บทที่ 616 กลัวใครคนหนึ่งหายไป

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

เงา​ทมิฬ​มอง​ร่าง​ของ​อวิ​๋น​ปี้ลั​่ว​ ​และ​เริ่ม​รู้สึก​กังวล​ขึ้น​มา​เล็กน้อย​ ​เขา​ไม่ได้​กังวล​ใน​สิ่ง​ที่นาง​จะ​ทำ​ ​แต่กลับ​เป็นกังวล​ว่าการ​ที่​ฝ่า​บาท​ไล่​นาง​กลับ​ไป​เช่นนี้​จะ​ยิ่ง​กลายเป็น​การก​ระ​ตุ้น​ความไม่พอใจ​ของ​ฮองเฮา​เสียมา​กก​ว่า​ ​ถ้า​ฮองเฮา​รู้​ถึง​ความผิด​ของ​ฝ่า​บาท​ในเวลานี้​ ​ฝ่า​บาท​จะ​ต้อง​ตกอยู่ในอันตราย​ถึง​ชีวิต

เมื่อมี​เรื่องใหญ่​เช่นนี้​เกิดขึ้น​กับ​องค์​ชาย​ใหญ่​ ​เขา​ย่อม​ไม่มีทาง​ยอม​ปล่อย​ให้​มัน​ผ่าน​ไป​เงียบๆ​ ​แน่​ ​ทันทีที่​เขา​ถูก​ปล่อยตัว​ออกมา​ ​เขา​จะ​ต้อง​มาหา​เรื่อง​ฝ่า​บาท​อย่างแน่นอน

หาก​พิจารณา​จาก​การ​ที่​เขา​พยายาม​เอา​ตัว​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ไป​แล้ว​ละ​ก็​ ​ดูเหมือนว่า​สถานการณ์​ใน​คราวนี้​จะ​ดู​ไม่เข้าท่า​เท่าใด​นัก

เงา​ทมิฬ​รู้สึก​ได้​อย่างชัดเจน​ว่า​มีบา​งอย​่าง​ผิดปกติ​กับ​อารมณ์​ของ​ฝ่า​บาท​ ​ตั้งแต่​ที่​เขา​ได้ยิน​ว่า​ฮองเฮา​ต้องการ​ข้า​รับใช้​ของ​ตัวเอง​ ​บน​ใบหน้า​เล็ก​ๆ​ ​ดู​สูงส่ง​นั้น​ก็​เต็มไปด้วย​ความ​เย็นชา​อย่างที่​สุด​ ​และ​ยังคง​เป็น​เช่นนั้น​ไป​จนกระทั่ง​ถึง​เวลา​ที่​เขา​เข้านอน

เงา​ทมิฬ​กลัว​ว่า​เขา​จะ​ผลีผลาม​ลงมือทำ​อะไร​ ​แต่​น่าแปลกใจ​ที่​เด็กชาย​กลับ​ไม่ได้​มีท​่า​ทาง​ผิดปกติ​อัน​ใด​ ​เขา​ยัง​ทำ​ใน​สิ่ง​ที่​เขา​มักจะ​ทำ​ทุกวัน​ ​แต่​ดวงตา​ของ​เขา​กลับ​ค่อยๆ​ ​ดำทะมึน​และ​ดู​คุกคาม​ขึ้น​เรื่อยๆ

“​เจ้า​ยัง​กังวล​เรื่อง​องค์​ชาย​ใหญ่​อยู่​หรือ​”​ ​มือ​ทั้งสอง​ข้าง​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ค้ำ​อยู่​ใต้​คาง​ตัวเอง​ ​นาง​กำลัง​มอง​เด็กชาย​ตัว​น้อย​ที่นอน​อยู่​บน​เตียง​ ​จากนั้น​นาง​จึง​ยิ้ม​ขึ้น​และ​เอ่ย​ว่า​ ​“​อันที่จริง​ ​ปัญหา​นี้​แก้ไข​ได้​ง่ายดาย​ยิ่งนัก​ ​ตราบใดที่​เจ้า​สัญญา​ว่า​จะ​ยอม​กลับ​ไป​กับ​ข้า​ ​ข้า​จะ​หาย​ไป​จาก​โลก​นี้​ทันที​ ​จากนั้น​องค์​ชาย​ใหญ่​จะ​ไม่มีวัน​ได้​เห็น​ข้า​อีก​ ​ว่า​อย่างไร​ ​มัน​เหมือน​การ​ปา​หิน​ก้อน​เดียว​ได้​นก​สอง​ตัว​เลย​มิใช่​หรือ​”

ทันทีที่​เด็กชาย​ตัว​น้อย​ได้ยิน​คำ​ว่า​ ​‘​หาย​ไป​’​ ​มือ​เล็ก​ๆ​ ​ที่อยู่​ใต้​ผ้าห่ม​ของ​เขา​ก็​กำ​แน่น​เข้าหา​กัน​ ​แต่​ใบหน้า​ของ​เขา​กลับ​ยังคง​ดู​เยือกเย็น​และ​ไม่แยแส​ขณะ​ตอบ​ว่า​ ​“​ข้า​บอก​เจ้า​แล้ว​นี่​ว่า​ให้​เลิก​คิด​เรื่อง​เขา​ได้​แล้ว​ ​หลับตา​นอน​ได้​แล้ว​”

เขา​สั่ง​ข้า​อีกแล้ว​หรือ​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ตระหนัก​ขึ้น​มา​ได้​ว่า​แม้​เด็ก​คน​นี้​จะ​ยัง​เด็ก​มาก​ ​แต่​เขา​ก็​เป็น​ผู้เชี่ยวชาญ​ใน​การออกคำสั่ง​กับ​คนอื่น​มา​แต่ไหนแต่ไร​ ​สถานการณ์​เริ่ม​ตึงเครียด​ขึ้น​ถึง​เพียงนี้​แล้ว​ ​เขา​ยัง​ไม่​คิด​ที่จะ​กลับ​ไป​กับ​นาง​ ​เขา​กำลัง​คิด​อะไร​อยู่​กัน​แน่​ ​หรือว่า​เขา​ยัง​ไม่เชื่อใจ​นาง​มาก​พอ

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ขมวดคิ้ว​ด้วย​ความ​สับสน​ ​หลังจาก​ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​เสียงกรน​เบา​ๆ​ ​ก็ได้​ยิน​ก้อง​ไป​ทั่ว​ห้อง​บรรทม​นั้น

ทันใดนั้น​เด็กชาย​ตัว​น้อย​ก็​ลืมตา​ขึ้น​มา​และ​มอง​ไป​ที่​ใบหน้า​ด้าน​ข้าง​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​ความ​เย็นชา​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​ดวงตา​สีดำ​ของ​เขา​ระหว่าง​ที่​เขา​จ้องมอง​ดู​นาง​…

ท้องฟ้า​ยาม​ราตรี​แปรเปลี่ยน​เป็น​สีเข้ม​ขึ้น

ถึง​อากาศ​จะ​หนาว​จัด​ ​แต่​มัน​กลับ​ยิ่ง​ทำให้​องค์​ชาย​ใหญ่​อยาก​สนุก​มากขึ้น

เขา​ไม่รู้​เรื่องราว​ที่เกิด​ขึ้น​ภายนอก​เลย​แม้แต่​เรื่อง​เดียว​ระหว่าง​ที่​ถูก​กักบริเวณ​อยู่​ ​เขา​คิด​เพียงแค่​ว่า​เรื่อง​ทุกอย่าง​ย่อม​คลี่คลาย​ลง​ได้​ในไม่ช้า​เพราะ​ความช่วยเหลือ​จาก​ผู้​เป็นมา​รดา

แต่​เขา​ก็​ไม่​สามารถ​ควบคุม​ตัณหา​ของ​ตัวเอง​ได้​ ​ดังนั้น​เขา​จึง​เรียก​นางกำนัล​คนที​่​เคย​นำ​อาหาร​ไป​ส่ง​ให้​กับ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​เข้ามา​พบ​ ​แล้ว​ส่ง​ยา​ให้​นาง​หนึ่ง​ห่อ​ ​เขา​สั่ง​ว่า​ ​“​วันพรุ่งนี้​เจ้า​จง​นำ​สิ่ง​นี้​ไป​ใส่​ใน​อาหาร​ของ​ผู้หญิง​คน​นั้น​ ​แล้ว​พานา​งมา​ที่นี่​”

นางกำนัล​คน​นั้น​มอง​ยา​ ​และ​รู้​ว่า​เขา​ต้องการ​ทำ​อะไร​ ​ทันใดนั้น​นาง​จึง​รู้สึก​หึงหวง​ขึ้น​มา​ ​นาง​ถาม​ว่า​ ​“​ฝ่า​บาท​ ​ผู้หญิง​คน​นั้น​มี​อะไร​ดี​หรือ​เพ​คะ​ ​นาง​ดู​แก่​กว่า​ท่าน​เสียอีก​”

องค์​ชาย​ใหญ่​ไม่สน​ใจ​เรื่อง​อายุ​ของ​นาง​ ​สิ่ง​ที่​เขา​ต้องการ​คือ​ท่าทาง​กระฉับกระเฉง​ของ​นาง​ต่างหาก​ ​แต่​เขา​ย่อม​ไม่​พูด​มัน​ออกมา​ ​จากนั้น​เขา​จึง​เริ่ม​เกลี้ยกล่อม​นางกำนัล​คน​นั้น​ว่า​ ​“​ข้า​เพียงแค่​ต้องการ​สอน​บทเรียน​ให้​กับ​เจ้า​หนู​สารเลว​นั่น​เท่านั้น​ ​คราวนี้​ที่​ข้า​ต้อง​พ่ายแพ้​ครั้ง​ใหญ่​ก็​เพราะ​เขา​ ​หาก​ข้า​ไม่ได้​ล้างแค้น​ ​ข้า​ย่อม​ไม่​สามารถ​ฝืน​กลืน​ความรู้สึก​นี้​ลง​ไป​ได้​อย่างแน่นอน​!​”

แน่นอน​ว่านา​งกำ​นัล​คน​นั้น​ย่อม​ไม่ได้​จริงจัง​กับ​เรื่อง​นี้​นัก​ ​เมื่อ​เห็น​เขา​พยายาม​จูบ​นาง​ต่อ​ ​นาง​ก็​ค่อยๆ​ ​โอบ​แขน​รอบตัว​เขา

ร่าง​ของ​ทั้งสอง​เอน​หาย​เข้าไป​หลัง​พุ่มไม้​หนา​ริมแม่น้ำ​ระหว่าง​ที่​แสดง​ความรัก​กัน​อย่าง​เร่าร้อน

เดิมที​ฮ่องเต้​ตั้งใจ​ว่า​จะเข้า​นอน​ ​แต่​เพราะ​คำร้อง​จาก​บรรดา​เสนาบดี​เหล่านั้น​ทำให้​เขา​โมโห​จน​นอนไม่หลับ​ ​ทันใดนั้น​ก็​มี​ข้า​รับใช้​เข้ามา​รายงาน​เขา​ว่า​พบ​ร่องรอย​ของ​กิเลน​อัคคี​ใน​วัง​หลวง

ดวงตา​ของ​ฮ่องเต้​เป็นประกาย​ใน​ทันใด​ ​เขา​ถาม​เสียงดัง​ว่า​ ​“​กิเลน​อัคคี​อยู่​ที่ไหน​ ​รีบ​พา​ข้า​ไป​ที่นั่น​เดี๋ยวนี้​!​”

กิเลน​อัคคี​เป็น​สัตว์​ศักดิ์สิทธิ์​ที่​หายาก​ใน​แผ่นดิน

ใครๆ​ ​ต่าง​ก็​ต้องการ​ฝึกฝน​สัตว์​อสูร​ตัว​นี้​ให้​เชื่อง​เพื่อ​ควบคุม​มัน​ทั้งนั้น

แม้กระทั่ง​ฮ่องเต้​ก็​ไม่มี​ข้อยกเว้น​ ​ความคิด​ที่ว่า​ตัวเอง​จะ​ได้​เป็นเจ้าของ​กิเลน​อัคคี​ทำให้​อารมณ์บูด​บึ้ง​ที่​เขา​มีมา​ตลอด​สอง​วัน​หาย​ไป​ ​หลงเหลือ​ไว้​ก็​เพียงแค่​ความตื่นเต้น​ที่จะ​ได้​เห็น​กิเลน​อัคคี​เท่านั้น

ข้า​รับใช้​ไม่กล้า​ชักช้า​แม้แต่​นิดเดียว​ ​ฮ่องเต้​ไม่ได้​ขึ้น​ประทับ​บน​หลัง​มังกร​หรือ​หงส์​เลย​ด้วยซ้ำ​ ​เขา​ทำ​เพียงแค่​คว้า​เสื้อคลุม​ขนสัตว์​ขึ้น​มาสว​มก​่อน​จ้ำ​ออกจาก​ห้อง​ทรง​อักษร​ทางทิศใต้​ ​แล้ว​บึ่ง​ไป​ที่​แม่น้ำ​ทันที

อากาศ​ภายนอก​ใน​ฤดูหนาว​นั้น​หนาว​จัด​ ​โดยเฉพาะ​เวลา​กลางคืน​ ​หิมะ​สีขาว​แผ่​คลุม​ไป​ทั่วทุก​อาณาบริเวณ​ ​แม้กระทั่ง​เวลา​พูดคุย​กัน​ก็​ยัง​เห็น​ไอ​หมอก

“​กิเลน​อัคคี​อยู่​ที่ไหน​”​ ​ฮ่องเต้​ถาม​ ​เขา​ดู​ตื่นเต้น​อย่างเห็นได้ชัด​ ​น้ำเสียง​ของ​เขา​แปลก​ไป​กว่า​ทุกที

บรรดา​ข้า​รับใช้​เหล่านั้น​ก็​ตื่นเต้น​ไม่​แพ้​กัน​ ​พวกเขา​ชี้​ไป​ที่​กอง​ฟาง​ที่อยู่​ตรงหน้า​ ​และ​ตอบ​ว่า​ ​“​มัน​เพิ่ง​ข้าม​แม่น้ำ​ไป​อีก​ฟาก​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​กระหม่อม​เห็น​มัน​กับ​ตา​ ​มัน​มี​ขน​สีแดง​ราวกับ​เปลวเพลิง​ ​แผ่นดิน​สะเทือน​เลือน​ลั่น​ทุกครั้งที่​มัน​ก้าวเดิน​ ​แม้กระทั่ง​น้ำแข็ง​ใน​แม่น้ำ​ก็​ยัง​ละลาย​ไป​ไม่น้อย​เลย​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

ขันที​เกา​รู้สึก​สงสัย​ ​เหตุใด​สัตว์​ศักดิ์สิทธิ์​อย่าง​กิเลน​อัคคี​ถึง​ได้​ปรากฏตัว​ขึ้น​ใน​วัง​หลวง​ล่ะ

ต่อให้​มัน​รู้สึก​กระหาย​และ​ต้องการ​ที่จะ​ดื่ม​น้ำ​ ​แต่​มัน​ก็​ไม่น่า​จะ​ปรากฏตัว​ขึ้น​ใน​อุทยาน​หลวง​เช่นนี้​ได้

อย่างไร​กิเลน​อัคคี​ก็​เกลียดชัง​มนุษย์​เป็น​ที่สุด

แต่​ขันที​เกา​ไม่ได้​พูด​ความคิด​ของ​ตัวเอง​ออก​ไป​ ​เขา​ประคอง​ฮ่องเต้​ ​พร้อมกับ​เอ่ย​ชม​ไม่ขาดปาก​ว่า​ ​“​ฝ่า​บาท​ช่าง​ทรงอำนาจ​บารมี​ยิ่งนัก​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​กิเลน​อัคคี​ตัว​นี้​คง​รู้​ว่า​ภายใน​ราชสำนัก​ของ​เรา​มีโอ​รส​แห่ง​สวรรค์​ที่แท้​จริงอยู่​ ​ดังนั้น​มัน​ถึง​ได้มา​หา​ผู้​เป็น​นาย​ของ​มัน​ถึงที่​นี่​!​”

แม้​ฮ่องเต้​จะ​ไม่ได้​ตอบ​ ​แต่​สีหน้า​ของ​เขา​ก็​แสดงให้เห็น​อย่างชัดเจน​ว่า​เขา​พอใจ​กับ​คำพูด​ของ​ขันที​เกา​อย่างมาก

แต่​ร่าง​เล็ก​ๆ​ ​ที่​ยืน​อยู่​ใน​ความมืด​กลับ​ยิ้มเยาะ​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​เขา​เผย​รอยยิ้ม​ล้อเลียน​ออกมา​ ​และ​เอ่ย​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ลึกล้ำ​ชั่วร้าย​ว่า​ ​“​เจ้า​ได้ยิน​หรือเปล่า​ ​พวก​มัน​บอกว่า​เจ้า​กำลัง​ตามหา​ผู้​เป็น​นาย​อยู่​”

เวลานี้​กิเลน​อัคคี​อยู่​ใน​ร่าง​มนุษย์​ ​เส้น​ผม​สีแดง​อัน​งดงาม​บน​ศีรษะ​ของ​เขา​ซ่อน​อยู่​ใต้​เสื้อคลุม​สีดำ​ ​เขา​คำราม​ขึ้น​ด้วย​รอยยิ้ม​อันตราย​ว่า​ ​“​จริงอยู่​ที่​ข้ามา​หา​ผู้​เป็น​นาย​ ​แต่​ไม่ใช่​เขา​ ​นายท่าน​ ​ข้า​ไม่เข้าใจ​จริงๆ​ ​ว่า​ทำไม​ท่าน​ถึง​ต้องการ​ให้​ข้า​เผย​ร่าง​เพียงแค่​ครั้ง​เดียว​ ​ข้า​สามารถ​ช่วย​ท่าน​ฆ่า​องค์​ชาย​ใหญ่​ที่​ท่าน​เกลียดชัง​ได้​ ​ทำไม​ท่าน​ต้อง​อุตส่าห์​ล่อ​ฮ่องเต้​มาที​่​นี่​ด้วย​หรือ​ขอรับ​ ​เรื่อง​นี้​จำเป็น​ด้วย​หรือ​ขอรับ​”

“​ถ้า​เจ้า​ฆ่า​เขา​ ​เลือด​เขา​ก็​จะ​เปรอะ​ไป​ทั่ว​ ​กลายเป็น​เรื่อง​วุ่นวาย​ใหญ่โต​”​ ​เด็กชาย​ตัว​น้อย​จัด​แขน​เสื้อ​ตัวเอง​ ​ดวงตา​ของ​เขา​เย็นเฉียบ​ขณะ​ตอบ​ว่า​ ​“​วันหนึ่ง​พวก​มัน​จะ​รู้​ว่า​ข้า​คือ​เจ้านาย​ของ​เจ้า​ ​หาก​เจ้า​ถูก​ตั้งข้อหา​ฆ่า​องค์​ชาย​ ​ทุกคน​จะ​ต้องสงสัย​ข้า​อย่างแน่นอน​ ​มี​วิธีการ​มากมาย​ที่จะ​ใช้​ฆ่า​ใคร​สัก​คน​ได้​ ​ไม่มี​ความจำเป็น​ที่​เรา​จะ​ต้อง​ใช้​หนทาง​อัน​โง่เขลา​เช่นนั้น​”

กิเลน​อัคคี​เลิก​คิ้ว​ขึ้น​ข้าง​หนึ่ง​ ​และ​ถาม​ว่า​ ​“​ฝ่า​บาท​ ​ท่าน​วางแผน​ที่จะ​…​”

“​ให้​เขา​จบชีวิต​ตัวเอง​เสีย​”​ ​เด็กชาย​ตัว​น้อย​ค่อยๆ​ ​หันหน้า​กลับมา​ ​ใบหน้า​เล็ก​ๆ​ ​อัน​หล่อเหลา​ของ​เขา​มี​ความ​ชั่วร้าย​ปรากฏ​ให้​เห็น​เล็กน้อย

กิเลน​อัคคี​ยัง​ไม่เข้าใจ​ ​แต่​เสียง​บน​พื้นหญ้า​ก็​เริ่ม​ดัง​ขึ้น​เรื่อยๆ

ฮ่องเต้​และ​คน​ของ​เขา​อาจ​กลัว​ว่า​พวก​ตน​จะ​ทำให้​สัตว์​ศักดิ์สิทธิ์​ตื่นตกใจ​ ​ดังนั้น​พวกเขา​จึง​ค่อยๆ​ ​ก้าว​เท้า​อย่างระมัดระวัง​มุ่งหน้า​สู่​แม่น้ำ​สาย​นั้น

ชาย​ที่​เดิน​นำ​อยู่​หน้า​ขบวน​เห็น​พุ่มไม้​สั่น​ไหว​ ​เขา​รีบ​ชี้​ไป​ทาง​นั้น​ทันที

ฮ่องเต้​กลั้นหายใจ​ ​เขา​ขยับ​เข้าไป​ใกล้​มัน​อย่าง​เงียบๆ

จากนั้น​ฮ่องเต้​ก็ได้​ยิน​เสียง​อัน​คุ้นเคย​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​นอกจาก​กักบริเวณ​ข้า​แล้ว​เสด็จ​พ่อ​จะ​ทำ​อะไร​ได้​อีก​หรือ​ ​ข้า​รู้​ว่า​เขา​กำลัง​หลง​พระสนม​มู่​หรง​จน​โงหัวไม่ขึ้น​ ​ไม่ว่า​ผู้หญิง​คน​นั้น​พูด​อะไร​เขา​ก็​พร้อม​ที่จะ​ทำตาม​ทุกอย่าง​ ​ข้าว​่า​เสด็จ​พ่อ​คง​เสียสติ​ไป​แล้ว​กระมัง​ ​วันหนึ่ง​ ​ข้า​จะ​…​”