บทที่ 568 คำเตือนของติ๊นา

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

หลังจากปรึกษาหารือกันแล้ว ทั้งสองก็พูดคุยถึงแนวทางของการออกแบบ จากนั้นก็เตรียมตัวที่จะเดินทางออกจากห้องโถง

การแข่งขันในตอนนี้ไม่เหมือนกับตอนก่อนหน้า ที่ต้องอยู่แต่ในห้องแข่งจนกว่าจะเสร็จ เวลาสองอาทิตย์ นักออกแบบสามารถอยู่บ้าน หรือสถานที่อื่นๆเพื่อทำงานให้เสร็จได้

ขอแค่ส่งงานให้ตรงตามเวลาก็พอ

นักออกแบบคนอื่นๆก็มีความคิดนี้เช่นเดียวกัน ยื่นขออนุมัติแล้วเสร็จ จากนั้นก็ขอตัวลากลับไป

วารุณีกับลีน่าเดินขนาบข้างกันในโถงทางเดิน เพื่อไปยังห้องรับรอง

หลังจากเดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าว จู่ๆก็ถูกเรียกเอาไว้

หันกลับไปมอง คือติ๊นา

“มีอะไรหรือเปล่า?”วารุณียกยิ้มแล้วมองดูอีกฝ่าย

เธอรู้สึกดีกับติ๊นามาก ไม่เพียงเพราะเมื่อครู่ติ๊นาช่วยเธอเอาไว้ แต่ที่สำคัญคือ การประพฤติปฏิบัติตัวของติ๊นาก็ดีมาก ดูจะเข้าได้กับทุกคน

“ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ” ติ๊นาตอบพร้อมกับสมุดบันทึกออกแบบในมือที่กอดอยู่บนอก

วารุณีกับลีน่ามองสบตากัน จากนั้นก็ยิ้มและถามว่า “เรื่องอะไรเหรอ ?”

ติ๊นาไม่ได้ตอบออกไปในทันที แต่กลับหันซ้ายมองขวาไปยังรอบๆ ราวกับกำลังหลบซ่อนใครอยู่

เมื่อวารุณีเห็นท่าทีนี้ ก็หรี่ตาลง

“ที่นี่ไม่เหมาะกับการคุยกัน เราเดินหลบไปทางด้านข้างกันหน่อยดีกว่า” ติ๊นาชี้ไปที่ตรงบันได

วารุณีพยักหน้าให้

ในเมื่อรอบตัวเธอมีบอดี้การ์ดคอยดูแลอยู่ เธอจะไปกลัวอะไร

ทั้งสามคนก็เดินตามกันไป

หลังจากที่ติ๊นาหยุดเดิน ก็หันหลังกลับ แล้วมองไปที่วารุณี “วารุณี ต่อไปเธอต้องระวังตัวให้มากกว่านี้รู้ไหม ”

“หมายความว่าอย่างไร ?”ลีน่าเอียงคอด้วยความสงสัย

วารุณีขมวดคิ้วแน่น “เธอรู้อะไรมาใช่ไหม ? ”

ติ๊นาพยักหน้าให้ และพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า“เมื่อวานมีคนแปลกหน้าคนหนึ่งมาหาฉัน บอกให้ฉันจัดการกับเธอในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ หากเป็นแบบนี้ โอกาสที่ฉันจะคว้าแชมป์ก็จะมีมากขึ้น”

“อะไรนะ?”ลีน่าดวงตาเบิกกว้าง “มีคนแบบนี้ด้วยเหรอ ใครกัน แล้วเธอตอบตกลงไปไหม?”

ติ๊นาเหลือบมองเธออย่างเงียบๆ

มุมปากของวารุณีกระตุก“เธอโง่หรือไงลีน่า หากติ๊นาตอบตกลง เขาคงไม่เอาเรื่องนี้มาบอกพวกเราหรอก แล้วยังเตือนให้ฉันระวังตัวด้วย”

“ใช่” ติ๊นาพยักหน้าให้อย่างจริงจัง “ฉันเคยเข้าเรียนในโรงเรียนที่มีชื่อเสียง ครอบครัวก็เป็นครอบครัวของนักออกแบบที่มีชื่อเสียง ฉันไม่ตอบตกลงอยู่แล้ว แม้ว่าการแพ้ชนะจะเป็นเรื่องที่สำคัญ แต่พฤติกรรมของนักออกแบบนั้นสำคัญกว่า เมื่อนักออกแบบก้าวเข้าสู่การใช้วิธีที่สกปรกและน่ารังเกียจจัดการกับคนอื่น หัวใจของนักออกแบบคนนั้นก็มืดบอดแล้ว นักออกแบบที่มีจิตใจไม่ขาวสะอาด จะยังออกแบบผลงานที่ดีได้ยังไง”

“เธอพูดถูก”วารุณีมองเธออย่างชื่นชม

ติ๊นาพูดต่อว่า“เดิมทีฉันคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะหาฉันแค่คนเดียว แต่เช้าวันนี้ ตอนที่ฉันกับโจเนียกำลังทานอาหารเช้ากันอยู่โจเนียก็พูดว่ามีคนให้เขาหาเรื่องจัดการเธอในรอบชิงชนะเลิศ แต่โจเนียไม่ได้ตอบตกลง นิสัยของเขาคล้ายกันกับฉัน ไม่มีทางทำเรื่องอะไรแบบนี้แน่นอน”

“ฉันรู้ ว่าเธอกับโจเนียเกิดในครอบครัวของนักออกแบบ หากทำเรื่องพวกนี้ แล้วถูกจับได้ ก็จะส่งผลเสียไปถึงครอบครัวด้วย”วารุณีพยักหน้า

ติ๊นาหัวเราะ“เธอคิดได้แบบนี้ก็ดีแล้ว แต่ว่า ในเมื่อฉันกับโจเนียยังมีคนเข้าหา ดังนั้นฉันจึงเดาว่า พวกเรานักออกแบบคนอื่นๆก็น่าจะถูกเข้าหาแบบนี้ด้วย จุดประสงค์เดียว คือลงมือจัดการกับเธอ ฉันกับโจเนียปฏิเสธ แต่ไม่รู้ว่าคนอื่นๆจะปฏิเสธเหมือนกันไหม แต่เจสันน่าจะไม่ปฏิเสธ เรื่องเมื่อครู่ ก็เป็นหลักฐานที่ดี ”

เจสัน นักออกแบบชายผิวสีคนนั้น

ดวงตาวารุณีเย็นเยียบ

ความโกรธของลีน่าในที่สุดก็ระเบิดขึ้น “เยี่ยม ไอชายผิวสีคนนั้นเขาตั้งใจ วารุณี เราจะปล่อยเขาไปแบบนี้ไม่ได้นะ”

“ฉันรู้ แต่ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเขาจงใจทำ ดังนั้นจะจัดการกับเขา ตอนนี้คงยังไม่ได้ ”วารุณีขบริมฝีปากแล้วพูดออกมา

ในตอนนี้เอง โทรศัพท์มือถือของติ๊นาก็ดังขึ้น

เธอหยิบมันออกมาดู“โจเนียโทรมา เขาชวนฉันออกไปดื่มคืนนี้ แค่นี้ก่อนนะวารุณี ที่ควรพูดฉันก็พูดไปหมดแล้ว ต่อไปเธอก็ระวังตัวด้วยนะ ”

พูดจบ เธอก็ตบไปที่ไหล่ของวารุณีเบาๆ จากนั้นก็เดินผ่านหน้าวารุณีไป

วารุณีกำมือแน่น นัยน์ตามืดมน

ใครกันที่มาหานักออกแบบพวกนี้ แล้วให้นักออกแบบทุกคนจัดการเธอ ?

นิรุตติ์เหรอ ?

หรือนวิยา?

“วารุณี เธอกำลังคิดอะไรอยู่?”ลีน่ายกมือขึ้นแล้วโบกไปมาตรงหน้าวารุณี

วารุณีได้สติ “ไม่มีอะไร?”

“ในเมื่อไม่มีอะไร ก็ไปพักผ่อนก่อนเถอะ ประธานนัทธียังรอเธออยู่ จะได้บอกเรื่องนี้กับประธานนัทธีด้วย บางทีเขาอาจจะมีวิธีก็ได้”ลีน่าให้คำแนะนำด้วยรอยยิ้ม

วารุณีพยักหน้า “เธอพูดถูก ไปกันเถอะ”

ทั้งสองคนเดินกลับไปที่ห้องรับรอง

เชอรีนก็อยู่ด้วย

เพราะชุดกับเครื่องประดับยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง เธอก็จึงไม่มีอะไรทำ อยู่ที่ห้องรับรองคอยดูแลเด็กๆแทนวารุณีกับนัทธีไปก่อน

เพราะอย่างไรไอริณก็เป็นเด็กผู้หญิง เรื่องบางเรื่องนัทธีก็ไม่สะดวกที่จะจัดการเอง ก็จึงต้องอาศัยเชอรีนคอยช่วยเหลือ

“วารุณี พวกเธอกลับมากันแล้วเหรอ”เชอรีนกำลังเล่นกับเด็กๆอยู่ เมื่อได้ยินเสียงประตูห้องรับรองเปิดออก ก็เงยหน้าขึ้นทักทาย

วารุณีตอบกลับ“เรากลับมาแล้ว”

“หม่ามี๊”เด็กทั้งสองคนทิ้งของเล่นในมือ แล้ววิ่งเข้าไปกอดขาของเธอ

วารุณีลูบศีรษะของเด็กๆ และพบว่าในห้องรับรองมีคนสองคนหายไป จึงถามด้วยความสงสัยว่า “นัทธีกับผู้ช่วยมารุตล่ะ ?”

“มารุตไปซื้อขนมให้เด็กๆ ประธานนัทธีเพิ่งรับสายแล้วออกไป ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่บริษัท”เชอรีนตอบ

วารุณีพยักหน้า แสดงให้รู้ว่ารับรู้แล้ว จูงมือของเด็กๆไปที่โซฟา

ลีน่านั่งลงข้างๆเชอรีน เพื่อวัดรอบคอ และรอบนิ้วของเชอรีน

ผ่านไปไม่นาน ประตูห้องรับรองก็ถูกเปิดออก ร่างสูงใหญ่ของนัทธีก็เดินเข้ามา

“คุณพ่อ”เด็กทั้งสองคนตะโกนเรียกและโบกมือให้ชายหนุ่มอย่างดีอกดีใจ

นัทธีพยักหน้าให้เล็กน้อย จากนั้นก็มองไปยังวารุณี“กลับมากันนานหรือยัง?”

“เพิ่งกลับมาค่ะ ได้ยินเชอรีนบอกว่า ที่บริษัทเกิดเรื่องขึ้นเหรอคะ ? สำคัญมากไหม ถ้าสำคัญมาก คุณกลับไปก่อนได้นะ”วารุณีพูดอย่างเป็นกังวล

เธอไม่อยากเป็นต้นเหตุ ให้เขาเพิกเฉยจนไม่สนใจเรื่องที่บริษัท

หากเป็นแบบนี้ ต่อให้เขาจะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ป และเป็นประธานที่มีสิทธิ์มีเสียงมากที่สุด คณะกรรมการหัวรั้นเหล่านั้น ก็จะตั้งแง่เอากับเขาได้

เธอรู้ว่าเขาไม่กลัวคนหัวรั้นไม่ยอมรับสิ่งใหม่พวกนั้น และไม่สนใจคนหัวรั้นพวกนั้น

แต่ถ้าหากคนหัวรั้นพวกนั้นรวมหัวกัน ก็สร้างความลำบากให้เขาได้ เธอไม่อยากจะเห็นภาพเหตุการณ์แบบนั้น

“ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร ใกล้จะปีใหม่แล้ว สินค้าคงคลังประจำปี และโบนัสของพนักงานหลายแสนคน ผู้จัดการตัดสินใจเองไม่ได้ ดังนั้นก็จึงโทรมาหาผมว่าจะให้จัดการยังไงก็แค่นั้น ” นัทธีนั่งลงข้างๆเธอ

เมื่อวารุณีได้ยิน ก็โล่งใจ“ที่แท้ก็เรื่องนี้ งั้นฉันก็เบาใจแล้วค่ะ ”

“ประธานนัทธี”ในตอนนี้เอง เชอรีนก็ยิ้มแหะๆ“ฉันก็ถือเป็นพนักงานของบริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ป และยังเป็นแฟนของผู้ช่วยมารุตด้วย ฉันมีโบนัสปีใหม่ด้วยไหมคะ?”

วารุณีรู้สึกขำกับคำพูดของเธอ ใช้แขนสะกิดไปยังชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ“จริงด้วย เชอรีนมีโบนัสด้วยไหมคะ ?”

“มี”นัทธีตอบพลางคลึงไปที่หว่างคิ้ว

วารุณีมองไปที่ลีน่า “ งั้นก็รวมลีน่าไปด้วยอีกคนนะ”

แม้เธอจะไม่ใช่พนักงานของบริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ป แต่ตอนนี้ก็เป็นคนของเขา จะเลือกที่รักมักที่ชังไม่ได้

นัทธีพยักหน้า “ได้”

ดวงตาลีน่าเป็นประกาย “ฉันก็ได้ด้วยเหรอ?!”

“ใช่ ประธานนัทธีใจป้ำจริงๆ”เชอรีนดีใจจนหุบปากไม่ลง

ลีน่าก็หัวเราะแหะๆออกมาด้วยเช่นกัน

วารุณีกระแอมไอเบาๆ “พวกเธอเอาแต่พูดว่าประธานนัทธีใจป้ำ ไม่มีใครพูดถึงฉันเลย ? ฉันก็เป็นคนพูดขอโบนัสนี้ให้พวกเธอเหมือนกันนะ”

“ใช่ๆๆ ภรรยาประธานนัทธีก็ใจป้ำเหมือนกัน”ลีน่ากับเชอรีนรีบประจบสอพลอ

วารุณีถึงกับจนใจ

“เออนี่วารุณี เล่าเรื่องนั้นให้ประธานนัทธีฟังสิ ”หลังจากหยอกล้อกันเสร็จ ลีน่าก็จริงจังขึ้นมา