บทที่ 662 ระหว่างการพิจารณาคดีขององค์หญิงอันเยว่

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

บทที่ 662 ระหว่างการพิจารณาคดีขององค์หญิงอันเยว่

องค์หญิงอันเยว่ถูกเจ้าหน้าที่พาเข้าไปในห้องหนึ่ง

“เปิ่นกงจู่อยากพบหัวหน้าของพวกเจ้า” องค์หญิงอันเยว่พูดอย่างเย่อหยิ่ง

“องค์หญิง พระองค์จะได้พบกับใต้เท้าในตอนพิจารณาคดีพะย่ะค่ะ” เจ้าหน้าที่กล่าว

สีหน้าขององค์หญิงอันเยว่บิดเบี้ยว เป็นเพียงขุนนางต่ำต้อยเหตุใดจึงกล้าพูดกับนางเช่นนี้!

“เปิ่นกงจู่ถูกใส่ร้าย ในเมื่อเปิ่นกงจู่ไม่ได้ทำจริงๆ เหตุใดเจ้าจึงกล้าปฏิบัติกับข้าเช่นนี้” องค์หญิงอันเยว่หรี่ตาลง เพื่อแสดงความกดดันในสถานะเชื้อพระวงศ์ แต่เจ้าหน้าที่มีอายุและประสบการณ์มากพอสมควรเขาจึงมีท่าทีสงบ

“องค์หญิง เป็นคำสั่งที่กระหม่อมต้องปฏิบัติตามพะย่ะค่ะ ตอนนี้ได้เวลาแล้วกระหม่อมขอตัวไปถามใต้เท้าก่อนว่าจะเปิดศาลเลยหรือไม่?” พูดจบเขาก็หันหลังจากไป

องค์หญิงอันเยว่นั่งอยู่ในห้อง ภายในใจรู้สึกร้อนรน แต่ยังคงไว้ซึ่งกิริยาสง่างาม นางนั่งพักสักครู่ ไม่นานนักจึงหันไปขอให้เจ้าหน้าที่หนุ่มรินน้ำชาให้ ทว่าเขากลับลังเล

“หากเจ้ายังปฏิบัติต่อเปิ่นกงจู่ราวกับนักโทษเช่นนี้ ข้าจะจดจำหน้าของเจ้าเอาไว้” องค์หญิงอันเยว่ขู่ เจ้าหน้าที่หนุ่มมีความหวาดกลัวทันที

“กระหม่อมจะรินให้พะย่ะค่ะ” แต่ก่อนที่เขาจะขยับ เจ้าหน้าที่คนก่อนหน้าได้เดินกลับมาพอดี

“ไม่จำเป็นต้องริน” เขามองไปที่องค์หญิงอันเยว่

“องค์หญิง ใต้เท้าพร้อมแล้ว พระองค์สามารถไปพบเขาได้แล้วพะย่ะค่ะ” องค์หญิงอันเยว่ถูกนำตัวไปขึ้นศาลทันที มีผู้คนมากมายมารอดูเหตุการณ์ที่ลานพิจารณาคดี เมื่อเจ้าหน้าที่กำลังจะไต่สวนคดีขององค์หญิงทำให้ผู้คนทั่วไปอยากรู้อยากเห็นเป็นอันมาก องค์หญิงอันเยว่สีหน้าไม่สู้ดี เมื่อต้องตกเป็นเป้าสายตาของคนมากมายเช่นนี้

คนชั้นต่ำ! กล้าดีอย่างไรมาหัวเราะเยาะข้า! แต่เมื่อนางกวาดสายตาไปเห็นคนผู้หนึ่ง ท่าทางของอันเยว่อ่อนโยนลง

“ท่านพี่..” นางเดินเข้าไปหาเขา

“องค์หญิง อย่าได้เป็นกังวลไป ไม่ว่าผลการตัดสินจะเป็นออกมาเช่นไร ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้า” หลูอันคว้ามือขององค์หญิงอันเยว่มาจับไว้ เขาลูบหลังนางเบาๆ เพื่อปลอบโยน

ในตอนที่เขาออกมา ท่านพ่อของเขาตั้งใจจะห้ามเขาไว้ และนี่เป็นครั้งแรกที่หลูอันไม่เชื่อฟังบิดาของตน

“ท่านพ่อ ตอนนี้องค์หญิงอันเยว่ต้องถูกไต่สวน หากข้ารังเกียจนางเหมือนงูพิษหรือแมงป่องแล้ว ท่านคิดว่าจะทำให้ชื่อเสียงของสกุลหลูดูดีขึ้นหรือ? พวกเขาจะคิดว่าสกุลหลูโหดเหี้ยมและไม่ยุติธรรม อีกอย่างข้าเองก็อยู่กับนางมาสิบกว่าปีแล้ว”

นายท่านหลูเกอถอนหายใจ “เป็นโชคร้ายของสกุลหลู” ว่าแล้วเขาก็ปล่อยหลูอันไป

เมื่อได้ยินคำพูดของหลูอัน องค์หญิงก็สบายใจหายวิตกกังวล กลับคืนสู่อากัปกิริยาสูงส่งและเย่อหยิ่งดั่งเดิม ไม่ว่าอย่างไรสามีจะอยู่เคียงข้างนาง..อันเยว่พยักหน้า

“ไม่ต้องกังวลท่านพี่ ข้าไม่เป็นไร” องค์หญิงอันเยว่ไปที่ศาลพิจารณา ทั้งผู้ร้องเรียนและพยานเองก็อยู่ในศาลแล้ว โดยที่ผู้ร้องเรียนคือถังหลี่และพยานเป็นหยูเหนียง สาวใช้และองครักษ์ขององค์หญิงอันเยว่คุกเข่าที่พื้น นางหันไปมองถังหลี่อย่างดุเดือด แต่หญิงสาวจ้องกลับอย่างไม่สะทกสะท้าน

แม้ว่าทั้งสองจะไม่เคยพบกันมาก่อน แต่องค์หญิงอันเยว่เกลียดถังหลี่เข้ากระดูก ส่วนความเกลียดชังที่ถังหลี่มีต่ออันเยว่เองก็ไม่น้อยไปกว่ากัน

องค์หญิงชั่วร้ายผู้นี้ต้องการทำร้ายถังเป่าและมู่เป่า นี่คือสิ่งที่นางสมควรได้รับแล้ว

ทันทีที่ค้อนถูกเคาะลงกับโต๊ะ การพิจารณาคดีจึงได้เริ่มต้นขึ้น หยูเหนียงกล่าวว่าบุตรชายของนางโดนลักพาตัวไป มีคนข่มขู่ให้นางวางยาพิษนายน้อยทั้งสองเพื่อแลกกับชีวิตลูกชาย ฮูหยินสกุลอู่ได้แสดงหลักฐานยาพิษร้ายแรงเป็นพยานวัตถุ

สกุลอู่ได้ช่วยเหลือบุตรชายของหยูเหนียงจากสาวใช้และองครักษ์ขององค์หญิงอันเยว่ ความจริงในข้อนี้จึงไม่มีอะไรมาหักล้างได้บราวนี่ออนไลน์

“นักโทษชุนสุ่ย เจ้าได้ทำเรื่องนี้ภายใต้คำสั่งของใครหรือไม่?” ผู้พิพากษาตบค้อนแล้วถามขึ้น

ชุนสุ่ยเป็นสาวรับใช้นางเหลือบมองไปทางองค์หญิงอันเยว่ เมื่อนึกถึงความโหดร้ายขององค์หญิงอันเยว่ ใบหน้าของนางซีดลงทันที นางกัดฟันพร้อมตัดสินใจยอมรับความผิดเอาไว้เสียเอง

“ใต้เท้า ไม่มีใครสั่งข้าเจ้าค่ะ”

“แล้วเหตุใดเจ้าจึงตั้งใจสังหารฮูหยินอู่และนายน้อยเล่า?” ชุนสุ่ยไม่สามารถบอกเหตุผลได้ นางจึงโพล่งออกไปว่า

“ข้าไม่พอใจนางเจ้าค่ะ!”

“เหตุใดจึงไม่พอใจข้า?” ถังหลี่มองชุนสุ่ยแล้วเอ่ยถาม

ดวงตาของชุนสุ่ยสบเข้ากับนัยน์ตาของถังหลี่ นางรู้สึกว่าตนเองได้ถูกดูดเข้าไปในวังวนของดวงตาที่ล้ำลึกของหญิงสาวผู้นั้น ปากของนางเปิดออกพูดทุกอย่างที่อยู่ในใจของตนออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่

“ข้าได้รับคำสั่งจากองค์หญิงอันเยว่เจ้าค่ะ เพราะหลูเสวี่ยนบุตรชายขององค์หญิงเสียชีวิตลงในคุก องค์หญิงคิดว่าฮูหยินอู่เป็นคนทำ นางอยากให้ฮูหยินอู่ได้ลิ้มรสความสูญเสียเช่นเดียวกับที่นางได้สูญเสียบุตรชายไป องค์หญิงจึงสั่งให้ข้าลักพาตัวบุตรชายของพี่เลี้ยงสกุลอู่แล้วข่มขู่ให้นางวางยาเด็กทั้งสองคน”

“องค์หญิงเป็นคนมอบยาพิษนี้ให้ข้าเอง ข้าไม่ได้ซื้อเองเจ้าค่ะ!”

ใบหน้าขององค์หญิงอันเยว่แปรเปลี่ยนไป นางไม่คิดว่าชุนสุ่ยจะสารภาพออกมาอย่างง่ายดายเช่นนี้

“เจ้าพูดเรื่องอะไรออกมา เหตุใดเปิ่นกงจู่จึงให้เจ้าทำแบบนั้น? เจ้าอย่าได้ใส่ร้ายข้า!” องค์หญิงอันเยว่พูดอย่างเย็นชา

“องค์หญิงอันเยว่ สาวใช้คนนี้ใส่ร้ายพระองค์จริงหรือ? นางเป็นเพียงสาวใช้ไม่มีข้อข้องใจอะไรกับข้า เหตุใดนางถึงจะทำร้ายข้า? สาวใช้เช่นนางจะมีอำนาจสั่งการองครักษ์ของพระองค์ได้อย่างไรกัน”

ถังหลี่ถามอย่างเหี้ยมเกรียม

องค์หญิงอันเยว่ประสานตากับถังหลี่อย่างแข็งกร้าว ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเกลียดชังพุ่งออกมาอย่างไม่อาจซ่อนเร้นเอาไว้ได้อีก

“ใช่! เป็นข้าที่ออกคำสั่งเอง หากเจ้าและบุตรสาวไม่จมูกยาวเข้ามายุ่งเกี่ยว มีหรือว่าเสวี่ยนเอ๋อจะต้องติดคุก เขาตายในคุกอย่างไร้ค่า มันเป็นความผิดของเจ้า! เจ้ารู้หรือไม่การที่บุตรต้องจากไปอย่างกะทันหันเช่นนั้น มันทำให้เจ็บปวดใจมากเพียงใด” ว่าแล้วนางก็ปรี่เข้าหาถังหลี่ทันที หญิงสาวเอื้อมมือมาจับข้อมือขององค์หญิงอันเยว่เอาไว้ กระซิบที่ข้างหูของนาง

“ข้าจะพูดอีกครั้ง การตายของหลู่เสวี่ยนสมควรแล้ว ข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเขา ท่านยังจำเรื่องของแม่นางหยูอันเหนียงได้หรือไม่?”

หยูอันเหนียงเป็นคนรักของหลูอันที่ถูกองค์หญิงอันเยว่สังหาร เมื่อนางได้ยินชื่อหยูอันเหนียงอีกครั้ง องค์หญิงอันเยว่ก็สูญเสียสติของตนไป ที่เบื้องหน้าของนางก็มีร่างในชุดสีฟ้าอ่อนปรากฏกายขึ้น ใบหน้าสวยงามเย้ายวนราวกับปีศาจจิ้งจอกล่อลวงผู้ชาย

“หยูอันเหนียงอย่าเข้าใกล้ข้า! ใครให้เจ้ายึดครองท่านพี่เอาไว้ ทั้งๆ ที่ข้าให้เงินเจ้าแล้วแต่เจ้ากลับไม่ไป เจ้ารนหาที่ตายเอง!”

“นังแพศยาที่ท้องก่อนแต่งเช่นเจ้าใครจะรู้ว่าเป็นบุตรขอหลูอันหรือชายชู้ที่ไหน? ข้าไม่ยอมยกหลูอันให้กับเจ้าหรอก!”

“ข้าเป็นถึงองค์หญิง เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร? ข้าย่อมบดขยี้เจ้าได้ราวกับมดปลวก ตอนเจ้ายังมีชีวิตอยู่ข้ายังไม่กลัว คิดว่าเจ้าตายไปแล้วข้าจะกลัวเจ้าหรือ? เจ้ากล้ามาหลอกหลอนข้า ข้าจะโยนเจ้าทิ้งลงไปในบ่ออีกครั้ง!” นางพุ่งตัวเข้าหาหยูอันเหนียง ทันใดนั้นเองร่างหนึ่งก็วิ่งปราดเข้าคว้าตัวนางเอาไว้

“เจ้าพูดถึงเรื่องอะไร? เจ้าเป็นคนฆ่าอันเหนียงหรือ?” หลูอันถามเสียงดัง เขาบีบมือขององค์หญิงอันเยว่แน่น หลูอันตกหลุมรักหยูอันเหนียงตั้งแต่แรกเห็น เขายอมที่จะขัดพระบรมราชโองการสมรสอีกด้วย

เมื่อหยูอันเหนียงทิ้งจดหมายเอาไว้ว่านางรักชายอื่นทำให้หัวใจของเขาแตกสลาย สิบปีกว่าแล้วที่ชื่อ ‘หยูอันเหนียง’ เป็นคำต้องห้ามของเขา หลูอันไม่เคยคิดเลยว่าความจริงแล้วนางไม่ได้หนีไปกับชายอื่น แต่นางกลับถูกฆ่าโดยภรรยาที่หลูอันรักและเคารพมานานกว่าสิบแล้ว!

ในตอนนั้นองค์หญิงอันเยว่จึงได้สติ นางหันไปมองหลูอันด้วยใบหน้าซีดเผือด

สวรรค์! นี่นางหลุดปากเรื่องที่ตัวเองฆ่าหยูอันเหนียงออกมาจริงหรือ? เหตุใดข้าถึงควบคุมตนเองไม่ได้เช่นนี้ เกิดอะไรขึ้นกับข้ากันแน่?

“เจ้าพูดมา..เจ้าฆ่าหยูอันเหนียงหรือ?” หลูอันถาม

“ท่านพี่ไม่..ไม่นะ ฟังข้าอธิบายก่อน” องค์หญิงอันเยว่พูดอย่างตื่นตระหนก ดวงตาที่เย็นชาของหลูอันทำให้นางรู้สึกหวาดกลัว อันเยว่สูญเสียบุตรชายที่นางรักมากที่สุดไปแล้ว นี่นางกำลังจะสูญเสียสามีด้วยหรือ?!