ตอนที่ 485 หัวใจมังกรในวังผลึกแก้ว! (1)
แผนการชั่วร้ายอะไรเช่นนี้
หลี่ฉางโซ่วทำงานหลายอย่างพร้อมกัน ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ตัวหนึ่งพาหลงจี๋ ไปที่วังมังกร ในขณะที่ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์อีกตัวอยู่ในห้องโถงด้านหลังของวิหารเทพทะเล พวกเขาส่งยุงที่เพิ่งส่งข้อความออกไป
จากนั้นเขาก็เริ่มคิดหาทางออก เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ มันก็เป็นความผิดของเขาเช่นกัน บางทีเขาอาจปกปิดเอาไว้มากเกินไปจนทำให้สำนักบำเพ็ญประจิม ไม่รู้ถึงความก้าวหน้าที่เหมาะสม จึงหันเหความสนใจไปที่โครงสร้างของสำนักบำเพ็ญประจิม
พวกเขาเป็นกองกำลังระดับสองและเป็นสำนักที่ทรงพลังซึ่งมีจอมปราชญ์สองคนปกครองดูแล หลังจากครุ่นคิดเป็นเวลานาน พวกเขาก็ต้องการทำลายหมู่บ้านสงเล็กๆ ของเผ่ามนุษย์เวทและโจมตีบรรดาทูตเทวะของสำนักเทพทะเลในหมู่บ้านสง!
พวกเขาทำเพียงเพื่อระบายความโกรธและแก้แค้นล้วนๆ เท่านั้น
แม้วิธีการนั้นจะไร้สาระเล็กน้อย แต่มันก็ส่งผลให้หลี่ฉางโซ่วรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง…
หลังจากคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว เขาก็รู้สึกว่า เขายังไม่ “มั่นคง” เพียงพอ
ก่อนหน้านี้ เมื่อเขายังเยาว์และเป็นคนเหลาะแหละเหลวใหล เขาก็มักจะรู้สึกว่าความ “มั่นคง” นั้นเป็นแผนการที่ครอบคลุมและไร้ที่ติแล้ว
บัดนี้ ความคิดของเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเล็กน้อยแล้ว เขาเข้าใจถึงปัญหาและตระหนักได้ว่า เพื่อให้มีความมั่นคงอย่างแท้จริง เมื่อต้องการจัดการฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เราก็ควรจงใจเปิดเผยช่องโหว่ที่บกพร่องลวงหลอกเพื่อชี้นำการกระทำของศัตรูโดยปล่อยให้พวกเขาทำงานอย่างหนักเพื่อจัดการกับช่องโหว่นี้ และค่อยอาศัยประโยชน์จากมันเพื่อให้ตัวเขาเองได้มีเวลาจัดการและตอบโต้ศัตรูได้มากขึ้น
ทว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาวิเคราะห์ทบทวนตัวเอง เขาต้องรีบคิดหาหามาตรการรับมือก่อน
หากสำนักบำเพ็ญประจิม ต้องการทำลายสำนักเทพทะเล พวกเขาก็เพียงแค่ส่งสัตว์ร้ายสองสามตัวออกไปสังหารทูตสวรรค์และเหล่าสานุศิษย์ของสำนักเทพทะเลที่อาศัยอยู่ในวิหาร พวกเขาก็จะสามารถบรรลุผลที่น่าอัศจรรย์ได้ในช่วงเวลาสั้นๆ
ทว่าโชคดีที่หลี่ฉางโซ่ว… ได้เตรียมการสำหรับเรื่องนี้เอาไว้นานแล้ว
ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ในห้องโถงด้านหลังหนีลงไปใต้ดินทันที ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์อีกเจ็ดถึงแปดตัวก็เริ่มแยกตัวออกแล้ว เขาจะย้ายหมู่บ้านสงออกไปในเวลาที่สั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และพาเผ่ามนุษย์เวทส่วนใหญ่ในหมู่บ้านสงไปยังดินแดนเทวะบูรพา จากนั้นเขาก็จะรวบรวมทูตเทวะ “ชั้นยอด” ใน “ที่หลบภัยลับ” ซึ่งอยู่ใต้วิหารเทพทะเล
แม้ในครั้งนี้ สำนักบำเพ็ญประจิมจะจัดการกับพวกเผ่ามนุษย์เวท แต่หลี่ฉางโซ่วก็ได้เตือนผู้พิทักษ์มังกรแท้ซึ่งประจำการอยู่ตามที่ต่างๆ ทั่วทุกที่ให้ถอยหนีไปยังทะเลทักษิณชั่วคราว…
นอกจากนี้ เพื่อป้องกันการลอบโจมตีของศัตรูที่ซ่อนตัวอยู่ลับๆ หลี่ฉางโซ่วยังขอให้เหล่าสานุศิษย์ผู้ศรัทธาที่อาศัยอยู่ในวิหารเทพทะเลในสถานที่ต่างๆ ติดประกาศ
“ทูตเทวะที่มุ่งความสนใจไปที่การพัฒนาพลังศักดิ์สิทธิ์ ทุกคนโปรดจุดธูปถวายเครื่องสักการะที่บ้าน”
หลังจากทำทุกอย่างแล้ว หลี่ฉางโซ่วก็ยังรู้สึกว่ามันยังไม่เพียงพอ
ในเวลานี้ เรื่องของเผ่ามังกรได้มาถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญแล้วเช่นกัน หากหลังจากนี้ เขาไม่อาจตั้งสมาธิได้ และกระทำการผิดพลาด เขาก็อาจถูกศัตรูฉวยโอกาสเอาเปรียบได้
แม้ว่าพวกเผ่ามนุษย์เวท จะ “วางแผน” ร้ายต่อต้านเขาในตอนแรก แต่พวกเขาก็หลอกกินดื่มอาหารและเครื่องดื่มของเขามาอย่างเต็มที่ในช่วงตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา แค่กๆ พวกเขาทำงานอย่างหนักเพื่อพัฒนาสำนักเทพทะเล!
เหล่าเผ่ามนุษย์เวทมีส่วนสำคัญที่ทำให้หลี่ฉางโซ่วประสบความสำเร็จในการได้รับบุญมากมายจากการถวายเครื่องสักการะ ในเมื่อสามารถปกป้องพวกเขาได้ เขาก็จะไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาต้องหลั่งเลือดไปโดยเปล่าประโยชน์…
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลี่ฉางโซ่วก็ใช้ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์เซียนจิน และนำทูตเทวะสองสามคนที่มีทักษะการแสดงที่ยอดเยี่ยม อย่างเช่น ฉยงเหล่าซาน ซึ่งออกตบสาวกลางดึกเพื่อพุ่งไปลงแดนยมโลกด้วยกัน
หากพวกเผ่ามนุษย์เวทตกอยู่ในอันตราย มันก็ย่อมมีเหตุผลสมควรที่เหล่าปรมาจารย์เผ่าจอมเวทจะออกโรงปกป้องพวกเขา
หลี่ฉางโซ่วจะไม่ปล่อยให้เหล่าปรมาจารย์เผ่าจอมเวทต้องทำงานอย่างเปล่าประโยชน์ เขาจะไม่ตระหนี่กับของที่เขาควรให้ เขาจะสั่งให้ผู้คนเตรียมสิ่งของที่พวกเผ่าเวทแดนยมโลกยังขาดแคลนอยู่
เขาต้องให้สัตว์วิญญาณหลายหมื่นตัวแก่พวกเขา!
ในขณะที่เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ หลี่ฉางโซ่วก็พาหลงจี๋ลงไปในน้ำทะเลและมาถึงทะเลซึ่งเป็นที่ตั้งของวังมังกรทะเลบูรพา
หลี่ฉางโซ่วกล่าวว่า “เดี๋ยวก่อน ข้ามีบางอย่างที่ต้องจัดการให้เรียบร้อยก่อน”
“เจ้าค่ะ”
หลงจี๋รับคำอย่างเชื่อฟังขณะยืนอยู่ข้างหลังหลี่ฉางโซ่วและชื่นชมทิวทัศน์งดงามในทะเล
ไม่ว่าทั้งสี่คาบสมุทรของโลกบรรพกาลจะทั้งลึกและกว้างใหญ่ไพศาลเพียงใด ก็ยังมีแสงที่พร่ามัวอยู่เสมอ บรรดาเซียนและผู้ฝึกบำเพ็ญส่วนใหญ่ต่างก็มีความเชี่ยวชาญในวิธีการ “ลอบสังเกตการณ์” พวกเขาจะสังเกตสิ่งต่างๆ ในทะเลราวกับว่าพวกเขากำลังชื่นชมบุปผาในยามกลางวัน
หลังจากนั้นไม่นาน หลี่ฉางโซ่วก็ปรับความคิดของเขาและจัดการเรื่องทั้งหมดในหมู่บ้านสงเรียบร้อยแล้ว เขาก็เรียกหลงจี๋และกล่าวว่า “เอาล่ะ เราไปที่วังมังกรกันได้แล้ว”
“เทพแห่งท้องทะเล ท่านกำลังมีปัญหาอะไรอยู่หรือไม่?”
หลงจี๋กล่าวอย่างจริงจังว่า “เมื่อคืนนี้ ข้าได้รับคำสั่งจากพระมารดามาว่า ต่อให้ศาลสวรรค์จะมีแม่ทัพใหญ่เพียงไม่กี่คน แต่พวกเขาก็จะไม่ยอมปล่อยให้เทพแห่งท้องทะเลต้องทำงานคนเดียวได้ หากมีปัญหาใดๆ ขอให้ท่านโปรดบอกศาลสวรรค์ อืม… พระมารดากล่าวเช่นนั้น”
“ฮ่าฮ่าฮ่า” หลี่ฉางโซ่วยิ้มและกล่าวว่า “ขอบพระทัยพระแม่หวังหมู่และฝ่าบาทที่ทรงเป็นห่วง หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ข้าย่อมจะไม่ยอมยึดป้อมปราการและจัดการดูแลทั้งหมดอยู่คนเดียวแน่ ข้าย่อมจะให้ความสำคัญกับศาลสวรรค์เป็นผู้รับผิดชอบดูแลสูงสุดอันดับแรก!”
หลงจี๋กะพริบตาและทันใดนั้นนางก็ตระหนักได้… ว่า เทพแห่งท้องทะเลนั้นมีทักษะวาจาเก่งกาจในการใช้ถ้อยคำโวหารจริงๆ
คำพูดเหล่านั้นล้วนถูกต้อง ตรงประเด็น เหมาะสมและเต็มไปด้วยนัยแฝงลึกซึ้ง มันไม่ได้พูดออกมาได้ง่ายๆ เลย ช่างน่าทึ่งยิ่ง!
ทันใดนั้น หลงจี๋ก็หยิบแผ่นหยกออกมาและเขียนสิ่งที่นางค้นพบทันที
นางมองขึ้นไปยังแผ่นหลังของเทพแห่งท้องทะเลและรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า เขาล้ำลึกสุดหยั่งรู้ได้…
บัดนั้น ในค่ายกลต่างๆ ที่อยู่เบื้องหน้าของพวกเขา มีมังกรคำราม น้ำทะเลกำลังเดือดพล่าน และปลาต่างก็แหวกว่ายหนีไปทั่วทุกทิศทาง
คนของเผ่าพันธุ์มังกรซึ่งรู้มานานแล้วว่า หลี่ฉางโซ่วมาถึงทะเลบูรพาแล้ว จึงได้ส่งทหารจำนวนมากมาต้อนรับเขาเมื่อเขามาอยู่ห่างจากวังมังกรทะเลบูรพาได้พันลี้แล้ว
ในขณะนั้น หลงจี๋ก็ได้ยินเสียงหอบหายใจเบาๆ จากภายในข่ายอาคมพลังเซียน
หลงจี๋พลันยืนเขย่งเท้าแล้วโน้มตัวไปข้างหน้า จากนั้นนางจึงเห็นว่า เทพแห่งท้องทะเลมีสีหน้าท่าทางดูเคร่งขรึมเล็กน้อย นอกจากนี้ ดวงตาของเทพแห่งท้องทะเลยังฉายแววแกร่งกร้าวที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นอย่างไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน
“เทพแห่งท้องทะเล เรื่องของเผ่ามังกรจัดการยากหรือไม่?”
“ก็ดี”
ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วกำหมัดแน่นเล็กน้อย เขาตั้งใจแน่วแน่ที่จะสู้ศึกครั้งนี้ให้ดี!
นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เขาจะเป็นที่รู้จักในฐานะเสนาบดีผู้ทรงพลังแข็งแกร่งในหอสมบัติหลิงเซียว!
เขาไม่คาดคิดว่า เขา หลี่ฉางโซ่ว จะเป็นวีรบุรุษได้!
หลงจี๋ที่อยู่ข้างๆ พลันสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในความคิดของเทพแห่งท้องทะเล และนางก็อดจะรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้
พระบิดาบอกว่า เทพแห่งท้องทะเลยังมีจุดอ่อน เพราะเขาให้ความสำคัญกับความมั่นคงในทุก เรื่องมากเกินไป เขาจะลงมือจัดการหลังจากที่คิดทบทวนหลายครั้งก่อนแล้วเท่านั้น
แต่ที่พบเห็นวันนี้ กลับดูไม่เหมือนที่พระบิดา…พูดถึง…
และก่อนที่หลงจี๋จะทันได้คิดจบ ปรมาจารย์เผ่ามังกรผู้หนึ่งก็มาถึงก่อนแล้ว เขาหัวเราะให้เทพแห่งท้องทะเลและโค้งคำนับมาแต่ไกล
………………………………………………………………..