ตอนที่ 659 เจตนาร้ายของชายปีศาจหมู

แม่ปากร้ายยุค​ 80

ตอนที่​ 659 เจตนาร้าย​ของ​ชาย​ปีศาจ​หมู​

ระหว่าง​ที่​ครอบครัว​ไป๋​ตก​อยู่​ใน​ความโกลาหล​ หลิน​ม่าย​ก็​สะพาย​กระเป๋า​ปั่น​จักรยาน​ไป​ที่​ร้าน​ซาลาเปา​ของ​เธอ​เพื่อ​ทำ​หมูสับ​

ทันทีที่​เธอ​เริ่ม​เตรียม​หมูสับ​ พนักงาน​สอง​คน​ก็​มาทำงาน​แล้ว​

หลิน​ม่าย​อธิบาย​ให้​พวกเขา​ฟังแล้ว​จากไป​

เมื่อ​มาถึงมหาวิทยาลัย​ชิงหวา​ เธอ​ก็​ตรง​ไป​ที่​โรงอาหาร​

ใน​ชีวิต​ก่อน​ของ​เธอ​ เธอ​เห็น​ใน​อินเตอร์เน็ต​ว่า​โรงอาหาร​ของ​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​ทั้ง​อร่อย​และ​ถูก​ ดังนั้น​เธอ​จึงอยาก​มาดู​

ผล​เป็นไป​ตามที่​ใน​อินเตอร์เน็ต​บอก​ไว้​ใน​ชีวิต​ก่อน​จริง ๆ​ อาหาร​ทั้ง​ถูก​และ​มีปริมาณ​ที่​เหมาะสม​

โร่​ว​เจีย​โม่(1)หมู​หนึ่ง​ชิ้น​ราคา​แค่​หนึ่ง​เหมา​ห้า​เฟิน​เท่านั้น​ และ​ซาลาเปา​หนึ่ง​ลูก​ราคา​แค่​เพียง​หนึ่ง​เหมา​

ซาลาเปา​ของ​เธอ​ที่​ราคา​ถึงสามเหมา​ต่อ​ลูก​นั้น​นักศึกษา​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​อาจจะ​ไม่ซื้อ​

อีก​ทั้ง​ยังมี​เนื้อวัว​และ​เนื้อ​แกะ​ขาย​ น่าเสียดาย​ที่​มีไว้​สำหรับ​ชนกลุ่มน้อย​และ​นักศึกษา​ต่างชาติ​เท่านั้น​

หลิน​ม่าย​เม้มริมฝีปาก​แน่น​ เดิน​ไป​ที่​ช่อง​ขาย​เกี๊ยว​ทอด​ช่อง​หนึ่ง​ ตั้งใจ​ว่า​จะซื้อ​เกี๊ยว​ทอด​สัก​หนึ่ง​อย่าง​กับ​น้ำเต้าหู้​สัก​แก้ว​กิน​เป็น​อาหารเช้า​

แต่​คุณป้า​โรงอาหาร​บอ​กว่า​เธอ​ไม่มีคูปอง​อาหาร​ของ​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​ ดังนั้น​เธอ​ไม่สามารถ​ซื้อ​อะไร​ได้​

หลิน​ม่าย​กำลังจะ​เดิน​ออก​ไป​ด้วย​ความหงุดหงิด​ เธอ​ก็​ได้ยิน​เสียง​ใคร​สัก​คน​กำลัง​เรียก​เธอ​ “นักศึกษา​หลิน​ม่าย​?”

หลิน​ม่าย​หันกลับ​ไป​ก็​เห็น​รองอธิบดี​กู้​

เธอ​ค่อนข้าง​แปลกใจ​ “รองอธิบดี​กู้​ก็​มากินข้าว​ที่​โรง​หาร​หรือ​คะ​~”

รองอธิบดี​กู้​พูด​ยิ้ม​ ๆ “ผม​สังเคราะห์แสง​ไม่เป็น​ แน่นอน​ว่า​ต้อง​มากินข้าว​ที่​โรงอาหาร​อยู่แล้ว​”

เขา​เห็น​ว่า​มือ​ของ​หลิน​ม่าย​ว่างเปล่า​ จึงเอ่ย​ถามขึ้น​ “ทำไม​คุณ​ไม่ซื้อ​อะไร​ล่ะ​? กำลัง​ฝึก​ตน​รึ​?”

หลิน​ม่าย​จึงหัวเราะ​ได้​เพราะ​เขา​ “ไม่ใช่ค่ะ​ แค่​ไม่มีคูปอง​อาหาร​ ซื้อ​อาหารเช้า​ไม่ได้​เลย​ค่ะ​”

เท่านั้นเอง​รองอธิบดี​กู้​ก็​นึก​ขึ้น​ได้​ เธอ​พึ่ง​จะลงทะเบียน​ได้​เพียง​ครึ่งทาง​เมื่อ​เสาร์​ที่แล้ว​ แม้แต่​บัตร​นักศึกษา​เธอ​ก็​ยัง​ไม่ได้รับ​ นับประสาอะไร​กับ​คูปอง​อาหาร​

รองอธิบดี​ถามพร้อม​ยิ้ม​น้อย​ ๆ “อยาก​กิน​อะไร​ ผม​เลี้ยง​”

หลิน​ม่าย​จึงไม่เกรงใจ​ ชี้ไป​ที่​ช่อง​ขาย​ซาลาเปา​แล้ว​บอก​ “ซาลาเปา​สัก​สอง​ลูก​ก็​พอแล้ว​ค่ะ​”

รองอธิบดี​กู้​เดิน​ไป​ที่​ช่อง​ขาย​รา​เมงเนื้อ​ “ผม​พึ่ง​เห็น​คุณ​ยืน​อยู่​ช่อง​ขาย​ราเมน​เนื้อ​นาน​แล้ว​ คุณ​คง​อยาก​กิน​รา​เมงเนื้อ​ล่ะ​สิ”

หลิน​ม่าย​ยิ้ม​ด้วย​ความอาย​เล็กน้อย​

รองอธิบดี​กู้​ซื้อ​รา​เมงเนื้อ​ให้​เธอ​ จากนั้น​ก็​ให้​เธอ​ยก​ไป​ที่​โต๊ะ​ด้วยตัวเอง​

รองอธิบดี​กู้​ถามอย่าง​ใจดี​ “รา​เมงถ้วย​เดียว​พอ​ไหม​ อยากได้​ซาลาเปา​อีก​สัก​สอง​ลูก​ไหม​?”

หลิน​ม่าย​ส่าย​หัว​ราวกับ​กลอง​ป๋อง​แป๋ง​อย่างไร​อย่างนั้น​ “พอ​ค่ะ​ พอแล้ว​ค่ะ​”

รองอธิบดี​กู้​จึงเดิน​จากไป​

หลิน​ม่าย​จับ​ผม​ไป​ทัด​ไว้​ที่​หู​ นับ​ชิ้น​เนื้อใน​รา​เมงเนื้อ​ด้วย​ตะเกียบ​ มีเนื้อ​ชิ้น​ใหญ่​และ​หนา​มากกว่า​สิบ​ชิ้น​ มีสำนึก​ต่อ​ผู้บริโภค​จริง ๆ​

เธอ​กิน​รา​เมงถ้วย​นั้น​ไป​ได้​ไม่กี่​คำ​ ก็​มีนักศึกษา​ชาย​อ้วนจ้ำม่ำ​ไว้​ผม​ยาว​คน​หนึ่ง​เดิน​เข้ามา​และ​ถามด้วย​รอยยิ้ม​ “เพื่อน​นักศึกษา​ ผม​นั่ง​กับ​คุณ​ได้​ไหม​?”

หลิน​ม่าย​เงยหน้า​ขึ้น​มาแล้ว​หันไป​มอง​รอบ​ ๆ ก็​เห็น​ว่า​ใน​โรงอาหาร​เหลือ​ที่นั่ง​ว่าง​ไม่มาก​ คน​ ๆ นี้​อยาก​นั่ง​ข้าง​เธอ​ก็​ไม่มีอะไร​ให้​ว่า​ได้​ เธอ​พยักหน้า​เป็นการ​ตกลง​

นักศึกษา​ชาย​คน​นั้น​นั่งลง​ข้าง ๆ​ เธอ​ เห็น​เธอ​กิน​รา​เมงเนื้อ​จึงถามอย่าง​แปลกใจ​ “คุณ​เป็น​ชนกลุ่มน้อย​หรือ​?”

หลิน​ม่าย​ส่ายหน้า​ “ไม่ใช่ค่ะ​”

“ถ้าอย่างนั้น​ทำไม​กิน​รา​เมงเนื้อ​ล่ะ​?”

ได้ยิน​นักศึกษา​ชาย​คน​นี้​พูดมาก​ขนาด​นี้​ หลิน​ม่าย​ก็​รู้สึก​ไม่ชอบ​ขึ้น​มา เธอ​จึงไม่ตอบคำถาม​ ยิ้ม​ให้​เขา​แบบ​ขอไปที​แล้ว​กิน​รา​เมงของ​เธอ​ต่อไป​

นักศึกษา​ชาย​คน​นั้น​ดูเหมือน​จะไม่ใช่คน​ประเภท​ดันทุรัง​ เห็น​หลิน​ม่าย​ไม่ตอบ​ เขา​ก็​เงียบ​ปาก​อย่าง​ชาญฉลาด​

หลังจาก​กิน​รา​เมงเนื้อ​เสร็จ​ หลิน​ม่าย​ก็​เดิน​จากไป​แล้ว​

แต่​เธอ​รู้สึก​ว่า​นักศึกษา​ชาย​คน​นั้น​ที่​ดูเหมือน​ตือ​โป๊ยก่าย​ได้​โดย​ไม่ต้อง​แต่งหน้า​นั้น​ดู​คุ้นหน้า​เล็กน้อย​

แต่​เธอ​พึ่ง​มาที่นี่​ได้​ไม่นาน​ เป็น​เป็น​ไม่ได้​ที่จะ​รู้จัก​ใคร​

เดา​ว่า​นักศึกษา​ชาย​คน​นั้น​ในอนาคต​อาจจะ​เป็น​คนดัง​ ดังนั้น​ตน​จึงได้​รู้สึก​คุ้นหน้า​เขา​

ต้อง​รู้​ว่า​ มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​มีคน​อัจฉริยะ​มากมาย​ มีคน​มีชื่อเสียง​สัก​สอง​สามคน​ก็​เป็นเรื่อง​ธรรมดา​

หลิน​ม่าย​เดิน​ออก​ไป​ได้​ไม่กี่​นาที​ ก็​มีนักศึกษา​ชาย​อีก​คน​นั่งลง​ข้าง ๆ​ ชาย​อ้วนจ้ำม่ำ​คน​นั้น​

ขณะที่​เขา​กินข้าว​ก็​พูดล้อ​ขึ้น​มา “นึกไม่ถึง​ว่า​จ้าว​ซั่ว​หยาง​อัจฉริยะ​ผู้​โด่งดัง​ใน​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​ของ​เรา​ก็​มีช่วงเวลา​ที่​ถูก​คนอื่น​รังเกียจ​เหมือนกัน​”

ชาย​อ้วน​คน​นั้น​ยิ้ม​อย่าง​อ่อนโยน​ สายตา​ของ​เขา​ที่​มอง​ตามหลัง​หลิน​ม่าย​ไป​ฉายแวว​มุ่งมาด​มากขึ้น​

เมื่อ​ถึงเวลาเริ่ม​งาน​ หลิน​ม่าย​ไป​ที่​ฝ่ายรับ​นักศึกษา​เพื่อ​ดำเนินการ​ลงทะเบียน​ให้​เสร็จ​

การ​ไป​เรียน​มหาวิทยาลัย​ใน​ยุค​นี้​มีรัฐ​อุดหนุน​

โดยเฉพาะ​มหาวิทยาลัย​สำคัญ​อย่าง​ชิงหวา​ ยิ่ง​ได้รับ​การอุดหนุน​จาก​รัฐ​มากกว่า​เดิม​

ค่า​เทอม​ฟรี​ อีก​ทั้ง​ยัง​มีเงิน​ค่าครองชีพ​ให้​สิบ​แปด​หยวน​ต่อ​เดือน​

เงินอุดหนุน​เหล่านี้​ทำให้​นักศึกษา​ไม่ต้องหา​ค่า​เทอม​ หรือ​กังวล​กับ​ค่าใช้จ่าย​ใน​ชีวิตประจำวัน​ ทำให้​สามารถ​ทุ่มเท​ตั้งใจ​เรียน​ได้​อย่าง​เต็มที่​

รัฐ​พยายาม​อย่าง​เต็มที่​เพื่อ​จะฝึกฝน​คน​ที่​ความสามารถ​ออกมา​

หลังจาก​ลงทะเบียน​แล้ว​ หลิน​ม่าย​ก็​ไปดู​หอพัก​ที่​ได้รับ​การ​จัดสรร​ให้​

ใน​ยุค​สมัยนี้​ ถึงแม้จะเป็น​ที่พัก​ของ​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​ มัน​ก็​ไม่สามารถ​เทียบ​ได้​กับ​หอพัก​ใน​อีก​หลาย​ทศวรรษ​ต่อไป​ ห้อง​หนึ่ง​พัก​รวมกัน​แปด​คน​

ใน​หอพัก​นักศึกษา​ที่​หลิน​ม่าย​ได้​เหลือ​เพียง​เตียง​ชั้นบน​ริม​หน้าต่าง​ที่​เดียว​

แม้ว่า​หลิน​ม่าย​จะซื้อ​บ้าน​เป็น​ของ​ตัวเอง​แล้ว​ เธอ​ก็​ยัง​ตั้งใจ​จะอยู่​ใน​มหาวิทยาลัย​ เพื่อ​ความสะดวก​ใน​การ​ไป​อ่านหนังสือ​ใน​ห้องสมุด​และ​ทบทวน​บทเรียน​ตอนกลางคืน​ อีก​ทั้ง​ยัง​สะดวก​ต่อ​การ​จัดการ​ร้าน​ซาลาเปา​ของ​เธอ​มากกว่า​

วันหยุด​ก็​ไป​พัก​อยู่​ที่​เรือน​สี่ประสาน​

มีเงิน​แล้วก็​สามารถ​ทำ​ตามใจ​ตัวเอง​ได้​

เธอ​ยัง​ไม่ได้​ซื้อ​ของ​ที่​จำเป็น​ใน​การ​ใช้ชีวิต​อยู่​ใน​หอพัก​ ดังนั้น​จึงไป​ซื้อ​ทุกสิ่ง​ที่​จำเป็น​ใน​การ​ใช้ชีวิต​อยู่​ใน​หอพัก​มา เวลา​ก็​ล่วงเลย​ผ่าน​สิบ​โมงเช้าไป​แล้ว​

ใน​ยุค​นี้​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​มีการ​ฝึก​ทหาร​แล้ว​ อีก​ทั้ง​ยัง​เป็นการ​ฝึก​ที่​ยาก​เป็นพิเศษ​

การ​ฝึก​ทหาร​ใน​หลาย​ทศ​วร​รศ​ต่อไป​ไม่สามารถ​เทียบ​กับ​การ​ฝึก​ทหาร​ตอนนี้​ได้​เลย​

เพื่อที่จะ​หลบหนี​การ​ฝึก​ทหาร​ใน​ตอนเช้า​ หลิน​ม่าย​อยู่​ใน​หอพัก​จนถึง​ตอนบ่าย​ จากนั้น​จึงนำ​กล่อง​อาหาร​ไป​กินข้าว​ที่​โรงอาหาร​

การ​กินข้าว​สร้าง​คน​ การ​กินข้าว​สร้าง​จิตวิญญาณ​ การ​กินข้าว​สร้าง​คน​ให้​เหนือ​คน​

ถึงอย่างไร​แต่ละ​เดือน​ก็​ได้รับ​ค่าครองชีพ​มากกว่า​สิบ​หยวน​ หาก​เธอ​เพิ่ม​เงิน​ตัวเอง​เข้าไป​ไม่กี่​หยวน​ ก็​จะได้​ลิ้มลอง​เนื้อ​ปลา​อย่าง​สบายใจ​แล้ว​

ตอนที่​หลิน​ม่าย​สั่งอาหาร​ เธอ​ก็​เลือก​อาหาร​ดี ๆ​

เธอ​เลือก​อาหาร​ประเภท​เนื้อ​สอง​อย่าง​และ​ประเภท​ผัก​หนึ่ง​อย่าง​ เดิน​ไปหา​โต๊ะ​แล้ว​นั่งลง​

ก่อนที่​เธอ​จะได้​ตัก​เข้า​ปาก​ ชาย​อ้วน​ผม​ยาว​คน​ที่​เธอ​เห็น​ตอนเช้า​ก็​นั่งลง​ตรงหน้า​เธอ​ พลาง​ถามเธอ​อย่าง​สุภาพ​อีกครั้ง​ ว่า​ให้​เขา​นั่ง​ข้าง​เธอ​ได้​หรือไม่​

หลิน​ม่าย​เห็น​ว่า​ใน​โรงอาหาร​ไม่มีโต๊ะ​ว่าง​มาก​เท่า​เมื่อเช้า​

การ​ที่​นักศึกษา​ชาย​คน​นี้​ต้องการ​นั่ง​ข้าง​เธอ​ก็​ดูเหมือน​จะพอ​เข้าใจ​ได้​เหมือน​ตอนเช้า​

แต่​จิตใต้สำนึก​ของ​หลิน​ม่าย​บอ​กว่า​นักศึกษา​ชาย​คน​นี้​คิด​จะตามตื๊อ​เธอ​

มีปัญหา​แล้ว​ไงล่ะ​ เธอ​มีคู่หมั้น​แล้ว​ ถึงจะไม่มีคู่หมั้น​ เธอ​ก็​ไม่ชอบ​หน้าตา​ที่​เหมือน​ปีศาจ​หมูป่า​ของ​เขา​อยู่ดี​

หลิน​ม่าย​พยักหน้า​เหมือน​ใน​ตอนเช้า​ “ได้​สิ คุณ​นั่ง​เถอะ​”

ชาย​ผม​ยาว​หน้าตา​เหมือน​ปีศาจ​หมู​นั่งลง​ พร้อมกับ​รอยยิ้ม​แต้ม​ที่​มุมปาก​

ทันทีที่​เขา​นั่งลง​ หลิน​ม่าย​ก็​เดิน​จากไป​พร้อมกับ​กล่อง​อาหาร​เพื่อ​หา​ที่​กินข้าว​ด้านนอก​

มหาวิทยาลัย​ใหญ่​ขนาด​นี้​ กลับ​หา​ที่​กินข้าว​ไม่ได้​ ต้อง​มากินใน​โรงอาหาร​!

สีหน้า​ของ​ชาย​ผม​ยาว​หน้า​คล้าย​ตือ​โป๊ยก่าย​มืดครึ้ม​ลง​ทันที​

พื้นเพ​ครอบครัว​ของ​เขา​ก็ดี​ เป็น​คนดัง​ของ​มหาวิทยาลัย​ ผู้หญิง​คน​ไหน​ไม่อยาก​โผเข้าหา​เขา​เมื่อ​เห็น​เขา​บ้าง​?

นักศึกษา​ใหม่​คน​นี้​กลับ​ปฏิบัติ​กับ​เขา​ราวกับ​เป็น​อุจจาระ​ ทำให้​เขา​เสียหน้า​ใน​ที่สาธารณะ​

ชาย​ผม​ยาว​หน้าตา​เหมือน​ตือ​โป๊ยก่าย​ลอบ​กำหมัด​แน่น​

ไม่เห็น​หัว​ฉัน​นัก​ใช่ไหม​ ฉัน​จะต้อง​คว้า​เธอ​มาไว้​ใน​กำมือ​ให้ได้​ คั่ว​เล่น​สักพัก​แล้วก็​จะโยนทิ้ง​ ให้​เธอ​จะอยู่​ก็​ไม่ได้​ จะตาย​ก็​ไม่อาจ​!

หลิน​ม่าย​ไม่รู้​ความคิด​ชั่วร้าย​ของ​ชาย​ผม​ยาว​หน้า​ตือ​โป๊ยก่าย​ที่​ชื่อ​จ้าว​ซั่ว​หยาง​คน​นั้น​ หลังจาก​กิน​ข้าวกลางวัน​เสร็จ​แล้ว​เธอ​ก็​กลับ​ไป​ที่​หอพัก​

รูม​เมท​อีก​แปด​คน​ก็​กิน​ข้าวกลางวัน​เสร็จ​แล้ว​เช่นกัน​ กำลัง​อ่านหนังสือ​อยู่​ใน​ห้องพัก​

นักศึกษา​ใน​ยุค​นี้​เห็น​ค่า​ของ​โอกาส​ใน​การเล่าเรียน​เป็นพิเศษ​ ตอน​มีเวลาว่าง​ พวกเขา​ก็​จะจมลง​ไป​ใน​มหาสมุทร​แห่ง​ความรู้​จน​ไม่สามารถ​ปลีกตัว​ออกมา​ได้​

ทันทีที่​หลิน​ม่าย​เข้าไป​ใน​หอพัก​ ก็​ดึงดูด​ความสนใจ​ของ​ทุกคน​ทันที​

หนึ่ง​ใน​นั้น​ถาม “เธอ​เป็น​รูม​เมท​คน​ใหม่​ใช่ไหม​? ชื่อ​อะไร​หรือ​?”

หลิน​ม่าย​บอกชื่อ​เธอ​อย่าง​สุภาพ​

ทั้ง​ห้อง​ฮือฮา​ขึ้น​มาทันที​ ทุกคน​ถามอย่าง​ตื่นเต้น​ “เธอ​คือ​คน​ที่​สอบ​เข้า​มหาวิทยาลัย​ได้​อันดับ​หนึ่ง​ปี​นี้​ใช่ไหม​?”

หลิน​ม่าย​พยักหน้า​ด้วย​รอยยิ้ม​

รูม​เมท​ไม่แม้แต่​อ่านหนังสือ​ พวกเขา​พูดคุย​เจี๊ยวจ๊าว​ ถามรายละเอียด​เรื่อง​คน​ที่​สอบ​เข้า​ได้​อันดับ​หนึ่ง​ตัวจริง​กับ​คน​แอบอ้าง​เมื่อวาน​นี้​

ถึงแม้มหาวิทยาลัย​จะแจ้งเรื่อง​นี้​ให้​ทราบ​แล้ว​ แต่​ก็​บอก​คร่าว ๆ​ เท่านั้น​ รูม​เมท​เหล่านี้​อยาก​ได้ยิน​ฉบับ​เต็ม​เรื่อง​

หลิน​ม่าย​ตอบ​สนองความต้องการ​ของ​พวกเขา​ เล่าเรื่อง​นี้​ให้​ฟังตั้ง​แต่ต้นจนจบ​ ซึ่งฟังดู​น่าตื่นเต้น​อย่างยิ่ง​จน​ทำให้​รูม​เมท​พา​กัน​ด่าทอ​ว่าน​ฮุ่ย​ไป​หลาย​ยก​

ไม่ช้าก็​เป็นเวลา​บ่ายโมง​ครึ่ง​แล้ว​ ครูฝึก​นำ​ชุด​ฝึก​ทหาร​มาส่งให้​หลิน​ม่าย​ด้วยตัวเอง​และ​บอก​ให้​หลิน​ม่าย​เข้าร่วม​ฝึก​ทหาร​ตั้งแต่​บ่าย​นี้​ไป​

ทุกคน​บอ​กว่า​หลิน​ม่าย​ฉวยโอกาส​ เก้า​วัน​แล้ว​ถึงมารายงานตัว​ ทำให้​เหลือ​เวลา​ฝึก​ทหาร​อีก​แค่​หก​วัน​

หลิน​ม่าย​ยิ้ม​และ​เชื้อเชิญ​ให้​รูม​เมท​กิน​ของว่าง​

ทุกคน​พูดคุย​ไป​พลาง​กิน​ของว่าง​ไป​พลาง​ หลิน​ม่าย​จึงได้​รู้​ชื่อ​และ​คณะ​ของ​รูม​เมท​หลาย​คน​

ใน​ตอนนั้น​เอง​ถึงได้​รู้​ว่า​รูม​เมท​ไม่ได้​มาจาก​สาขาวิชา​เอกเดียวกัน​ ทุกคน​อยู่​แตก​ต่างกัน​ไป​หลาย​สาขาวิชา​

ก่อน​บ่าย​สอง​ หลิน​ม่าย​ตาม​รูม​เมท​ไป​ที่​สนาม​เพื่อ​เข้าร่วม​ฝึก​ทหาร​

ระหว่างทาง​ไป​ที่​สนาม​ รูม​เมท​ต่าง​บอก​เธอ​ว่าการ​ฝึก​ทหาร​น่ากลัว​ขนาด​ไหน​ ครูฝึก​โหด​แค่​ไหน​ หลิน​ม่าย​เพียง​ได้ยิน​ก็​สั่นสะท้าน​ขึ้น​มา

…………………………………………………………………………………………………………………………

(1)肉夹馍 อาหารประจำ​มณฑล​ส่าน​ซี ลักษณะ​เป็น​แผ่น​แป้ง​ประกบ​ไส้เนื้อสัตว์​ จะเรียก​ว่า​เป็น​แฮมเบอร์เกอร์​จีน​ก็ได้​

สาร​จาก​ผู้แปล​

หน้าตา​อย่าง​กับ​หมู​อย่า​ริ​มาเทียบ​ชั้น​กับ​พี่​หมอ​ของ​ม่าย​จื่อ​เลย​ค่ะ​ รอ​ได้​เห็น​พี่​หมอ​ของ​ม่าย​จื่อ​ก่อน​เถอะ​

ไหหม่า​(海馬)