ตอนที่ 467 หนึ่งใน... สุดยอดไพ่ไม้ตาย (1)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ตอนที่ 467 หนึ่งใน… สุดยอดไพ่ไม้ตาย (1)

เมื่อได้ยินคำเตือนจากเจดีย์เสวียนหวง หลี่ฉางโซ่วก็รู้สึกตึงเครียดขึ้น สัมผัสเซียนรับรู้ของเขาจับสัญญาณของมิติโกลาหลได้…

เฉียนคุนหมายถึง สองด้านตรงข้ามของสวรรค์และปฐพี หรือหยินและหยาง และโลกบรรพกาลได้ขยายความหมายถึงมิติ

บนพื้นผิวน้ำทะเล มันมองไม่เห็น!

ดูเหมือนว่า จะมีมีดเล่มหนึ่ง พุ่งเข้าหาพวกเขาทั้งสี่อย่างรวดเร็ว!

“ระวัง!”

หลี่ฉางโซ่วตะโกนเสียงดังลั่น ร่างทั้งสี่บนก้อนเมฆ พลันพุ่งออกไปข้างหน้า

ในเวลาสามวัน พวกเขาได้ใช้เวทหลีกลมเร้นกายไปพร้อมๆ กัน

ทันใดนั้น ร่างของพวกเขาก็กลายเป็นเสี้ยวกลุ่มควันสีเขียวสามสาย แล้วหายไป

หลี่ฉางโซ่วหันหลังกลับแล้วตีโต้กลับไปในทิศทางที่จินฉานจื่อเปิดการโจมตีขึ้นอย่างกะทันหัน

เขาสะบัดแส้หางม้าออกไป แล้วใบมีดบางที่ปกคลุมไปด้วยแสงสีทองก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าหลี่ฉางโซ่วอย่างแปลกประหลาด มันลากเป็นเส้นสีทองบางๆ ออกมาและฟันเข้าที่คอของหลี่ฉางโซ่ว!

ที่ด้านหน้าของใบมีด ก็มีระลอกคลื่นปรากฏขึ้นในมิติ พวกมันดูเหมือนเป็นระลอกคลื่นในน้ำ และดูงดงามจริงๆ

พวกมันเป็นระลอกคลื่นแห่งการสังหาร

เมื่อเห็นสิ่งต่างๆ ในขณะนี้ หลี่ฉางโซ่วจะนั่งนิ่งรอความตายได้อย่างไร?

จู่ๆ ไข่มุกสีฟ้าน้ำทะเลพลันปรากฏขึ้นในมือซ้ายของเขาโดยไม่รู้ตัว เมื่อไข่มุกสั่นไหวเล็กน้อย ร่างของหลี่ฉางโซ่วก็กลายเป็นลูกมวลน้ำทะเล!

แล้วใบมีดบางสีทองนั้น ก็พุ่งผ่านน้ำไปโดยไร้สิ่งกีดขวางใดๆ …

หลังจากที่ใบมีดบาง ฝ่าผ่าน สายน้ำทั้งสองสายก็มารวมตัวกันอีกครั้ง แล้วกลายร่างเป็นเซียนชราในชุดขาว เขาไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใดเลย

หลี่ฉางโซ่วมองขึ้นไปในระยะไกลและยิ้ม

ไข่มุกในมือของเขาเป็นหนึ่งในไข่มุกห้าธาตุที่นักพรตเต๋าตั๋วเป่ามอบให้เขา

และในขณะนั้น แม่ทัพสวรรค์ทั้งสามคนได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว

บนพื้นผิวทะเล ห่างออกไปร้อยลี้

จินฉานจื่อยืนเอามือไพล่หลังขณะเม้มริมฝีปากและกล่าวด้วยน้ำเสียงเหน็บแนมว่า “หากอยากตามหาข้า แล้วจะไปภูเขาวิญญาณด้วยเหตุใด ไฉนคราวนี้ เทพแห่งท้องทะเลถึงยอมพูดคุยกับข้าแล้วเล่า?”

ทันใดนั้น กระบี่สมบัติวิญญาณก็ปรากฏขึ้นที่มือขวาของหลี่ฉางโซ่วในขณะที่ถือไข่มุกวิญญาณวารีเอาไว้ในมือซ้าย และกล่าวอย่างสงบว่า “จักจั่นทอง ที่ข้ามาหาเจ้าในวันนี้ เพราะต้องการกู้คืนศักดิ์ศรีที่เจ้าทำลายไปก่อนหน้านี้ ในเมื่อเจ้าโจมตีข้าก่อน เช่นนั้น ก็อย่าโทษว่าข้าโหดร้าย!”

ในขณะนั้น ดวงตาเรียวยาวของจินฉานจื่อเต็มไปด้วยรอยยิ้มในขณะที่เขากล่าวสบายๆ ว่า “เทพแห่งท้องทะเล เจ้าและแม่ทัพสวรรค์ทั้งสามมาที่นี่เพราะคิดว่าข้าโง่และเดาไม่ออกว่า แม่ทัพสวรรค์ทั้งสามล้วนเป็นร่างจำแลงของเจ้าหรือ? เจ้ากำลังรีบไปด้านหน้าเพื่อจัดวางการซุ่มโจมตีใช่หรือไม่? เชอะ เดิมที ข้าคิดว่าเจ้าฉลาดเหลี่ยมจัดแล้ว เทพแห่งท้องทะเล ข้าคิดว่าเจ้าและข้าเหมือนกัน แต่ไม่คิดเลยว่า วันนี้ จะเปิดเผยระดับฐานพลังที่ต่ำต้อยของเจ้า และเจ้าก็มีเพียงเคล็ดลับเล็กๆ ในแขนเสื้อของเจ้าเท่านั้น”

หลี่ฉางโซ่วกล่าวว่า “เจ้าพูดมากจริงๆ”

จินฉานจื่อหยุดพูดชั่วคราว ดวงตาของเขามีไฟลุกโชนยิ่งขึ้นเมื่อเจตนาสังหารพุ่งสูงขึ้น

หลี่ฉางโซ่วสูดลมหายใจเข้าลึก และจู่ๆ พลังเซียนรอบตัวเขาก็เริ่มพุ่งพล่านเพิ่มขึ้น ทะเลใต้ฝ่าเท้าของเขาพลันหนาแน่นไปด้วยพลังวิญญาณแห่งน้ำวารีที่หนาแน่นและถ่ายเทลงไปในไข่มุกที่อยู่ในมือซ้ายของเขา

ดูเหมือนว่า พวกเขากำลังจะต่อสู้กันตัวต่อตัว!

ในขณะนั้น บนชายฝั่ง ห่างออกไปทางตะวันออก สามหมื่นลี้ แม่ทัพสวรรค์ทั้งสามเพิ่งมาถึง พวกเขาจัดวางค่ายกลใหญ่อย่างรวดเร็ว

เป็นไปตามที่จินฉานจื่อกล่าวทุกอย่าง

ดวงตาของจินฉานจื่อ ฉายแววเยาะเย้ยรุนแรงขึ้น บัดนั้น ปีกสีทองบางๆ หกปีกก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนหลังของเขา ร่างของเขาถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีทองบางเบา ทำให้ดูศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง

หัวใจของหลี่ฉางโซ่วไม่หวั่นไหว เขาอยากจะหัวเราะออกมาด้วยซ้ำ

จินฉานจื่อยกมือขวาขึ้นช้าๆ ขณะที่สยายปีกบางๆ บนหลังของเขาออกมา และมีจุดแสงนับร้อยปรากฏขึ้นบนนั้น ภายในจุดแสงที่ส่องสว่างนั้น ก็มีใบมีดบางๆ ค่อยๆ ควบแน่นขึ้นมา… “เจ้าสมุทร วันนี้ข้าจะจัดการร่างจำแลงทั้งสี่ของเจ้า!”

ขณะกล่าว จินฉานจื่อก็โบกมือขวาด้านหน้าเขาเบาๆ ทันใดนั้น ปีกแสงก็สยายออก และใบมีดบาง หลายร้อยเล่ม ก็พุ่งทะลุทะลวงผ่านจักรวาลพร้อมด้วยเสียงแหวกฝ่าอากาศดังหวีดหวิวเสียดหู พวกมันพุ่งตัดสะบั้นไปที่หลี่ฉางโซ่ว!

ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วได้ยกระดับพลังเซียนของเขาจนถึงขีดสุด เขาเผชิญหน้ากับแสงสีทองท่วมท้นท้องฟ้าและมองไปที่ใบมีดบางๆ ที่ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาแปลกๆ แล้วกระตุกมุมปากเล็กน้อย

ห้าธาตุหมุนวน รวมเป็นหนึ่ง!

กระแสน้ำไหลตามวิถีนิจนิรันดร์ในขณะที่เขาไม่อาจสัมผัสมันได้!

กระแสน้ำไหล…

ในขณะนั้น เจตจำนงวิญญาณของเจดีย์เสวียนหวงได้เข้าถึงปราณวิญญาณของหลี่ฉางโซ่ว และเอ่ยประโยคสงบใจออกมาว่า “อย่ากังวลไปเลย เจ้าเด็กน้อย แม้จะเป็นเพียงร่างจำแลง ข้าก็จะมอบให้เจ้า…” ทว่าก่อนที่เจตจำนงจิตวิญญาณของเจดีย์เสวียนหวงจะถ่ายเทลงมาอย่างเต็มที่ จู่ๆ ถุงผ้าเล็กๆ บนแขนเสื้อของหลี่ฉางโซ่วก็เปล่งแสงบางเบาออกมา!

ชั่วเวลานั้น “หลี่ฉางโซ่ว” เซไปเซมาเล็กน้อยและกลายเป็นลูกทรงกลมน้ำใสกระจ่างก่อนที่จะระเบิดออก!

ในช่วงเวลาเช่นนี้ แน่นอนว่า เขาต้องใช้หลีกลี้วารีซ่อนกาย!

ใบมีดบางๆ หลายร้อยเล่ม ฟันเฉือนฉับๆ ไปทั่วทุกทิศทาง แล้วร่องน้ำที่แยกออกจากกัน ก็ปรากฏขึ้นบนผิวน้ำทะเลที่นี่ เกิดเป็นมิติโกลาหล ในขณะที่พลังวิญญาณพลุ่งพล่าน แล้วสถานการณ์ก็เปลี่ยนไปในชั่วพริบตานั้น

ร่างของหลี่ฉางโซ่ว ปรากฏอยู่ห่างออกไปหลายพันลี้ เขาหัวเราะเสียงดังแล้วหันกลับ พุ่งไปยังค่ายกลที่แม่ทัพสวรรค์ทั้งสามกำลังจดวาง ทิ้งเสียงหัวเราะลั่นเอาไว้เบื้องหลัง!

แม้เขากำลังหลบหนี แต่สัมผัสได้ถึงความกล้าหาญ

“จักจั่นทอง เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงมาไล่ตามข้า!?!”

“เทพแห่งท้องทะเล!”

จินฉานจื่อกัดฟันและร้องตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว ในขณะนั้น ปีกจักจั่นทองทั้งหกบนหลังของเขาสั่นเล็กน้อย แล้วร่างของเขาก็หายไปจากพื้นผิวน้ำทะเล เหลือไว้เพียงเสียงลมหวีดหวิวที่ดังเสียดหู ซึ่งสามารถได้ยินเสียงร้องคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวของจินฉานจื่อนั้น จากระยะทางไกลนับหมื่นลี้

“คิดว่าจะหนีพ้นได้จริงๆ หรือ!?!” หลี่ฉางโซ่ว เลิกคิ้วขึ้น ทันใดนั้น พลังเซียนของตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ก็ปะทุขึ้นและปกปิดคลื่นพลังผันผวนในแขนเสื้อของเขาได้จนหมดสิ้น

จากนั้น ร่างของเขาที่จมลงไปในน้ำทะเลก็เร่งความเร็วขึ้นทันที! แล้วเสียงร้องตะโกนที่เกิดจากพลังเซียนของจินฉานจื่อก็ค่อยๆ จางหายไป!

รวดเร็วยิ่ง?

จินฉานจื่อที่ไล่ตามเขาอยู่ด้านหลัง ก็ตื่นตกใจเช่นกัน ทันใดนั้นเขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก แล้วปีกจั๊กจั่นทั้งหกบนหลังของเขาก็เริ่มเคลื่อนไหว กวัดแกว่งไปมาเป็นจังหวะ ทุกๆ ครั้งที่ปีกจักจั่นขยับ ร่างของมันก็จะโอนเอนออกไปข้างหน้า ทิ้งระลอกคลื่นวงกลมที่ดูราวกับวงแหวนควันขนาดใหญ่ขึ้นเอาไว้เบื้องหลังตรงจุดนั้นทันที

แต่จินฉานจื่อ ก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าแม้เขาจะตามเทพแห่งท้องทะเลได้ทัน ทว่าเขากลับอยู่ห่างออกไปถึงนับหมื่นลี้! เป็นไปได้หรือไม่ว่า เวทหลบหนีของเทพแห่งท้องทะเลนี้… มีพลังแห่งเต๋าสวรรค์ในทะเลอยู่ด้วย?

ครั้งนี้ จินฉานจื่อกล่าวได้ถูกต้อง…

แต่เขากล่าวถูกเพียงครึ่งเดียว

ความผันผวนของพลังเซียนของตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของหลี่ฉางโซ่วที่เกิดขึ้นในเวลานี้ เป็นเพียงสิ่งปกปิดกำบังเท่านั้น โดยผู้ที่ใช้หลีกลี้วารีซ่อนกายที่แท้จริงคือ ร่างหลักที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์

นี่เป็นครั้งแรกที่หลี่ฉางโซ่วได้ปล่อยพลังเซียนของเขาออกมาเต็มกำลังทั้งหมดที่มีและใช้สำแดงพลานุภาพแห่งพลังเวทที่เขาภาคภูมิใจมากที่สุด – เวทหลีกลี้วารีซ่อนกาย!

และในชั่วพริบตานั้น ทิวทัศน์ปกติก็แทบจะบิดเบี้ยวไปหมด

เขาได้รับพรพลังเพิ่มจากไข่มุกปราณวารี

เขาถูกห่อหุ้มด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ของเทพแห่งท้องทะเล

หลังจากข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์เซียนจินแล้ว เขาก็ได้ศึกษาและปรับปรุงเวทหลีกลี้วารีซ่อนกายอย่างต่อเนื่อง…

ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วรู้สึกราวกับว่า ในขณะนี้ มีคนตัวเล็กๆ ร้องตะโกนอยู่ในใจเขา

หากข้าหนีได้เร็วพอ ก็ย่อมไม่พลังเวทใดทำร้ายข้าได้!

หลี่ฉางโซ่วได้คาดการณ์ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลานี้เอาไว้ก่อนแล้วเมื่อยามที่เขาวางแผนนี้ขึ้นเป็นครั้งแรกแล้ว ตำแหน่งที่ซุ่มโจมตีคือ ตำแหน่งที่เขาคาดเดาหลังจากคิดคำนวณในใจแล้ว และเขาได้พิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จินฉานจื่อจะซ่อนเร้นฐานพลังบางส่วนเอาไว้…

แม้ในขณะนี้ ทุกอย่างกำลังพัฒนาไปในทิศทางที่ได้หลี่ฉางโซ่วคาดการณ์ไว้ ทว่าส่วนลึกในใจ…

เขาได้ถูกปู่เจดีย์ผู้หนึ่งโจมตี

“ไยต้องหนี? แค่สู้ก็จบ!”

“เจ้าหนูน้อย ไฉนเจ้าถึงคุ้นเคยกับการหนีนัก? หากเจ้ามีความสามารถ แล้วไยเจ้าถึงไม่สู้กลับ?”

“ข้าคือ เจดีย์วิจิตรเสวียนหวงเทียนตี้ แม้หมื่นกฎไม่กล้ำกราย ไร้สิ่งใดทำลายล้าง เว้นเพียงข้า เจ้าเอาแต่หนีเช่นนี้ ทำให้ข้า… อับอายจริงๆ…”

………………………………………………………………..