ตอนที่ 488 แตงของเจ้ากำลังจะสุกแล้วแน่หรือ (1)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ตอนที่ 488 แตงของเจ้ากำลังจะสุกแล้วแน่หรือ? (1)

บ้าแล้ว!

เผ่ามังกรบ้าไปแล้ว!

บนเมฆ หลี่ฉางโซ่วอดจะเอามือปิดหน้าต่อหน้ากลุ่มมังกรชรากลุ่มหนึ่งไม่ได้ ในขณะที่หลงจี๋ที่ตามมาข้างหลังเขา กำลังพยายามกลั้นหัวเราะของนางอย่างสุดกำลัง ส่วนใบหน้างามบอบบางของอ๋าวอี่ก็แดงก่ำแดงไปหมด

มีอะไรผิดปกติหรือ?

จะเป็นอะไรได้อีกเล่า…

นั่นเป็นเพราะหลี่ฉางโซ่วได้กล่าวปราศรัยกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกที่วังมังกรทะเลบูรพามาระยะหนึ่งแล้ว จากนั้น เขาก็คิดวางแผนและดำเนินแผนการของเขาเพื่อกดดันทุกย่างก้าวและเอาชนะใจบรรดาผู้เป็นแกนหลักสำคัญของเผ่ามังกรโดยตรงได้—วังมังกรทะเลบูรพา

ราชามังกรแห่งทะเลบูรพาเป็นผู้นำในการสาบานว่าจะภักดีต่อศาลสวรรค์และเดิมพันชะตากรรมของเผ่ามังกร

หลี่ฉางโซ่วได้เขียนคำขอที่สมเหตุผลบางอย่างที่เผ่ามังกรทำไว้ลงในพระราชโองการ ก่อนหน้านี้ เขาได้เรียกแม่ทัพตงมู่ไปแล้ว และให้เหล่าปรมาจารย์ของเผ่ามังกรพาเขากลับไปที่ศาลสวรรค์เพื่อมอบให้จักรพรรดิหยกดู

หลี่ฉางโซ่วไม่มีโอกาสถึงเก้าในสิบส่วนที่จะประสบความสำเร็จในวังมังกรอีกสามแห่งได้ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย เขาจึงไม่ได้ไปโน้มน้าวพวกเขาที่นั่นโดยตรง เขาไม่ต้องการไปกระตุ้นให้สำนักบำเพ็ญประจิม มาทำลายแผนการของพวกเขา

แม้ว่าราชามังกรแห่งทะเลบูรพาจะเป็นผู้นำเผ่ามังกรในเวลานี้ แต่วังมังกรทั้งสี่คาบสมุทรก็ยังคงเป็นอิสระ

หลี่ฉางโซ่วครุ่นคิดเป็นเวลานานก่อนจะตัดสินใจใช้วังมังกรทะเลบูรพาเป็นรากฐาน จากนั้นเขาก็จะดึงเรือรบของวังมังกรทะเลทักษิณและวังมังกรทะเลอุดรขึ้นไปยังศาลสวรรค์

ส่วนทะเลประจิมนั้น…

มันยังอยู่ลำบากเล็กน้อย ตอนนี้เขาจะเฝ้ารอดูสถานการณ์ไปก่อน ซึ่งประโยคนี้ ย่อมหมายความว่า เขายังต้องทำงานหนักและต่อสู้เพื่อรับประกันสามและมุ่งมั่นเพื่อสี่[1]

จากนั้น หลี่ฉางโซ่วก็ทำตามแผนของเขาและพาหลงจี๋ไปยังดินแดนเทวะทักษิณเพื่อตรวจสอบเส้นทางน้ำต่างๆ

ก่อนหน้านี้ หลี่ฉางโซ่วคิดว่าเผ่าพันธุ์มังกรจะส่งผู้อาวุโสติดตามเขามาด้วย ทว่าหลี่ฉางโซ่วก็ดูเบาความกระตือรือร้นของเหล่ามังกรเกินไป

เผ่าพันธุ์มังกรนั้น ไม่เพียงแค่ส่งบรรดาผู้อาวุโสมากว่าสิบคนเท่านั้น แต่ราชามังกรยังส่งอาวอี่มาโดยให้เชื่อฟังคำสั่งของหลี่ฉางโซ่ว

นอกจากนี้ ราชามังกรยังเชิญผู้อาวุโสโบราณสามคนที่คอยเฝ้าดวงตาแห่งทะเลให้มาช่วยเพื่อปกป้องเทพแห่งท้องทะเล …ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์

หลังจากที่พวกเขามาถึงดินแดนเทวะทักษิณแล้ว หลี่ฉางโซ่วเพิ่งตรวจสอบทางน้ำเล็กๆ เมื่อผู้อาวุโสโบราณทั้งสามเริ่มบินขึ้นและลง

อย่างแรก มังกรชราตัวหนึ่งได้วิ่งเข้ามาดึงหลี่ฉางโซ่วไปที่ภูเขาด้านข้างพวกเขา และชี้ไปยังลำธารที่สาดแสงเป็นประกายพลางคลี่ยิ้มและกล่าวว่า “เทพแห่งท้องทะเล ได้โปรดลองดู ข้าตั้งชื่อสถานที่นี้ว่า แม่น้ำเฉียนหลง และมันสามารถรองรับตำแหน่งเทพแห่งแม่น้ำได้!”

จากนั้นมังกรชราอีกตัวก็วิ่งเข้ามาและดึงหลี่ฉางโซ่วไปยังหมู่บ้านมนุษย์ที่อยู่ใกล้เคียง เขาชี้ไปที่บ่อน้ำเล็กๆ หน้าหมู่บ้าน พลางยิ้มและกล่าวถามว่า “เทพแห่งท้องทะเล ดูทะเลสาบนี้สิ ข้าควรตั้งชื่อมันว่าอะไรดี?”

เพียงขณะที่เขาเพิ่งกล่าวจบ มังกรเฒ่าตัวหนึ่งก็ร้องตะโกนดังมาจากที่ไกลๆ ว่า “มาดูนี่สิ! ที่นี่มีเหวลึกมาก! สถานที่แห่งนี้ น่าจะได้รับชื่อว่าเทพแห่งคลอง!”

บัดนั้น หลี่ฉางโซ่วก็ถึงกับพูดไม่ออกแล้ว

นั่นคือบ่อน้ำ!

เป็นบ่อน้ำที่ชาวบ้านขุดเอง!

“ทุกคน…”

หลี่ฉางโซ่วทำได้เพียงแค่พยายามสงบสติอารมณ์อย่างเต็มที่

จากนั้นเขาก็อธิบายอย่างสละสลวยน่าฟังว่า “เราต้องปฏิบัติตามกฎ ข้าเข้าใจความรู้สึกของพวกท่านทุกคนได้ แต่นั่น… มันก็ยังจำเป็นต้องเกณฑ์ที่สำคัญที่สุดอยู่”

มังกรชรายิ้มอย่างกระดากและกล่าวว่า “ข้าออกจะกังวลเกินไปสักหน่อย ก็เลยค่อนข้างกระตือรือร้นเกินไป ขอเทพแห่งท้องทะเลได้โปรดอย่าถือสาเอาความข้าเลย”

หลี่ฉางโซ่วยิ้มและกล่าวว่า “ดินแดนเทวะทักษิณเป็นสถานที่ที่มีโชคของเผ่าพันธุ์มนุษย์รวมตัวกัน พวกท่านสามารถตรวจสอบเส้นทางน้ำและกลายเป็นเทพแห่งน้ำได้

มันสามารถปรับปรุงโชคชะตาของเผ่าพันธุ์มนุษย์ ปกป้องความปลอดภัยของมนุษย์ และสะสมบุญให้กับเทพแห่งแม่น้ำในท้องถิ่น นี่เป็นสิ่งที่ดีและเป็นเรื่องจริงจัง ไม่ใช่แค่เพียงเพื่อเผ่ามังกรเท่านั้น ขอได้โปรดเข้าใจและช่วยสนับสนุนข้าด้วย”

“ข้าเข้าใจ! ข้าเข้าใจ!”

“ข้าจะช่วยท่านอย่างแน่นอน!”

“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น…” ผู้อาวุโสเผ่ามังกรโบราณจึงหันศีรษะไปแล้วร้องตะโกนว่า “พวกเจ้ามังกรน้อยควรกลับไป มีแค่พวกเราก็เพียงแล้ว พวกเราจะปกป้องเทพแห่งท้องทะเลเอง! ไฉนพวกเจ้าถึงได้เที่ยววิ่งไปทั่ว? เจ้าคิดว่าเจ้าหน้าตาดีใช่หรือไม่? หากเจ้าทำให้มนุษย์ที่น่ารักเหล่านี้ตกใจกลัวเล่า?”

กลุ่มผู้อาวุโสหัวมังกรโค้งคำนับให้อย่างพร้อมเพรียงกัน พวกเขาไม่กล้าพูดอะไร แล้วรีบขี่เมฆจากไป แม้กล่าวเช่นนั้น จะดูไม่เหมาะสมเล็กน้อย แต่มันก็น่าขายหน้า! ช่างเป็นความอัปยศอดสูสำหรับมังกรยิ่งนัก!

มังกรโบราณตัวหนึ่งเดินเข้ามาหาหลี่ฉางโซ่วและหัวเราะเบาๆ ว่า “เทพแห่งท้องทะเล พวกเราสามคนพี่น้องจะเป็นองครักษ์ของท่านนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้ามีนามว่า อ๋าวอ่าว ข้าเป็นพี่ชายคนที่สองของพวกเขา นี่คือ อ๋าวเฟย เขาเป็นคนที่หก นี่คือ อ๋าวผี่ เขาเป็นคนที่แปด! หากจำชื่อพวกเราไม่ได้ ท่านก็เรียกพวกเราว่าสอง หก แปดได้!”

หลี่ฉางโซ่วประสานมือคารวะและกล่าวขออภัยพวกเขา พร้อมกับเรียกพวกเขาแต่ละคนว่า “ผู้อาวุโส” คนละหนึ่งครั้ง รวมสามครั้ง เมื่อไม่มีมังกรชรามากมายเหล่านี้มากมายเกินไปอย่างเช่นก่อนหน้านี้ มาล้อมรอบกายเขาแล้ว ในที่สุดหลี่ฉางโซวก็รู้สึกสบายใจขึ้น

อ๋าวอ่าวเอาเครื่องมือเวทออกมาแล้วเปลี่ยนให้มันกลายเป็นเรือลำเล็ก

หลี่ฉางโซ่ว อ๋าวอี่ และหลงจี๋ก็ขึ้นเรือไปด้วยกัน จากนั้น พวกเขาก็เริ่ม “การเดินทาง” ตรวจสอบเส้นทางน้ำในดินแดนเทวะทักษิณที่ยาวนานเพราะดินแดนเทวะทักษิณกว้างใหญ่และมีแม่น้ำ ทะเลสาบมากมายนับไม่ถ้วน

การสำรวจแม่น้ำไม่ใช่เรื่องง่าย มันย่อมไม่ง่ายเหมือนการบินเหนือแม่น้ำอย่างแน่นอน หลี่ฉางโซ่วต้องมองแผนภาพในมือของเขา ก่อนจะพลางพยักหน้าเมื่อยืนยันให้แน่ใจได้แล้วว่า แม่น้ำยังคงอยู่ตรงนั้นก่อนที่จะหันหลังกลับแล้วจากไป

งานนอกลู่นอกทางเช่นนี้จะได้รับการยอมรับจากเต๋าสวรรค์ได้อย่างไร?

ตามกฎเกณฑ์ที่หลี่ฉางโซ่วกำหนดเอาไว้เพื่อสำรวจแม่น้ำ นั่นคือ พวกเขาจะต้องติดตามแหล่งที่มาก่อนและค้นหาต้นกำเนิดของแม่น้ำ พวกเขาต้องจำคูแควที่แยกสาขาออกไปของแม่น้ำ ต่างๆ เส้นทางเดินของแม่น้ำที่ไหลผ่านและที่ตั้งของทางออกสู่ทะเล

ไม่เพียงแค่เท่านั้น แต่ยังต้องแสดงให้เห็นลักษณะที่ขรุขระของแม่น้ำและภูมิประเทศใกล้แม่น้ำด้วย นอกจากนี้ พวกเขายังต้องทำเครื่องหมายความลึกของแต่ละส่วน ความรวดเร็วในการไหลของแม่น้ำ ดินตะกอนอุดตัน และจุดที่มีแนวโน้มที่จะเกิดอุบัติเหตุ

นอกเหนือจากนั้น ยังต้องคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงทางอุทกศาสตร์ของแม่น้ำทุกปี รวมถึงสรุปการเปลี่ยนแปลงในอดีตเกือบพันปีของแม่น้ำอีกด้วย

ก่อนที่หลี่ฉางโซ่วจะบอกเรื่องนี้กับองค์เง็กเซียน เขารู้ว่ามันเป็นงานที่ใหญ่และซับซ้อน และมีภาระงานหนัก เขาอาจจะไม่สามารถทำให้เสร็จได้ภายในสิบสองปี

แต่เขาก็ต้องทำมันให้ได้ หลังจากนั้น หลี่ฉางโซ่วก็คิดว่าเขาจะได้รับบุญมากมาย

มันไม่ใช่แผนการที่จงใจ

มันสมเหตุผลแล้วที่เขาจะทำงานหนักและได้รับคำชมเชยจากเต๋าสวรรค์ มันแตกต่างจากผลกระทบของการปรับปรุงเสริมสร้างผลงานและความน่าเชื่อถือที่เป็นพิษอันตรายอย่างสิ้นเชิง

มันไม่ใช่แผนการที่จงใจ

มันสมเหตุผลแล้วที่เขาจะทำงานหนักและได้รับคำชมเชยจากเต๋าสวรรค์ มันแตกต่างจากผลกระทบของการปรับปรุงเสริมสร้างผลงานและความน่าเชื่อถือที่เป็นพิษอันตรายอย่างสิ้นเชิง

หลี่ฉางโซ่ว ออกเดินทางจากชายฝั่งของทะเลบูรพาไปพร้อมกับเหล่าปรมาจารย์มังกรโบราณสามคนที่ติดตามเขา เขาถือพู่กันเซียนสมบัติวิญญาณและเริ่มสำรวจเส้นทางน้ำของดินแดนเทวะทักษิณไปตามแผนผังอุทกศาสตร์ต้าอวี่

ผู้อาวุโสทั้งสามของเผ่าพันธุ์มังกรรู้สึกโล่งใจที่เห็นว่าหลี่ฉางโซ่วนั้นละเอียดรอบคอบและพิถีพิถันยิ่ง พวกเขาจึงไม่ได้กระตุ้นหรือรบกวนเขา แต่กลับซ่อนตัวและทำหน้าที่เป็นผู้คุ้มกัน

ทว่าในกระบวนการนั้นก็ค่อนข้าง…น่าเบื่อสำหรับผู้ติดตามของหลี่ฉางโซ่ว

เรือลอยอยู่บนก้อนเมฆและเคลื่อนตัวไปตามแม่น้ำอย่างช้าๆ

หลงจี๋สวมเสื้อคลุมเต๋าแบบหลวมๆ ขณะนั่งอยู่ที่ท้ายเรือ ในช่วงเวลาหนึ่งนั้น นางก็โน้มร่างไปข้างหน้าในขณะที่นั่งขัดสมาธิและเอามือเท้าคาง ประคองใบหน้าของนางเบาๆ แล้วจมอยู่ในความคิดพร้อมกับมองไปที่หลี่ฉางโซ่ว ซึ่งกำลังเขียนและวาดภาพอยู่ในโรงเก็บฟางบนเรือลำเล็ก…

อ๋าวอี่ ซึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ข้างๆ กำลังลูบคางและเหลือบมองหลงจี๋เป็นระยะๆ เขารู้สึกวิตกเล็กน้อย พี่สะใภ้หรือ?

เป็นไปไม่ได้ เหตุใดศิษย์พี่เจ้าสำนักถึงสนใจเด็กสาวคนนี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพี่สะใภ้หลิงเอ๋อร์อยู่บนภูเขาในสำนัก?

แม้เด็กสาวคนนี้จะสวย แต่นางก็ไม่ได้โดดเด่นเท่าพี่สะใภ้หลิงเอ๋อร์

ใช่แล้ว นางเป็นธิดาขององค์เง็กเซียน

หรือว่าองค์เง็กเซียนกำลังพยายามจับคู่พวกเขา และศิษย์พี่เจ้าสำนักก็ไม่อาจปฏิเสธเขาได้?

อ๋าวอี่ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ในช่วงเวลาสั้นๆ นั้น เขาก็จินตนาการถึงฉากของ “ความรักสูงสุดของวังสวรรค์ ภรรยาเซียนอมตะคนที่สิบสองและสิบสามของข้า”

ทันใดนั้น เสียงของหลี่ฉางโซ่วก็ดังขึ้น

“อ๋าวอี่?”

“พี่ชาย!” อ๋าวอี่รีบลุกขึ้นยืนในขณะที่หลี่ฉางโซ่วไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง เขาวาดภาพด้วยหมึกต่อไปและกล่าวอย่างสงบว่า “อย่าคิดมาก องค์หญิงหลงจี๋มาเรียนรู้เคล็ดลับบางอย่างจากข้า”

อ๋าวอี่อดจะเม้มริมฝีปากและกะพริบตา ไม่ได้ ใบหน้างามที่บอบบางของเขาเต็มไปด้วยความขัดเขิน

อ่านใจ? ศิษย์พี่เจ้าสำนักนั้นเก่งกาจในการอ่านใจ!

หลี่ฉางโซ่วกล่าวต่อว่า “กลับไปที่วังมังกรทะเลบูรพาแล้วยืมกองทหารขนาดเล็กมาจากราชามังกร เจ้าจะมีหน้าที่เป็นผู้นำพวกเขา ข้าได้จัดเตรียมคนของศาลสวรรค์หนึ่งแสนคนเพื่อให้มาฝึกฝนใกล้ๆ วังมังกรทะเลทักษิณ วังมังกรทะเลบูรพา และวังมังกรทะเลอุดร

ข้าต้องวาดเส้นทางน้ำต่างๆ ที่นี่ และตอนนี้ข้าก็แบ่งจิตไปไม่ได้ เจ้าต้องช่วยดูแลเรื่องนี้ อย่าปล่อยให้คนของวังมังกรขัดแย้งกับทหารสวรรค์ ดูแลทหารและแม่ทัพสวรรค์เหล่านั้น อย่าปล่อยให้พวกเขาใช้ประโยชน์จากเผ่ามังกรและทำลายศักดิ์ศรีของศาลสวรรค์”

“พี่ชาย วางใจเถิด!” อ๋าวอี่รับคำพลางประสานมือคารวะก่อนจะหันหลังกลับเพื่อจากไปทันที ในขณะนั้นผู้อาวุโสมังกรก็ปรากฏตัวขึ้นเพื่อคุ้มกันอ๋าวอี่ในขณะที่เขากลับไปที่วังมังกรทะเลบูรพา

………………………………………………………………..

[1] คือทำงานในส่วนที่มองว่าได้ผลแน่นอนก่อน แล้วค่อยจัดการส่วนที่มีปัญหาเหลือ