ตอนที่ 1207 คำพูดของเวินอวี่ (4) / ตอนที่ 1208 เส้นทางข้างหน้า
ตอนที่ 1207 คำพูดของเวินอวี่ (4)
“และวิธีที่พวกเขาใช้เพื่อที่จะได้สมบัติมาอย่างลับๆ ก็คือให้คนที่พวกเขาส่งไปค้นหาสมบัติกลายเป็นแพะรับบาป และกระหม่อมก็เป็นหนึ่งในนั้น…”
ตอนนั้นเวินอวี่ออกค้นหาที่ตั้งของสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิกับพรรคพวกของเขา เขาคิดว่าเขาออกเดินทางเพื่อความรุ่งโรจน์และความเชื่อมั่นศรัทธาในกลุ่มอำนาจที่เขารับใช้อยู่ ไม่เคยรู้ว่ามันจะกลายเป็นโศกนาฏกรรมของพวกเขาทุกคน
“ในเมื่อท่านเคยไปที่สุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ อย่างนั้นท่านก็รู้ที่ตั้งของมันใช่หรือไม่” ในที่สุดจวินอู๋เสียก็ถามคำถามที่อยากถามมานานออกไป
แต่เวินอวี่กลับส่ายศีรษะ
“กระหม่อมไปที่สุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิก็จริง แต่กระหม่อมไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหนพ่ะย่ะค่ะ”
“ทำไมเล่า” จวินอู๋เสียถาม แววตาแสดงความประหลาดใจ
เวินอวี่ตอบว่า “ตอนนั้นกระหม่อมกับสหายพบตำแหน่งคร่าวๆ ของสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ แต่เราถูกโจมตีในหมอกหนาที่มองอะไรไม่เห็น และกระหม่อมก็ขาดการติดต่อกับพวกเขา แรงโจมตีทำให้กระหม่อมกระเด็นเข้าไปในสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิโดยบังเอิญ แต่กระหม่อมไม่สามารถเข้าไปข้างในลึกๆ ได้ ทำได้แต่อยู่ที่ชั้นนอกๆ กระหม่อมได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกพิษร้ายแรง อ่อนแอเกินกว่าจะเข้าไปข้างในให้ลึกกว่านี้ สิ่งเดียวที่กระหม่อมเอามาจากสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิได้ก็คือหยกสงบวิญญาณชิ้นนั้นเท่านั้น…”
เวินอวี่คิดว่าเขาเคราะห์ร้าย กระทั่งตอนที่เขาบังเอิญเข้าไปในสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิได้ เขาก็ไม่มีแรงเหลือแล้ว สุดท้ายเขาก็ล้มลงจากความเหน็ดเหนื่อยอ่อนแอและหลับไป เขาแน่ใจว่าเขาคงไม่รอดแล้ว
แต่ตอนที่เขาลืมตาตื่นขึ้นมา เขาก็พบว่าเขาออกจากสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิแล้วและถูกส่งขึ้นที่ด้านบนของผาสุดขอบฟ้า
เขาเองก็ไม่รู้ว่าออกมาจากที่นั่นได้อย่างไร แต่หลังจากรอที่ด้านบนของผาสุดขอบฟ้าอยู่นานด้วยความหวังว่าสหายของเขาจะสามารถกลับมาได้ ในที่สุดเขาก็จำต้องเผชิญกับความสิ้นหวัง
ไม่มีใครกลับมา…
ไม่มีเลยสักคน!
เขาไม่มีทางเลือกนอกจากลากร่างที่บาดเจ็บสาหัสของเขากลับไปที่สามโลกชั้นกลาง เขาคิดจะรายงานเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับพวกเขาให้ผู้อาวุโสของกลุ่มอำนาจที่เขารับใช้อยู่รู้
แต่ทว่าตอนที่เขากลับไปถึงบ้าน เขาก็เห็นภาพครอบครัวทั้งหมดของเขาตั้งแต่เด็กถึงคนแก่ถูกสังหารจนหมดสิ้นด้วยตาของตัวเอง
ตั้งแต่ตอนที่พวกเขาลงไปที่ผาสุดขอบฟ้า กลุ่มอำนาจที่พวกเขารับใช้อยู่ก็เตรียมที่จะปิดปากพวกเขาทุกคนเอาไว้แล้ว คนในครอบครัวของคนที่ถูกส่งไปทุกคนถูกสังหารจนหมดสิ้น จุดประสงค์เพียงเพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องการสำรวจค้นหารั่วไหลออกไป!
เวินอวี่ไม่มีวันลืมภาพที่ครอบครัวทั้งหมดของเขาถูกสังหารไปจนชั่วชีวิต กลุ่มอำนาจที่เขารับใช้ด้วยความจงรักภักดีทำกับเขาเหมือนเด็กที่ถูกทอดทิ้ง ไม่เคยส่งคนมาค้นหาพวกเขาที่หายไปเลยสักคน แต่กลับฆ่าปิดปากคนในครอบครัวของพวกเขาหมดทุกคน
เวินอวี่ที่บาดเจ็บหนักไม่สามารถแก้แค้นให้ครอบครัวของเขาได้ เขาที่ตกอยู่ในความสิ้นหวังได้ตัดสินใจพาตัวเองไปให้ไกลจากสามโลกชั้นกลางและซ่อนตัวอยู่ในสามโลกเบื้องล่าง
สามโลกเบื้องล่างในช่วงนั้นแยกกันเป็นเมืองเล็กเมืองน้อย เวินอวี่ที่เป็นทุกข์และหมดกำลังใจได้ตัดสินใจลงหลักปักฐานที่รัฐเหยียนและช่วยฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนให้ขึ้นสู่ครองราชย์อย่างมั่นคง ทำให้เขากลายเป็นราชครูแห่งรัฐเหยียน และเขาก็ไม่คิดถึงเรื่องราวในอดีตของเขาอีกต่อไป
แม้แต่หยกสงบวิญญาณที่เขาได้มาจากสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ เขาก็ไม่อยากเก็บมันไว้กับตัว
เขารู้ว่ารัฐที่แข็งแกร่งอย่างรัฐเหยียนจะต้องถูกกลุ่มอำนาจในสามโลกชั้นกลางเลือกเป็นหมากอย่างแน่นอน เขาจึงไม่กล้าปล่อยให้หยกสงบวิญญาณอยู่ในรัฐเหยียน ดังนั้นในการเดินทางครั้งหนึ่งของเขา เขาจึงได้มอบหยกสงบวิญญาณให้กับรัฐชีที่กำลังก่อตั้ง
และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เวินอวี่ก็ตัดขาดจากอดีตของเขาอย่างสิ้นเชิง
เขาคือราชครูแห่งรัฐเหยียนเพียงเท่านั้น
ถ้าไม่ใช่เพราะจวินเสียนำเรื่องนี้มาพูดในวันนี้ เขาก็ไม่อยากจะนึกถึงมันอีกตลอดชีวิต
“ฝ่าบาท ไม่สำคัญว่าในอดีตเวินอวี่ผู้นี้จะเป็นใคร ปัจจุบันกระหม่อมคือเวินอวี่ ราชครูแห่งรัฐเหยียนเพียงเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ” เวินอวี่พูดพลางมองไปที่จวินเสีย
……
ผู้แต่งเป่ย: นายท่านน
นายท่าน: ออกมารับความตายได้แล้วรึ
ผู้แต่งเป่ยที่ตัวสั่นงันงก ไม่เห็นต้องดุอย่างนั้นเลย ข้าตั้งใจทำตามที่พูดอยู่แล้ว ตราบใดที่ตั๋วของเดือนนี้มากพอ ข้ารับรองเลยว่าท่านกับอู๋เสียจะได้ทำ “(*/∇ *)” แน่นอน นี่เพิ่งต้นเดือนใช่หรือไม่เล่า ท่านจะไม่ช่วยข้าให้ได้ตั๋วหน่อยหรือ ทุกคนอยากเห็นซิกแพ็คสุดเซ็กซี่สง่างามของท่านจะแย่แล้วรู้หรือไม่
นายท่าน: คิดว่าข้าจะยังเชื่อเจ้าอีกหรือไง
ผู้แต่งเป่ย: ข้าสาบานด้วย Dou Dou น้อยของข้าเลย! ถ้าตั๋วเดือนมากพอ เดือนนี้ข้าจะให้ท่านทำ “(*/∇ *)”!
นายท่านส่งเสียงหึอย่างไม่พอใจ เจ้าคิดว่าข้าจะตกหลุมเจ้าเพราะเรื่องนั้นรึ [ดึงชุดคลุมออก ค่อยๆ ถอดเสื้อช้าๆ]
……
[ผู้แต่งเป่ย: เล่นเกมกันต่อดีกว่า เจ้าโง่เฉียวเจอกับอู๋เสียครั้งแรกที่ไหน]
ตอนที่ 1208 เส้นทางข้างหน้า
จวินอู๋เสียไม่คิดว่าความจริงจะเป็นเช่นนี้ เวินอวี่ได้ไปที่สุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิจริงๆ แต่เขาไม่รู้ที่ตั้งที่แน่นอนของสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ สิ่งที่ทำให้จวินอู๋เสียงงมากขึ้นไปอีกก็คือเวินอวี่ที่เข้าไปในสุสานแล้วออกจากที่นั่นได้อย่างไร
ปริศนาบางอย่างกระจ่างแล้ว แต่มันไม่ได้ลดความงุนงงสงสัยของจวินอู๋เสียลงไปเลยแม้แต่น้อย กลับเพิ่มขึ้นแทนเสียอย่างนั้น
“ข้าเข้าใจ ท่านราชครู ท่านจะเป็นราชครูแห่งรัฐเหยียนตลอดไป” จวินอู๋เสียพูดพลางมองไปที่เวินอวี่ ประสบการณ์ในอดีตของเขาเหมือนกับบิดามารดาของเฉียวฉู่และคนอื่นๆ สิ่งที่โชคดีเพียงอย่างเดียวคือเขายังมีชีวิตอยู่ โชคร้ายก็คือครอบครัวของเขาทั้งหมดถูกสังหาร
เวินอวี่ยิ้มออกมา ตั้งแต่ทิ้งตัวตนเดิมมานี่เป็นครั้งแรกที่เขาเล่าความลับอันตรายนี้ให้คนอื่นฟัง ความลับนี้สร้างความทุกข์ให้เขามานาน ในที่สุดเขาก็สามารถพูดความทุกข์ในใจของตัวเองออกมาได้ ไม่ต้องแบกมันเอาไว้คนเดียวอีกต่อไปแล้ว
“ถึงกระหม่อมจะไม่รู้ว่าทำไมฝ่าบาทอยากช่วยรัฐชีมากขนาดนี้ แต่มีอย่างหนึ่งที่กระหม่อมต้องเตือนฝ่าบาทเอาไว้” ดูเหมือนเวินอวี่จะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมเล็กน้อย
“ในเมื่อเหตุผลที่รัฐจิ้วยกกองทัพไปก็เพราะหยกสงบวิญญาณ เช่นนั้นเรื่องที่หยกสงบวิญญาณอยู่ในรัฐชีก็ไม่ใช่ความลับอีกต่อไปแล้ว บางคนที่อยู่ในรัฐจิ้วต้องร่วมมือกับกลุ่มอำนาจกลุ่มหนึ่งในสามโลกชั้นกลางแน่ ถึงแม้ว่าฝ่าบาทจะนำกองทัพไปทำลายแผนการของคนพวกนั้นในครั้งนี้แล้ว แต่ถ้าข่าวไปถึงสามโลกชั้นกลางเมื่อไร มันจะนำความเดือดร้อนมาให้พวกเขาแน่ ถ้าฝ่าบาทอยากปกป้องรัฐชีจริงๆ มีวิธีเดียวก็คือปิดปากคนในรัฐจิ้วที่รู้เรื่องนี้เสีย แล้วก็…ให้หลินอ๋องแห่งรัฐชีอยู่ห่างๆ ไปสักพักโดยเร็วที่สุดพ่ะย่ะค่ะ” ไม่มีใครรู้วิธีการของสามโลกชั้นกลางดีเท่าเขาแล้ว
พวกเขาทำได้ทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมายโดยไม่คำหนึ่งถึงผลที่ตามมา สำหรับพวกเขาแล้วสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดินั้นล่อใจจนเกินต้านทาน พวกเขาจะไม่ปล่อยให้เบาะแสที่อาจจะนำพวกเขาไปที่นั่นหลุดมือไปแน่
นอกจากนั้น ในสายตาของคนในสามโลกชั้นกลาง คนของสามโลกเบื้องล่างก็เหมือนกับแมลง ถึงจะฆ่าไปเป็นล้านคนก็ไม่ทำให้พวกเขาขมวดคิ้วได้หรอก
คำพูดของเวินอวี่ทำให้จวินอู๋เสียหวั่นไหวเล็กน้อย
“ฝ่าบาทเห็นแค่พลังของกระหม่อมซึ่งก็ดูเหมือนจะไม่เลวนัก แต่ในสามโลกชั้นกลางคนที่มีพลังสูงกว่ากระหม่อมนั้นมีอีกเยอะพ่ะย่ะค่ะ” เวินอวี่พูด
“ท่านราชครูก็เป็นคนของสิบสองตำหนักด้วยหรือ” จวินอู๋เสียถาม
เวินอวี่ยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “ฝ่าบาทรู้เรื่องของสามโลกชั้นกลางจริงๆ น่าเสียดาย กระหม่อมไม่ใช่คนของสิบสองตำหนักหรอกพ่ะย่ะค่ะ แต่เป็นคนของวังหนึ่งในเก้าวัง ไม่ทราบว่าฝ่าบาทเคยได้ยินชื่อเก้าวังหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
จวินอู๋เสียพยักหน้า ถึงนางจะเคยได้ยินแต่นางก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพวกเขาเลยสักอย่าง
เวินอวี่พูดว่า “สามโลกชั้นกลางประกอบด้วยหนึ่งภูมิ สี่โลก เก้าวัง และสิบสองตำหนัก อำนาจของพวกเขาแบ่งตามอันดับพวกนี้พ่ะย่ะค่ะ ที่มีอำนาจมากที่สุดก็คือดินแดนเทพมารซึ่งเคยรวมสามโลกชั้นกลางให้เป็นหนึ่งเดียว ถัดมาก็คือสี่โลก ตามด้วยเก้าวัง และสิบสองตำหนักที่อยู่ขั้นสุดท้ายของลำดับขั้นแห่งอำนาจ ถึงคนของเก้าวังจะมีจำนวนน้อยกว่าสิบสองตำหนัก แต่ความแข็งแกร่งของพวกเขามากกว่าสิบสองตำหนักพ่ะย่ะค่ะ”
จวินอู๋เสียฟังอย่างตั้งใจ จดจำทุกถ้อยคำเอาไว้ในใจ
สามวันต่อมา รัฐเหยียนได้จัดพิธีแต่งตั้งฮองเฮาอย่างยิ่งใหญ่ ชวีหลิงเย่ว์กลายเป็นฮองเฮาเพียงคนเดียวของฮ่องเต้องค์ใหม่
ตั้งแต่นี้ไปตำนานของฮองเฮาผู้แกร่งกล้าอาจหาญได้เริ่มเปิดฉากขึ้นแล้ว
ในวันเดียวกันนั้น จวินอู๋เสียก็เก็บเสื้อผ้าออกเดินทางไปยังรัฐจิ้ว
รัฐจิ้วไม่ได้อยู่ใกล้กับรัฐเหยียน สองรัฐนี้คือรัฐที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอันดับหนึ่งและสองของสามโลกเบื้องล่าง มีดินแดนกว้างใหญ่ไพศาล จวินอู๋เสียเดินทางอย่างไม่หยุดพักก็ยังต้องใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะไปถึงเมืองหลวงของรัฐจิ้ว