ตอนที่ 671 แต่งงาน

แม่ปากร้ายยุค​ 80

ตอนที่​ 671 แต่งงาน​

ใน​บรรดา​เพื่อน​ที่​ดี​ที่สุด​อย่างเช่น​พวก​เถาจืออวิ๋น​แล้ว​ ยกเว้น​เค​อจื่อฉิง​ที่​ไป​ฮ่องกง​กับ​เฉินเฟิง​และ​ไม่สามารถ​มาได้​เนื่องจาก​คลอด​บุตร​ คน​ที่​เหลือ​ล้วน​มาถึงใน​วันก่อน​งานแต่งงาน​

มีหลาย​ครอบครัว​ของ​พี่น้อง​ฟางเว่ยกั๋ว​อาศัย​อยู่​ใน​บ้าน​ หลิน​ม่าย​จึงจัดการ​หา​ที่พัก​ใน​โรงแรม​ให้​กับ​เพื่อน​ทั้งหมด​

เพื่อน​หลาย​คน​ไม่ได้​เจอกัน​พัก​หนึ่ง​แล้ว​ จึงเป็นเรื่อง​ดี​ที่​ได้​พบ​เจอกัน​อีกครั้ง​

หลังจาก​หลิน​ม่าย​เลี้ยง​เป็ด​ปักกิ่ง​เพื่อน​เหล่านี้​ เธอ​ก็​ถามเถาจืออวิ๋น​และ​หลิว​หย่ง​เจียง​ว่า​จะจัด​งานแต่ง​เมื่อใด​

เถาจืออวิ๋น​เหลือบมอง​ฉีฉีที่​กำลัง​นั่ง​กิน​เป็ด​ปักกิ่ง​กับ​โต้​ว​โต้​ว​

เมื่อ​เห็น​ว่า​เด็กน้อย​ตั้งหน้าตั้งตา​กิน​เป็ด​ย่าง​โดย​ไม่หันมา​มอง​ด้วยซ้ำ​ หล่อน​จึงกระซิบ​ตอบ​ไป​ว่า​ “อย่าง​น้อย​ก็​วัน​ปีใหม่​ปีหน้า​ ฉัน​ยัง​ไม่ได้​เตรียมใจ​เลย​”

หลาย​คนพูด​ติดตลก​ “ชีวิต​นี้​เธอ​ไม่เคย​มีความรัก​หรือ​ยังไง​? ยัง​ไม่ได้​เตรียมใจ​อะไร​อีก​?”

“ต้อง​รอ​หมอ​หลิว​ก่อน​” หลิน​ม่าย​ม้วน​เป็ด​ปักกิ่ง​ส่งให้​โจว​ฉาย​อวิ๋น​ “แล้ว​เธอ​ล่ะ​ จะอยู่​คนเดียว​ไป​ตลอดชีวิต​จริงๆ​ เหรอ​?”

โจว​ฉาย​อวิ๋น​หน้าแดง​และ​ตอบกลับ​อย่าง​ลังเล​ “เรื่อง​นี้​… อาจ​ไม่ใช่เสมอไป​”

หลิน​ม่าย​ยิ้ม​มีเลศนัย​และ​พูดว่า​ “เรื่อง​เป็น​ยังไง​กัน​เนี่ย​”

เถาจืออวิ๋น​และ​เสี่ยว​หม่า​นรี​บ​บอก​หลิน​ม่าย​ว่า​ โจว​ฉาย​อวิ๋น​ก็​มีแฟน​แล้ว​เช่นกัน​

หลิน​ม่าย​ถามด้วย​ความสนใจ​ว่า​แฟน​หล่อน​มาจาก​ไหน​? สภาพ​ทาง​ครอบครัว​เป็น​อย่างไร​? แล้ว​เขา​มีนิสัย​เป็น​อย่างไร​?

โจว​ฉาย​อวิ๋น​บอก​เธอ​ด้วย​ความ​เขินอาย​ว่า​ แฟน​ของหล่อน​เป็น​คนงาน​ธรรมดา​ใน​โรงงาน​อาหาร​รสชาติ​พิเศษ​ติ่ง​เซียง​ และ​ชื่อ​ของ​เขา​คือ​หง​ตั่ง​เชิง

ครั้งหนึ่ง​ขณะที่​หล่อน​กำลัง​เลือก​ซื้อ​ผัก​ หญิง​ชรา​คน​หนึ่ง​เดิน​เข้ามา​ชน​ แต่​อ้างว่า​หล่อน​เป็น​คน​ชน​นาง​

เมื่อ​ทั้งสอง​เถียง​กัน​อย่าง​ไม่มีใคร​ยอม​ใคร​ หง​ตั่ง​เชิงก็​ก้าว​ออกมา​ข้างหน้า​และ​ทำ​ท่าจะ​ลาก​หญิง​ชรา​ไป​ยัง​สถานีตำรวจ​เพื่อให้​ตำรวจ​สอบสวน​ ทำให้​หญิง​ชรา​ที่​เป็น​ฝ่าย​เดิน​ชน​ตกใจกลัว​

หง​ตั่ง​เชิงเหมือนกับ​หล่อน​ เกิด​ใน​ครอบครัว​ชาวนา​ธรรมดา​ และ​หล่อน​ก็​คิด​ว่า​เขา​เป็น​ชายหนุ่ม​นิสัย​ดี​

หลิน​ม่าย​รู้สึก​มีความสุข​ไป​กับ​หล่อน​

แม้จะไม่ได้​อคติ​กับ​หญิงสาว​ที่​เป็นโสด​ แต่​ส่วนใหญ่​ชีวิต​ของ​พวก​หล่อน​จะดีขึ้น​ถ้าสามารถ​หา​คู่ครอง​ที่​ชอบ​พอกัน​ได้​

ในที่สุด​หลิน​ม่าย​ก็​หันไป​ถามเสี่ยว​หม่า​น​ว่า​หล่อน​กับ​หลี่หมิง​เฉิงจะแต่งงาน​กัน​เมื่อไหร่​

เสี่ยว​หม่า​น​กำลังกิน​เป็ด​ย่าง​และ​ตอบ​ไป​ว่า​ “ฉัน​ยัง​เด็ก​อยู่​ ไม่รีบ​หรอก​”

หลังจาก​กิน​เป็ด​ปักกิ่ง​จน​อิ่ม​แล้ว​ หลิน​ม่าย​ปฏิบัติตาม​กฎ​และ​ย้าย​ไป​ยัง​บ้าน​พ่อ​ไป๋​สำหรับ​งานแต่งงาน​

พ่อ​ไป๋​ดึง​แขน​เสื้อ​ของ​เธอ​ให้​เดินตาม​ไป​ยัง​ห้องส่วนตัว​ ก่อน​จะพูด​ด้วย​ความตื่นเต้น​และ​ดู​ลึกลับ​ “เข้า​ไปดู​สินเดิม​ที่​พ่อ​ซื้อ​ให้​ลูก​สิ!”

เมื่อ​พวกเขา​มาถึงหน้า​ประตู​ส่วนตัว​ พ่อ​ไป๋​ผลัก​ประตู​ให้​เปิด​ออก​ ก่อน​เห็น​ว่า​ห้อง​นั้น​เต็มไปด้วย​ของ​ที่​เป็น​สินเดิม​เจ้าสาว​

มีตั้งแต่​เครื่อง​นอน​ หม้อ​ กระทะ​ ข้าวของเครื่องใช้​ทุกชนิด​ ซึ่งล้วนแล้ว​เป็น​ของดี​มีราคา​

หลิน​ม่าย​กุม​ศีรษะ​ “พ่อ​ ฉัน​มีทั้งหมด​นี่​แล้ว​ค่ะ​”

“พ่อ​รู้​” พ่อ​ไป๋​ละล่ำละลัก​ “ก็​ลูก​ไม่ได้​เติบโต​เคียงข้าง​พ่อ​มา พ่อ​จึงต้องการ​ชดเชย​ให้​!”

หัวใจ​หลิน​ม่าย​ได้รับ​การ​ปลอบประโลม​อย่าง​อบอุ่น​ เธอ​จึงเข้าไป​สวมกอด​พ่อ​ไป๋​

พ่อ​ไป๋​เป็น​คุณพ่อ​หัวโบราณ​ที่​ปฏิบัติตาม​กฎ​ที่ว่า​ ลูกชาย​เลี่ยง​แม่ ลูกสาว​เลี่ยง​พ่อ​

หลิน​ม่าย​กอด​เขา​แน่น​ แต่​เขา​ไม่กล้า​แม้แต่​จะวางมือ​ลง​บน​แผ่น​หลัง​ของ​เธอ​ และ​เพียง​ลูบ​ศีรษะ​น้อย​ๆ ของ​เธอ​แผ่วเบา​

ไป๋​ลู่​วิ่ง​ไป​ยัง​โต๊ะเครื่องแป้ง​ของ​หลิน​ม่าย​ หยิบ​กล่อง​เครื่องประดับ​ที่​สวยงาม​ออกจาก​ลิ้นชัก​ “นี่​เป็น​สินเดิม​ที่​พ่อ​ซื้อ​ให้​เธอ​เหมือนกัน​”

หลิน​ม่าย​เปิด​ดู​และ​พบ​ว่า​มัน​เป็น​สร้อย​ทองคำ​

พ่อ​ไป๋​พูด​ด้วย​ความ​เขินอาย​ “เงิน​สำหรับ​สินเดิม​ใกล้​หมด​แล้ว​ พ่อ​จึงซื้อ​ได้​แค่​สร้อยทอง​เส้น​นี้​เท่านั้น​”

หลิน​ม่าย​ยิ้ม​หวาน​ “นี่​ก็​ดีมาก​แล้ว​ค่ะ​”

ไป๋​ลู่​หยิบ​กล่อง​เครื่องประดับ​อีก​กล่อง​ออกมา​ “ส่วน​นี่​คือ​ของขวัญ​แต่งงาน​ที่​ฉัน​ พี่ชาย​และ​พี่สาว​ ช่วยกัน​ซื้อ​ให้​เธอ​”

หลิน​ม่าย​เปิด​ดู​และ​พบ​ว่า​มัน​เป็น​ต่างหู​ทองคำ​คู่​หนึ่ง​

คน​สมัยนี้​ชอบ​ทองรูปพรรณ​กัน​มาก​

หลิน​ม่าย​กล่าว​ขอบคุณ​และ​รับ​ของขวัญ​จาก​พวกเขา​

ไป๋​เซี่ย​โผล่​หัว​ออกมา​และ​ถามว่า​ “เสวี่ย​เป่า​ ชอบ​ของขวัญ​ชิ้น​นี้​จาก​เรา​ไหม​?”

หลิน​ม่าย​ตอบกลับ​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ชอบ​สิ ทำไม​ฉัน​จะไม่ชอบ​มัน​ล่ะ​ มัน​เป็น​เครื่องประดับ​ทองคำ​เลย​นะ​!”

จากนั้น​ไป๋​เซี่ย​ก็​ยิ้ม​อย่าง​มีความสุข​

ขณะที่​ไป​ซื้อ​ต่างหู​ทองคำ​คู่​นี้​ พี่น้อง​ทั้ง​สามคน​ช่วยกัน​เลือก​เป็นเวลา​นาน​ เพราะ​เกรง​ว่า​เสวี่ย​เป่า​จะไม่ชอบ​

หลิน​ม่าย​มองดู​สินเดิม​ทั่ว​ทั้ง​ห้อง​ รู้สึก​ซาบซึ้งใจ​และ​รู้สึก​ผิด​เล็กน้อย​

พ่อ​ไป๋​และ​พี่น้อง​ทุกคน​ปฏิบัติ​ต่อ​เธอ​อย่าง​จริงใจ​ แต่​เธอ​กลับ​เว้น​ระยะห่าง​กับ​พวกเขา​เสมอ​

ใน​เมื่อ​พ่อ​ไป๋​ พี่สาว​คนโต​ และ​พี่น้อง​ไป๋​เซี่ย​ไป๋​ลู่​ปฏิบัติ​ต่อ​เธอ​ด้วย​ความจริงใจ​ เธอ​ก็​จะปฏิบัติ​ต่อ​พวกเขา​เหมือน​ครอบครัว​ในอนาคต​

คืน​นั้น​ไป๋​เหยียน​พี่สาว​คนโต​พา​พี่น้อง​ไป๋​เซี่ย​และ​ไป๋​ลู่​ไป​เตรียม​ของ​ทุกอย่าง​สำหรับ​หลิน​ม่าย​ที่จะ​สวมใส่​ใน​วันพรุ่งนี้​

พ่อ​ไป๋​ยืน​มอง​อยู่​ด้าน​ข้าง​ อด​ยิ้ม​ด้วย​ความตื้นตัน​ไม่ได้​

พรุ่งนี้​มีเสื้อผ้า​มากมาย​ที่​ต้อง​สวมใส่​

มีชุดเจ้าสาว​ที่​ใส่ใน​พิธีแต่งงาน​ ชุด​ที่​ใส่ใน​ช่วง​งานเลี้ยง​

ชุดเจ้าสาว​หนึ่ง​ชุด​ ชุดราตรี​เก้า​ชุด​ ซึ่งเถาจืออวิ๋น​จัดเตรียม​ทุกอย่าง​ด้วย​ความ​รอบคอบ​สำหรับ​หลิน​ม่าย​

ชุดเจ้าสาว​หนึ่ง​ชุด​ หมายถึง​การ​รักเดียว​ใจเดียว​

ชุดราตรี​เก้า​ชุด​ สื่อ​ถึงการ​ครองรัก​อย่าง​ยาวนาน​

เมื่อ​รวมทั้ง​สิบ​ชุด​เข้าด้วยกัน​ หมายถึง​ความรัก​ที่​สมบูรณ์แบบ​

ฟางจั๋ว​หรา​น​ยัง​ส่งเครื่องประดับ​ทองคำ​ที่​ซื้อ​จาก​ฮ่องกง​และ​มงกุฎ​หงส์​ไฟทองคำบริสุทธิ์​มาให้​เป็นการ​ส่วนตัว​

เพื่อ​ที่​เจ้าสาว​ของ​เขา​จะดู​งดงาม​ที่สุด​ใน​วันพรุ่งนี้​ หลิน​ม่าย​ก็​ดื่ม​ยาสมุนไพร​จีน​ที่​ไป๋​เหยียน​พี่สาว​คนโต​ต้ม​ให้​ และ​เข้านอน​ตั้ง​แต่หัววัน​

เธอ​นอน​หลับสนิท​ตลอด​ทั้งคืน​ ก่อน​จะถูก​เถาจืออวิ๋น​ปลุก​ให้​ลุกขึ้น​มาแต่งตัว​ก่อนเวลา​รุ่งสาง​

หลิน​ม่าย​ถามด้วย​อาการ​สะลึมสะลือ​ “กี่​โมงแล้ว​?”

“จะตีห้า​อยู่แล้ว​ แต่​เธอ​ยัง​หลับสนิท​ แล้ว​แบบนี้​จะไป​เป็น​เจ้าสาว​ใคร​เขา​ได้​ยังไง​”

ขณะที่​พูด​ เถาจืออวิ๋น​ก็​ดึง​หลิน​ม่าย​ออกจาก​เตียง​เหมือนกับ​ถอน​หัวไชเท้า​

หลิน​ม่าย​ขยี้​ตาลุก​ออกจาก​เตียง​และ​เดิน​เข้า​ห้องน้ำ​เพื่อ​ล้างหน้า​ล้าง​ตัว​ ก่อน​จะเดิน​กลับ​เข้ามา​ใน​ห้อง​

ไป๋​ลู่​เข้ามา​พร้อมกับ​โจ๊ก​ข้าวโพด​หนึ่ง​ชามและ​ไข่ต้ม​หนึ่ง​ฟอง​ เพื่อให้​เธอ​ได้​กิน​อิ่ม​ท้อง​

เพราะ​เมื่อ​งานแต่ง​เริ่ม​ขึ้น​ ใน​ฐานะ​เจ้าสาว​แล้ว​ เธอ​จะไม่ค่อย​มีโอกาส​ได้​กิน​อีก​

ปกติ​หลิน​ม่าย​จะไม่ชอบ​กิน​อะไร​เลี่ยน​ๆ ใน​ตอนเช้า​ แต่​อาหารเช้า​วันนี้​น้อย​เกินไป​ และ​เธอ​จะต้อง​หิว​มาก​ภายใน​สอง​ชั่วโมง​

เธอ​ถือ​ถ้วย​โจ๊ก​ข้าวโพด​แล้ว​ถามว่า​ “ขอ​เป็น​เกี๊ยว​แทน​ได้​ไหม​คะ​?”

ไป๋​ลู่​โบกมือ​ “พ่อ​อยาก​ให้​เธอ​กิน​อันนี้​ เพราะ​มัน​ไม่หนักท้อง​มาก​”

หลิน​ม่าย​ไม่มีทางเลือก​อื่น​นอกจาก​กิน​โจ๊ก​ข้าวโพด​

หลัง​อาหารเช้า​ ทุกคน​ช่วย​หลิน​ม่าย​แต่งตัว​

ช่างภาพ​ถูก​เชิญมาถ่ายภาพ​ตลอด​พิธีการ​ เพื่อ​เก็บ​ความทรงจำ​อัน​ล้ำค่า​นี้​ไว้​ให้​หลิน​ม่าย​

พ่อ​ไป๋​ ไป๋​เซี่ย​ และ​หยาง​จิ้น​ผู้​เป็น​พี่เขย​เริ่ม​เขียน​คำ​ยินดี​พร้อม​ช่วยกัน​แขวน​ลูกโป่ง​หลาก​สี ในไม่ช้า​ลาน​ขนาดเล็ก​ก็​กลายเป็น​งานเลี้ยง​รื่นเริง​

ห้องนั่งเล่น​เต็มไปด้วย​ญาติพี่น้อง​ใกล้​ไกล​

ไม่เพียง​ญาติ​จาก​ฝั่งตระกูล​ไป๋​เท่านั้น​ แต่​ยังมี​ญาติ​มากมาย​จาก​ตระกูล​หลัว​

แม้ว่า​แม่ไป๋​และ​พ่อ​ไป๋​จะหย่าร้าง​กัน​แล้ว​ แต่​ญาติ​จาก​ฝั่งตระกูล​หลัว​และ​พ่อ​ไป๋​ยังคง​ไปมาหาสู่​กัน​เหมือนเดิม​

หลิน​ม่าย​เชิญเพื่อนเจ้าสาว​มาทั้งหมด​หก​คน​ ซึ่งล้วน​เป็น​เพื่อนร่วมห้อง​ของ​เธอ​

กล่าวอีกนัยหนึ่ง​คือ​เธอ​ได้​เชิญเพื่อนร่วมห้อง​คนอื่น​มาด้วย​ทั้งหมด​ ยกเว้น​สวี​ชิงห​ยา​

เพื่อนเจ้าสาว​ทุกคน​สวมใส่​ชุด​สีแดง​ม่วง​เหมือนกัน​

การ​กำหนด​สีเสื้อผ้า​ไม่ได้​มีให้​เห็น​ใน​งานแต่งงาน​ของ​คนอื่น​

ทุกวันนี้​เสื้อผ้า​ยังคง​มีราคาแพง​มาก​

ไป๋​เหยียน​พี่สาว​คนโต​คอย​จัดแจง​สิ่งต่างๆ​ อยู่​เคียงข้าง​

ราว​เก้า​นาฬิกา​ ไป๋​ลู่​ที่​ยืน​อยู่​ประตู​ลานบ้าน​มอง​ไป​รอบ​ๆ และ​วิ่ง​กลับ​เข้ามา​อย่าง​ตื่นเต้น​ บอ​กว่า​ขบวน​งานแต่งงาน​กำลัง​มา และ​เป็น​ขบวน​ที่​ค่อนข้าง​ยาว​

ทันทีที่​เธอ​พูด​จบ​ ทุกคน​ได้ยิน​เสียง​ประทัด​ถูกจุด​เสียงดัง​จาก​ตรอก​ใน​ระยะไกล​ และ​มีแนวโน้ม​ที่จะ​ดัง​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ ยาม​เมื่อ​เคลื่อนตัว​เข้ามา​ใกล้​

ไป๋​เหยียน​ใช้ตะกร้า​สอง​ใบ​บรรจุ​ขนม​จำนวนมาก​ที่​ฟางจั๋ว​หรา​น​และ​หลิน​ม่าย​ซื้อ​มาจาก​ฮ่องกง​ จากนั้น​ขอให้​พี่น้อง​ไป๋​ลู่​และ​ไป๋​เซี่ย​แจกจ่าย​ขนม​เหล่านี้​แก่​แขก​ที่​ประตู​ลานบ้าน​

ครอบครัว​พ่อ​ไป๋​เพิ่ง​ย้าย​มาที่​ตรอก​จินอ​วี๋​เมื่อไม่นานมานี้​ และ​เพื่อนบ้าน​หลาย​คน​ยัง​ไม่ค่อย​รู้จัก​พวกเขา​ดี​นัก​

ทุกคน​เห็น​ว่า​พิธีแต่งงาน​ใหญ่โต​ ขบวนรถ​งานแต่ง​ยัง​เป็น​รถยนต์​ทุก​คัน​ แล้ว​ขนมจาก​ครอบครัว​ฝ่าย​หญิง​ยัง​เป็น​ของ​ที่​ซื้อ​มาจาก​ฮ่องกง​

พวกเขา​จึงอด​ไม่ได้​ที่จะ​พูดคุย​กัน​ ลูกสาว​ตระกูล​ไป๋​แต่งงาน​กับ​คนใหญ่คนโต​ที่ไหน​กัน​ ถึงได้​มีพิธีแต่งงาน​ยิ่งใหญ่​แบบนี้​!

หลิน​ม่าย​ไม่ได้​เชิญแม่ไป๋​และ​ไป๋​ซวง​มางานแต่ง​ แต่​พวก​หล่อน​ทั้งสอง​ยัง​มาร่วมงาน​ใน​ช่วง​เช้า

กระนั้น​กลับ​ไม่กล้า​เข้าไป​ใน​ลาน​ และ​ยืน​ดู​งานแต่งงาน​อยู่​ด้านนอก​ร่วมกับ​เพื่อนบ้าน​คนอื่นๆ​

ท้ายที่สุด​ลูกสาว​ของ​ตน​กำลังจะ​แต่งงาน​ แม่ไป๋​จึงอยาก​มาเห็น​เธอ​มีความสุข​ใน​งานแต่ง​วันนี้​

ส่วน​ไป๋​ซวง​มาดู​ว่า​งานแต่งงาน​ของ​หลิน​ม่าย​จะยิ่งใหญ่​สัก​แค่​ไหน​

หลัง​เห็น​ว่า​งานแต่งงาน​ของ​หลิน​ม่าย​ยิ่งใหญ่​และ​สวยงาม​กว่า​ที่​คิด​ แล้ว​ยิ่ง​ฟังความคิดเห็น​ของ​เพื่อนบ้าน​เหล่านี้​ มัน​ก็​ทำให้​หล่อน​รู้สึก​ไม่สบายใจ​จน​อก​แทบ​แตก​

ไป๋​ซวง​ชำเลือง​มอง​แม่ไป๋​ ก่อน​จะนินทา​กับ​เพื่อนบ้าน​ละแวก​นั้น​อย่าง​โจ๋งครึ่ม​ว่า​หลิน​ม่าย​แต่งงาน​กับ​ชาย​ชรา​ที่​แต่งงาน​เป็น​ครั้ง​ที่สาม​แล้ว​ โดย​บอ​กว่า​เจ้าบ่าว​นั้น​คงอยู่​ได้​อีกไม่นาน​

หล่อน​ไม่กลัว​ว่า​จะถูก​แม่ไป๋​ดุด่า​สักนิด​หลังจาก​ใส่ร้าย​หลิน​ม่าย​

ถ้าแม่ไป๋​โกรธ​เมื่อใด​ หล่อน​จะแสร้ง​ทำตัว​น่าสงสาร​และ​ยอมรับ​ว่า​ตน​ทำ​ผิดพลาด​ไป​ จากนั้น​ก็​รอด​พ้นไป​ได้​ทุกครั้ง​

แม่ไป๋​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​ ไม่คาดคิด​ว่า​เด็ก​คน​นี้​จะกล้า​พูด​อะไร​แบบ​นั้น​

บรรดา​เพื่อนบ้าน​ใน​ละแวก​นั้น​ไม่ได้​รู้จัก​ตระกูล​ไป๋​เป็นการ​ส่วนตัว​ เมื่อ​ได้​รับฟัง​คำพูด​ของ​ไป๋​ซวง​ พวกเขา​จึงแสดง​สีหน้า​ดูถูก​

โดย​เข้าใจ​ว่า​ตระกูล​ไป๋​เกาะติด​คนรวย​และ​ไม่สนใจ​ที่จะ​รักษาหน้า​ของ​ตระกูล​ด้วยซ้ำ​

ไป๋​ซวง​ยิ้มเยาะ​ด้วย​ความ​สะใจ ก่อน​หันไป​ปลุกปั่น​แม่ไป๋​ว่า​ “แม่ ไม่ว่า​แม่จะเคย​ทำ​อะไร​กับ​ม่าย​จื่อ​ แต่​แม่ก็​ยัง​เป็น​แม่ที่​แท้จริง​ของหล่อน​นะคะ​ หล่อน​ไม่ทำเกินไป​หน่อย​เหรอ​ที่​ไม่เชิญแม่มาร่วม​งานแต่ง​ของ​ตัวเอง​ ทำไม​แม่ไม่สั่งสอน​บทเรียน​ให้​หล่อน​เสีย​ล่ะ​คะ​?”

แม่ไป๋​ถูก​อีก​ฝ่าย​ยั่วยุ​จน​รู้สึก​โกรธ​ กำหมัด​แน่น​แล้ว​คลาย​ออก​ ก่อน​จะกำ​แน่น​อีกครั้ง​

ในที่สุด​ก็​พูด​ออกมา​ว่า​ “ช่างเถอะ​ แม่ไม่ต้องการ​ทำ​อะไร​หล่อน​อีกแล้ว​ อย่างไร​ซะวันนี้​ก็​เป็น​วันสำคัญ​ของ​ม่าย​จื่อ​ที่​มีครั้ง​เดียว​ใน​ชีวิต​”

ไป๋​ซวง​บอ​กว่า​แม่ไป๋​ช่างใจดี​เหลือเกิน​ แต่​ความจริง​หล่อน​รู้สึก​ผิดหวัง​ไม่น้อย​

ขณะเดียวกัน​ก็​ยัง​รู้สึก​ขุ่นเคือง​ต่อ​แม่ไป๋​อยู่​บ้าง​

ปาก​พร่ำ​บอ​กว่า​รัก​หล่อน​มาก​ที่สุด​ แต่กลับ​ปฏิเสธ​ที่จะ​ทำลาย​งานแต่งงาน​ของ​ลูกสาว​ตัวเอง​ ช่างตอแหล​อะไร​เช่นนี้​!

ในไม่ช้า​ รถยนต์​ก็​เคลื่อนตัว​เรียงราย​มาถึงลาน​หน้าบ้าน​ตระกูล​ไป๋​

ฟางจั๋ว​หรา​น​ที่​สวม​ชุด​สูท​สีดำ​ทรง​ตรง​และ​ประดับ​ดอกไม้​แห่ง​ความสุข​ของ​เจ้าบ่าว​ไว้​ตรง​หน้าอก​ ก้าว​เท้า​ลง​จาก​รถ​เมอร์เซเดส​-เบนซ์​

คราวนี้​ทุกคน​ต่าง​ก็ได้​เห็น​ว่า​เจ้าบ่าว​ทั้ง​หล่อ​และ​ยัง​หนุ่ม​ ไม่เหมือนกับ​คำพูด​ของ​ไป๋​ซวง​ จึงพา​กัน​หัน​มอง​หล่อน​ด้วย​ความ​เหยียดหยาม​

ใครคนหนึ่ง​ถามไป๋​ซวง​ออก​ไป​ “ไหน​บอ​กว่า​เจ้าบ่าว​เป็น​ชาย​ชรา​ที่​แต่งงาน​ครั้ง​ที่สาม​แล้ว​ไง นี่​มัน​ชายหนุ่ม​ผู้​หล่อเหลา​ชัด​ๆ”

ไป๋​ซวง​ตอบ​ออก​ไป​ด้วย​ความ​เคอะเขิน​ “ฉัน​จำผิด​น่ะ​ค่ะ​ แฟน​อีก​คน​ของ​ลูกสาว​ตระกูล​ไป๋​ต่างหาก​ที่​เป็น​ชาย​ชรา​”

แม้ว่า​เรื่องราว​จะกลายเป็น​แบบนี้​ แต่​หล่อน​ก็​ยัง​ไม่วาย​แอบ​ใส่ร้าย​หลิน​ม่าย​

ทว่า​สำหรับ​คน​ที่​เริ่มต้น​ด้วย​การ​โกหก​ จึงแทบ​ไม่มีใคร​เชื่อ​ใน​สิ่งที่​หล่อน​พูด​แล้ว​

หลาย​คน​มอง​หล่อน​ด้วย​ความ​เหยียดหยาม​อย่าง​มาก​

งานแต่ง​ของ​หลิน​ม่าย​ พ่อ​ไป๋​ได้​เชิญเพื่อนบ้าน​หลาย​คน​จาก​ตรอก​เสี่ยว​หยาง​มาด้วย​

เพื่อนบ้าน​เหล่านั้น​มารวมตัวกัน​ เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​ของ​ไป๋​ซวง​ เพื่อนบ้าน​บางคน​จึงพูด​ออก​ไป​คล้าย​กับ​ไม่ตั้งใจ​ “เอ๊ะ​! คน​นั้น​มัน​ไป๋​ซวง​ที่​สมรู้ร่วมคิด​กับ​พ่อแม่​ผู้ให้กำเนิด​ แล้ว​มาลักทรัพย์​บ้าน​ของ​พ่อแม่​บุญธรรม​ตัวเอง​ใช่ไหม​นี่​? ศาล​ไม่ได้​ตัดสิน​ให้​เฝ้าระวัง​หรือ​อย่างไร​ ถูก​ควบคุม​พฤติกรรม​แล้ว​ยัง​ไม่สำนึกผิด​ ยัง​กล้า​มาใส่ร้าย​ลูกสาว​แท้ๆ​ ของ​พ่อบุญธรรม​ใน​ที่สาธารณะ​แบบนี้​อีก​เหรอ​?”

ไป๋​ซวง​ตื่นตระหนก​ทันที​

หล่อน​ไม่คาดคิด​ว่า​หลังจาก​พ่อ​ไป๋​และ​คนอื่นๆ​ ย้าย​ออกจาก​ตรอก​เสี่ยว​หยาง​ เขา​จะเชิญเพื่อนบ้าน​จาก​ที่นั่น​มางานแต่งงาน​ของ​หลิน​ม่าย​ด้วย​

ยิ่งไปกว่านั้น​ หล่อน​ไม่คาดคิด​ว่า​พวกเขา​จะได้ยิน​คำพูด​ที่​หล่อน​พยายาม​ว่าร้าย​หลิน​ม่าย​

หล่อน​ตกใจ​และ​ลนลาน​ปฏิเสธ​ “ไม่ใช่ฉัน​นะ​ ไม่ใช่ฉัน​ อย่า​มากล่าวหา​ฉัน​นะ​!”

“เรา​กล่าวหา​เธอ​งั้น​เหรอ​?” เพื่อนบ้าน​เย้ยหยัน​ “พูด​ไร้สาระ​!”

ไป๋​ซวง​อับอาย​อย่าง​มาก​ หล่อน​เลิกล้ม​ความคิด​ที่จะ​อยู่​ที่นี่​ต่อ​และ​รีบ​คว้า​มือ​แม่ไป๋​เดิน​จากไป​

ใบหน้า​แม่ไป๋​บิดเบี้ยว​น่าเกลียด​เล็กน้อย​

ทันใดนั้น​หล่อน​ก็​รู้สึก​ว่า​ไป๋​ซวง​เป็นตัว​สร้าง​ปัญหา​

เพื่อนร่วมห้อง​หลาย​คน​ของ​หลิน​ม่าย​เห็น​ฟางจั๋ว​หรา​น​และ​คนอื่นๆ​ เข้า​มายัง​ลานบ้าน​ ดังนั้น​พวกเขา​จึงปิดประตู​ห้อง​ของ​หลิน​ม่าย​อย่าง​แน่นหนา​ และ​ทำการ​ขอ​ซอง​แดง​เพื่อ​ผ่าน​ประตู​

พวกเขา​รับ​ซอง​แดง​จำนวนมาก​แต่​ยังคง​ไม่ยอม​เปิด​ประตู​ให้​ และ​ยัง​พยายาม​เรียกร้อง​ฟางจั๋ว​หรา​น​และ​เพื่อนเจ้าบ่าว​ต่อ​

หลิน​ม่าย​ทน​เห็น​แบบ​นั้น​ต่อไป​ไม่ได้​และ​ขอให้​เพื่อนร่วมห้อง​หยุด​

แต่​เพื่อนร่วมห้อง​ของ​เธอ​มีมติ​เป็นเอกฉันท์​บอก​ให้​เธอ​อยู่​ใน​ห้อง​ก่อน​

ท้ายที่สุด​แม้แต่​ฟางจั๋วเยวี่ย​ก็​ยัง​เข้ามา​ช่วย​เกลี้ยกล่อม​เพื่อนเจ้าสาว​ พี่ชาย​และ​น้องสาว​พูด​หว่านล้อม​ไป​มากมาย​ ยกเว้น​การ​ถูก​โกง​ซอง​แดง​ไป​สอง​ซอง​ ก็​ไม่มีความคืบหน้า​อื่น​ใด​

เฉินเฟิง​จึงฉวยโอกาส​ตอนที่​เพื่อนเจ้าสาว​เผลอ​ เขา​ปีน​ออก​หน้าต่าง​และ​เปิด​ประตู​อย่าง​รวดเร็ว​

ในที่สุด​ฟางจั๋ว​หรา​น​ก็​เข้าไป​ยัง​ห้องส่วนตัว​ของ​หลิน​ม่าย​ได้​สำเร็จ​ ทำให้​เพื่อนร่วมห้อง​หลาย​คน​ของ​หลิน​ม่าย​กระโดด​ขึ้น​ด้วย​ความโกรธ​

ฟางจั๋ว​หรา​นม​อง​หลิน​ม่าย​ซึ่งสวมมงกุฎ​หงส์​ไฟสีทอง​และ​ชุดเจ้าสาว​ คิดในใจ​ว่า​ภรรยา​ของ​เขา​ช่างงดงาม​ยิ่งนัก​

หลิน​ม่าย​มอง​ฟางจั๋ว​หรา​น​ร่าง​โปร่ง​สูงใน​สูท​สีดำ​ คิดในใจ​ว่า​สามีของ​เธอ​ช่างหล่อ​ยิ่งนัก​!

สี่เหนียง​ [1] นำ​ชามบะหมี่​กึ่ง​สำเร็จรูป​มาให้​ทั้งสอง​ และ​ขอให้​พวกเขา​กัด​คนละ​คำ​

ฟางจั๋ว​หรา​น​และ​หลิน​ม่าย​กัด​เส้น​บะหมี่​ ก่อน​จะขมวดคิ้ว​ทั้งคู่​

สี่เหนียง​ที่​ยก​ชามบะหมี่​มาให้​ถามด้วย​รอยยิ้ม​ “ดิบ​หรือ​สุก​?”

“ดิบ​” ฟางจั๋ว​หรา​น​ตอบ​อย่าง​ตรงไปตรงมา​

หลาย​คน​โห่ร้อง​ขึ้น​ทันที​ “ได้​ดิบ​ เจ้าบ่าว​บอ​กว่า​กำลังจะ​มีลูก​”

จากนั้น​ใบหน้า​หลิน​ม่าย​ก็​แดงก่ำ​ด้วย​ความ​เขินอาย​จน​เป็น​สีเดียว​กับ​ชุดเจ้าสาว​ที่​กำลัง​สวมใส่​ตอนนี้​

เธอ​คิด​ว่า​พิธี​คง​จบ​แล้ว​ แต่​ป้า​สี่เหนียง​ได้​นำ​ไข่ลวก​อีก​ชามมาให้​เธอ​กับ​ฟางจั๋ว​หรา​น​กิน​

หลิน​ม่าย​และ​ฟางจั๋ว​หรา​น​ต่าง​ก็​กิน​ไข่ลวก​นั้น​

สี่เหนียง​ถามพวกเขา​ว่า​ไข่แดง​ใน​ไข่ลวก​เป็น​ไข่​ฟอง​เดียว​หรือ​สอง​ฟอง​

ฟางจั๋ว​หรา​น​ตอบ​ “สอง​ฟอง​”

ทุกคน​หัวเราะ​ชอบใจ​ เพราะ​เจ้าบ่าว​หมายถึง​กำลังจะ​มีลูกแฝด​ให้​กับ​หลิน​ม่าย​

ใบหน้า​ของ​หลิน​ม่าย​เวลานี้​แดงก่ำ​ยิ่งกว่า​เดิม​

………………………………………………………………………………………………………………………….

[1] สี่เหนียง​ (喜娘) คือ​ สตรี​ที่​บ้าน​เจ้าบ่าว​เชิญมาช่วย​แนะนำ​ขั้นตอน​ใน​พิธี​ต่างๆ​ แก่​บ่าวสาว​ ซึ่งเป็น​คน​ที่​รู้​ใน​ธรรมเนียม​เป็น​อย่าง​ดี​และ​รู้จัก​พูดจา​

สาร​จาก​ผู้แปล​

ขนาด​วัน​แต่งงาน​ม่าย​จื่อ​ยัง​มาก่อกวน​อีก​เรอะ​ยัย​ไป๋​ซวง​ ไม่โดน​แขก​รุม​กระทืบ​ก็​บุญ​แล้ว​

ไหหม่า​(海馬)