บทที่ 628 นางขโมยบางอย่างจากข้าไป

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

เด็กหนุ่ม​ดูเหมือน​เพิ่ง​ตื่นนอน​ ​เขา​อยู่​ใน​เสื้อคลุม​ขนสัตว์​สำหรับ​ใส่​นอน​ ​ผม​สีดำ​ดู​ยุ่งเหยิง​ ​เขา​ยก​ชา​ขึ้น​จิบ​แล้ว​มอง​ไป​ที่​หนา​นกง​เลี่ย​ที่​ยืน​อยู่​ตรงหน้า​ ​ดวงตา​เรียว​ของ​เขา​กระจ่าง​ใส​ราวกับ​ฤดูใบไม้ผลิ​ ​เขา​ยก​ขา​ขึ้น​ถีบ​อีก​ฝ่าย​โดย​ไม่​แม้แต่​จะ​คิด

แน่นอน​ว่า​เขา​ไม่ได้​ถีบ​อีก​ฝ่าย​จริงๆ

ไม่อย่างนั้น​หนา​นกง​เลี่ย​คง​ไม่มีทาง​หลบ​พ้น

แต่​การกระทำ​นี้​ก็​เพียงพอ​แล้ว​ที่จะ​ทำให้​หนา​นกง​เลี่ย​ร้อง​ออกมา​เสียงดัง​ ​“​อา​เจ​วี​๋ย​ ​เจ้า​ทำได้​อย่างไร​กัน​!​ ​นี่​คือ​สิ่ง​ที่​เจ้า​ปฏิบัติ​ต่อ​พี่น้อง​ของ​เจ้า​หรือ​!​”

“​ขอโทษ​ที​ ​ข้า​ยัง​ตื่น​ไม่​เต็มตา​นัก​”​ ​เด็กหนุ่ม​เอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​ทุ้ม​ลึก​ ​พร้อมกับ​ก้มหน้า​ลง​มอง​ชาย​ที่นอน​อยู่​บน​พื้น​อย่าง​เกียจคร้าน

หนา​นกง​เลี่ย​ ​:​ ​…

ยัง​ไม่​ตื่น​เต็มตา​หรือ

ความ​เย็นชา​ใน​ดวงตา​ของ​เจ้า​แทบจะ​ทำให้​ข้า​แข็ง​ตาย​อยู่​แล้ว​ ​แต่​เจ้า​กลับ​บอกว่า​เจ้า​ยัง​ตื่น​ไม่​เต็มตา​อีก​หรือ​ ​ข้า​ไม่ใช่​คนโง่​ที่​เจ้า​จะ​มา​โกหก​ได้​นะ​!

“​อา​เจ​วี​๋ย​ ​พวกเรา​รู้จัก​กัน​มาก​ว่า​เจ็ด​ปี​แล้ว​”​ ​หนา​นกง​เลี่ย​รู้​ว่า​เขา​เอาชนะ​อีก​ฝ่าย​ไม่ได้​ ​ดังนั้น​เขา​จึง​เริ่ม​งัด​เอา​มิตรภาพ​ระหว่าง​พวกเขา​มา​ใช้​ ​“​มันตั​้ง​เจ็ด​ปี​เชียว​นะ​ ​ชีวิต​เจ็ด​ปี​ของ​ข้า​เชียว​นะ​!​ ​เจ้า​จะ​ทำ​แบบนี้​กับ​ข้า​ไม่ได้​!​ ​เจ้า​ต้อง​บอก​ความจริง​ให้​ข้า​รู้​ก่อน​ข้า​จะ​ตาย​!​”

ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋​ยม​อง​เขา​แล้ว​ยิ้ม​ออกมา​อย่าง​ช้าๆ​ ​แต่​รอยยิ้ม​นั้น​กลับ​ไม่ได้​ไป​ถึง​ดวงตา​ของ​เขา​ ​“​เจ้า​ดู​สนิท​กับ​คนที​่​ข้า​ส่ง​ไป​ให้​เจ้า​”

หนา​นกง​เลี่ย​เป็น​คนฉลาด​ ​เขา​ส่ายหน้า​เป็น​พัลวัน​เพื่อ​ปกป้อง​ตัวเอง​ ​“​ไม่​ ​ไม่​ ​ไม่มีทาง​!​ ​สิ่ง​ที่​เจ้า​เห็น​มัน​เป็น​เพียงแค่​เปลือกนอก​เท่านั้น​!​ ​ความจริง​แล้ว​พวก​ข้า​ไม่ได้​สนิท​กัน​เลย​ ​ไม่เลย​แม้แต่​นิดเดียว​!​”

“​เพราะเหตุใด​เจ้า​ถึง​มอบ​ดอกไม้​ให้​นาง​ล่ะ​”​ ​เสียง​ของ​เด็กหนุ่ม​ฟัง​ดู​ไม่​ค่อย​ใส่ใจ​นัก

แต่​หนา​นกง​เลี่ย​สังเกตเห็น​มือซ้าย​ที่​กำ​แน่น​เข้าหา​กัน​ของ​เขา​ได้​ ​ดังนั้น​เขา​จึง​รีบ​ล้างมลทิน​ให้​ตัวเอง​ทันที​ ​“​นั่น​เป็น​เพราะ​ข้า​ต้องการ​ขอบคุณ​นาง​ต่างหาก​ ​คนที​่​เสนอ​ความคิด​ให้​ข้าม​อบ​ดอกไม้​ให้​ผู้หญิง​ก็​คือ​นาง​ ​เดิมที​ข้า​ตั้งใจ​จะ​มอบ​ดอกไม้​ดอก​นั้น​ให้​คนอื่น​ต่างหาก​”

“​มอบให้​ชิง​จ้าน​หรือ​”​ ​เด็กหนุ่ม​เอ่ย​อย่างใจ​เย็น​พร้อม​มอง​กลับ​ไป​ที่​เขา​ ​ในที่สุด​ความขุ่นเคือง​ที่​มีอยู่​ใน​อก​มา​เป็นเวลา​นาน​ก็​ค่อยๆ​ ​เลือนหาย​ไป​เล็กน้อย

แต่​หนา​นกง​เลี่ย​กลับ​ทำ​หน้า​ราวกับ​เห็น​ผี​ ​“​เจ้า​ ​เจ้า​รู้​ได้​อย่างไร​”

เด็กหนุ่ม​หัวเราะ​อย่าง​มีเลศนัย​ ​“​มันตั​้ง​เจ็ด​ปี​เชียว​นะ​ ​แน่นอน​ว่า​ข้า​ก็​ต้อง​เป็นห่วง​พี่น้อง​คนเดียว​ของ​ข้า​เหมือนกัน​”

หนา​นกง​เลี่ย​ ​:​ ​…

บัดซบ​!

ข้า​ไม่ต้องการ​ความเป็นห่วง​ของ​เจ้า​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​!

อย่า​บอก​นะ​ว่า​คนที​่​ว่า​ข้า​ให้​เสี่ยว​ชิง​จ้าน​ฟัง​ก็​คือ​เจ้า​!

ความคิด​นั้น​วาบ​เข้ามา​ใน​ใจ​ของ​หนา​นกง​เลี่ย​ ​สีหน้า​หล่อเหลา​ของ​เขา​เหมือน​กำลังจะ​ร้องไห้​ ​“​เจ้า​พยายาม​จะ​ทำ​อะไร​กัน​แน่​ ​พูด​มาตรง​ๆ​ ​ดีกว่า​”

“​ไม่มี​อะไร​”​ ​เด็กหนุ่ม​ยังคง​ให้​คำใบ​้​กับ​เขา​ต่อ​ ​“​ข้า​สังเกตเห็น​ว่า​ช่วง​สอง​วัน​มานี​้​เจ้า​ดู​ว่าง​มาก​จน​ออก​ไป​เก็บ​ดอกไม้​ที่​นอก​วัง​ ​ดังนั้น​ข้า​ก็​เลย​คิด​ว่า​เจ้า​อาจจะ​ต้องการ​ความตื่นเต้น​ใน​ชีวิต​”

เงา​ทมิฬ​ที่​ยืน​อยู่​นอก​ห้อง​เงยหน้า​ขึ้น​อย่าง​เงียบๆ​ ​:​ ​…​ข้าว​่า​คง​ไม่มีใคร​อยากได้​ความตื่นเต้น​พรรค์​นั้น​หรอก​กระมัง

ตรงกันข้าม​ ​หนา​นกง​เลี่ย​กลับ​ไม่ได้​รู้สึก​เสียใจ​ ​แทนที่จะ​คิด​เช่นนั้น​เขา​กลับ​จับ​เรื่อง​ทุกอย่าง​มาปะ​ติด​ปะ​ต่อกัน​ได้​ทันที​ ​ทันใดนั้น​รอยยิ้ม​ชั่วร้าย​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​บน​ใบหน้า​ของ​เขา​ ​เขา​ยกมือ​ขึ้น​จับ​บ่า​ของ​เด็กหนุ่ม​ ​“​อา​เจ​วี​๋ย​ ​เจ้า​น่าจะ​บอก​ข้า​ให้​เร็ว​กว่านี​้​ ​ถ้า​ข้า​รู้​ว่า​เจ้า​กำลัง​มี​ความรัก​ ​ข้า​คงช่วย​เจ้า​ไป​นาน​แล้ว​”

เด็กหนุ่ม​ปรายตา​มอง​เขา​พร้อมกับ​กวาดสายตา​มอง​ไป​ที่​มือ​นั้น

หนัง​ศีรษะ​ของ​หนา​นกง​เลี่ย​ชาวาบ​ ​เขา​รีบ​ชัก​มือ​กลับ​อย่างว่องไว

เด็กหนุ่ม​ปัด​เสื้อ​ ​พร้อม​ใช้​น้ำเสียง​สูงศักดิ์​และสง่า​งาม​นั้น​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​อย่า​คิด​อะไร​ให้​มัน​มากเกินไป​นัก​ ​ผู้หญิง​คน​นั้น​เพียงแค่​ทำให้​ข้า​ไม่​ชอบใจ​ก็​เท่านั้น​”

จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​ระหว่าง​เจ้า​กับ​นาง​มัน​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​หรือ​”​ ​ดวงตา​ของ​หนา​นกง​เลี่ยมี​ความ​ขี้เล่น​ปรากฏ​ให้​เห็น​อย่างชัดเจน​ ​“​ต่อให้​ข้า​จะ​ถาม​นาง​อย่างไร​ ​นาง​ก็​ไม่ยอม​บอกอะ​ไร​ข้า​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​”

เด็กหนุ่ม​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​เขา​ ​พร้อมกับ​เอ่ย​อย่าง​ไม่รีบร้อน​ว่า​ ​“​นาง​ขโมย​ของ​ของ​ข้า​ไป​ ​ข้า​หา​ตัวนาง​มาต​ลอด​แปด​ปี​เต็ม​เพียง​เพื่อ​จะ​นำ​ของ​สิ่ง​นั้น​กลับมา​”

หนา​นกง​เลี่ย​ขมวดคิ้ว​หนา​เข้าหา​กัน​ ​หัวขโมย​หรือ​ ​ผู้หญิง​คน​นั้น​ดู​ไม่​เหมือน​หัวขโมย​เลย​สักนิด

แต่​มีอยู่​สิ่ง​หนึ่ง​ที่​กวนใจ​เขา​อย่างมาก

นั่น​คือ​รูปร่างหน้าตา​ของ​ผู้หญิง​คน​นั้น​…​ ​นาง​ดู​คล้าย​กับ​คุณหนู​ของ​ตระกูล​เฮ่อ​เหลียน​มากเกินไป

มันต​้​อง​มี​อะไร​มากกว่า​นี้​แน่

ดวงตา​ของ​หนา​นกง​เลี่ย​เป็นประกาย​ ​จากนั้น​เขา​จึง​เอ่ย​อย่าง​ไม่ใส่ใจ​ว่า​ ​“​ในเมื่อ​นาง​เป็น​หัวขโมย​ ​เช่นนั้น​พวกเรา​ก็​ควร​จับ​นาง​ตัด​แขน​ตัด​ขา​แล้ว​โยน​ออก​ไปนอก​วัง​ ​หาก​นั่น​ยัง​ไม่พอ​ ​เจ้า​ก็​ควรจะ​ฆ่า​นาง​เสีย​ ​เจ้า​จะ​ทรมาน​นาง​ด้วย​วิธีการ​ใด​ก็ได้​ตราบเท่าที่​เจ้า​จะ​สามารถ​ระบาย​ความโกรธ​ของ​ตัวเอง​ออกมา​ได้​ ​เจ้า​ไม่ได้​เคลื่อนไหว​มานา​นมาก​แล้ว​ ​มัน​ไม่​สม​กับ​เป็น​เจ้า​เสีย​เลย​ ​ข้า​กลับ​ไป​เมื่อไหร่​ ​ข้า​จะ​โยน​นาง​ออก​ไป​ทันที​ ​แล้ว​จากนั้น​เจ้า​ค่อย​คิด​ก็แล้วกัน​ว่า​เจ้า​อยาก​ทำ​อะไร​”

เด็กหนุ่ม​ยังคง​เงียบ

หนา​นกง​เลี่ย​รู้​ว่า​เขา​เห็นด้วย

แต่​เขา​ไม่​คิด​ว่า​อา​เจ​วี​๋ย​จะ​ทำ​อะไร​กับ​ผู้หญิง​คน​นั้น

ถ้า​เขา​เกลียด​นาง​จริง​ ​มัน​ก็​มี​วิธีการ​มากมาย​นับไม่ถ้วน​ที่จะ​ทำให้​ใคร​สัก​คน​หาย​ไป​จาก​วัง​หลวง​ ​อีก​อย่างหนึ่ง​ ​ฐานะ​ของ​อา​เจ​วี​๋​ยก​็​สูง​พอที่​จะ​ทำให้​เขา​สามารถ​ฆ่า​คน​ได้​ด้วย​การ​เอ่ยปาก​เพียง​คำ​เดียว

แต่​สีหน้า​ของ​อา​เจ​วี​๋​ยก​ลับ​ดูเหมือน​ไม่ได้​โกหก

อย่างไร​เขา​ก็​พูด​คำ​ว่า​แปด​ปี​ออกมา​อย่างชัดเจน​…

“​ในเมื่อ​เรา​จัดการ​ปัญหา​นี้​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ ​เจ้า​ก็​ควร​จัดการ​ปัญหา​เรื่อง​เสี่ยว​ชิง​จ้าน​ให้​ข้า​เหมือนกัน​มิใช่​หรือ​ ​นาง​หันหลัง​เดินหนี​ข้า​ทุกครั้งที่​เห็น​ข้า​เลย​นะ​รู้​ไหม​!​”​ ​หนา​นกง​เลี่ย​อารมณ์เสีย​อย่างมาก​ทันทีที่​พูดถึง​เรื่อง​นี้​ขึ้น​มา​!

เด็กหนุ่ม​ดู​ไม่​ค่อย​สนใจ​นัก​ ​เขา​สั่ง​ให้​เงา​ทมิฬ​เรียก​ชิง​จ้าน​เข้ามา

นาย​น้อย​อย่าง​หนา​นกง​เลี่ย​ย่อม​ไม่​ควร​ปรากฏตัว​ขึ้น​ใน​สถานการณ์​เช่นนี้​ ​ดังนั้น​เขา​จึง​ซ่อนตัว​อยู่​หลัง​ม่าน​ ​แล้ว​เงี่ยหู​ฟัง​สถานการณ์​ด้านนอก​แทน

เสียง​ของ​เด็กหนุ่ม​แหบ​พร่า​ ​แต่​ยัง​ฟัง​ดู​สง่างาม​เหมือน​ตอน​ปกติ​ ​เขา​เอ่ย​ขึ้น​อย่าง​ไม่รีบร้อน​ว่า​ ​“​ชิง​จ้าน​ ​ข้า​ได้ยิน​เรื่อง​อุบัติเหตุ​ที่เกิด​ขึ้น​เมื่อ​บ่าย​นี้​แล้ว​ ​ดูเหมือน​เจ้า​จะเข้า​ใจ​นาย​น้อย​เลี่ย​ผิด​ไป​”

“​ไม่เลย​เพ​คะ​”​ ​ชิง​จ้าน​มีสี​หน้า​จริงจัง​ ​นาง​ดู​อ่อนโยน​และ​ไร้เดียงสา​ ​“​ฝ่า​บาท​ ​หม่อมฉัน​ได้​เห็น​แล้ว​ว่า​ปกติ​นาย​น้อย​เลี่ย​ประพฤติ​ตัว​เช่นใด​ ​ทุกครั้งที่​เขา​เห็น​สาวงาม​ ​เขา​จะเข้า​ไป​คุย​กับ​พวก​นาง​ ​และ​เรื่อง​นี้​ก็​ไม่ได้​เป็นความลับ​ใน​วัง​หลวง​แต่อย่างใด​ ​หม่อมฉัน​รู้​ว่า​ท่าน​มี​ความสัมพันธ์​อัน​ดี​กับ​นาย​น้อย​เลี่ย​ ​ดังนั้น​ท่าน​ย่อม​ไม่​คิด​ที่จะ​พูด​ให้ร้าย​เขา​อย่างแน่นอน​ ​เขา​ช่าง​โชคดี​จริงๆ​ ​ที่​มีส​หาย​ดี​ๆ​ ​เช่น​ฝ่า​บาท​”

หนา​นกง​เลี่ย​ที่ซ่อน​อยู่​หลัง​ม่าน​รู้สึก​เหมือน​เพิ่ง​ถูก​มีด​ปัก​เข่า​ ​บน​ใบหน้า​ของ​เขา​มีสี​หน้า​ผิดหวัง​ปรากฏ​ขึ้น

เงา​ทมิฬ​ที่​เห็น​สถานการณ์​ทั้งหมด​พยายาม​กลั้น​ขำ​อย่าง​ยากลำบาก

มี​แต่เพียง​เด็กหนุ่ม​คน​นั้น​เท่านั้น​ที่​ยัง​รักษา​ความสุขุม​เยือกเย็น​เอาไว้​ได้​ ​“​อันที่จริง​เขา​ก็​มี​ข้อดี​อยู่​หลาย​ข้อ​ทีเดียว​”

“​ฝ่า​บาท​ไม่ต้อง​ห่วง​เพ​คะ​ ​ตราบใดที่​ท่าน​อยู่​ที่นี่​ ​หม่อมฉัน​จะ​รับใช้​นาย​น้อย​เลี่ย​เป็น​อย่างดี​!​”​ ​ชิง​จ้าน​สัญญา​ ​นาง​เป็น​คนซื่อ​สัตย์​และ​ทุ่มเท​มาตั​้ง​แต่​อายุ​ยังน้อย

แต่​หนา​นกง​เลี่ย​กลับ​ไม่พอใจ​อย่างมาก​ ​เขามอง​เด็กหนุ่ม​ด้วย​สายตา​ตัดพ้อ​หลังจาก​ชิง​จ้าน​กลับ​ไป

เด็กหนุ่ม​พูด​อย่าง​ไม่​อ้อมค้อม​ว่า​ ​“​ข้า​พยายาม​ดีที​่​สุด​แล้ว​ ​ข้า​จะ​ไปรู​้​ได้​อย่างไร​ว่า​เจ้า​มีนิ​สัย​ชอบ​พบปะ​พูดคุย​กับ​สาวงาม​เป็นกิจวัตร​”

หนา​นกง​เลี่ย​ ​:​ ​…​ตอนนี้​ข้า​ชัก​เสียใจ​ขึ้น​มา​แล้ว​!

“​เอาล่ะ​ ​อีกหน่อย​ชิง​จ้าน​ย่อม​กลับมา​หา​เจ้า​แน่​ ​สาม​ปีน​่า​จะ​เพียงพอ​ให้​นาง​เปลี่ยนความคิด​ที่​มีต​่อ​เจ้า​ได้​”​ ​เด็กหนุ่ม​นวด​หน้าผาก​ ​แล้ว​กล่าว​อย่าง​เหนื่อยหน่าย​ใจ​ว่า​ ​“​เจ้า​ควร​ออก​ไป​จัดการ​เรื่อง​ของ​ตัวเอง​ได้​แล้ว​มิใช่​หรือ​”

หนา​นกง​เลี่ย​ยังคง​จมอยู่กับ​ความ​โศกเศร้า​ของ​ตัวเอง​ ​เมื่อ​เขา​กลับมา​ถึง​วิหาร​บวงสรวง​ ​และ​เห็น​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​สิ่ง​แรก​ที่​เขา​ถาม​กับ​นาง​คือ​ ​“​ตอนนั้น​เจ้า​เอา​อะไร​มาจาก​อา​เจ​วี​๋ย​หรือ​”

“​ข้า​ไม่ได้​เอา​อะไร​ไป​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เลิก​คิ้ว​ ​แล้ว​ถาม​กลับ​อย่าง​เกียจคร้าน​ว่า​ ​“​ทำไม​เจ้า​ถึง​ถาม​อย่างนั้น​ล่ะ​”

หนา​นกง​เลี่ย​เอนกาย​พิง​กรอบประตู​ด้วย​สีหน้า​ชั่วร้าย​ ​“​เมื่อครู่นี้​ข้า​ไปหา​เขา​มา​ ​เขา​บอกว่า​เมื่อ​แปด​ปีก่อน​เจ้า​ขโมย​ของ​บางอย่าง​ไป​จาก​เขา​ ​เขา​จึง​ตามหา​เจ้า​มาต​ลอด​แปด​ปี​เต็ม​ ​เวลานี้​เมื่อ​เขา​จับ​เจ้า​ได้​ในที่สุด​ ​เจ้า​คิด​ว่า​เขา​จะ​ปล่อย​เจ้า​ไป​หรือ​ ​ไม่เลย​ ​เจ้า​ควร​สวดมนต์​ให้​ตัวเอง​เสีย​ ​ข้า​บอกใบ้​ให้​เจ้า​ได้​เพียง​ไม่​กี่​ข้อ​เท่านั้น​ ​เจ้า​ลอง​คิดดู​ให้​ดีสิ​ ​บางที​เจ้า​อาจจะ​เอา​อะไร​บางอย่าง​ไป​ใน​ตอนนั้น​ ​โดยที่​ไม่รู้​ก็ได้​ว่า​ของ​ที่​เจ้า​เอา​ไป​เป็น​ของ​สำคัญ​สำหรับ​อา​เจ​วี​๋ย​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​หรี่​ตา​ ​แล้ว​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​สุดท้าย​นาง​ก็​ส่ายหน้า

“​เช่นนั้น​ข้า​คงช่วย​อะไร​เจ้า​ไม่ได้​แล้ว​กระมัง​ ​เจ้า​ไป​จาก​ที่นี่​เสียเถอะ​…​”