว ก่อนงานฉลองแต่งงาน ผู้แซ่ลู่ได้รับข่าวมา บิดาของท่านกับผู้ดูแลตระกูลเย่ว์ทั้งหลายปลอดภัยแล้ว”
เย่ว์เหวินฮั่นกับเย่ว์ชิงเยียนตกตะลึงเอ่ยขึ้นพร้อมกัน “อะไรกัน เป็นไปได้อย่างไร”
ในใจหลี่เสี่ยนปีติยินดี เขาหันกลับไปมอง ทันใดนั้นสีหน้าพลันชะงักค้าง คนที่เอ่ยคำนี้กลับเป็นลู่ช่านแม่ทัพใหญ่แห่งหนานฉู่ มิว่าสิ่งใดจะคลี่คลายสถานการณ์นี้ล้วนเป็นไปได้ทั้งสิ้น แต่หลี่เสี่ยนคิดไม่ถึงอย่างสิ้นเชิงว่าจะเป็นลู่ช่าน แม้ทราบดีว่าลู่ช่านผู้นี้เป็นลูกศิษย์ของเจียงเจ๋อ แต่ผู้ใดมิทราบบ้างว่าเจียงเจ๋อกับหนานฉู่เป็นดั่งน้ำกับไฟกันแล้ว มือสังหารเดนตายกับการตบแต่งพระมเหสีเป็นภรรยา สองเรื่องนี้ทำให้เจียงเจ๋อกับหนานฉู่มิอาจกลับมาปรองดองกันได้อีก
ลู่ช่านสีหน้านิ่งสงบราวกับว่าสิ่งที่ตนเอ่ยออกมาเป็นเพียงคำพูดธรรมดาทั่วไป เขามองเย่ว์อู๋จิวผู้สีหน้าเปลี่ยนอย่างฉับพลัน แล้วเอ่ยว่า “ผู้แซ่ลู่นับถือเล่ห์เหลี่ยมของผู้ดูแลเย่ว์ยิ่งนัก หลอกใช้จิตใจของคุณหนูเย่ว์ผู้คิดว่าตนไร้ประโยชน์แต่ปรารถนาจะช่วยพี่ชายแย่งตำแหน่งเจ้าตระกูล ล่อให้นางเลี้ยงกู่ หลังจากนั้นบีบคั้นทีละก้าว บังคับให้คุณหนูเย่ว์ลงมือสังหารคนสนิทของท่านสองสามคน จนเวลานี้จุดอ่อนเรื่องที่คุณหนูเย่ว์ฝึกวิชากู่ประสานใจและทำร้ายคนร่วมตระกูลตกอยู่ในกำมือของท่าน
เดิมทีท่านจะใช้จุดนี้บังคับให้เจ้าตระกูลน้อยละทิ้งตำแหน่งเจ้าตระกูลเลยก็ได้ แต่น่าเสียดาย ผู้ดูแลกระทำสุดโต่งเกินไปสักหน่อย ตนเองไร้หัวใจไร้คุณธรรมก็คิดว่าผู้อื่นจะเป็นเช่นนั้นด้วย ท่านจึงตัดสินใจจะกำจัดคนตระกูลเย่ว์ที่ภักดีต่อเจ้าตระกูลให้สิ้นซากเพื่อป้องกันมิให้เจ้าตระกูลน้อยมีโอกาสผงาดกลับขึ้นมาอีก
ทว่าหากท่านคิดจะทำเช่นนี้ มิต้องพูดถึงคนอื่นในตระกูลคงมิยอมรอความตาย ต่อให้เป็นคนในตระกูลที่สนับสนุนท่านสืบทอดตำแหน่งก็คงไม่ยินดีเห็นภาพท่านยึดครองอำนาจเจ้าตระกูลเพียงผู้เดียว ดังนั้นท่านจึงตัดสินใจว่าจะกวาดล้างตระกูลเย่ว์ครั้งใหญ่สักครั้ง ยอมลดทอนกำลังของตระกูลเย่ว์ แต่มิยอมให้ผู้ใดแย่งชิงอำนาจกับท่านได้อีก การแย่งชิงอำนาจในตระกูลอันเรียบง่ายยามเริ่มแรกจึงถูกท่านทำให้กลายเป็นแผนร้ายที่ข้องเกี่ยวกับสถานการณ์ใหญ่ของใต้หล้า กล่าวไปแล้ว ผู้แซ่ลู่ก็มิอาจไม่นับถือท่านจริงๆ”
ถ้อยคำของลู่ช่านแฝงแววเสียดสีอยู่เล็กน้อย เขามองเย่ว์อู๋จิวผู้ใบหน้าเขียวคล้ำไปแล้ว จากนั้นเอ่ยว่า “ละครที่ผู้ดูแลเย่ว์เตรียมไว้ช่างสนุกเสียจริง จับตัวผู้ดูแลอาวุโสคนอื่นฝ่ายเจ้าตระกูลเย่ว์เอาไว้ หลังจากนั้นบีบให้เจ้าตระกูลน้อยกับคุณหนูเย่ว์แสดงละครน่าสนุกครั้งนี้ตามแผนการของท่าน หลังเกิดเรื่องที่ตงไห่ ทุกคนคงรับรู้ว่าเจ้าตระกูลน้อยเย่ว์มิสนกฎข้อห้าม บงการให้คุณหนูเย่ว์ชิงเยียนฝึกวิชากู่ประสานใจ สังหารคนร่วมตระกูลยังมิพอ ยังสังหารผู้บริสุทธิ์มั่วซั่วเพื่อแย่งชิงแบบเรือกับแผนที่ทะเลในครอบครองของครอบครัวเจ้าบ่าวฝั่งตงไห่
โชคร้ายผู้พบเภทภัยครานี้มีชิ่งอ๋องหลี่คังกับฉีอ๋องหลี่เสี่ยนจากต้ายง ลู่ช่านจากหนานฉู่ ตงไห่โหวกับบุตรชาย และไห่จ้งอิงกับหลานชายด้วย หลังจากนั้นหากเจ้าตระกูลเย่ว์สังหารบุตรธิดาแล้วปลิดชีพตนขอขมาใต้หล้า นับจากนี้ตระกูลเย่ว์ก็อยู่ในกำมือของผู้ดูแลใหญ่แล้ว ตงไห่แตกเป็นก๊กเหล่า ตระกูลไห่ล้มตายสิ้นตระกูล ตระกูลเย่ว์ครอบครองการค้าโพ้นทะเล ตัดสินใจสวามิภักดิ์ต่อหนานฉู่ ผู้ที่บงการท่านจากหลังม่านและตัวท่านล้วนสมประสงค์ น่าเสียดายก็แต่วิญญาณผู้บริสุทธิ์นับไม่ถ้วน”
เย่ว์อู๋จิวรู้สึกดั่งตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง นี่เป็นแผนการที่เขาตรากตรำตระเตรียมมาด้วยกันกับเจ้าตำหนักเฉิน มีเพียงพวกเขาสองคนที่ทราบแผนการทั้งหมด เหตุไฉนจึงถูกชายหนุ่มที่ตนเองต้องสังหารให้จงได้ผู้นี้สาธยายออกมาดั่งไล่เรียงสมบัติในบ้าน คนผู้นั้นก็อยู่ฝ่ายหนานฉู่ หรือตนจะติดกับดักเข้าเสียแล้ว เขาอดกลั้นไม่ไหวตะโกนออกมา “ชิงเยียน สังหารเขาเสีย เจ้าตระกูลไม่มีโอกาสหนีรอดไปได้แน่ เจ้าเชื่อคำพูดของเขาหรือ”
ดวงตาของเย่ว์ชิงเยียนฉายแววสับสน นางเอ่ยอย่างตะลึงงัน “เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือ ผู้ดูแลใหญ่ ท่านมิได้รับปากแล้วหรือว่าขอเพียงข้าทำตามคำสั่ง หลังจากข้าตาย ท่านจะละเว้นบิดากับพี่ชายของข้า ท่านตั้งใจจะสังหารพวกเราทั้งครอบครัวอยู่ก่อนแล้วจริงหรือ”
เย่ว์เหวินฮั่นฟังจบ สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันใด เขาเอ่ยเสียงเย็นยะเยือก “เย่ว์อู๋จิว ท่านมิใช่รับปากข้าว่าขอเพียงหลังจบเรื่อง ข้าตายชดใช้ความผิดก็จะมิทำอันตรายชีวิตบิดาข้า ผู้ดูแลอาวุโสทุกท่านกับชิงเยียนหรือ ที่แท้ท่านต้องการจะเข่นฆ่าถอนรากถอนโคน เสียทีข้ากับชิงเยียนตั้งใจว่ามิว่าอย่างไรก็จะแย่งชิงแบบเรือมาให้จงได้ เช่นนี้แม้พวกเราตาย แต่วันหน้าก็มิมีผู้ใดสั่นคลอนตำแหน่งเจ้าทะเลของตระกูลเย่ว์ได้อีก คิดไม่ถึงท่านกลับจะขายคนทั้งตระกูล”
ดวงตาของเย่ว์อู๋จิวฉายแววกระอักกระอ่วน ตอบว่า “คนผู้นี้ก็เพียงพูดจาเหลวไหลเท่านั้น ยามนี้คนเหล่านี้ต่างล่วงรู้เรื่องของชิงเยียนแล้ว เจ้าต้องการให้นางถูกเผาทั้งเป็นหรือ หากมิสังหารคนทั้งหมดปิดปาก ต่อให้พวกเราต้องการปกป้องชิงเยียนก็ปกป้องมิได้”
เย่ว์เหวินฮั่นเอ่ยอย่างเยือกเย็น “ผู้ดูแลใหญ่ ท่านพลาดแล้ว สิ่งที่ท่านบอกข้ากับชิงเยียนไม่เหมือนกัน เทียบกับแม่ทัพใหญ่ลู่ คำพูดของพวกท่านผู้ใดน่าเชื่อถือมากกว่าคงมิต้องคาดเดาแล้ว เอาเถิด ความโหดเหี้ยมอำมหิตของคนเหล่านั้นที่ท่านร่วมมือด้วย ข้าก็เคยเห็นมาก่อน การตัดรากถอนโคนเดิมก็เป็นกฎเหล็กของยุทธภพ พวกเราพี่น้องไร้เดียงสาเกินไปเองที่คิดว่าท่านจะเห็นแก่บรรพบุรุษตระกูลเย่ว์ น่าเสียดายพวกเรามาพบคนทรยศที่ลืมรากเหง้าของตัวเอง”
เขากุมมือเย่ว์ชิงเยียนแผ่วเบา แล้วเอ่ยอย่างหม่นหมอง “ชิงเยียน เกรงว่าพี่ชายคงปกป้องเจ้ามิได้แล้ว แต่เจ้าไม่ต้องกังวล ไม่ว่าเป็นหรือตายพี่จะไปเป็นเพื่อนเจ้า ความผิดที่เจ้าทำ ข้าล้วนมีส่วนรับผิดชอบ” เขามองลู่ช่านด้วยสายตาเย็นชา แล้วเอ่ยว่า “แม่ทัพลู่ น้องสาวข้าเยาว์วัยโง่เขลาจึงถูกคนยุยง หากแม่ทัพลู่ช่วยท่านพ่อกับผู้อาวุโสทั้งหลายออกมาแล้วจริง ถ้าเช่นนั้นพวกเราพี่น้องยินดีรับความตาย แต่ท่านแม่ทัพต้องรับปากเหวินฮั่นบางประการ มิเช่นนั้นพวกเราคงมิอาจตายเปล่าได้”
เย่ว์อู๋จิวเอ่ยอย่างโกรธเกรี้ยว “ลู่ช่าน เจ้าทราบเรื่องเหล่านี้ได้เช่นไร เขาสมคบกับเจ้าหมายครอบครองตระกูลเย่ว์ใช่หรือไม่”
ประโยคนี้ของเขาทำให้เกิดผลลัพธ์ที่คำพูดเกลี้ยกล่อมพี่น้องตระกูลเย่ว์เมื่อครู่ทำไม่ได้ ดวงตาของเย่ว์เหวินฮั่นฉายแววสงสัย เขาทราบว่าผู้ที่ร่วมสมคบกับเย่ว์อู๋จิวอยู่หลังม่านคือผู้มีอำนาจจากหนานฉู่ ยิ่งไปกว่านั้นเย่ว์อู๋จิวกล่าวไม่ผิด ลู่ช่านทราบเรื่องราวมากเกินไปหน่อยจริงๆ หากลู่ช่านตั้งใจจะกวาดล้างตระกูลเย่ว์กับอำนาจฝั่งตรงข้ามให้หมดในครั้งเดียวแล้วเข้าควบคุมกิจการเดินเรือตระกูลเย่ว์ เช่นนั้นก็จะเป็นประโยชน์กับหนานฉู่มากกว่าจริงๆ
ตอนต่อไป