ตอนที่ 661 การฝึกทหารที่โหดร้าย

แม่ปากร้ายยุค​ 80

ตอนที่​ 661 การ​ฝึก​ทหาร​ที่​โหดร้าย​

ตก​กลางดึก​ ฝน​พลัน​กระหน่ำ​ลงมา​อีกครั้ง​

หลิน​ม่าย​และ​เพื่อนร่วมห้อง​นอน​หลับสนิท​ แต่​จู่ ๆ พวก​เธอ​ก็​ได้รับ​คำสั่ง​ให้​รวมตัวกัน​อย่าง​เร่งด่วน​

ตลอดวัน​ของ​การฝึกฝน​ ทุกคน​ปวดเมื่อย​ทั่ว​ร่างกาย​จาก​ความ​อ่อนล้า​ หลับสนิท​อยู่​บน​เตียง​อย่าง​แน่นิ่ง​

แต่​ตอนนี้​ พวกเขา​ต้อง​ลุก​จาก​ที่นอน​ รีบ​แต่งตัว​แล้ว​ออก​ไป​ชุมนุม​

ฝน​ใน​คืน​ฤดูใบไม้ร่วง​ทำให้​ร่างกาย​ของ​พวกเขา​เปียกโชก​และ​หนาวสั่น​

อาจารย์​ยิ้ม​และ​ถามทุกคน​ว่า​หนาว​ไหม​

ทุกคน​ตอบกลับ​อย่าง​พร้อมเพรียงกัน​ “หนาว​!”

เพราะ​หาก​พวกเขา​ตอบกลับ​อย่าง​เฉยชา​ ครูฝึก​จะต้อง​สั่งทำโทษ​อย่าง​แน่นอน​

แต่​พวกเขา​ไม่คาดคิด​ว่า​เมื่อ​ตอบกลับ​อย่าง​พร้อม​เสียง​ไป​แล้ว​ ครูฝึก​ก็​ยัง​ออกคำสั่ง​ให้​วิ่ง​รอบ​สนาม​สิบ​รอบ​

เหล่า​นักศึกษา​รู้สึก​เหนื่อยล้า​จน​แทบ​ร่ำไห้​ แต่​ก็​ไม่อาจ​ทำ​สิ่งใด​ได้​นอกจาก​วิ่ง​ท่ามกลาง​พายุฝน​

หลังจาก​วิ่ง​ครบ​สิบ​รอบ​ด้วย​ความยากลำบาก​ นักเรียน​หลาย​คน​ก็​กลับ​หอพัก​และ​ผล็อย​หลับ​ไป​โดย​ไม่อาบน้ำ​

หลิน​ม่าย​เป็น​เพียง​คนเดียว​ที่​ไป​อาบน้ำ​ชำระร่างกาย​ก่อน​จะเข้านอน​

ทุกคน​นอนหลับ​จนถึง​เจ็ด​โมงเช้าของ​วันรุ่งขึ้น​ และ​พยายาม​อย่าง​สุดความสามารถ​ที่จะ​ลืมตา​ตื่น​

สิ่งแรก​ที่​หลิน​ม่าย​ทำ​เมื่อ​ลืมตา​คือ​ ทา​น้ำมัน​ดอก​คำฝอย​ที่​ขา​ทั้งสอง​ข้าง​ของ​เธอ​

การฝึกฝน​ที่​หนักหน่วง​ทำให้​ขา​ของ​เธอ​ทั้ง​เจ็บ​และ​ปวด​ ไม่สามารถ​นอนหลับ​ได้​อย่าง​สงบ​ใน​ตอนกลางคืน​

ขณะ​กำลัง​ทา​น้ำมัน​ เธอ​ก็​เห็น​สวี​ชิงห​ยา​เหลือบมอง​เธอ​เป็นครั้งคราว​

จาก​รูปร่างหน้าตา​และ​เสื้อผ้า​ของ​สวี​ชิงห​ยา​ เห็นได้ชัด​ว่า​สภาพ​ทางการเงิน​ของ​ครอบครัว​เธอ​ไม่ดี​นัก​

แม้ว่า​ทุกคน​จะมีเบี้ยเลี้ยง​เดือน​ละ​สิบ​แปด​หยวน​ แต่​ก็​ต้อง​กิน​ ซื้อ​ของใช้​ประจำวัน​ และ​ซื้อ​อุปกรณ์​การเรียน​ จึงเหลือ​เก็บ​อยู่​ไม่มาก​

แม้ว่า​จะมีเงิน​เหลือ​หนึ่ง​หรือ​สอง​หยวน​ทุก​เดือน​ แต่​เหล่า​เด็กสาว​ที่​รักสวยรักงาม​ก็​จะเก็บ​ออม​เพื่อ​ซื้อ​เสื้อผ้า​

หลิน​ม่าย​เดา​ว่า​สวี​ชิงห​ยา​ไม่มีเงิน​ซื้อ​น้ำมัน​ดอก​คำฝอย​ แต่​ขา​ของหล่อน​ก็​เจ็บ​และ​อยาก​ใช้น้ำมัน​ดอก​คำฝอย​นี้​ ดังนั้น​จึงมองดู​พร้อม​คิด​ว่า​จะขอ​ใช้น้ำมัน​ดอก​คำฝอย​ของ​หลิน​ม่าย​

แม้หลิน​ม่าย​จะไม่ใช่คน​ใจกว้าง​ แต่​เธอ​ก็​ไม่ขี้เหนียว​จน​เกิน​เหตุ​ อีก​ทั้ง​เธอ​และ​รูม​เมท​ยัง​ไม่มีความเกลียดชัง​ต่อกัน​ ดังนั้น​จึงเป็นเรื่อง​ดี​ที่จะ​สาน​สัมพันธ์​

หลิน​ม่าย​ยื่น​น้ำมัน​ดอก​คำฝอย​ให้​สวี​ชิงห​ยา​ “ฉัน​ให้ยืม​”

ใบหน้า​ของ​สวี​ชิงห​ยา​เปลี่ยนไป​ทันที​ราวกับว่า​ถูก​ดูแคลน​ “เธอ​หมายความว่า​ยังไง​? เธอ​กำลังจะ​บอ​กว่า​ฉัน​ยากจน​จน​ไม่สามารถ​ซื้อ​น้ำมัน​ดอก​คำฝอย​เอง​ได้​อย่างนั้น​เหรอ​?”

หลิน​ม่าย​ตกตะลึง​ เธอ​ไม่เคย​พบ​คน​แปลกประหลาด​เช่นนี้​มาก่อน​ใน​ชีวิต​

ทำคุณบูชาโทษ​โปรดสัตว์ได้บาป​เสีย​อย่างนั้น​

หลิน​ม่าย​ยอมรับ​ความผิดพลาด​อย่าง​จริงใจ​ “ฉัน​ผิด​เอง​ที่​พูด​อะไร​ไม่ระวัง​จน​เหมือน​เป็นการ​ดูถูก​เธอ​ ขอโทษ​นะ​”

เธอ​กล่าว​พลาง​ดึง​น้ำมัน​ดอก​คำฝอย​กลับคืน​

ทุกวันนี้​ การ​หา​น้ำมัน​ดอก​คำฝอย​ไม่ใช่เรื่อง​ง่าย​ ใน​เมื่อ​สวี​ชิงห​ยา​ไม่ยอมรับ​ความ​ใจดี​ ดังนั้น​เธอ​จึงไม่หยิบยื่น​น้ำใจ​ให้​อีก​ฝ่าย​อีกต่อไป​

สวี​ชิงห​ยา​ขอโทษ​ทันที​เมื่อ​เธอ​เห็น​หลิน​ม่าย​เฉยเมย​ จ้องมอง​น้ำมัน​ดอก​คำฝอย​ใน​มือ​อีก​ฝ่าย​ด้วย​ความ​ตกตะลึง​

หล่อน​ปฏิเสธ​เพราะ​ต้องการ​ให้​หลิน​ม่าย​คะยั้นคะยอ​ให้​ตน​ใช้น้ำมัน​ดอก​คำฝอย​นี้​ แต่​ทำไม​หลิน​ม่าย​จึงนำ​กลับ​ไป​โดย​ไม่พูด​อะไร​อีก​?

หลิน​ม่าย​ไม่สนใจ​อีก​ฝ่าย​ หลังจาก​ทำ​ทุกอย่าง​จน​เสร็จสิ้น​แล้ว​ เธอ​ก็​เปลี่ยนเป็น​ชุด​ลาย​พราง​และ​ไป​ยัง​โรงอาหาร​เพื่อ​รับประทาน​อาหารเช้า​พร้อม​รับ​กล่อง​อาหารกลางวัน​

แม้ว่า​โรงอาหาร​จะมีชามและ​ตะเกียบ​ให้​ แต่​เธอ​ก็​กลัว​ว่า​จะไม่ถูกสุขลักษณะ​ ดังนั้น​จึงนำ​กล่อง​อาหารกลางวัน​มาด้วยตัวเอง​เพื่อ​ความสบายใจ​

ทันทีที่​เดิน​ออกจาก​หอพัก​ หลิน​ม่าย​ก็​เห็น​ฟางจั๋ว​หรา​น​

เธอ​วิ่ง​ไปหา​เขา​อย่าง​มีความสุข​และ​กระโดด​กอด​เขา​

ฟางจั๋ว​หรา​นก​อด​เธอ​และ​ถามด้วย​รอยยิ้ม​ “เมื่อคืน​คุณ​นอนหลับ​สบาย​หรือเปล่า​?”

เธอ​ยิ้ม​และ​พยักหน้า​ “หลับ​สบาย​สิ! คุณ​มาทำ​อะไร​ที่นี่​แต่เช้า​?”

“ผม​กำลังจะ​บิน​กลับ​ไป​เจียง​เฉิงแล้ว​ เลย​อยาก​พบ​คุณ​อีก​ครั้งก่อน​จากไป​”

ฟางจั๋ว​หรา​น​วาง​เธอ​ลง​ เดิน​จับมือ​เธอ​ไป​ยัง​โรงอาหาร​เพื่อ​กิน​อาหารเช้า​ก่อน​บอกลา​ซึ่งกันและกัน​

หลิน​ม่าย​มอง​แผ่น​หลัง​ของ​เขา​ที่​กำลัง​จากไป​ด้วย​รู้สึก​เศร้าหมอง​เล็กน้อย​ใน​ใจ

การ​ฝึก​อีก​ห้า​วันที่​เหลือ​นั้น​ยา​กก​ว่าการ​ฝึก​กลาง​พายุ​เมื่อคืนนี้​ นั่น​คือ​การ​ฝึก​ยิงเป้า​

การ​ฝึก​ยิงเป้า​เป็น​งานหนัก​มาก​ แรง​สะท้อน​กลับ​ของ​กระสุน​เป็น​สิ่งที่​ผู้หญิง​ส่วนใหญ่​ทน​ไม่ได้​ นับประสาอะไร​กับ​การ​ฝึก​เป็นเวลา​หลาย​ชั่วโมง​ต่อ​วัน​ ซึ่งอันตราย​ถึงชีวิต​

แต่​หลิน​ม่าย​ทน​ได้​และ​ยังคง​เรียนรู้​อย่าง​เพลิดเพลิน​

การ​มีอีก​หนึ่ง​ทักษะ​เพิ่มขึ้น​เป็นเรื่อง​ที่​ดี​เสมอ​

เป็นไปไม่ได้​ที่​เธอ​จะฝึกฝน​จน​เป็น​ผู้เชี่ยวชาญ​ด้าน​การ​ยิงเป้า​ภายใน​ห้า​วัน​ แต่​เธอ​ก็ได้​เรียนรู้​การ​ใช้ปืน​อย่าง​เชี่ยวชาญ​

การฝึกฝน​ตลอด​ทั้งวัน​นั่น​ทำให้​ผู้คน​เหนื่อยล้า​ หลาย​คน​ก็​หมดแรง​จน​ไม่อาจ​ทรงตัว​ได้​ ทำให้​เพื่อน​มากมาย​ที่​เหลืออยู่​ก็ตาม​หอบหิ้ว​พวกเขา​กลับ​ไป​ยัง​หอพัก​

ภาระ​การ​ซื้อ​อาหาร​จึงตกเป็นของ​หลิน​ม่าย​

ตราบใดที่​ใครก็ตาม​ขอให้​หลิน​ม่าย​นำ​อาหาร​มาให้​ หลิน​ม่าย​ก็​จะตกลง​

สวี​ชิงห​ยา​ต้องการ​ให้​เธอ​นำ​อาหาร​มาให้​ด้วย​ แต่​ก็​ไม่กล้า​ร้องขอ​

หล่อน​จ้องมอง​หลิน​ม่าย​ด้วย​สายตา​เศร้าสร้อย​ ให้​อีก​ฝ่าย​เข้าใจ​ว่า​เธอ​หมายถึง​อะไร​ และ​ช่วย​นำ​อาหาร​มาให้​

หล่อน​ยัง​ปฏิเสธ​ที่จะ​ขอร้อง​ให้​หลิน​ม่าย​นำ​อาหาร​มาให้​ ดังนั้น​จึงทำ​เพียง​พยักหน้า​ทุกครั้งที่​เพื่อน​คนอื่น​ฝาก​ซื้อ​อาหาร​

แม้หลิน​ม่าย​เข้าใจ​ว่า​สวี​ชิงห​ยา​หมายถึง​อะไร​ แต่​เธอ​ก็​แสร้ง​ทำเป็น​สับสน​

เธอ​ไม่ใช่พ่อแม่​ของ​หญิง​คน​นี้​ ดังนั้น​จึงไม่จำเป็นต้อง​ตามใจ​!

เธอ​ไม่ได้​ซื้อ​อาหาร​ให้​สวี​ชิงห​ยา​เลย​สักครั้ง​ และ​สุดท้าย​หลิน​ม่าย​ก็​ถูก​เรียก​เข้าไป​ถาม

หล่อน​ถามหลิน​ม่าย​ว่า​อีก​ฝ่าย​รังเกียจ​ตน​หรือ​อย่างไร​ ทำไม​ไม่นำ​อาหาร​มาให้​กับ​เธอ​ด้วย​

หลิน​ม่าย​ถามกลับ​ “ฉัน​จะรู้​ได้​ยังไง​ว่า​เธอ​ฝาก​ฉัน​ซื้อ​อาหาร​? หาก​ฉัน​นำ​อาหาร​มาให้​เธอ​ เธอ​ก็​จะไม่คิด​ว่า​ฉัน​ดูถูก​เธอ​อีก​เหรอ​? เธอ​จะคิด​ยังไง​ก็​เรื่อง​ของ​เธอ​เถอะ​!”

หลังจากนั้น​ เพื่อนร่วมห้อง​ทุกคน​ก็​ยก​นิ้วโป้ง​ให้​หลิน​ม่าย​ลับหลัง​สวี​ชิงห​ยา​

พวกเขา​แทบ​รอ​ไม่ไหว​ที่จะ​สั่งสอน​สวี​ชิงห​ยา​แล้ว​

ก่อนที่​หลิน​ม่าย​จะมา เสิ่นอวิ้น​ฉลอง​วันเกิด​ของ​ตัวเอง​และ​เชิญเพื่อนร่วมห้อง​ทุกคน​ไป​ที่​โรงอาหาร​เพื่อ​กิน​หมู​ตุ๋น​

สวี​ชิงห​ยา​กลับ​กล่าว​หาว่า​เสิ่นอวิ้น​ดู​ถูกที่​ชวน​หล่อน​กิน​หมู​ตุ๋น​ และ​หัวเราะเยาะ​หล่อน​ที่​เป็น​คนจน​

เมื่อ​ทุกคน​พูดคุย​ข่าว​และ​เหตุการณ์​ปัจจุบัน​ใน​หอพัก​ สวี​ชิงห​ยา​ก็​โวยวาย​อีกครั้ง​

หล่อน​กล่าวหา​ทุกคน​ว่า​พวกเขา​ไม่ต้องการ​คบหาสมาคม​กับ​ตัวเอง​ และ​ไม่ยอม​เล่า​ถึงเหตุการณ์​ที่​เกิดขึ้น​ให้​กับ​หล่อน​ได้​ฟัง

ไม่ว่า​ใคร​จะพูด​อะไร​ มัน​ก็​จะกระตุ้น​ประสาท​ที่​ละเอียดอ่อน​ของหล่อน​ และ​ทำให้​ผู้คน​รู้สึก​รำคาญใจ​

เมีย​ว​เมีย​ว​มอง​ขึ้นไป​บน​ท้องฟ้า​และ​ถอนหายใจ​ “ฉัน​จะต้อง​อยู่​กับ​หล่อน​อีก​สี่ปี​ ฉัน​จะอยู่รอด​ภายใน​สี่ปี​นี้​ยังไง​เนี่ย​?”

หลิน​ม่าย​ไม่พูด​อะไร​ แต่​ใน​ใจกลับ​คิด​ว่า​หาก​เธอ​เพิกเฉย​ต่อ​สวี​ชิงห​ยา​ ตลอด​สี่ปี​นี้​จะดำเนิน​ไป​อย่างไร​? มัน​ต้อง​วุ่นวาย​อย่าง​แน่นอน​!

ไม่ว่า​จะทรมาน​แค่​ไหน​ ในที่สุด​การฝึกฝน​ห้า​วัน​ก็​ผ่าน​ไป​ และ​ในที่สุด​ก็​มาถึงวันอาทิตย์​

เช้าวันอาทิตย์​ หลิน​ม่าย​เก็บ​ข้าวของ​และ​กลับบ้าน​

ไม่รู้​ว่า​คุณปู่​ฟาง คุณย่า​ฟางและ​โต้​ว​โต้​วจะ​อยู่​บ้าน​หรือไม่​ และ​เป็น​อย่างไรบ้าง​ช่วงนี้​

วันนี้​เธอ​จะเดินทาง​ไป​ท่องเที่ยว​กับ​พ่อ​ไป๋​พร้อม​เพลิดเพลิน​ไป​กับ​ความงดงาม​ของ​ธรรมชาติ​ เห็นได้ชัด​ว่า​เธอ​มีหลาย​สิ่งอย่าง​ที่​ต้อง​ทำ​ใน​วันนี้​

เพื่อนร่วมห้อง​ไม่แม้แต่​จะลืมตา​ตื่น​ ทุก​คนพูด​กับ​เธอ​อย่าง​งัวเงีย​ “หลิน​ม่าย​ ถ้าเธอ​ออก​ไป​ซื้อ​ข้าว​ฝาก​ซื้อ​กลับมา​ให้​เรา​ด้วย​นะ​”

หลิน​ม่าย​กล่าว​ด้วย​ความรู้สึกผิด​ “ฉัน​ไม่ได้​จะไป​โรงอาหาร​น่ะ​ ฉัน​จะกลับบ้าน​”

เพื่อนร่วมห้อง​ต่าง​ตกตะลึง​ “เธอ​มีบ้าน​ใน​เมืองหลวง​ด้วย​เหรอ​?”

“ใช่” หลิน​ม่าย​มองดู​นาฬิกา​ “ฉัน​รีบ​มาก​ ไป​ก่อน​นะ​”

กล่าว​จบ​แล้วก็​รีบเร่ง​ออก​ไป​ทันที​

เธอ​ไป​ยัง​โรง​เก็บ​จักรยาน​เพื่อ​นำ​จักรยาน​ออกมา​และ​ปั่น​ไป​ที่​ร้าน​ซาลาเปา​

ขณะที่​กำลัง​จัด​ของ​ หลิน​ม่าย​ถามว่า​สัปดาห์​นี้​ธุรกิจ​เป็น​อย่างไรบ้าง​

เนื่องจาก​การฝึกฝน​ หลิน​ม่าย​จึงไม่สามารถ​ออก​มายัง​ร้าน​ได้​สัปดาห์​นี้​ เธอ​ขอให้​ลูกจ้าง​สอง​คน​มาหา​ตน​เพื่อ​รับเงิน​ไป​ซื้อ​ส่วนผสม​ด้วยตัวเอง​ เปิดร้าน​และ​ดำเนิน​ธุรกิจ​แทน​เธอ​

ป้า​หวัง​ชี้ไป​ที่​ลุง​เหว่​ย​ “ซาลาเปา​นึ่ง​ของ​ลุง​เหว่​ย​ขาย​ดีกว่า​ของ​ฉัน​ แต่​ก็​ยัง​เทียบ​ไม่ได้​กับ​ซาลาเปา​ที่​เธอ​ทำ​ ดังนั้น​ธุรกิจ​ของ​เรา​จึงไม่ดี​เหมือนเดิม​”

หลิน​ม่าย​พยักหน้า​ เก็บ​ของ​และ​จากไป​

เมื่อ​ขี่​จักรยาน​ไป​ยัง​ประตู​ลานบ้าน​ เธอ​ก็​รู้สึก​ตื่นเต้น​เล็กน้อย​เมื่อ​คิด​ว่า​จะได้​พบ​คุณปู่​ฟางและ​โต้​ว​โต้​ว​ในไม่ช้า​

เธอ​ต้องการ​ทำให้​คุณปู่​ฟางและ​คนอื่น​ ๆ ประหลาดใจ​ ดังนั้น​จึงค่อย ๆ​ เปิด​ประตู​ลานบ้าน​

ขณะ​ย่อง​เข้าไป​ใน​บ้าน​ ก่อน​จะได้​เห็น​ทุกสิ่ง​ตรงหน้า​อย่าง​ชัดเจน​ อา​หวง​พลัน​พุ่ง​เข้า​มาหา​เธอ​พร้อม​เห่า​อย่าง​มีความสุข​ไป​ตลอดทาง​ หาง​ของ​มัน​กระดิก​เหมือน​ใบพัด​

โต้​ว​โต้​ว​วิ่ง​ออกมา​พลาง​ตะโกน​ “แม่จ๋า หนู​คิดถึง​แม่จ๋าจังเลย​!” แล้วก็​โผ​ตัว​เข้าไป​ใน​อ้อมแขน​ของ​หลิน​ม่าย​

หลิน​ม่าย​กอด​หล่อน​อย่าง​แรง​ “แม่ก็​คิดถึง​ลูก​มาก​เหมือนกัน​ แล้วก็​คิดถึง​ปู่ย่า​ด้วย​” ​

คุณปู่​ฟางและ​คุณย่า​ฟางเดิน​ออก​มาจาก​บ้าน​

คุณปู่​ฟางยิ้ม​และ​โบกมือ​ให้​หลิน​ม่าย​ “ปู่​รู้​ว่า​วันนี้​หลาน​จะกลับมา​ ใคร​บางคน​ทำ​ซุป​ไก่​ที่​หลาน​ชอบ​ไว้​ให้​ตั้ง​แต่เช้า​แล้ว​ เรา​มากินกัน​เถอะ​”

หลิน​ม่าย​ไม่ได้​สังเกต​คำ​ว่า​ ‘ใคร​บางคน​’ ใน​คำพูด​ของ​คุณปู่​ฟาง เธอ​ไป​ห้องน้ำ​เพื่อ​ล้างมือ​แล้ว​เดิน​ออกมา​

จากนั้น​เธอ​ก็​เห็น​ฟางจั๋ว​หรา​นอ​อก​มาจาก​ครัว​พร้อมกับ​ชามซุป​ไก่​สอง​สามชามบน​ถาด​

ดวงตา​ของ​หลิน​ม่าย​ฉายแวว​ประหลาดใจ​แทบจะ​ถลน​ออกมา​ “คุณ​มาที่นี่​ได้​ยังไง​คะ​?”

ฟางจั๋ว​หรา​นม​อง​ที่​เธอ​และ​ยิ้ม​ “ผม​จะอยู่​ที่นี่​ทุกวัน​จากนี้ไป​”

หลังจาก​คิด​เรื่อง​นี้​แล้ว​ หลิน​ม่าย​ก็​เข้าใจ​และ​ถามอย่าง​ยินดี​ “คุณ​ย้าย​งาน​มาที่​เมืองหลวง​แล้ว​เหรอ​?”

“ก็​ต้อง​เป็น​แบบ​นั้น​สิครับ​ ทุกคน​ย้าย​เข้ามา​อยู่​ใน​เมืองหลวง​กัน​หมด​ และ​มีเพียง​คนเดียว​ที่อยู่​ใน​เจียง​เฉิง”

ฟางจั๋ว​หรา​น​ไม่มีทาง​บอก​หลิน​ม่าย​ว่า​หลังจาก​กลับ​มายัง​เจียง​เฉิง เขา​คิดถึง​หลิน​ม่าย​มาก​ทุกวัน​จน​กิน​ไม่ได้​นอนไม่หลับ​ ดังนั้น​เขา​จึงทำ​เรื่อง​ย้าย​มายัง​เมืองหลวง​

ขณะที่​เขา​พูด​ เขา​วาง​ชามซุป​ไก่​หลาย​ชามไว้​บน​โต๊ะ​หิน​ใน​สนาม​พร้อม​บอก​ให้​ทุกคน​กิน​ขณะที่​ยัง​ร้อน​อยู่​

หลิน​ม่าย​นั่งลง​และ​ถาม “คุณ​ย้าย​มาโรงพยาบาล​ไห​นคะ​?”

“โห​ย่ว​เห​อ”​

หลิน​ม่าย​กิน​ซุป​พลาง​เอ่ย​ถาม “ฉัน​เรียน​ใน​เมืองหลวง​เพียง​สี่ปี​และ​จะกลับ​ไป​ที่​เจียง​เฉิง เมื่อ​ฉัน​เรียนจบ​และ​กลับ​ไป​ที่​เจียง​เฉิง คุณ​ก็​ยัง​จะอยู่​ใน​เมืองหลวง​ต่อไป​เหรอ​คะ​?”

ฟางจั๋ว​หรา​นก​ล่า​ว​ “ผม​จะไป​ทุกที่​ที่​คุณ​อยู่​ ถ้าคุณ​กลับ​ไป​ที่​เจียง​เฉิง ผม​ก็​จะย้าย​กลับ​ไป​ที่​เจียง​เฉิง”

หลิน​ม่าย​ผงะ​ไป​ครู่หนึ่ง​ “โรงพยาบาล​ไม่ใช่สวนผัก​นะคะ​ที่​คุณ​จะเข้าๆ ออกๆ​ ได้​ตามใจชอบ​”

ฟางจั๋ว​หรา​น​ตอบกลับ​ “คนอื่น​เข้า​และ​ออก​ไม่ได้​ตามอำเภอใจ​ แต่​ผม​ทำได้​ แต่​เพื่อ​หลีกเลี่ยง​ความ​อับอาย​ หาก​ผม​ย้าย​กลับ​ไป​เจียง​เฉิงในอนาคต​ ผม​จะไม่กลับ​ไป​ที่​ผู่​จี้ แต่​ไป​ที่​โรงพยาบาล​จงหนาน​”

หลิน​ม่าย​พยักหน้า​

แม้ว่า​โรงพยาบาล​จงหนาน​จะไม่ดี​เท่า​โรงพยาบาล​ผู่​จี้ แต่​ก็​ไม่ล้าหลัง​เกินไป​

ฟางจั๋ว​หรา​น​ไป​ที่​โรงพยาบาล​จงหนาน​เพื่อ​ทำงาน​ และ​เขา​ก็​ไม่ได้​รู้สึก​ว่า​นั่น​เป็น​การตัดสินใจ​ผิด​

หลัง​อาหารเช้า​ หลิน​ม่าย​บอก​คุณย่า​ฟางว่า​วันนี้​เธอ​จะไปเที่ยว​เซียง​ซาน​กับ​ตระกูล​ไป๋​

ระหว่าง​รับประทาน​อาหารเช้า​ คุณปู่​ฟางและ​คุณยาย​ฟางถามหลิน​ม่าย​เกี่ยวกับ​ความสัมพันธ์​ของ​เธอ​กับ​พ่อแม่​ผู้ให้กำเนิด​และ​คนอื่น​ ๆ

พวกเขา​รู้​ว่า​ตอนนี้​ครอบครัว​กำลัง​แตก​เป็น​สอง​ฝ่าย​

แม่ไป๋​และ​ไป๋​ซวง​อยู่​ฝ่าย​เดียวกัน​ ส่วน​พ่อ​ไป๋​และ​ลูก​ ๆ อยู่​ฝ่าย​หลิน​ม่าย​

หลิน​ม่าย​กล่าวว่า​พ่อ​ไป๋​พา​ทั้ง​ครอบครัว​ไป​ที่​เซียง​ซาน​ใน​วันนี้​เพื่อ​กระชับ​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​ครอบครัว​

คุณปู่​ฟางและ​คุณย่า​ฟางสนับสนุน​ทันที​

แม้ว่า​หลิน​ม่าย​จะไม่ได้​อาศัย​อยู่​ใน​บ้าน​ของ​ตระกูล​ไป๋​ แต่​การ​มีความสัมพันธ์​กลมเกลียว​ใน​ครอบครัว​ก็​เป็น​สิ่งที่​ดี​เสมอ​

โต้​ว​โต้​ว​ไม่ได้​เห็น​หลิน​ม่าย​มาพัก​หนึ่ง​แล้ว​ แต่​ในที่สุด​วันนี้​ก็ได้​เห็น​ ดังนั้น​ไม่ว่า​อย่างไร​หล่อน​ก็​ไม่ยอม​แยกจาก​หลิน​ม่าย​พร้อม​บอ​กว่า​จะเดินทาง​ไป​ยัง​เซียง​ซาน​กับ​เธอ​

หลิน​ม่าย​ไม่ได้​ตอบ​ตกลง​

เธอ​บอก​คุณปู่​ฟางและ​คุณย่า​ฟางว่า​ การ​มาเยือน​เซียง​ซาน​ครั้งนี้​เป็นไป​เพื่อ​กระชับ​ความสามัคคี​ใน​ครอบครัว​

แต่​สถานการณ์​ที่​แท้จริง​คือ​ พวกเขา​ทำการ​วางกับดัก​เพื่อให้​ไป๋​ซวง​ตกลง​ไป​

เธอ​กลัว​ว่า​การนำ​โต้​ว​โต้​ว​ไป​ด้วย​อาจ​ส่งผล​ต่อ​แผนการ​ทั้งหมด​

แต่​เมื่อ​ลอง​คิดดู​อีกที​ หาก​หลิน​เจี้ยนกั๋ว​และ​ภรรยา​ของ​เขา​ได้​เห็น​โต้​ว​โต้​ว​ พวกเขา​ก็​อาจจะ​หลงเชื่อ​ใน​แผนการ​นี้​มากยิ่งขึ้น​

หลิน​ม่าย​สัมผัส​ใบหน้า​เล็ก​ ๆ ของ​โต้​ว​โต้​วอ​ย่าง​อ่อนโยน​ “ก็ได้​จ้ะ โต้​ว​โต้​ว​ของ​เรา​จะไป​ด้วย​”

ฟางจั๋ว​หรา​น​พูด​จาก​ด้าน​ข้าง​ “ผม​ก็​อยาก​ไป​เหมือนกัน​”

………………………………………………………………………………………………………………………….

สาร​จาก​ผู้แปล​

อ้าว​ เจอ​รูม​เมท​ที่​เป็นโรค​เจ้าหญิง​เข้า​เสียแล้ว​สิ สี่ปี​นี้​ม่าย​จื่อ​จะอยู่​มหาลัย​ยังไง​ไม่ให้​ปวด​ประสาท​กัน​นะ​?

วางแผน​ขุดบ่อล่อปลา​สินะ​ โต้​ว​โต้​ว​กับ​พี่​หมอ​อย่า​ทำ​แผน​แตก​ล่ะ​

ไหหม่า​(海馬)