บทที่ 612 ปิดประตูตีปีศาจ

ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี

บทที่ 612 ปิดประตูตีปีศาจ

บทที่ 612 ปิดประตูตีปีศาจ

กระจกตรงหน้าแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ มันระเบิดออกจนไม่เหลือชิ้นดี

ชายชุดดำเงียบงัน เขานั่งอยู่ท่ามกลางความมืด มันมืดจนน่าสะพรึงกลัว สีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

“ทำไมนางถึงมีสิ่งนั้น… ทำไมถึงมี…”

เสื้อผ้าทั้งหมดของไป๋โม่เสวี่ยรวมถึงชุดชั้นในถูกตระเตรียมโดยไป๋ซวี่เซียง

ก่อนหน้านั้น ความต้องการของนางในเรื่องเหล่านี้ไม่ได้มีมากนัก

ท้ายที่สุดแล้ว ไป๋โม่เสวียเองก็เป็นไม้แขวนเสื้อของนางตั้งแต่เกิด แม้เขาจะสวมใส่ชุดขอทาน แต่ก็ไม่อาจบดบังเสน่ห์รัญจวนในร่างกายได้ หรือต่อให้ร่างกายจมโคลน มันก็ไม่อาจทำอะไรกับความงามของเขาได้

ดังนั้นไป๋ซวี่เซียงจึงให้ไป๋โม่เสวี่ยใส่ชุดชั้นในของสตรีครบเซ็ต รวมถึงยกทรงที่ถังรั่วเวยเคยใช้ดันทรงมาก่อนก็ยังถูกใส่ไว้ในร่างกายของเขา

ด้วยเหตุนี้ ในขณะที่เขายกขาขึ้นเตะ กระโปรงจึงเปิดออก และรูปลักษณ์ของกางเกงชั้นในจึงปรากฏต่อสายตาของผู้คนชัดเจน

“จบสิ้นแล้ว ภาพนั้นฝังลึกในดวงตาข้า”

ชายชุดดำลูบคางพร้อมไตร่ตรองอย่างหนัก

“รู้สึกราวกับว่ามันถูกฝังลึกลงในเลือดเนื้อของข้าโดยสมบูรณ์แล้ว…”

เวลานี้เขาหลับตาลงและนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในจิตใจ ภาพของสตรีงดงามยกขาเตะสูงพร้อมกระโปรงตัวน้อยกระพือยังคงแจ่มชัด สิ่งที่อยู่ภายใต้กระโปรงค่อย ๆ เผยออกสู่สายตา เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ชายชุดดำก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาห่อเหี่ยว ลิ้นแห้ง และใบหน้ายังร้อนผ่าว

“นังปีศาจทำข้าหลงเสน่ห์!”

เขากัดปลายลิ้นเพื่อเรียกคืนสติของตนเอง เวลานี้ร่างกายหลั่งเหงื่อเย็นเฉียบ

“น่าทึ่งอย่างแท้จริง!”

“ดูเหมือนน้องชายข้าจะทำได้ไม่เลวเลย!”

ภายในความมืดมิด มีเสียงใสหัวเราะขึ้น เสียงหวานของสตรีผู้นั้นดังออกจากรอยแตกของมิติ มือขาวพิสุทธิ์ยื่นออกมาพร้อมตบหน้าชายชุดดำ

ชายชุดดำตื่นตระหนกพร้อมยกมือตั้งรับอย่างเร่งรีบ ขอบเขตของผู้มาเยือนนี้คล้ายกับอยู่ในขั้นเซียน แต่เมื่อเขาถูกฝ่ามือของอีกฝ่ายปะทะ ชายชุดดำสัมผัสถึงคลื่นพลังมหาศาลที่พลุ่งพล่านกระแทกเส้นลมปราณและจุดชีพจรในร่างกายของเขาให้ระเบิดออกอย่างต่อเนื่อง

ลำคอของเขาร้อนผ่าว เลือดไหลออกจากมุมปาก ชายชุดดำกำลังเสียเปรียบรุนแรง เขาหยุดมือและถอยหลังกลับไปสองสามก้าว

“คนจากแดนเซียน?”

เขาตื่นตระหนก

“ความแข็งแกร่งนี้น่าจะเป็นผู้นำของกลุ่มทำภารกิจเฉพาะ เจ้าหาข้าพบได้อย่างไร?”

“แล้วทำไมข้าต้องหาเจ้าไม่เจอด้วย?”

ไป๋ซวี่เซียงเอนตัวออกจากรอยแตกของมิติ นางหลุดลงมาในสถานที่แห่งนี้พร้อมกับเก้าอี้ประจำตัว

นางเผยเสียงหัวเราะคิกคัก

“เจ้าคงไม่คิดว่าเวทมิติของตัวเองดีเลิศที่สุดในโลกหรอกนะ? ไอ้ขยะ ตราบใดที่เจ้าโจมตีผู้อื่น ข้าจะสัมผัสถึงความผันผวนภายในมิติที่เกิดจากพลังเซียนของเจ้า เช่นนั้นจึงค้นหาเจ้าพบ!”

ไป๋ซวี่เซียงยกขาเตะชายชุดดำ ขณะนางออกกระบวนท่า ชายชุดดำพลันหลบหลีกอย่างรวดเร็ว การเตะของไป๋ซวี่เซียงจึงกระทบพื้นที่ว่างภายในมิติแทน

“ยังเยาว์อยู่มาก”

ชายชุดดำถอยไปสองสามก้าวก่อนจะกล่าวเย้ยหยัน

“ฮึ่ม แสร้งทำตัวอ่อนโยนได้เก่งกาจนัก”

“อ่า ข้าได้ยินว่าเจ้ามีชื่อเสียงในโลกแห่งการฝึกฝนและภายในแดนเซียน ก่อนที่เจ้าจะขึ้นสู่แดนเซียน มีคนบอกกล่าวว่าเจ้าคือปีศาจร้ายที่มักจะเด็ดดอกไม้ตามประตูหน้าต่างทุกหนแห่งที่ผ่านพ้น”

ไป๋ซวี่เซียงแสร้งทำเป็นตกใจก่อนจะดึงขาของตนกลับออกจากรอยแยกในมิติ

“แล้วเจ้าไม่ได้คิดอะไรกับสตรีเช่นข้าใช่หรือไม่?”

“เจ้า…”

ชายชุดดำกวาดสายตามองไป๋ซวี่เซียงขึ้นลง ความจริงแล้วไป๋ซวี่เซียงคือผู้สืบทอดความโดดเด่นที่ยอดเยี่ยมของเจียงหลานและไป๋ชิวหรานได้โดยสมบูรณ์ นับว่านางงดงาม และหากเป็นอดีต …ชายชุดดำย่อมมีความละโมบปรากฏในใจแล้วแน่นอน

แต่หลังจากได้รับชมรูปลักษณ์อันทรงพลังของไป๋โม่เสวี่ยแล้ว เมื่อพบเจอไป๋ซวี่เซียง ชายชุดดำกลับกลายเป็นเย็นชา

เมื่อเห็นเขาเมินสายตาหนี ไป๋ซวี่เซียงจึงเผยรอยยิ้มเกรี้ยวกราด

“ให้ตายเถอะ ขนาดขยะอย่างเจ้ายังกล้าดูถูกป้าผู้นี้หรือ?”

นางขว้างเก้าอี้ออกไปก่อนจะพุ่งเข้าหาชายชุดดำ ฝ่ามือเปิดฉากโจมตีต่อเนื่อง พลังเซียนมหาศาลถูกปลดปล่อยออกจากฝ่ามือ ทำลายรอยแตกในมิติอย่างต่อเนื่อง

“บัดซบ นังบ้า!”

กงล้อแสงปรากฏขึ้นด้านหลังศีรษะของชายชุดดำ พลังของเขาถูกปลดปล่อยออกมาอย่างไร้ขีดจำกัด

ภูตผีแห่งสังสารวัฏหกวิถีปรากฏขึ้นด้านหลัง กงล้อหมุนเชื่องช้าแต่มีเพียงวิถีเดรัจฉานเท่านั้นที่เผยภาพชัดเจน

ชายชุดดำดึงมือกลับพร้อมกับเปิดเผยวิถีเดรัจฉานในอากาศ ภายในวิถีเดรัจฉานมีเพียงความชั่วร้าย ความอยุติธรรม ภูตผี หมาป่าโลหิตผู้หิวโหยที่ปรากฏตัวขึ้น

วิถีเดรัจฉานมีพลังในการกัดกร่อนทุกสิ่ง แม้แต่มิติที่บิดเบี้ยวก็ยังสึกกร่อนตาม เวลานี้ไป๋ซวี่เซียงเพียงปรบมือเบา ๆ เผยพลังดุร้ายบังคับให้วงล้อนี้ดับวงในทันที

เมื่อนางเงยหน้าขึ้น ชายชุดดำพลันหันหลังกลับและพยายามหลบหนีเข้าสู่รอยแตกของมิติ

“อย่าพยายาม!”

ไป๋ซวี่เซียงขมวดคิ้วแน่น เปิดรอยแยกมิติพร้อมกับเดินติดตามอีกฝ่ายเข้าไปด้านใน ตามไปจนสุดทางและในที่สุดจึงปรากฏตัวขึ้นภายในตรอกแคบ

รัศมีพิเศษปรากฏขึ้นตรงหน้า มันกลายเป็นสตรีคนหนึ่งแต่งกายในชุดบุรุษ

“ใช้ทักษะการแปลงกายหลอกลวงป้าผู้นี้หรือ?!”

ไป๋ซวี่เซียงจับต้นคอของอีกฝ่ายไว้แน่น

“อย่าคิดหนี!”

เมื่อนางกล่าวเช่นนี้ ลำแสงสีแดงเปล่งประกายพลันฉายออกจากดวงตา และมีลำแสงสีแดงเรืองรองปรากฏบนผิวของร่างกายจาง ๆ

ไป๋ซวี่เซียงตกใจ ด้วยสัญชาตญาณแล้วนางเปิดรอยแตกของมิติออกอีกครั้งแล้วโยนสตรีผู้นั้นเข้าไปด้านใน

ตูม!

ทันทีที่รอยแตกของมิติปิดลง ไป๋ซวี่เซียงสัมผัสได้ถึงการระเบิดรุนแรงจากภายใน

“หึหึ คาถาสาปแช่ง”

ไป๋ซวี่เซียงกัดนิ้วหัวแม่มืดพร้อมขมวดคิ้วแน่น

“ให้ตายเถอะ ข้าทำร้ายสตรีบริสุทธิ์ไปเสียแล้ว… ข้าควรทำอย่างไรดี? โม่เสวี่ยแขวนคอชายชุดดำและทุบตีเขาอย่างหนัก แต่ข้ากลับปล่อยเขาหนีไปได้… ความสง่างามในฐานะพี่สาวหมดสิ้นแล้วคราวนี้”

เวลานี้ผู้ฝึกตนปีศาจหลบหนีการไล่ล่าของนางไปแล้วโดยใช้ทักษะจักจั่นสีทองลอกคราบที่น่าสะพรึงกลัว หลังจากอีกฝ่ายหลบหนีไปแล้ว มันจะไม่ใช่ทักษะเปิดรอยแตกมิติแน่นอน เพราะมิฉะนั้นไป๋ซวี่เซียงจะติดตามมันพบ สุดท้ายแล้วนางจึงทำได้เพียงกลับบ้านมือเปล่าอย่างอับจนปัญญา

ขณะที่เดินผ่านฝูงชนแออัด ไป๋ซวี่เซียงจึงหยิบเครื่องมือสื่อสารออกมาจากกระเป๋าพร้อมติดต่อกับสมาชิกของกลุ่มทำภารกิจ

“นี่ข้าเอง… สถานการณ์ทางนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?”

  

ดอกไม้งามทั้งสองถูกแยกออกจากกัน…

เมื่อไป๋โม่เสวี่ยถูกจัดการภายในห้องพักอาจารย์ใหญ่ หลี่ลี่ก็ถูกสตรีสองคนพาเข้าสู่ส่วนลึกของสำนักโดยผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นอาจารย์ภายในสำนักแห่งนี้

หลังจากเดินไปสักครู่ สาวน้อยผมสีเกาลัดจึงตระหนักถึงบางอย่างที่ผิดปกติ

“อาจารย์”

นางร้องเรียก

“ดูเหมือนว่านี่จะไม่ใช่ทิศทางของห้องพักอาจารย์ใหญ่”

อาจารย์หญิงทั้งสองหันมองหน้ากันสักครู่หนึ่ง ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะหันกลับมาตอบกลับเด็กหญิงว่า

“ก่อนที่จะไปห้องของอาจารย์ใหญ่ เราจะต้องไปโรงฝึกเพื่อหยิบของบางอย่าง แล้วนำมันไปมอบให้กับอาจารย์ใหญ่ด้วย”

“แต่… ห้องพักของอาจารย์ใหญ่ก็อยู่ใกล้กับโรงฝึก”

ความสงสัยผุดขึ้นในใจของหลี่ลี่

“เช่นนั้นข้าจะไปที่ห้องของอาจารย์ใหญ่ พวกท่านไปที่โรงฝึก ข้าย่อมไม่หนีไปไหน”