ตอนที่ 469 หนึ่งใน... สุดยอดไพ่ไม้ตาย (3)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ตอนที่ 469 หนึ่งใน… สุดยอดไพ่ไม้ตาย (3)

ทั่วหล้าเงียบสงัดฉับพลัน แล้วจุดแสงริบหรี่เจ็ดสิบสองจุดก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งในท่ามกลางความเงียบงันนั้น

ในขณะนั้น จู่ๆ จินฉานจื่อก็เข้าใจ

ทั้งหมดล้วนเป็นกลอุบายทั้งสิ้น!

เทพแห่งท้องทะเลไปที่วังมังกรเพื่อล่อให้เขาปรากฏตัวออกมา!

ประการแรก เขาเผยความอ่อนแอให้เขาเห็น แล้วจู่ๆ เขาก็ใช้วิชาหลบหนีเพื่อกระตุ้นให้เขาอยากต่อสู้!

เทพแห่งท้องทะเลยังคาดการณ์ได้แม้กระทั่งว่า เขาจะพุ่งออกไปข้างหน้าเพื่อทำลายร่างจำแลงของเทพแห่งท้องทะเลด้วยตัวของเขาเอง…

ใช่แล้ว เทพแห่งท้องทะเลได้จัดเตรียมค่ายกลกับดักที่ทรงพลังแข็งแกร่งเอาไว้ล่วงหน้าที่นี่โดยจงใจจงใจจัดวางค่ายกลที่ด้านหน้าของจินฉานจื่อ เพื่อล่อให้เขาทำลายค่ายกลชั้นนอกได้จนเป็นเหตุให้จินฉานจื่อคิดว่า เขาควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดได้แล้ว

ทว่าความจริงแล้ว มีกับดักที่แท้จริง ซ่อนอยู่ภายใต้กับดักนั้น!

มันเป็นทั้งจริงในเท็จและเท็จในจริง!

จินฉานจื่อมองไปยังร่างที่ถอยห่างออกไปของเทพแห่งท้องทะเล แล้วจู่ๆ เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาในใจ

ไม่ นั่นยังไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวที่สุด

เผ่ามนุษย์ผู้นั้นได้สัมผัสกับเขาเพียงไม่กี่ครั้ง แต่เขากลับจับจุดอ่อนในลักษณะเฉพาะตัวของเขาได้แล้ว!

เทพแห่งท้องทะเล!

จินฉานจื่อกำลังร้องตะโกนอยู่ในใจ บัดนี้ ดวงตาของเขาเผยแววให้เห็นว่าเขากำลังวอนขอความเมตตา!

ทว่าในขณะที่จินฉานจื่อกำลังคิดอยู่นั้น ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ทั้งเจ็ดสิบสองตัวที่พันรอบตัวเขา ก็ได้โอบล้อมเขาไว้ และการเริ่มต้นเปิดใช้งานก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว!

ทันใดนั้น พลังเซียนที่สงบและอุดมสมบูรณ์แต่เดิมของพวกเขา ก็พุ่งพล่านขึ้นจนถึงจุดสูงสุด แล้วชั้นต่างๆ ของยันต์ที่ลงสลักติดอยู่บนตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ทั้งเจ็ดสิบสองตัวเหล่านั้น ก็ยังกระตุ้นและเร่งเร้าพลังเซียนให้ปั่นป่วนขึ้นอีกด้วย!

เมื่อเต๋าสวรรค์ไม่ยินยอม พวกมันจึงไม่อาจดำรงอยู่ได้!

ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ทั้งเจ็ดสิบสองตัวเหล่านั้น!

ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ทั้งเจ็ดสิบสองตัวเหล่านั้น ล้วนมีพลังเซียนของหลี่ฉางโซ่ว!

ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ทั้งเจ็ดสิบสองตัว ล้วนมีพลังเซียนที่เทียบได้กับเซียนจินขั้นต้น และในขณะนั้น ทั้งหมดก็เป็นเหมือนเจ็ดสิบสองเซียนจินที่เพิ่งฝึกฝนและรวมตัว เกาะกันเป็นกลุ่มตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ที่ทำลายตัวเองได้!

ทันใดนั้น ทั้งหมดก็ปะทุ ลุกขึ้นเป็นไฟพร้อมๆ กัน!

หลี่ฉางโซ่วถอนความคิดของเขากลับมาทันทีในขณะที่ดูเหมือนว่า ร่างหลักของเขาจะทรุดลง และตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ที่กำลังควบคุมตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ที่อยู่ในรูปของผู้เป็นเซียนชรา ก็หันหลังกลับแล้วหนีไป!

บัดนั้น ที่ด้านหลังของเขา ดูราวกับมีดวงอาทิตย์เจ็ดสิบสองดวงกำลังลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า!

ทันทีที่พลังวิญญาณที่รุนแรงพุ่งพล่านเพิ่มขึ้น มันก็ฉีกแยกพื้นที่มิติออกเป็นร่องเป็นรอยหลายชั้น…

ทั่วหล้าพลันสั่นสะเทือนในขณะที่ค่ายกลใหญ่ก็สั่นสะเทือน!

ในเวลานั้น หลี่ฉางโซ่วหนีไปได้เพียงร้อยจั้งเมื่อร่างของจินฉานจื่อถูกแสงกลืนกินจนท่วมท้น จักจั่นสีทองร้องคำรามเงียบๆ แต่ในพริบตาเดียวนั้น มันก็ถูกพลังวิญญาณที่ทรงพลังแข็งแกร่งฉีกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยทันที!

บนชายฝั่งทะเลประจิม มีลำแสงขนาดใหญ่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าในชั่วเวลานั้น!

จากนั้นลำแสงก็แตกแยกออกเป็นหลายสิบหรือหลายร้อยสาย แล้วกลายเป็นลูกแสงขนาดใหญ่อย่างรวดเร็ว ทำให้ทั่วท้องฟ้าส่องแสงสว่างเจิดจ้า…

การระเบิดวิญญาณครั้งใหญ่!

ค่ายกลระเบิดวิญญาณปฐพี!

ในขณะนั้น ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่บนท้องฟ้าก็ขมวดคิ้วและมองลงไปที่ภาพเหตุการณ์ด้านล่าง เขากระตุกมุมปากและพูดอะไรไม่ออก

การระเบิดวิญญาณนั้นใช้เวลาไม่กี่อึดใจ พลังวิญญาณทั้งหมดล้วนพุ่งออกมาในเวลาแสนสั้น

พลังวิญญาณภายในรัศมีหมื่นลี้ ปั่นป่วนปรวนแปร ลมกระโชกแรงพัดน้ำทะเลในระยะพันลี้ให้ม้วนตัวขึ้น เผยให้เห็นก้นทะเลตื้นๆ และอาหารทะเลนับไม่ถ้วนก็ถูกบดขยี้จนสลายกลายเป็นเถ้าถ่าน

เกาะร้างหายไปและกลายเป็นหลุมลึกที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางร้อยลี้ในทันที และโดยมีพื้นดินแห่งนี้เป็นศูนย์กลาง รอยแตกแยกก็แผ่ขยายออกไปบนพื้นดินในระยะหลายพันลี้

แผ่นดินสั่นสะเทือนไม่หยุด และแรงสั่นสะเทือนก็ยังคงแผ่กระจายออกไปไกลเรื่อยๆ

เพียงขณะนั้น ทะเลประจิมกำลังจะเกิด ‘คลื่นยักษ์’ ปล่อยออกไปในทิศทางตรงกันข้าม ในเวลานั้นคลื่นพลังศักดิ์สิทธิ์ก็ได้เคลื่อนตัวลงมา และน้ำทะเลก็ไหลกลับอย่างรวดเร็ว ช่วยลดจำนวนการบาดเจ็บล้มตายของบรรดาสิ่งมีชีวิตในทะเลให้เหลือน้อยที่สุด

ในเวลาไม่กี่อึดใจนั้น มีเพียงเจดีย์เสวียนหวงที่อยู่ในร่างของหลี่ฉางโซ่วเท่านั้นที่สามารถมองเห็นร่างหลักของหลี่ฉางโซ่ว ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในที่ลับได้ เขากำลังก้มศีรษะลงและลงสลัก เขียนอะไรบางอย่างลงไปบนแผ่นใบไผ่…

เขาพบว่ายังคงมีช่องว่างในการปรับปรุงอัตราการแปลงพลังเซียน

ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์เจ็ดสิบสองตัวนั้น ยังไม่ใช่ขีดจำกัดที่แท้จริง เมื่อพลังปราณวิญญาณแข็งแกร่งขึ้น มันอาจจะเพิ่มขึ้นเป็นหนึ่งร้อยแปดได้

เงื่อนไขในการเปิดใช้งานโดยตรงนั้นรุนแรงเกินไป เขาต้องมีค่ายกลที่ทรงพลังเพื่อช่วยเขาได้ทันที

ข้าเลือกแผนสองได้ ข้าสามารถแขวนค่ายกลระเบิดวิญญาณปฐพีไว้บนร่างตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์และเปิดใช้งานอีกครั้งเมื่อเข้าใกล้ศัตรูที่ทรงพลังได้…

เจดีย์วิจิตรเสวียนหวงเทียนตี้ถึงกับพูดไม่ออก

ในยามนั้นหลี่ฉางโซ่วก็ยังคงไม่หยุดเขียนขณะที่เบนจิตของเขาไปสั่งให้ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์กลับจากที่อยู่ห่างออกไปหลายพันลี้ แล้วรีบรุดไปยังที่ที่จินฉานจื่ออยู่อย่างรวดเร็ว

มีลูกแสงทรงกลมสีทองอยู่ที่นั่น…

หลี่ฉางโซ่วเลิกคิ้วและถอนหายใจในใจ

เป็นไปตามคาด เขายังไม่อาจแม้แต่จะฆ่าสัตว์ร้ายบรรพกาลได้!

ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วก็เข้าใจว่า บางทีเขาคงไม่อาจฆ่าจินฉานจื่อได้ในครั้งนี้

เมื่อมองจากระยะไกล หลี่ฉางโซ่วก็มองเห็นได้ว่า ลำแสงสีทองนั้นคือ ตัวอ่อนจักจั่นสีทอง แม้มันยังไม่งอกปีกออกมา ทว่าหลี่ฉางโซ่วก็สัมผัสถึงอักขระเต๋าลึกลับที่อยู่ในแสงสีทองได้อย่างดี

จักจั่นกำลังกลับคืนสู่เปลือกของมันหรือ?

นั่นน่าจะเป็นพลังเวทอย่างหนึ่งของจินฉานจื่อ เขาสามารถซ่อนร่างที่กำลังจะตายของเขาในคราบเก่า ละทิ้งฐานพลังและความทรงจำส่วนใหญ่ไป แล้วกลับคืนสู่สถานะก่อนที่เขาจะเปลี่ยนแปลงและกลายเป็นปรมาจารย์

จักจั่นหกปีกสามารถใช้พลังเวทนี้ได้เพียงครั้งเดียวในชีวิต เพราะจะมีคราบเก่านี้เพียงหนึ่งเดียวที่ช่วยได้เท่านั้นซึ่งมีบทบาทหน้าที่ในการช่วยชีวิตเขาได้เพียงครั้งเดียว

ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าการคำนวณผิด โดยธรรมชาติแล้ว พลังเวทสูงสุดของสัตว์ร้ายบรรพกาลนั้นไม่เปิดเผยให้เป็นที่รู้จักกันแน่นอน

ก่อนหน้านี้ หลี่ฉางโซ่วได้คำนวณความเป็นไปได้มากมายที่จักจั่นทองจะหลบหนีออกจากเปลือกของมัน แต่ไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะกลับเข้ามาที่เปลือกเพื่อช่วยชีวิตเขา

นั่นคือปัญหาของการมีความรู้น้อยเกินไป

หลี่ฉางโซ่ว ยังคงคิดจะลองพยายามดู เขาเปิดแขนเสื้อออก แล้วตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ก็ปรากฏตัวขึ้น…

“จงหยุดเถิด วิญญาณนี้มีวาสนาชะตาลิขิตกับสำนักบำเพ็ญประจิม”

จู่ๆ ก็มีเสียงถอนหายใจและเสียงดังออกมาจากหมู่เมฆและอักขระเต๋าที่คลุมเครือก็ค่อยๆ แผ่ออกมาจากโลก แล้วห่อหุ้มรอบผิวหนังของจักจั่นสีทอง

หลี่ฉางโซ่วสั่นสะท้านขึ้นกะทันหัน เขาทิ้งตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ที่เขากระจายไปทั้งหมด จากนั้น ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์เซียนชราก็ถูกเปลวไฟลุกโชนเผาผลาญอย่างท่วมท้นจนกลายเป็นเถ้าถ่านในทันที!

ในขณะนั้น ร่างของปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตู ก็ปรากฏขึ้น ณ จุดที่หลี่ฉางโซ่ว ยืนอยู่แต่เดิม แขนเสื้อของเขากระพือขึ้น แล้วเถ้าถ่านก็เข้าไปในแขนเสื้อของปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่

พวกเขามาถึงแล้วจริงๆ!

เวลานั้น บนท้องฟ้ามีหมู่เมฆสีขาวกระจัดกระจาย และท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยลำแสง นักพรตเต๋าชราในชุดเสื้อคลุมเต๋าที่ขาดรุ่งริ่ง นั่งขัดสมาธิอยู่บนก้อนเมฆ ใบหน้าที่แท้จริงของเขาถูกซ่อนเร้นอยู่ในความโกลาหล และดวงตาเฉียบคมของเขาก็กวาดสายตามองลงมาทางด้านล่าง

ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ยิ้มอย่างสงบพลางโค้งคำนับไปทางก้อนเมฆแล้วกล่าวว่า

“ขอน้อมพบท่านปรมาจารย์จอมปราชญ์”

ทันใดนั้นหลี่ฉางโซ่วก็พึมพำว่า “ท่านปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ หากโจมตีตอนนี้ จักจั่นทองจะต้องตายอย่างแน่นอนขอรับ”

ทว่าปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ปากกระตุกสองสามครั้ง และไม่ได้ตอบกลับ

ในอีกด้านหนึ่งนั้น เจดีย์เสวียนหวง ก็ถอนหายใจในใจของหลี่ฉางโซ่ว

“บัดนี้ เราเข้าใจแล้วว่า เจ้าเป็นผู้ที่โหดเหี้ยมที่สุดในสำนักบำเพ็ญเต๋าหยิน… นี่เจ้าอายุแค่สามร้อยปีจริงๆ หรือ?”

………………………………………………………………..