ตอนที่ 603 เติมเต็ม ‘ศักดิ์ศรี’ ของพวกเจ้า

หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง

ตอนที่ 603 เติมเต็ม ‘ศักดิ์ศรี’ ของพวกเจ้า

หลังจากเฉินหยุนได้ยินหลินเว่ยเว่ยพูดแบบนั้น เขาก็เงยหน้าขึ้นทันทีพร้อมประกายแห่งความหวังในดวงตาทั้งสองข้าง…บางทีนายอำเภอหนุ่มและภรรยาท่านนี้ อาจไม่เหมือนกับนายอำเภอคนอื่น ๆ ที่ผ่านมาก็ได้…

ชาวบ้านคนนั้นรีบพูดว่า “ข้าน้อยเป็นสามัญชน บรรพบุรุษก็เป็นสามัญชน…จริง ๆ ขอรับ ! ”

“เจ้าเป็นสามัญชน เขาเองก็เป็นเหมือนกัน แถมยังไม่มีประวัติกระทำความผิดอะไรด้วย เป็นราษฎรที่ปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมือง แล้วเหตุใดเขาถึงมาปรากฎตัวในฝูงชนไม่ได้ ? ” หลินเว่ยเว่ยมองไปทางหมู่บ้านคนบาป…การปฏิวัติอำเภอหนิงซีขั้นแรก เริ่มจากที่นั่นแล้วกัน !

“แต่เขาเป็นราษฎรโฉด ! ท่านฝูเหรินนายอำเภอ ท่านจะโดนเขาหลอกไม่ได้ขอรับ พวกลูกหลานอาชญากรเชื่อถือได้ที่ไหนกันขอรับ ! ” ชาวบ้านผู้นั้นตีหน้าเศร้า ราวกับว่าที่ทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อภรรยานายอำเภอ

หลินเว่ยเว่ยกระตุกยิ้ม “หรือแท้จริงเจ้าไม่ได้กังวล แต่กลัวคนจากหมู่บ้านคนบาปมาแย่งงานพวกเจ้าแทน ? ”

ชาวบ้านในหมู่บ้านคนบาปไม่มีที่นา ได้แต่เลี้ยงชีพด้วยการทำงานหนักในบ่อเกลือ เพราะคนที่ตัวอำเภอและท่าเรือต่างไม่ยอมจ้างพวกเขา ชาวบ้านในอำเภอหนิงซีกลัวว่าพวกเขาจะแย่งงาน จึงจงใจทำให้พวกเขาดูเป็นคนเลว…หากภรรยานายอำเภอทำตัวเป็นแบบอย่าง พ่อค้าในอำเภอหนิงซีก็จะทำตามทางการ ไม่กีดกันการจ้างคนจากหมู่บ้านคนบาปอีก เมื่อมองในระยะยาวแล้ว ชาวบ้านอำเภอหนิงซีก็จะเสียโอกาสไปเยอะเลยไม่ใช่หรือ ?

แกนนำกลอกตาไปมา ก่อนจะหันไปตะโกนใส่ชาวบ้านที่ต่อแถวอยู่ว่า “คนของหมู่บ้านคนบาปเป็นคนชั่วทั้งนั้น ท่านฝูเหรินนายอำเภอที่ปฏิบัติต่อพวกมันเท่าเทียมกับพวกเราเพราะอยากทำให้พวกเราอับอายใช่หรือไม่ ? เราไม่อยากคบหากับพวกคนเลว ! ถึงแม้พวกเราราษฎรหนิงซีจะยากจน แต่ก็มีศักดิ์ศรี ! ถ้าฝูเหรินนายอำเภอจ้างพวกมัน พวกเราก็ไม่เอาด้วยแล้ว ! ”

“ใช่ ! พวกเราจะไม่ทำ ! ”

“พวกเรามีแรง ยังต้องกลัวว่าจะหางานไม่ได้อีกหรือ ? ”

“แม้จะต้องอดตาย เราก็ไม่ทำงานร่วมกับคนจากหมู่บ้านคนบาป ! ! ” พวกที่รวมหัวทำร้ายคนอื่น รู้ว่าตนจะไม่โดนจ้างงานแล้วจึงช่วยกันประท้วงเพื่อกระตุ้นให้ผู้คนมาเข้าพวกกับตนให้มากกว่าเดิม จะได้บีบให้ภรรยานายอำเภอเป็นฝ่ายยอม ภูผาวารีที่ยากแค้นหล่อเลี้ยงพวกดื้อด้าน1 ก็คือคนเหล่านี้ !

ชาวบ้านไม่กี่คนที่หัวร้อนก็เข้าร่วมกับพวกเขาเพื่อต่อว่าให้ภรรยานายอำเภอไล่คนจากหมู่บ้านคนบาปออกไป ไม่อย่างนั้นพวกตนจะไม่สมัครงานด้วย !

หลินเว่ยเว่ยมองพวกเขาโวยวายด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม (ยิ้มก็เหมือนไม่ยิ้ม) ท้ายที่สุดจู่ ๆ สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาและพูดว่า “ทหาร ! จับคนที่สร้างความวุ่นวายเหล่านี้ส่งทางการ ได้ยินว่าในอำเภอหนิงซีแห่งนี้มีกบฏราชวงศ์ก่อนและสายลับหุยเหอคอยยุยงราษฎร บอกเจ้าหน้าที่ให้ตรวจสอบอย่างละเอียด ! ”

แกนนำอ้าปากค้างในทันที ถ้าโดนโทษฐานกบฏจะต้องโดนประหารชีวิต พวกเขาไม่มีความกล้าแบบเมื่อครู่อีกต่อไปและรีบร้องขอความเมตตาทันที

ขณะมองพวกเขา หลินเว่ยเว่ยก็พูดกับชาวบ้านที่เงียบเป็นเป่าสากพวกนั้นว่า “นายอำเภอเจียงไม่มีทางใส่ความราษฎรคนไหน แน่นอนว่าจะไม่ยอมปล่อยคนที่กระทำผิดไปด้วย ! เมื่อครู่คนพวกนี้ก่อกวนการแผ้วถางที่ดินของข้า เราจะแผ้วถางพื้นที่รกร้างเหล่านี้เพื่ออำเภอหนิงซี หลังสัญญาเช่า 4 ปีครบแล้ว ที่ดินเหล่านี้ก็จะกลับไปเป็นของราชสำนักดังเดิม ! ”

ดวงตาของเฉินหยุนเป็นประกาย เขาอดถามไม่ได้ “ฝูเหริน ถ้าเป็นแบบนั้นจะไม่เท่ากับว่าท่านฟื้นคืนที่ดินให้ราชสำนักเปล่า ๆ หรือขอรับ ? ” ทั้งออกเงินลงแรง ที่ดินยังไม่ใช่ของตัวเอง นี่ไม่ใช่การค้าที่ขาดทุนหรือไร ?

“ที่ข้าทำแบบนี้ย่อมมีเหตุผลของตน ! วางใจได้ ไม่ว่าข้าจะเป็นอย่างไร ก็ไม่มีทางค้างจ่ายค่าแรงพวกเจ้าแน่นอน ตอนนี้เราจะจ่ายค่าแรงเป็นรายวัน ไม่มีทางปล่อยให้ติดค้างพวกเจ้าเด็ดขาด ! ถ้าใครยังอยากออกไปอีก ข้าก็จะไม่ห้าม ! ”

หลินเว่ยเว่ยเรียกองครักษ์เข้ามาแล้วให้พาพวกที่ยุยงชาวบ้านออกไปจากฝูงชนทีละคน…พวกเจ้าไม่อยากทำงานกับคนจากหมู่บ้านคนบาปใช่หรือไม่ ? ได้ เช่นนั้นข้าจะเติมเต็ม ‘ศักดิ์ศรี’ ของพวกเจ้า !

ชาวบ้านที่เหลือไม่กล้าพูดอะไรอีก…เมื่อเทียบกับงานค่าแรงวันละ 20 อีแปะและยังมีอาหารกลางวันให้ด้วย ศักดิ์ศรีจะเทียบกับอะไรได้ ? กินได้หรือ ?

ขณะมองทุกอย่างที่เกิดขึ้น ในใจของเฉินหยุนก็มีประกายแห่งความหวังผุดขึ้น…บางทีนายอำเภอคนใหม่คงไม่เหมือนกับขุนนางคนอื่นจริง ๆ ทัศนคติของนายอำเภอจะส่งผลโดยตรงต่อการกระทำของราษฎร หมู่บ้านคนบาปของพวกเรามีทางรอดแล้ว ! ! พวกเราไม่จำเป็นต้องเหมือนซากศพเดินได้ที่รอคอยความตายไปวัน ๆ อีกต่อไป ! !

“ชื่อ อายุ ที่อยู่…” เฉินหยุนระงับความตื่นเต้นในใจเอาไว้ ผ่านไปไม่นานเขาก็กลับมาใจเย็นได้อีกครั้ง จึงรีบตอบคำถามของหลิวว่ายจื่อ

หลิวว่ายจื่อเห็นเขาดูเป็นคนสุภาพ ไม่ว่าพูดจาหรือการกระทำก็ไม่เหมือนชาวบ้านคนก่อนหน้านี้ จึงอดไม่ได้ที่จะถามเพิ่ม “รู้หนังสือหรือไม่ ? ”

เฉินหยุนตกตะลึง แต่ก็รีบตอบกลับ “เคยเรียนหนังสือกับท่านปู่มาสองสามปีขอรับ…” ชาวบ้านส่วนใหญ่ในหมู่บ้านคนบาปล้วนเป็นเหมือนเขา คือเป็นชนรุ่นหลังของขุนนางราชวงศ์ก่อน คนส่วนใหญ่จึงสอนให้บุตรหลานอ่านเขียนได้

หลิวว่ายจื่อสะบัดมือที่ปวดร้าวของตนแล้วถอยออกจากตำแหน่งที่นั่ง “มา ลองเขียนสักสองคำให้ข้าดูหน่อย ! ”

ครอบครัวของเฉินหยุนมีฐานะยากจน ไม่มีเงินซื้ออุปกรณ์เครื่องเขียน บิดาจึงทำพู่กันให้เขาเองและใช้น้ำผสมสีเพื่อเขียนอักษร ทักษะการจับพู่กันของเขาจึงดีกว่าหลิวว่ายจื่อมาก

หลิวว่ายจื่อนำหนังสือสัญญาอีกฉบับออกมาจากด้านล่างแล้วถามคนถัดไปว่า “ชื่อ อายุ ที่อยู่…อย่าเอาแต่ตกตะลึง รีบเขียนเข้าสิ ! ”

เฉินหยุนค่อนข้างสับสน…นี่เขาถูกจ้างงานแล้วหรือ ? เขาหยิบพู่กันขึ้นแล้วเริ่มเขียนข้อมูลของผู้ที่มาสมัคร ครั้งแรกที่ใช้พู่กันจริง ๆ มันดูไม่ค่อยถนัดสักเท่าไรสำหรับตน แต่หลังจากสัญญาฉบับแรกผ่านไปแล้ว เขาก็เริ่มคุ้นชินและเขียนได้คล่องขึ้นเรื่อย ๆ

หลิวว่ายจื่อเห็นอีกฝ่ายเขียนได้ดีกว่าตนถึงหลายเท่า จึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก…ในที่สุดก็หลุดพ้นจากงานเขียนที่ยากลำบากนี้ได้ ข้าฉลาดจริง ๆ เลย !

ต่อจากนั้นเฉินหยุนก็เป็นคนนั่งอยู่ในเพิงเพื่อจดข้อมูลของผู้มาสมัครและทำสัญญาจ้างให้พวกเขา

“ชื่อ หวงต้าจวง อายุ 20 ปี มาจากหมู่บ้านคนบาป ! ” เฉินหยุนเงยหน้า ทันใดนั้นเขาก็เห็นหลานชายของบ้านสกุลหวง อีกฝ่ายมีรูปร่างเหมือนปู่ของตระกูล คือเป็นคนที่ช่วงไหล่กว้างและตัวสูง…แค่ผอมไปหน่อย เพราะคนในหมู่บ้านคนบาปไม่มีใครไม่ผอม !

“ภายในสามชั่วอายุคนไม่มีใครก่ออาชญากรรม ! ” จนถึงตอนนี้หวงต้าจวงถึงได้พบว่าคนที่เขียนกลับเป็นสหายเฉินหยุนที่อยู่บ้านข้าง ๆ…ใช้ได้ ! เพิ่งมาไม่นานก็ได้งานแล้ว เก่งใช้ได้เลย ! ทันใดนั้นเขาก็เริ่มมั่นใจว่าตนจะได้รับการจ้างงานขึ้นมาพอสมควร !

เฉินหยุนพยักหน้าให้เขา “ประทับรอยนิ้วมือตรงนี้ แล้วพรุ่งนี้ก็มาเริ่มงานตามเวลาในสัญญา ! ”

“น้องเฉินหยุน ท่านภรรยานายอำเภอไม่ถือสาฐานะของพวกเราจริงหรือ ? ” หวงต้าจวงกำหนังสือสัญญาไว้ เขามีความรู้สึกเหมือนกำลังฝันอยู่ นี่พวกตน…จะได้เป็นเหมือนชาวบ้านคนอื่น ไม่ต้องโดนขับไล่ ไม่โดนทำร้ายและสามารถทำงานที่นอกเหนือจากบ่อเกลือได้จริงหรือ ?

ขณะมองดวงตาอันแดงก่ำของอีกฝ่าย เฉินหยุนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแสบตา เขาออกแรงพยักหน้า “ท่านภรรยานายอำเภอพูดแล้วว่าพวกเราก็เป็นสามัญชนที่ปฏิบัติตามกฎหมายคนหนึ่ง สมควรได้รับโอกาสเหมือนคนอื่น พี่ต้าจวง ตั้งใจทำงาน อย่าทำให้คนหมู่บ้านคนบาปเสียหน้า ! ”

“วางใจได้ ! ด้วยคำพูดนี้ของท่านภรรยานายอำเภอ แม้ข้าหวงต้าจวงจะต้องถวายชีวิตนี้ให้นาง ข้าก็ไม่รู้สึกเสียดาย ! ” ทันใดนั้นคนตัวโตอย่างหวงต้าจวงก็เริ่มร้องไห้โฮเหมือนเด็กน้อยคนหนึ่ง…ในที่สุดก็มีคนยอมรับชาวหมู่บ้านคนบาปอย่างพวกตนแล้ว !

[i]
1 ภูผาวารีที่ยากแค้นหล่อเลี้ยงพวกดื้อด้าน หมายถึง สภาพแวดล้อมที่ไม่ดีก็จะส่งผลต่อนิสัยของผู้อยู่อาศัยให้แย่ไปด้วย