บทที่ 604 มาเพียงลำพัง

บทที่ 604 มาเพียงลำพัง

“เจ้า….ข้าเห็นเจ้าเป็นแค่แม่นางตัวน้อย ไม่เคยคิดจะสร้างความลำบากใจให้เจ้า แต่ถ้าเจ้ายังยั่วโมโหข้า ข้าไม่รับประกันว่าเจ้าจะอยู่ถึงตอนที่พี่อาเถิงของเจ้ามาช่วยชีวิตได้”

ดูเหมือนคนผู้นั้นจะถูกจี้ใจดำไม่น้อย สีหน้าถึงได้เปลี่ยนอีกครั้ง ท่าทางโหดร้ายนั้นทำให้หลินซือเริ่มหวาดกลัว

คนที่อยู่ข้างกายเขากลับไม่แปลกใจ

หลังจากลงจากรถม้า

“เอาตัวนางไปขังไว้ในโรงเก็บฟืน รอให้เจี่ยงเถิงมาช่วยนาง”

เมื่อคนผู้นั้นกล่าวจบ ก็มีคนลากตัวหลินซือลงจากรถม้า แล้วก็ขังนางไว้ในโรงเก็บฟืน

เดิมทีสิ่งแวดล้อมในโรงเก็บฟืนนั้นไม่ได้สะอาดนัก รอบตัวนางเต็มไปด้วยความชื้นแฉะ เสื้อผ้าของหลินซือเปรอะเปื้อนคราบสกปรก ครั้นเห็นประตูที่ปิดสนิทลง ในใจของหลินซือก็ยิ่งหวาดกลัว

นางรู้ว่าพี่อาเถิงต้องมาช่วยแน่นอน แต่คนเหล่านี้ไม่ใช่คนดี ถ้าพี่อาเถิงมาจริง ๆ จะบาดเจ็บหรือไม่?

อีกด้านหนึ่ง หลังจากที่เจี่ยงเถิงตื่นขึ้นมาก็รู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล

ยามที่เขาออกไปปฏิบัติภารกิจข้างนอกเขาไม่เคยนอนหลับสนิท มีการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยก็สะดุ้งตื่นแล้ว แต่เช้าวันนี้กลับได้รับการปลุกจากคนอื่น

เจี่ยงเถิงรู้สึกไม่ดีในใจ จึงรีบตรงไปยังห้องพักของอาซือที่อยู่ถัดไปทันที และก็เป็นอย่างที่คาดคิดไว้ ทั้งห้องกลับว่างเปล่าไม่เห็นแม้แต่เงาของอาซือ

เห็นเพียงจดหมายฉบับหนึ่งบนเตียง เมื่อเจี่ยงเถิงเปิดออก เนื้อหาภายในนั้นเขียนเข้าใจได้ง่าย อาซืออยู่ในกำมือของพวกเขาแล้ว ถ้าเจี่ยงเถิงอยากช่วยอาซือ ต้องไปยังสถานที่ที่พวกเขาบอกเพียงลำพัง

ผู้ติดตามก็เห็นจดหมายฉบับนั้นแล้วเช่นกัน จึงอดมองเจี่ยงเถิงด้วยความกังวลไม่ได้

ระหว่างเดินทาง เขารู้ดีว่าแม่นางหลินเป็นอะไรกับใต้เท้าเจี่ยง

“ใต้เท้าเจี่ยง ชายชั่วผู้นั้นอยากแก้แค้นท่าน ถ้าไม่เจอท่าน พวกเขาไม่มีทางทำอะไรกับแม่นางหลินแน่นอน”

“ข้ารู้ แต่เพราะแบบนี้ ถ้าข้าไม่ทำตามที่พวกเขาบอก พวกเขาจะต้องลงมือทำร้ายอาซือแน่ ข้ารับผลที่ตามมาไม่ได้”

“แต่… ใต้เท้าเจี่ยง พวกเขาล้วนแต่เป็นพวกกากเดนในสังคมนะขอรับ”

“แล้วอย่างไร? เพื่ออาซือ เหตุใดข้าต้องกลัวคนพวกนี้ ข้าไม่รู้ว่าตอนนี้อาซือจะหวาดกลัวมากน้อยแค่ไหน ข้าคาดไม่ถึงว่าจะทำให้นางต้องตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้”

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เจี่ยงเถิงก็รู้สึกปวดใจราวกับโดนมีดปักลงกลางใจ เขาจึงต้องกำจัดศัตรูให้หมดสิ้นมาโดยตลอด เพราะกลัวว่าจะมีคนฉวยโอกาสในช่วงชุลมุนก่อความวุ่นวาย แต่ครานี้เพราะมีอาซืออยู่ด้วย เขาเองก็ไม่อยากให้อาซือเห็นด้านที่โหดร้ายของตัวเอง ดังนั้นจึงไว้ชีวิตคนเหล่านี้

แต่ดูจากตอนนี้ เพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบของเขาถึงทำให้หลินซือตกอยู่ในอันตราย เจี่ยงเถิงเสียใจจริง ๆ

“ใต้เท้าเจี่ยง ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าคนพวกนั้นเป็นใคร ขืนบุ่มบ่ามไป อาจจะทำให้พวกเขาระแวดระวังก็เป็นได้?”

“พวกเจ้าจงนำหลักฐานที่ข้าตรวจสอบได้กลับเมืองหลวง ระวังอย่าให้ใครจับได้เด็ดขาด ต้องนำสิ่งที่ตรวจสอบได้ในครานี้กลับไปให้ถวายแด่ฮ่องเต้ให้จงได้ เข้าใจไหม?”

“ขอรับ ใต้เท้าเจี่ยงจะไม่พาทหารไปด้วยจริง ๆ หรือ? คนเลวทรามพวกนั้นคบไม่ได้ ถ้าท่านไปเพียงลำพัง เกรงว่าอาจจะอันตรายถึงชีวิต…”

“ไม่เป็นไร คนพวกนั้นใจเสาะเหมือนปลาซิว”

ทำไมเจี่ยงเถิงถึงจะไม่รู้ว่าชีวิตของตัวเองต้องตกอยู่ในอันตราย แต่ตราบใดที่หลินซืออยังอยู่ที่นั้น ก็นับว่าตกอยู่ในอันตราย เขาอยากจะถลันเข้าไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด

หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ครั้นเจี่ยงเถิงเห็นพวกเดียวกันมุ่งหน้าไปยังทิศทางของเมืองหลวง ตัวเองจึงกลับที่พัก เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วออกจากที่พักไป เจี่ยงเถิงไปยังสถานที่ในจดหมาย ไม่นานก็หาสถานที่แห่งนั้นเจอ

…..

“คาดไม่ถึงว่าใต้เท้าเจี่ยงผู้มีชื่อเสียงโด่งดังจะมีมุมที่หน้ามืดตามัวด้วย”

เสียงของชายแปลกหน้าได้ดังขึ้นตรงหน้าของเจี่ยงเถิง

พริบตาต่อจากนั้น ชายที่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าหยาบกร้านคนหนึ่งได้ปรากฏตัวตรงหน้าของเจี่ยงเถิง

เจี่ยงเถิงมองชายแปลกหน้าตรงหน้า จากห้วงความทรงจำเขาไม่เคยคบค้าสมาคมกับชายผู้นี้มาก่อน ตัวเองคงไม่ได้เดาผิดหรอกนะ?

“อาซืออยู่ไหน?”

“เฮ้ คงจะคะนึงหาหญิงสาวสุดที่รักมากสินะ ไหน ๆ ใต้เท้าเจี่ยงก็มาแล้ว ถ้าเราไม่ทำการต้อนรับ อาจจะทำลายความตั้งใจของใต้เท้าเจี่ยงเอาได้ เด็ก ๆ พาแม่นางหลินออกมา”

คนข้างกายตอบรับแล้วเดินไปข้างหลัง ไม่นานหลินซือก็ถูกคุมตัวออกมา

เจี่ยงเถิงมองพิจารณาหลินซือตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า พบว่าร่างกายของนางไม่มีบาดแผลแต่อย่างใด แค่ดูจนตรอกไปบ้างเท่านั้น ครั้นรู้เช่นนี้เขาก็เหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก

“พี่อาเถิง!”

หลินซือคาดไม่ถึงว่าจะได้เจอกับพี่อาเถิงในสถานการณ์เช่นนี้

ทำไมเขาถึงมาเพียงลำพัง?

หลินซือผู้ไม่ชอบร้องไห้มาโดยตลอด ครั้นได้เจอกับเจี่ยงเถิงน้ำตาก็หลั่งรินออกมาทันที….