บทที่ 607 รับดาบแทน

บทที่ 607 รับดาบแทน

หลินซือซ่อนตัวอยู่ด้านข้าง เจี่ยงเถิงรู้ตัวนานแล้วว่าจะต้องยั่วโมโหชายผู้นี้แน่นอน ดังนั้นเขาจึงฝืนใช้ร่างกายของตัวเองหลบเลี่ยงดาบของชายผู้นั้น

อดทนเพียงครู่เดียวเท่านั้น ลูกน้องของเขาก็จะเข้ามารับตัวแล้ว ถึงตอนนั้นตัวเองและอาซือก็จะปลอดภัย

เขาไม่อยากให้อาซือต้องมาเสี่ยงอันตรายกับตัวเอง นี่เป็นคำสัญญาที่เขามีต่อท่านอาซู และเป็นเรื่องที่เขาต้องรักษาไปตลอดชีวิตนี้

ชายผู้นั้นแกล้งทำเป็นจะฆ่าเจี่ยงเถิง แต่เสี้ยววินาทีที่จะแทงดาบใส่เจี่ยงเถิงเขากลับเปลี่ยนทิศทางของดาบอย่างฉับพลัน และพุ่งไปยังหลินซือโดยตรง

เพราะการเปลี่ยนทิศที่เร็วเกินไป เจี่ยงเถิงจึงไม่สามารถหาอาวุธที่เหมาะสมมาขัดขวางชายผู้นั้นได้ ทำได้แค่พุ่งเข้าไปหาแล้วขวางอยู่ตรงหน้าของหลินซือ

หลินซืออึ้งงันไปชั่วขณะ ชายผู้นั้นก็อึ้งงันไปเช่นกัน เขาไม่คิดว่าผลลัพธ์จะกลายมาเป็นเช่นนี้ ดูเหมือนสิ่งที่ตัวเองเชื่อมั่นมาตลอดกลับถูกทุกคนต่อต้านอย่างฉับพลัน บอกว่าสิ่งนี้ผิดไปหมดเสียอย่างนั้น

พริบตาต่อจากนั้น ทุกคนก็พุ่งเข้ามาทำให้ชายผู้นั้นยอมจำนน

“พี่อาเถิง…”

“คุณหนูหลิน คุณหนูไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”

“ข้าไม่เป็นไร แต่พี่อาเถิงเสียเลือดมาก” ใบหน้าในตอนนี้ของหลินซือกลับแยกไม่ออกว่าเป็นน้ำตาหรือเหงื่อ นางรู้แค่ว่าในหัวใจของตัวเองเป็นห่วงแค่ชีวิตของพี่อาเถิง เรื่องอื่นไม่สำคัญอีกแล้ว

“อย่ากลัว เราพาหมอมาด้วย”

ดูเหมือนคนผู้นั้นจะคาดเดาเหตุการณ์ไว้แล้วว่าต้องเป็นเช่นนี้ ดังนั้นตอนที่พวกเขาบุกมาที่นี่จึงได้พาหมอมาด้วย

ครั้นหมอมาถึงตรงหน้าของหลินซือ และเห็นเจี่ยงเถิงที่นอนกองอยู่บนพื้นก็ถึงกลับตื่นตระหนกตกใจ

เขาไม่เคยเห็นคนที่บาดแผลสาหัสแต่ยังครองสติให้ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลามาก่อน

เขาพูดอย่างมีสติ แต่ไม่ได้พูดเป็นประโยคนัก มันทำให้พอจะได้ยินเสียงของเขา และสามารถโต้ตอบไปมาได้

“พวกเจ้าออกไปก่อน สถานการณ์ของคนไข้ไม่ดีเอาเสียเลย ข้าต้องใช้เข็ม เชิญผู้ไม่เกี่ยวข้องออกไปก่อน”

“ขอรับ เช่นนั้นรบกวนท่านหมอนะขอรับ”

หลังจากผู้ติดตามได้ยินดังนั้น ก็ให้ผู้อื่นพาชายผู้นั้นออกไป แต่เมื่อเห็นหลินซือที่ยังยืนอึ้งงันอยู่ที่เดิมจึงไม่รู้ว่าควรจะเอ่ยปากพูดอย่างไร

“คุณหนูหลิน…”

“ข้าไม่ไป ข้าจะอยู่กับพี่อาเถิงที่นี่”

หลินซือพูดกับเขา นางไม่เคยคิดจะให้พี่อาเถิงอยู่ที่นี่เพียงลำพัง

ยิ่งเขาบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ ถ้าพี่อาเถิงตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นนางอาจจะยิ่งร้อนใจ

“ให้คุณหนูหลินอยู่ที่นี่เถอะ ถ้าเป็นอย่างที่คุณหนูท่านนี้กล่าวไว้ เช่นนั้นคุณหนูก็อยู่ที่นี่เถอะ ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อคนไข้ด้วย”

“เช่นนั้นก็ได้”

ในเมื่อหมอเอ่ยปากเช่นนี้ เขาก็คงจะคัดค้านไม่ได้

ความห่วงใยที่เจี่ยงเถิงมีต่อหลินซือพวกเขารู้ดีแก่ใจ ครานี้ถ้าไม่ใช่เพราะหลินซือ ใต้เท้าเจี่ยงก็คงไม่เจ็บตัวเช่นนี้ แต่พวกเขาไม่เคยถือโทษโกรธคุณหนูหลินเลย เพราะพวกเขาไม่ได้อยู่ปกป้องคุณหนูหลินให้ดี

“ท่านหมอ เขาจะไม่เป็นไรจริง ๆ ใช่หรือไม่?”

ครั้นเห็นเจี่ยงเถิงบนเตียง หลินซือก็ยิ่งบีบหัวใจ เหมือนมีบางอย่างที่หล่นหายไป

“ข้าเองก็ไม่รู้ ต้องลองฉีดยาไปก่อน ถ้าไม่ได้ผล คงต้องคิดหาวิธีการอื่น” หมอเองก็ไม่มีความมั่นใจเอาเสียเลย

เมื่อครู่เขามองอาการคร่าว ๆ แล้ว ร่างกายของเจี่ยงเถิงบาดเจ็บสาหัส นับว่าถ้าจะรักษาให้อาการดีขึ้นคงต้องทุ่มพลังไม่น้อย ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงหน้าอกที่ถูกดาบเล่มนั้นแทงแต่อย่างใด นั้นคือส่วนที่อันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว

โชคดีที่หัวใจของเจี่ยงเถิงแข็งแกร่งกว่าผู้อื่น มิเช่นนั้นต่อให้ยกโขยงเทพเซียนมาก็ยากจะช่วยชีวิตได้

“เช่นนั้นรบกวนท่านหมอด้วยเจ้าค่ะ”

ครั้นได้ยินคำตอบของหมอ ในใจของหลินซือไม่เพียงแต่จะไม่โล่งใจแล้ว ตรงกันข้ามยังรู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิม

พี่อาเถิงต้องบาดเจ็บเพราะนาง ถ้านางเข้มแข็งกว่านี้อีกหน่อย บางทีพี่อาเถิงอาจจะไม่บาดเจ็บเช่นนี้ก็ได้?

ในตอนที่หมอกำลังจะฉีดยาให้เขานั้น หลินซือนั่งอยู่ข้างกายอย่างเชื่อฟัง หลังจากที่หมอฉีดยาเรียบร้อย หลินซือก็รีบรุดหน้าเข้าไปเช็ดเหงื่อบนใบหน้าของเจี่ยงเถิงจนสะอาด

“เอาละ โชคดีที่สติสัมปชัญญะของใต้เท้าเจี่ยงยังมั่นคง มิเช่นนั้นคงไม่ง่ายเช่นนี้” หลังจากฉีดยาเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอนหายใจออกมายาว ๆ

“หมอ พี่อาเถิงไม่เป็นไรแล้วใช่หรือไม่?”

“อื้อ ตราบใดที่พักผ่อนเพียงพอ รอให้เขาฟื้นก็พอ แต่หลังจากฟื้นแล้วห้ามขยับตัวเด็ดขาด ต้องรอให้ร่างกายฟื้นตัวก่อน”

“เข้าใจแล้ว ขอบคุณหมอมากเจ้าค่ะ”

“ไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก เจ้าต้องขอบคุณตัวเขา เขาคือคนไข้รายแรกที่มีอาการสาหัสเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าตัวเองแทบจะไม่เหลือลมหายใจแล้วแต่ก็ยังยืนหยัดดึงสติตัวเองเอาไว้ แม่นาง เจ้าคือคนที่สำคัญต่อเขาสินะ?”

“อื้อ เขาเองก็เป็นคนสำคัญของข้าเช่นกัน” ครั้นได้ยินคำพูดของหมอ ในใจของหลินซือก็ยิ่งรู้สึกหวั่นไหว

“เอาละ เรื่องอื่นข้าคงต้องออกไปอธิบายให้คนที่อยู่ข้างนอกรับทราบ ส่วนเจ้าก็ดูแลเขาให้ดี ๆ ตราบใดที่เขาไม่มีไข้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้ว”

“อื้อ ขอบคุณท่านหมอมาก ข้าจะดูแลเขาอย่างดี”

หลินซือเดินไปส่งท่านหมอ จากนั้นก็เข้ามาดูอาการเจี่ยงเถิงที่สะลืมสะลือในห้อง

“พี่อาเถิง เหตุใดท่านถึงได้โง่เขลาเพียงนี้? เห็น ๆ อยู่ว่าร่างกายของตัวเองบาดเจ็บสาหัส ท่านยังจะกล้ามาขวางดาบเล่มนั้นอีก ไม่รักชีวิตตัวเองเลยหรือไร?”

“อีกอย่าง ถ้าพี่เป็นห่วงข้าจริง ๆ เหตุใดถึงไม่ฟื้นขึ้นมาดูข้าเล่า? ข้าคิดถึงท่านมากนะ ท่านดูข้าสิ? พี่อาเถิง ท่านห้ามหลับอีกนะ พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ประเดี๋ยวพวกเขาบอกว่าจะออกไปหาของกินอร่อย ๆ กินกัน”

“คราที่แล้วที่ข้าใส่อารมณ์กับท่านในตอนที่อยู่บนภูเขา ความจริงแล้วเป็นเพราะข้านึกถึงภาพที่ท่านต้องไปสู่ของหญิงงามคนอื่น ข้าเลยหึง”

หลายวันต่อจากนั้นหลินซือก็คอยดูแลเจี่ยงเถิงมาตลอด