War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 1963
ตอนที่ 1,963 : ดูที่ทาง
แต่ตอนนี้ที่ต้วนหลิงเทียนได้รับตะกร้าขนาดใหญ่พิเศษนั้น…เป็นธรรมดาที่จะไม่ใช่เพราะโชค!
เป็นอาวุโสเพลิงแดงจากแท่นบูชานกไฟคนนี้ที่มอบ ‘สวัสดิการ’ ให้ต้วนหลิงเทียนเป็นการส่วนตัว แต่เป็นธรรมดาที่หากอาวุโสเพลิงทองแดงไม่พูด ต้วนหลิงเทียนที่พึ่งมาถึงเขตลงทัณฑ์ก็ย่อมไม่ทราบ…
เขาไม่อาจทราบได้เลยว่าตะกร้าใหญ่พิเศษนี้มีความพิเศษเพียงใดในเขตลงทัณฑ์แห่งนี้!
“ส่วนนี่จักเป็นเครื่องแต่งกายที่ศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์ทุกคนที่ถูกส่งมารับโทษต้องส่วมใส่…มันจักแตกต่างจากเครื่องแต่งกายที่เจ้าใส่ยามอยู่ในแท่นบูชาจตุรลักษณ์อยู่บ้าง เพราะมันมิมีลายปักแบ่งแยกสังกัดแต่อย่างใด”
อาวุโสเพลิงทองแดงของแท่นบูชานกไฟ กล่าวอธิบายเรื่องชุดแต่งกายให้ต้วนหลิงเทียนฟัง “ดังนั้นในเขตลงโทษแห่งนี้ หากเจ้าไม่เป็นฝ่ายบอกผู้อื่นก่อนว่าเจ้ามาจากแท่นบูชาเต่าทมิฬ ก็จะไม่มีผู้ใดรู้ว่าเจ้ามาจากแท่นบูชาเต่าทมิฬ…”
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับฟัง
อันที่จริงเรื่องนี้เขาก็พบได้ตั้งแต่ที่มาถึงแล้ว
ศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์ที่ทำงานอยู่ต่างใส่ชุดแบบเดียวกันทั้งสิ้น เขาจึงคิดว่านี่สมควรเป็นเครื่องแต่งกายประจำเขตลงทัณฑ์แน่นอน
“นอกจากนี้ยังมีกฏที่บังคับใช้ในเขตลงทัณฑ์แห่งนี้อยู่บ้าง…นั่นคือศิษย์ทุกคนจักต้องมารายงานตัวที่นี่ทุกวันก่อนเที่ยงค่อยไปขุดหินเซียน หากไม่มาจำนวนที่ต้องขุดก็จะทบทวีไปเรื่อยๆ…จะว่าไปตอนนี้ก็ยังมีอีกครึ่งชั่วยามกว่าจะเที่ยง…”
กล่าวถึงจุดนี้อาวุโสเพลิงทองก็เผยทีท่าลังเลเล็กน้อย หลังจากนั้นมันก็กัดฟันกล่าวบอกต่อต้วนหลิงเทียน “เช่นนั้นเจ้าไม่อยู่สนทนากับข้าสักครึ่งชั่วยามเล่า…หลังผ่านไปครึ่งชั่วยามแล้วเจ้าค่อยออกไป”
“ข้ายังพึ่งลงทะเบียนชื่อเจ้าไปเท่านั้น แต่ยังมิได้ลงบันทึกเวลา…ตราบใดที่ข้าถ่วงเวลาไว้อีกครึ่งชั่วยามค่อยลงบันทึกให้เจ้า เช่นนั้นวันนี้เจ้าก็ไม่ต้องลำบากไปขุดหินเซียนอันใด จักได้ใช้เวลาในการสำรวจสถานที่ หรือจะไปหาที่พักผ่อนก็ตามใจเจ้า”
ที่อาวุโสเพลิงทองแดงของแท่นบูชานกไฟกล่าวออกมาแบบนี้ เห็นชัดว่ามีเจตนาใช้อำนาจโดยมิชอบเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ต้วนหลิงเทียน!
ทว่าการใช้อำนาจโดยมิชอบเพื่อเอื้อประโยชน์ครั้งนี้ของมันทำให้ต้วนหลิงเทียนยิ้มบางๆออกมา ยังรู้สึกว่าได้รับการดูแลอย่างดีไม่น้อย ถึงกับคิดไปในใจว่า ‘ที่แท้ในโลกนี้ก็ยังมีคนใจดีเช่นนี้หลงเหลืออยู่…’
ในใจของต้วนหลิงเทียนคิดไปหากศิษย์คนอื่นได้รู้ว่าเขาได้รับอภิสิทธิ์เช่นนี้ แต่พวกมันจำต้องไปขุดหินเซียนท่ามกลางแดดร้อนจ้าคงได้มีกระอักเลือดกันบ้าง…
ไฉนพวกมันไม่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้บ้างเล่า!
ต้วนหลิงเทียนย่อมไม่รู้เลยว่าที่ทำไมเขาถึงได้รับอภิสิทธิ์เช่นนี้ ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะอาวุโสเพลิงทองแดงของแท่นบูชานกไฟคนนี้หวาดกลัวภูมิหลังของเขา!
หลังจากทั้งหมดแล้วในสายตาของมัน ต้วนหลิงเทียนก็คือผู้ที่กระทั่งหอคุมกฏในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ยังให้ท้าย ฆ่าคนตายแต่ไม่ต้องชดใช้ชีวิต! กระทั่งบทลงโทษยังเบาเหมือนผายลม ไม่มีแม้แต่ทัณฑ์ทรมานอะไรเหมือนศิษย์คนอื่นที่ทำคู่ต่อสู้พิการด้วยซ้ำ!
ด้วยเหตุนี้อาวุโสเพลิงทองแดงคนนี้พอเจอต้วนหลิงเทียนก็กลายเป็นคนพูดเก่งทั้งยังสุภาพนัก
หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นล่ะก็แม้จะมาลงทะเบียนช้าไปไม่กี่วินาที มันก็จักลงเวลาให้เป็นก่อนเที่ยงและไล่ให้ไปรีบขุดหินเซียนประจำวันเสียตอนนั้นเลย…
“ขอบคุณอาวุโสที่ให้การดูแลข้าอย่างดี…แต่ในเมื่อเวลายังเหลืออีกมากแบบนี้ เช่นนั้นข้าก็คิดจะไปลองดูที่ทางเสียหน่อยและเริ่มทำงานเลย จะได้คุ้นชินกับที่นี่เร็วๆ”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวขอบคุณก่อน ค่อยกล่าวปฏิเสธความหวังดีของอาวุโสเบื้องหน้าด้วยความสุภาพ
เนื่องจากต้วนหลิงเทียนเป็นฝ่ายกล่าวปฏิเสธออกมาเอง อาวุโสเพลิงทองแดงของแท่นบูชานกไฟก็ไม่คิดเซ้าซี้ให้มากความ อย่างไรก็ตามมันยังกำชับเรื่องสุดท้ายแก่ต้วนหลิงเทียน “เช่นนั้นก็ตามใจเจ้า ส่วนเรื่องจำนวนหินเซียนที่เจ้าต้องขุดวันนี้ เจ้าลองถามผู้อื่นดูเถอะ เพราะจำนวนหินเซียนที่กำหนดให้ขุดในแต่ละวันอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ…นอกจากนั้นเรื่องต้องไปส่งหินเซียนที่ขุดที่ใด เจ้าก็ลองถามเอาแถวนั้นดู”
“เอาล่ะ”
ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า ก่อนที่จะจากไป
หลังออกจากโต๊ะลงทะเบียนแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็ไปหาที่เปลี่ยนเป็นชุดใหม่ประจำเขตลงทัณฑ์ สะพายตะกร้าใบใหญ่เอาไว้ด้านหลังอย่างทะมัดทะแมง ค่อยเดินตามกลุ่มคนที่สะพายตะกร้าว่างเปล่าไป
ด้วยการมาถึงพร้อมตะกร้าใบใหญ่ของต้วนหลิงเทียน แน่นอนว่าเขาย่อมเป็นจุดสนใจไม่น้อย
หลังเดินปะปนมากับกลุ่มที่ดูเหมือนกำลังจะไปขุดหินเซียนเพิ่มไม่นาน ต้วนหลิงเทียนก็สัมผัสได้ว่ามีสายตามากมายที่มองจ้องมาที่เขา
‘เพราะข้าเป็นหน้าใหม่ที่พึ่งมาหรือยังไงนะ ถึงได้จ้องกันจัง…’
ตระหนักได้ถึงสายตามากมายที่มองมา ใจต้วนหลิงเทียนก็ลอบคาดคิดไปด้วยความสงสัย แต่เขายังไม่รู้เลยว่าที่ทั้งหมดจ้องเขา ล้วนเป็นเพราะตะกร้าใบใหญ่พิเศษด้านหลังเท่านั้น…
“ดูเหมือนว่าข้าจักมิเคยเห็นคนที่สะพายตะกร้าใบใหญ่พิเศษคนนั้นมาก่อนเลย…”
“เป็นหน้าใหม่หรือไม่?”
“อาจเป็นได้ แต่นั่นก็มิแน่นัก”
“แต่…หากมันมิใช่หน้าใหม่แล้วไฉนถึงมีตะกร้าใหญ่พิเศษได้เล่า? ตัดสินจากเวลาที่ตะกร้าใบใหญ่ถูกปล่อยออกมาครั้งสุดท้าย นี่มันยังเหลืออีก 3 เดือนมิใช่หรือไร ถึงจะมีตะกร้าใบใหญ่ส่งมาอีกใบ”
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน”
……
ต้วนหลิงเทียนย่อมไม่ทราบ ว่าในขณะที่ทุกกคนจ้องมาที่เขา ต่างก็ลอบส่งเสียงสนทนากันด้วย
ผ่านไปสักพักทุกคนก็ยังไม่แน่ใจว่าต้วนหลิงเทียนเป็นคนใหม่หรือไม่…
เพราะตัดสินจากเวลาที่อาวุโสจะปล่อยตะกร้าใบใหญ่ออกมา สมควรไม่ใช่เวลานี้…
หรือบางทีเพราะศิษย์คนนี้ที่แท้กลับมีพลังฝีมือสูงส่ง หากแต่ปกติแล้วใช้เพียงตะกร้าธรรมดามาโดยตลอด แต่ไม่นานมานี้ค่อยมีโอกาสช่วงชิงตะกร้าใบใหญ่พิเศษมาได้?
เพราะสุดท้ายแล้วในเขตลงโทษแห่งนี้ ก็มีศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์กว่าสี่พันคน เป็นไปไม่ได้เลยที่ทุกคนจะจดจำผู้ที่ถือตะกร้าธรรมดาได้หมด
พวกมันจำได้เพียงใบหน้าของผู้ที่มีตะกร้าใบใหญ่พิเศษที่มีอยู่ราวๆเกือบร้อยคนเท่านั้น
และพวกมันมั่นใจได้ว่า ใน 89 คนที่สมควรถือครองตะกร้าใบใหญ่อยู่ ไม่มีชายหนุ่มผู้นี้!
เช่นนั้นก็มีความเป็นไปได้เพียงสองประการเท่านั้น
ประการแรกชายหนุ่มผู้นี้ พึ่งเป็นศิษย์ที่ถูกส่งมารับโทษคนใหม่ และบังเอิญมีโชคได้รับแจกตะกร้าใบใหญ่
ประการที่สอง ชายหนุ่มผู้นี้แต่เดิมมักใช้เพียงตะกร้าธรรมดา แต่พึ่งไปช่วงชิงตะกร้าใบใหญ่พิเศษมา
ความเป็นไปได้ 2 ประการนี้ เหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์ทั้งหลายให้ความเป็นไปได้โอนเอียงไปทางข้อ 2 มากกว่า
นั่นเพราะตะกร้าใบใหญ่มักจะปรากฏขึ้นตามเวลาจำเพาะเจาะจง พวกมันเองก็รู้เรื่องนี้ดี
ด้วยเหตุนั้นพวกมันจึงสรุปได้ว่า
โดยปกติแล้วตะกร้าใบใหญ่พิเศษไม่ควรมาปรากฏในมือของผู้ที่มาใหม่!
อย่างไรก็ตามเหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์เหล่านี้คงไม่คิดไม่ฝันเลย ว่าต้วนหลิงเทียนเป็นผู้ที่พึ่งมาใหม่จริงๆ ยังเรียกว่าใหม่แกะกล่องเลยก็ว่าได้ เพราะเขาถึงมาถึงที่นี่ได้ไม่ทันไรด้วยซ้ำ
สำหรับตะกร้าขนาดใหญ่พิเศษบนหลังเขานั้น กลับเป็นสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับกำหนดเวลาปกติ ที่อาวุโสมักปล่อยออกมาให้หมุนเวียนในหมู่ศิษย์ เพราะอีกฝ่ายได้ให้อภิสิทธิ์นี้กับเขานั่นเอง…
ไม่ใช่เพราะใดอื่น ทั้งหมดเพราะเขาคือ ต้วนหลิงเทียน!
ต้วนหลิงเทียนเองก็คงคิดไม่ถึง ว่าสวัสดิการที่เขาได้รับจากอาวุโสเพลิงทองแดงของแท่นบูชานกไฟครั้งนี้ จะทำให้เขากลายเป็นที่สนใจของศิษย์ที่รับโทษใช้แรงงานอยู่ก่อน
‘ข้าหวังว่ามันจักเป็นเพียงศิษย์ใหม่ที่บังเอิญมีโชค’
เหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์ต่างจับจ้องมองไปยังตะกร้าใบใหญ่พิเศษที่แผ่นหลังของต้วนหลิงเทียนด้วยสองตาลุกวาว บ้างก็ถึงกับน้ำลายไหลย้อยออกมา!
ตะกร้าใบใหญ่พิเศษ!
นี่มันตะกร้าใบใหญ่พิเศษเชียวนะ!!
หากพวกมันได้ตะกร้าใบใหญ่พิเศษนี่มาล่ะก็ จะลดทอนเวลาขนส่งหินเซียนไปได้ถึงครึ่ง!
เพราะตะกร้าใบใหญ่พิเศษนี้สามารถจุหินเซียนได้มากกว่าตะกร้าธรรมดาที่พวกมันใช้อยู่ถึงสองเท่า!
แต่ด้วยเพราะยังไม่ทราบความเป็นมาแน่ชัดของต้วนหลิงเทียน เหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์จึงได้แต่ด้อมๆมองๆ ไม่มีใครกล้าผลีผลามลงมือ…ต่างกลัวจะเป็นนกตัวแรกกันทั้งสิ้น!
(นกตัวแรกที่เหินนำฝูง มักถูกสอยก่อนเพื่อน!)
ด้วยเหตุนี้ต้วนหลิงเทียนจึงเดินมาถึงถ้ำแห่งหนึ่งที่มีการขุดเจาะไว้แล้วโดยสวัสดิภาพ…
และเมื่อต้วนหลิงเทียนเข้ามาในเหมือง ต้วนหลิงเทียนก็ตื่นตาตื่นใจไม่น้อย
เพราะถ้ำแห่งนี้คล้ายจะเป็นเหมืองหลักที่ผู้คนนิยมมาขุดกันในเหมืองลำดับที่ 1 แห่งนี้ เรียกว่ามีคนมาขุดหินเซียนจากที่นี่มากกว่าที่อื่นๆ
‘ทำไมคนมองข้าถึงได้เยอะแยะขนาดนี้…’
เรื่องที่มีคนติดตามมาด้านหลังเป็นขบวนแน่นอนว่าต้วนหลิงเทียนย่อมรู้แต่แรก
สุดท้ายอารามสงสัยเขาก็อดไม่ได้ที่จะหันมาดู จึงได้พบว่าทุกคนต่างจับจ้องมองมาที่ตะกร้าของเขาด้วยสายตาละโมบ จึงทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะงุนงง ‘ไหงพวกมันจ้องตะกร้าของข้าตาเป็นมันนักล่ะ? อย่าบอกนะว่าพวกมันคิดจะแย่งตะกร้าข้า?’
ต้วนหลิงเทียนถึงกับงุนงงไม่เข้าใจแล้วจริงๆ แม้ตะกร้าของเขาจะใบใหญ่หน่อยแต่ไม่ใช่ว่าก็แค่อุปกรณ์รึไง ใช่ของมีค่าซะที่ไหน! อยากได้ก็ไม่ใช่ว่าไปขอเบิกเอารึไง?
อันที่จริงต้วนหลิงเทียนลืมเรื่องสำคัญไปประการหนึ่ง
บางทีตะกร้านี้อาจไม่มีค่ามีราคาอะไรสำหรับที่อื่น
แต่ในเขตลงทัณฑ์แห่งนี้ ด้วยความที่มีตะกร้าใบใหญ่ย่อมสามารถลดทอนเวลาทั้งรอบที่ต้องเดินไปส่งหินเซียนที่ขุดได้ไปกว่าครึ่ง!
นั่นหมายความว่าในแต่ละวันพวกมันจะลดทอนเวลาที่ต้องเดินทางไปถึงครึ่งหนึ่ง พอรวมกันหลายวันหลายปีเข้า มันก็มีค่ามหาศาลแล้ว!
ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีใครในเขตลงทัณฑ์ที่ไม่อยากได้ตะกร้าใบใหญ่พิเศษ…และที่สำคัญเขาไม่รู้ว่ามันไปเบิกเอาจากผู้อาวุโสที่ดูแลเรื่องการแจกจ่ายอุปกรณ์ไม่ได้!
ต้วนหลิงเทียนกวาดตามองผ่านๆไม่กี่คน ก็พบว่าทุกคนที่เขาเห็นนั้นต่างสะพานตะกร้าใบเล็กกันทั้งสิ้น
‘ไม่หรอกมั้งกับอีแค่ตะกร้าแค่นี้ คงไม่ทำให้พวกมันถึงขั้นบ้าพอจะมาแย่งชิงกับข้าหรอก…’
ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวไปมา ด้วยความที่เขาพึ่งมาจึงไม่รู้ความสำคัญ จึงเลิกสนใจและหันไปเดินตามผู้คนที่นำหน้าเข้าไปในเหมือง
พื้นที่ขุดทำเหมืองนั้นอยู่ลึกลงไปใต้ดิน
ตอนนี้สถานที่ต้วนหลิงเทียนเดินผ่านก็พบว่ามีร่องรอยการขุดเจาะเป็นโพรงถ้ำเล็กๆน้อยประปราย
ยิ่งเข้าไปลึกช่องทางใต้ดินที่เขาเดินก็ยิ่งกว้างขวาง พอหันไปมองข้างๆก็พบโพรงถ้ำที่เกิดจากการขุดเจาะมากขึ้นเรื่อยๆจนหนาตา ‘ร่องรอยขุดโพรงพวกนี้…สมควรเป็นรอยขุดที่เกิดจากใครมาขุดเอาหินเซียนไปก่อนหน้าสินะ’
‘แต่ตอนนี้กลับว่างเปล่า…หรือสายแร่หินเซียนแถวนั้นหมดแล้ว’
ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะคาดเดาไปในทิศทางนี้
หลังเดินไปต่ออีกสักพัก ต้วนหลิงเทียนก็เริ่มได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นจากด้านหน้า
ปง! ปง! ปง!
…
ตูม! ตูม! ตูม!
…
เคร๊ง! แกร๊ก! โครมม!!
…
เสียงต่างๆหลากสำเนียงดังคละเคล้าปะปนกันไป กลายเป็นท่วงทำนองที่ฟังดูแล้วพิกลหูนัก
และเมื่อลงมาตามทางอีกสักพัก ในที่สุดต้วนหลิงเทียนก็พบต้นตอของเสียงดังกล่าว…ที่แท้เป็นเสียงของการขุดหินเซียน!
ทว่ากระบวนการขุดหินเซียนของศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์เบื้องหน้า นับว่าเป็นอะไรที่เปิดหูเปิดตาแล้วจริงๆ! ลบภาพคนงานเหมืองสวมหมวกติดไฟฉายถือพลั่วไปจากสมองทิ้งได้เลย!!
ชกกับหมัดลุ่นๆ!
ใช้กระบี่ฟันฟาด!
หอกจ้วงก็มา!
มีแม้แต่กระทั่งมีดเล่มเล็กๆ!
…
นับว่าคำ ‘ไม่เคยพบเห็นไม่ใช่ว่าจะไม่มี’ สามารถกล่าวอธิบายเรื่องราวตรงหน้าได้ดีจริงๆ
‘ดูเหมือนบริเวณนี้จะมีสายแร่หินเซียนอยู่ไม่น้อยเลย…’
ขณะเดียวกันตอนนี้ต้วนหลิงเทียนก็สัมผัสได้ถึงไอพลังวิญญาณฟ้าดินที่อบอวลไปทั่วบริเวณ
ไอพลังวิญญาณฟ้าดินดังกล่าวสมควรแผ่ออกมาจากสายแร่หินเซียนระดับ 1 ไม่ผิดแน่!