ตอนที่ 657 แม่เฒ่าหลัวสั่งสอนลูกสาวตัวเอง

แม่ปากร้ายยุค​ 80

ตอนที่​ 657 แม่เฒ่าหลัว​สั่งสอน​ลูกสาว​ตัวเอง​

พ่อ​ไป๋​เปิดปาก​พูด​ประชดประชัน​ทันที​ “ครอบครัว​อัปลักษณ์​! ฮึ ทั้งๆ ที่​รู้​ว่า​สิ่งที่​กระทำ​มัน​น่าอับอาย​ขนาด​ไหน​! ต่อหน้า​ผม​ ยัง​กล้า​แย่ง​จี้ทองคำ​ที่​ลูกสะใภ้​คนโต​มอบให้​หลานสาว​ไป​สวม​ให้​กับ​หลานชาย​ นี่​ไม่เคย​เห็น​หัว​ผม​เลย​สินะ​?!”

ท้ายที่สุด​พ่อ​ไป๋​ก็​เป็น​ประธาน​ของ​สาขา​ แม้ว่า​จะเป็น​แค่​ประธาน​สาขา​ แต่​ก็​เป็น​ถึงประธาน​สาขา​ปักกิ่ง​ เป็น​ตำแหน่ง​ระดับ​รองผู้อำนวยการ​ที่​มีหน้ามีตา​ของ​สังคม​

เขา​มัก​จัดการ​กับ​อารมณ์​ได้ดี​ อ่อนน้อม​ถ่อมตน​ แต่​เมื่อ​ถึงคราว​ระเบิด​โทสะ​ก็​เรียก​ได้​ว่า​น่ากลัว​มาก​

แม่หยาง​เป็น​หญิง​วัยกลางคน​ธรรมดา​ที่​ไม่มีงาน​ทำ​ด้วยซ้ำ​ ย่อม​รู้สึก​กลัว​เมื่อ​เผชิญ​กับ​สถานการณ์​เช่นนี้​

นาง​ไม่กล้า​แย่ง​จี้ทองคำ​ของ​เถียนเถียน​แล้ว​ รีบ​หุบปาก​ฉับ​ด้วย​อาการ​หดหัว​เหมือน​เต่า​

พ่อ​ไป๋​เห็น​ว่า​แม่หยาง​ยังมี​ความซื่อสัตย์​อยู่​บ้าง​ เขา​จึงหยุด​แค่นั้น​

ท้ายที่สุด​ใน​ฐานะ​ผู้ชาย​และ​เจ้าหน้าที่​ระดับสูง​ การ​ดุด่าว่ากล่าว​หญิง​วัยกลางคน​ที่​อ่านหนังสือ​ไม่ออก​ รังแต่​จะทำให้​คนอื่น​มอง​เขา​ในแง่​ลบ​

เขา​หันไป​พูด​กับ​พ่อ​หยาง​ด้วย​สีหน้า​เย็นชา​ “จากนี้ไป​ดูแล​คน​ของ​คุณ​ให้​ดี​ อย่า​คิด​ว่า​ตระกูล​ไป๋​ของ​ผม​จะยอมให้​ถูก​กลั่นแกล้ง​โดยง่าย​!”

พ่อ​หยาง​ยอมรับผิด​ และ​เอาแต่​ขอโทษ​ขอ​โพย​ กระทั่ง​หันไป​ดุด่า​แม่หยาง​อยู่​เป็นครั้งคราว​

พ่อ​ไป๋​มอง​หยาง​จิ้น​ลูกเขย​ของ​เขา​อีกครั้ง​ “อย่า​มากล่าวโทษ​ว่า​ฉัน​ไม่ไว้หน้า​แม่ของ​นาย​ใน​ที่สาธารณะ​ เพราะ​แม่ของ​นาย​ทำเกินไป​! ถ้านาย​ไม่พอใจ​เรา​ใน​เรื่อง​นี้​และ​ทำตัว​แย่​กับ​เหยียนเหยียน​ งั้น​ก็​หย่า​กับ​เหยียนเหยียน​ซะ ฉัน​ดูแล​เลี้ยงดู​ลูกสาว​และ​หลานสาว​ของ​ตัวเอง​ได้​!”

หลิน​ม่าย​พูด​เสริม​ “แล้ว​เมื่อ​พ่อ​ของ​ฉัน​แก่ตัว​ลง​ ฉัน​จะเป็น​คน​ดูแล​พี่สาว​คนโต​และ​เถียนเถียน​เอง​”

พี่น้อง​ไป๋​ลู่​และ​ไป๋​เซี่ย​รีบ​พูด​ “พวกเรา​จะช่วยกัน​ดูแล​พี่สาว​และ​หลานสาว​ด้วย​เหมือนกัน​”

หยาง​จิ้น​ไม่รู้​ว่า​ควร​หัวเราะ​หรือ​ร้องไห้​ดี​ “ผม​ไม่ได้​โกรธ​คุณ​ นับประสาอะไร​กับ​การ​ทำตัว​เลวร้าย​กับ​พี่สาว​ของ​พวกคุณ​ คน​อย่าง​ผม​จะทำ​อะไร​ได้​ล่ะ​ครับ​?”

ก่อนหน้านี้​เขา​เป็น​เพียง​คนงาน​ธรรมดา​ บังเอิญ​ได้​พบ​กับ​ไป๋​เหยียน​ผู้​อ่อนโยน​และ​งดงาม​ที่ทำงาน​ใน​ธนาคาร​แห่ง​หนึ่ง​ และ​ได้รับ​มิตรภาพ​อย่าง​จริงใจ​แม้กับ​คน​ชนชั้น​แรงงาน​

เขา​ตกหลุมรัก​หล่อน​ตั้งแต่​แรกเห็น​

แต่​ช่องว่าง​ระหว่าง​พื้นฐาน​ครอบครัว​และ​เงื่อนไข​ส่วนตัว​นั้น​มีมากเกินไป​ หยาง​จิ้น​รู้สึก​ว่า​เขา​ดี​ไม่พอ​สำหรับ​ไป๋​เหยียน​ และ​ไม่กล้า​ไล่ตาม​หล่อน​ต่อ​

แต่​เมื่อ​ความรัก​ก่อตัว​ เขา​ก็​ไม่สามารถ​เก็บ​ซ่อน​มัน​ได้​ ใน​เมื่อ​ซ่อน​ไม่ได้​ เขา​จึงไม่คิด​ทน​เก็บ​มัน​

ในที่สุด​หยาง​จิ้น​ก็​ไล่ตาม​ไป๋​เหยียน​อย่าง​กล้าหาญ​

ไป๋​เหยียน​ไม่ได้​รู้สึก​อะไร​กับ​เขา​ใน​ตอนแรก​ แต่​ด้วย​ความพยายาม​อย่าง​ไม่ลดละ​ของ​อีก​ฝ่าย​ ในที่สุด​หล่อน​ก็​ยอมรับ​ใน​ตัว​เขา​

พ่อ​ไป๋​เป็น​คน​ใจกว้าง​ ไม่เหมือน​พ่อแม่​คนอื่นๆ​ ที่​ยืนยัน​จะหา​คน​ที่​เหมาะสม​สำหรับ​ทายาท​ตัวเอง​

คำขอ​ของ​เขา​ง่ายดาย​มาก​ ตราบใดที่​หยาง​จิ้น​สามารถ​เลี้ยงดู​ครอบครัว​และ​ดูแล​ลูกสาว​เขา​เป็น​อย่าง​ดี​

ดังนั้น​เมื่อ​หยาง​จิ้น​มาสู่ขอ​ลูกสาว​ พ่อ​ไป๋​จึงตอบ​ตกลง​ทันที​ แม้ว่า​แม่ไป๋​จะยังคง​ลังเล​อยู่​เล็กน้อย​

พ่อ​ไป๋​ยัง​ขอให้​แม่ไป๋​เตรียม​สินเดิม​สำหรับ​ไป๋​เหยียน​อีกด้วย​

หยาง​จิ้น​เคารพ​พ่อตา​ของ​เขา​มาก​ แล้​วจะ​ให้​เขา​ไม่พอใจ​อีก​ฝ่าย​ได้​อย่างไร​ นับประสาอะไร​กับ​ไป๋​เหยียน​

เมื่อ​เห็น​ว่า​หยาง​จิ้น​เคารพ​พ่อ​ไป๋​และ​ยัง​เข้าข้าง​พี่น้อง​หลิน​ม่าย​ แม่หยาง​ก็​โกรธ​มาก​จน​แทบ​ระเบิด​โทสะ​ออกมา​

แต่​หยาง​จิ้น​หันกลับ​ไป​พูด​กับ​นาง​ว่า​ “แม่ ใจเย็น​ลง​ก่อน​ ดื่ม​เสร็จ​แล้วก็​กลับ​เถอะ​ หยุด​ทำตัว​น่าอาย​ได้​แล้ว​”

การ​ถูก​คนอื่น​ข่มเหง​รังแก​นั้น​ แตกต่าง​จาก​การ​ถูก​ลูกชาย​ตัวเอง​กระทำ​โดยสิ้นเชิง​

แม่หยาง​แทบ​กระอัก​เลือด​ออกมา​เต็มปาก​จน​พุ่งกระฉูด​สามพัน​ฉื่อ​

แขก​ทุกคน​มาถึงแล้ว​ และ​งานเลี้ยง​กำลัง​เริ่ม​ขึ้น​

พ่อ​ไป๋​พา​หลิน​ม่าย​ไป​ยัง​โต๊ะ​ของ​งานเลี้ยง​ แล้ว​แนะนำ​เธอ​ให้​แก่​ญาติ​และ​เพื่อนสนิท​มิตรสหาย​ทุกคน​ให้​รู้จัก​

ญาติ​และ​เพื่อนฝูง​เหล่านี้​ไม่เพียง​ยกย่อง​หลิน​ม่าย​ถึงความ​รูปงาม​ แต่​ยัง​รวมถึง​ผลการเรียน​ที่​ดี​ด้วย​ พวกเขา​ไม่เคย​เห็น​เด็ก​คน​ไหน​โดดเด่น​ขนาด​นี้​มาก่อน​ ช่างเป็นเกียรติ​แก่​วงศ์ตระกูล​จริงๆ​

ไม่เพียงแค่​พ่อ​ไป๋​เท่านั้น​ แม้แต่​ปู่​ไป๋​และ​ย่า​ไป๋​ก็​รู้สึก​มีความสุข​จน​หุบ​ยิ้ม​ไม่หุบ​เมื่อ​ได้ยิน​คำ​เชยชม​ดังกล่าว​

ไป๋​ซวง​เห็น​ว่า​หลิน​ม่าย​ได้รับ​ความนิยมชมชอบ​อย่าง​มาก​ จน​ได้รับ​ซอง​แดง​มากมาย​จาก​ญาติ​และ​เพื่อนฝูง​ ดวงตา​ของหล่อน​ก็​แดงก่ำ​ด้วย​ความอิจฉา​

หล่อน​เคย​เป็นที่​โปรดปราน​มาก่อน​ แต่​เหล่า​ญาติ​และ​เพื่อนฝูง​ไม่เคย​ยกย่อง​หล่อน​เหมือนกับ​ที่​ทำ​กับ​หลิน​ม่าย​!

ไป๋​ซวง​แอบ​สบถ​ด่า​แขก​เหล่านี้​อยู่​ใน​ใจว่า​ช่างเสแสร้ง​ยิ่งนัก​

เห็น​พ่อ​ไป๋​กำลัง​ชนแก้ว​กับ​โต๊ะ​ใกล้​ๆ แม่ไป๋​ก็​คิด​ว่า​ถึงเวลา​ที่จะ​ทำให้​เขา​อับอาย​แล้ว​

แม่ไป๋​หันไป​พูด​กับ​แม่ตัวเอง​ว่า​ “แม่ ดู​สิ ปี​นี้​ซวงเอ๋อร์​สอบ​เข้า​มหาวิทยาลัย​ได้​อันดับ​ที่​ไม่ดี​ แล้ว​ยัง​สอบ​เข้า​ไม่ได้​เลย​ด้วยซ้ำ​ ฉัน​อยาก​จ่าย​ให้​โรงเรียน​เพื่อ​ที่​หล่อน​จะได้​เข้าเรียน​ แต่​พ่อ​ไป๋​ยืนยัน​ว่า​จะให้เงิน​ม่าย​จื่อ​ โดย​บอ​กว่า​มัน​เป็น​เงิน​ที่​ให้​หล่อน​ไป​ซื้อ​จักรยาน​ ม่าย​จื่อ​ก็​ซื้อ​จักรยาน​ไป​แล้ว​ ทำไม​ถึงให้เงิน​ส่วน​นี้​ไม่ได้​ล่ะ​? เห็นได้ชัด​ว่า​แค่​ไม่อยาก​เสียเงิน​ให้​ซวงเอ๋อร์​ได้​เรียนหนังสือ​ แม่ แม่ก็​เห็น​ซวงเอ๋อร์​ตั้งแต่​เล็ก​จน​โต​ พ่อ​ของหล่อน​ไม่สนใจ​พวก​ฉัน​เลย​ ดังนั้น​อย่า​เพิกเฉย​พวก​ฉัน​เลย​นะ​ แม่ให้​ฉัน​ยืม​เงิน​ไป​จ่าย​ให้​ซวงเอ๋อร์​เรียน​ได้​ไหม​?”

แม่เฒ่าหลัว​หัน​มอง​ลูกสาว​ตัวเอง​ผู้​ที่​มีใบหน้า​งดงาม​ แต่กลับ​โง่เขลา​เบาปัญญา​ ก่อน​จะสวน​กลับ​ “ดู​ที่​ตัวเอง​พูด​เข้า​ เด็ก​คน​นั้น​ไม่ได้​ผิด​เลย​ ใคร​เขา​จะอยาก​เห็น​ลูก​คนอื่น​ได้​ดีกว่า​ลูก​ตัวเอง​! แค่​คิด​ว่า​ม่าย​จื่อ​ถูก​พ่อแม่​บุญธรรม​ทรมาน​ ฉัน​ก็​รู้สึก​แย่มาก​แล้ว​ แต่​นี่​ยัง​มีหน้า​มาบอ​กว่า​ฉัน​เห็น​ไป๋​ซวง​ตั้งแต่​เล็ก​จน​โต​! พูดว่า​สามีของ​เธอ​ไม่สนใจ​ไป๋​ซวง​ เขา​เลี้ยงดู​ไป๋​ซวง​มาตั้ง​สิบ​เก้า​ปี​ ไป๋​ซวง​โต​เป็นผู้ใหญ่​แล้ว​ ยัง​จะต้อง​ให้​หมิง​หยวน​ดูแล​หล่อน​ต่อไป​อีก​เหรอ​? หรือว่า​ต้องการ​ให้​เขา​เหนื่อย​ตาย​ไป​เลย​! ม่าย​จื่อ​เป็น​ลูกสาว​แท้ๆ​ ของ​หมิง​หยวน​ มัน​เป็นเรื่อง​ปกติ​อยู่แล้ว​ไม่ใช่เหรอ​ที่​หมิง​หยวน​จะซื้อ​จักรยาน​ให้​หล่อน​? ไป๋​ซวง​เป็น​ลูกบุญธรรม​ก็​จริง​ แต่​หล่อน​ก็ได้​ขี่​จักรยาน​รุ่น​ล่าสุด​ที่​หมิง​หยวน​ซื้อ​ให้​ พอ​หมิง​หยวน​ให้เงิน​ลูกสาว​เขา​ไป​ซื้อ​จักรยาน​บ้าง​ เธอ​กลับ​ไป​ตำหนิ​เขา​ เธอ​จะตำหนิ​เขา​ไป​เพื่อ​อะไร​?”

แม่ไป๋​ตะลึงงัน​

เดิมที​หล่อน​แค่​ต้องการ​บอก​ความรู้สึก​ไม่สบายใจ​ต่อ​สามีใน​ที่สาธารณะ​ ว่า​นอกจาก​ลูกสาว​แท้ๆ​ แล้ว​ เขา​ก็​ไม่ต้องการ​ดูแล​ลูกสาว​บุญธรรม​อีกต่อไป​

จากนั้น​หล่อน​ก็​จงใจยืม​เงิน​จาก​พ่อแม่​ตัวเอง​ เพื่อ​แสดง​ให้​พ่อ​ไป๋​เห็น​ว่า​ แม้จะไม่ให้เงิน​พวก​หล่อน​ แม่และ​ลูกสาว​ก็​สามารถ​หยิบยืม​เงิน​เพื่อ​ส่งไป๋​ซวง​เข้า​มหาวิทยาลัย​ได้​

แต่​ไม่คาดคิด​ว่า​จะถูก​แม่ของ​ตัวเอง​ดุด่า​อย่าง​ไม่ไว้หน้า​ ไม่เพียง​ช่วย​รักษาหน้า​ของ​สามีหล่อน​ แต่​ยัง​ทำให้​หล่อน​อับอาย​จน​แทบ​แทรกแผ่นดิน​หนี​

แม่ไป๋​อยาก​กู้หน้า​ของ​ตัวเอง​คืน​มา หล่อน​จึงบ่น​ไป​ว่า​ “แม่คะ​ ฉัน​แค่​จะยืม​เงิน​มาให้​ซวงเอ๋อร์​เรียน​เท่านั้น​ ทำเป็น​เรื่องใหญ่​ไป​ได้​”

แม่เฒ่าหลัว​ปฏิเสธ​เสียง​เรียบ​ “ฉัน​คง​ให้​คน​ที่​ใส่ร้าย​หลานสาว​ฉัน​ยืม​เงิน​ไม่ได้​หรอก​ แถมยัง​นำ​ไป​ให้​คน​ที่​ไม่มีความสัมพันธ์​ทาง​สายเลือด​ด้วยซ้ำ​ เธอ​ไป​ขอยืม​คนอื่น​เถอะ​!”

แม่ไป๋​ถึงกับ​พูดไม่ออก​

พ่อเฒ่า​หลัว​เหลือบมอง​หล่อน​และ​พูดว่า​ “คิด​ว่า​คนอื่น​เขา​โง่เง่าเหมือน​เธอ​หรือไง​ ที่จะ​หลงเชื่อ​คำพูด​อสรพิษ​ลิ้นสองแฉก​!”

แม่ไป๋​ทน​นิ่งเฉย​ไม่ได้​อีกต่อไป​ หล่อน​ต้อง​การพา​ไป๋​ซวง​ออกจาก​ที่นี่​โดยเร็ว​

เมื่อ​พวก​หล่อน​ลุกขึ้น​ แม่เฒ่าหลัว​ก็​พูดแดกดัน​ทิ้งท้าย​ “มัน​จำเป็น​นัก​หรือไง​ที่​ต้อง​จ่าย​เงิน​ราคาแพง​เพื่อ​มหาวิทยาลัย​ไก่ป่า​(1)แบบ​นั้น​!”

แม่ไป๋​และ​ไป๋​ซวง​ต่าง​ก็​รู้สึก​อับอาย​อย่างยิ่ง​ จน​แทบ​อยาก​แทรกแผ่นดิน​หนี​เสีย​ตอนนี้​

แน่นอน​ว่า​แม่ไป๋​ไม่ได้​ต้องการ​จ่าย​เงิน​ราคาแพง​เพื่อให้​ไป๋​ซวง​เรียน​ใน​มหาวิทยาลัย​ไก่ป่า​

แต่​เป็น​เพราะ​ผล​การ​สอบ​เข้า​ของ​ไป๋​ซวง​ย่ำ​แย่มาก​ ยกเว้น​เพียง​มหาวิทยาลัย​ไก่ป่า​แห่ง​นี้​ที่​เต็มใจ​รับ​หล่อน​ มหาวิทยาลัย​ทางการ​แห่ง​อื่น​ล้วน​ไม่ยอมรับ​หล่อน​เข้าเรียน​ ไม่ว่า​จะจ่าย​เงิน​ให้​พวกเขา​มาก​เท่าใด​ก็ตาม​

แขก​บาง​คนใน​งานเลี้ยง​เริ่ม​แสดงความคิดเห็น​ “ทายาท​ตระกูล​ไป๋​ต่าง​ก็​ได้รับ​กรรมพันธุ์​ดีเด่น​ พวกเขา​ทั้งหมด​สอบ​เข้า​มหาวิทยาลัย​จน​เป็น​นักศึกษา​ โดย​เฉพาะคน​เล็ก​ยิ่ง​น่าทึ่ง​ สอบ​เข้า​ด้วย​คะแนน​สูงสุด​ใน​คณะวิทยาศาสตร์​ของ​มหาวิทยาลัย​! ตระกูล​ไป๋​ลงทุน​กับ​การเล่าเรียน​ด้วย​เงิน​จำนวนมาก​ แต่​ไม้สน​อย่างไร​ก็​เป็นได้​แค่​ไม้สน​เท่า​นั้นแหละ​”

เมื่อ​ไป๋​ซวง​ได้ยิน​คำพูด​เหล่านี้​ หล่อน​ก็​ทั้ง​ละอายใจ​และ​ขุ่นเคือง​

หลิน​ม่าย​ได้ยิน​การ​สนทนา​ทั้งหมด​ระหว่าง​แม่ไป๋​กับ​คุณตา​และ​คุณยาย​

โดย​คิด​ว่า​คน​เฒ่าทั้งสอง​ช่างเข้ากัน​เป็นปี่เป็นขลุ่ย​

ใน​บางครั้ง​เธอ​ก็​ไป​เกลี้ยกล่อม​ให้​ผู้เฒ่า​ทั้งสอง​กิน​อาหาร​ให้​มากขึ้น​ และ​แน่นอน​ว่า​เธอ​ไม่ละเลย​ปู๋​ไป๋​และ​ย่า​ไป๋​

งานเลี้ยง​ฉลอง​พิธีสมรส​จบ​ลง​ด้วยดี​

หลังจาก​ส่งแขก​กลับ​แล้ว​ พ่อ​ไป๋​อยาก​ไป​นั่งเล่น​ใน​สวน​ของ​บ้าน​หลิน​ม่าย​

เขา​ไม่อยาก​กลับบ้าน​ เพราะ​รู้สึก​อารมณ์เสีย​เมื่อ​เห็น​หน้า​แม่ไป๋​และ​ไป๋​ซวง​

ไป๋​เซี่ย​และ​ไป๋​ลู่​เอง​ก็​อยาก​ไป​นั่งเล่น​ที่​บ้าน​ของ​หลิน​ม่าย​

หลิน​ม่าย​หยุด​คิด​เพียง​ครู่​ จากนั้น​จึงพา​พวกเขา​ไป​ยัง​บ้าน​ตัวเอง​ ปล่อย​พวกเขา​อยู่​กัน​ตามลำพัง​ ขณะที่​เธอ​กำลังจะ​ออก​ไป​ทำ​ป้าย​ที่​ร้าน​ขนม​

หลัง​พ่อ​ไป๋​และ​พี่น้อง​ไป๋​เซี่ย​ไป๋​ลู่​รู้​ว่า​เธอ​เปิดร้าน​ขนาดเล็ก​ ทุกคน​ก็​รู้สึก​สนใจ​มาก​

เมื่อ​ตาม​ไปดู​พบ​ว่า​เป็น​ร้าน​ซาลาเปา​ที่​ได้รับ​ความนิยม​

พวกเขา​ยัง​ช่วย​เธอ​ติดตั้ง​ป้าย​ของ​ร้าน​อีกด้วย​

พ่อ​ไป๋​สนับสนุน​ผู้ประกอบการ​เสมอ​ แต่​เขา​กลัว​ว่าการ​ที่​หลิน​ม่าย​เปิดร้าน​และ​เรียนหนังสือ​ในเวลาเดียวกัน​ อาจ​ทำให้​เธอ​ทำ​สิ่งใดสิ่งหนึ่ง​ได้​อย่าง​ไม่เต็มที่​

หลิน​ม่าย​ส่าย​หัว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ไม่ต้อง​กังวล​ค่ะ​ ฉัน​จ้างคนงาน​สอง​คน​มาทำ​ซาลาเปา​และ​เป็น​คน​ขาย​ ฉัน​แค่​ต้อง​กำกับ​และ​สั่งการ​พวกเขา​เท่านั้น​”

ได้ยิน​แบบ​นั้น​พ่อ​ไป๋​ก็​โล่งใจ​

หลังจาก​ช่วย​งาน​ที่​ร้าน​ซาลาเปา​จน​เสร็จ​ สมาชิก​ครอบครัว​ทั้ง​สี่ไป​ซื้อ​ต้น​หอม​และ​หมูสับ​กลับมา​ทำ​เกี๊ยว​ที่​บ้าน​ของ​หลิน​ม่าย​

ทุกคน​กิน​เกี๊ยว​เป็น​อาหารเย็น​ เกี๊ยว​ที่​หลิน​ม่าย​ทำ​มีรสชาติ​อร่อย​มาก​ พ่อ​ไป๋​และ​ทุกคน​กิน​จน​อิ่ม​ท้อง​ก่อน​ขอตัว​กลับบ้าน​

ก่อน​ออกเดินทาง​ พ่อ​ไป๋​ขอ​สมุด​ทะเบียนบ้าน​ของ​หลิน​ม่าย​ เพื่อ​ที่​เธอ​จะได้​ย้าย​ทะเบียนบ้าน​ตัวเอง​ไป​ยัง​บ้าน​ตระกูล​ไป๋​ใน​วันพรุ่งนี้​

ขณะเดียวกัน​แม่ไป๋​และ​ไป๋​ซวง​ที่อยู่​บ้าน​มีสถานการณ์​ที่​ไม่ดี​นัก​

วันนี้​เป็น​วันอาทิตย์​ แม่บ้าน​หยุดงาน​ แม่ไป๋​จึงต้อง​ลงมือ​ทำอาหาร​เอง​

แต่​หล่อน​ทำอาหาร​อย่าง​อื่น​ไม่เป็น​เลย​นอกจาก​ปรุง​บะหมี่​

แม่ไป๋​ทำอาหาร​ไม่เก่ง​ ขณะที่​ทำ​บะหมี่​ หล่อน​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​นึกถึง​คำพูด​ของ​พ่อแม่​ตัวเอง​

เพราะ​ความคิด​ฟุ้งซ่าน​ชั่วขณะ​ ทำให้​หล่อน​ต้ม​เส้น​นาน​เกินไป​ เส้น​บะหมี่​จึงขึ้น​อืด​จน​แน่น​เต็ม​หม้อ​

แน่นอน​ว่า​บะหมี่​ที่​ปรุง​นาน​เกินไป​จะไม่อร่อย​ แต่​แม่ไป๋​และ​ไป๋​ซวง​ก็​จำใจต้อง​กิน​

พ่อ​ไป๋​เห็น​ดังนี้​แล้วก็​ไม่ได้​รู้สึก​สงสาร​เหมือน​ที่​เคย​เป็น​แบบ​ครั้งก่อน​

ที่​ชีวิต​ของ​แม่ไป๋​เป็น​แบบนี้​ก็​เพราะ​หล่อน​ทำ​ตัวเอง​ทั้งนั้น​

………………………………………………………………………………………………………………………..

[1] มหาวิทยาลัย​ไก่ป่า​ มหาวิทยาลัย​ประเภท​นี้​อาจ​เทียบ​ได้​ใน​กับ​ ‘มหาวิทยาลัย​ตึกแถว​’ ใน​ภาษาไทย​ โดย​มัก​เป็น​สถาบัน​ที่​ไม่ได้รับ​การ​รับรอง​จาก​หน่วยงาน​ที่​ถูกต้องตามกฎหมาย​ บางครั้ง​อาจ​ไม่มีสถานที่​ตั้งอยู่​จริง​ ไม่มีการเรียน​การสอน​ และ​ปริญญา​ที่​ได้​ก็​มัก​เป็น​ของปลอม​

สาร​จาก​ผู้แปล​

โดน​พ่อแม่​ตัวเอง​ด่า​ขนาด​นี้​แล้ว​มัน​ต้อง​คิดได้​แล้ว​ไหม​ เป็น​ลูก​ของ​สอง​เฒ่าตระกูล​หลัว​จริง​เปล่า​เนี่ย​ยัย​แม่ไป๋​ ทำไม​โง่ผิด​จาก​พ่อแม่​ขนาด​นี้​

ไหหม่า​(海馬)