บทที่ 609 ข้อตกลงสามข้อ

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 609 ข้อตกลงสามข้อ

บทที่ 609 ข้อตกลงสามข้อ

“เจ้า…เจ้าช่างน่ารังเกียจเสียจริง ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะเป็นคนน่ารังเกียจเช่นนี้ สิ่งของของตระกูลกู้มันเกี่ยวข้องกับเจ้าอย่างไร?” เมื่อกู้ฉวนลู่ได้ยินว่าหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงไม่ได้ซ่อนความปรารถนาของตนเองไว้ จึงรู้สึกโกรธเคืองและสาปแช่งเสียงดัง

หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงเยาะเย้ย “ฉวนลู่ มันไม่สมเหตุสมผลเกินไปที่เจ้าจะพูดเช่นนี้! ไม่ว่าข้าจะเลวแค่ไหน ข้าก็ไม่ได้น่ารังเกียจเช่นเจ้า!”

เมื่อเห็นสีหน้าของกู้ฉวนลู่เปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีแดง จากสีแดงเป็นสีเขียว หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงก็พึงพอใจมาก!

กู้ฉวนลู่ถอนหายใจในใจ หากแต่เขาไม่มีอะไรจะพูด

หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงพูดถูก เขาน่ารังเกียจและไร้ยางอาย!

ละโมบโลภมากอยากได้สิ่งของของหลานตัวเอง ไม่น่ารังเกียจแล้วจะเรียกว่าอย่างไร!

กู้ฉวนลู่น่ารังเกียจ แต่เขาไม่อนุญาตให้คนอื่นมาเรียกเขาว่าน่ารังเกียจ!

“หัวหน้าหมู่บ้านเหลียง หากท่านต้องการจะทำสิ่งนี้ก็ทำ หากจะไม่ทำก็ลืมมันไปเสีย! เมื่อถึงเวลานั้นก็รอดูตัวเองลงจากตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้านได้เลย! และครอบครัวของข้าได้แยกจากครอบครัวรองมาแล้ว พวกเขาจะเป็นจะตายก็ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า!”

กู้ฉวนลู่จ้องมองที่หัวหน้าหมู่บ้านเหลียง จากนั้นลุกขึ้นและกำลังจะเดินออกไป!

เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงได้ยินสิ่งนี้ เขาก็คว้ากู้ฉวนลู่ทันทีและพูดว่า “ฉวนลู่ อย่าทำเช่นนี้ ข้าเพียงพูดไปอย่างไม่ตั้งใจ!”

แม้ว่าหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงจะอยากได้ที่ดินของกู้เสี่ยวหวาน แต่หากกู้ฉวนลู่ไม่เอ่ยปาก ที่ดินก็จะไม่มีวันไปถึงมือของเขาอยู่ดี กู้ฉวนลู่เป็นลุงของกู้เสี่ยวหวาน ตราบใดที่กู้ฉวนลู่รับกู้หนิงอันและคนอื่น ๆ ไปเลี้ยงดู กู้ฉวนลู่มีสิทธิ์ที่จะได้ครอบครองที่ดินเหล่านั้น แต่หัวหน้าหมู่บ้านต่างออกไป ถ้าเขารับกู้หนิงอันและคนอื่น ๆ มาเลี้ยงดู เขาจะไม่สามารถขายที่ดินเหล่านี้ได้เลย

สิ่งที่ดีที่สุดคือการเก็บค่าเช่าที่ในทุก ๆ ปี หากเขาต้องการที่จะขายที่ดินเหล่านั้น แม้แต่คิดก็ไม่ควร

แต่หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงไม่คิดเช่นนั้น!

เขาต้องการให้ที่ดินเหล่านั้นเป็นชื่อของเขาอย่างสมบูรณ์หรือขายที่ดินเหล่านี้เพื่อเงิน!

หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงคิดเช่นนั้น โดยธรรมชาติหากปราศจากความช่วยเหลือของกู้ฉวนลู่ มันก็จะไม่สำเร็จลุล่วง ดังนั้นกู้ฉวนลู่จึงต้องพึ่งพาเขาเพื่อช่วยขับไล่กู้เสี่ยวหวานออกจากหมู่บ้านอู๋ซี หรือ… ตามที่กู้ฉวนลู่กล่าวเมื่อครู่นี้คือต้องประณามกู้เสี่ยวหวาน! เขาต้องพึ่งพากู้ฉวนลู่เพื่อยึดที่ดินมาอย่างสมเหตุสมผล

ทั้งคู่ได้รับสิ่งที่ต้องการ และมีสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้

เมื่อเห็นว่ากู้ฉวนลู่โกรธและกำลังจะออกไป หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงก็รีบหยุดเขา คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “เรามาทำข้อตกลงกันเถอะ!”

“ข้อตกลงอะไร?” เมื่อกู้ฉวนลู่ได้ยิน แม้ว่าใบหน้าของเขาจะยังไม่ดูดี แต่ก็ดีกว่าเมื่อก่อนมาก!

เขายืนนิ่งและฟังคำพูดของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียง

หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงเรียบเรียงคำพูดและกล่าวว่า “ก่อนอื่นข้าจะร่วมมือกับเจ้าเพื่อขับไล่กู้เสี่ยวหวานออกจากหมู่บ้านอู๋ซีและมันจะบรรลุเป้าหมายของเจ้า”

กู้ฉวนลู่ไม่ได้พูดอะไร ความโกรธบนใบหน้าของเขาหายไปเล็กน้อย นั่นคือสิ่งที่เขาต้องการ!

“อย่างที่สอง เจ้าต้องร่วมมือกับข้า ข้าช่วยเจ้ามากเช่นนี้ เจ้าต้องมีสิ่งตอบแทนข้าบ้างใช้หรือไม่?”

“ข้าช่วยท่านรักษาตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้านแล้ว ท่านยังต้องการอันใดอีก” กู้ฉวนลู่มองหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงอย่างเข้มงวด และเอ่ยถามอย่างรวดเร็วหลังจากได้ยินเรื่องนี้

“ข้าต้องได้ผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมด้วยไม่ใช่หรือ?” หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงไม่กลัวกู้ฉวนลู่ จึงพูดว่า “กู้เสี่ยวหวานมีที่ดินหนึ่งร้อยห้าสิบหมู่ เจ้าคงไม่ต้องการทั้งหมดหรอกใช่หรือไม่? แบ่งให้ข้าสักหน่อยเถอะ! ข้าช่วยเจ้ามากแล้ว!”

กู้ฉวนลู่มีสีหน้ามืดมนและไม่พูดอะไร

หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงกล่าวต่อว่า “ถ้าเจ้ารู้สึกแย่และรับไม่ได้ ไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่บังคับเจ้า! อย่างไรก็ตาม เจ้าก็จะไม่ได้เช่นกัน! แม้ว่าข้าจะเป็นหัวหน้าหมู่บ้านเล็ก ๆ แต่ก็ยังมีบางสิ่งที่ข้าสามารถทำได้!”

“เจ้า…” กู้ฉวนลู่โกรธจนอยากจะก้าวไปข้างหน้าและฉีกหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงออกเป็นชิ้น ๆ

ในอดีต หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงมักจะเกลี้ยกล่อมให้เขาแย่งบ้านเก่าของตระกูลกู้มา โดยบอกว่าในฐานะลูกชายคนโตของตระกูลกู้ บ้านหลังเก่าของตระกูลกู้ต้องมอบให้เขา!

นอกจากนี้ ถ้ากู้จือเหวินเริ่มต้นอาชีพในอนาคต ชื่อเสียงนี้จะเป็นที่ต้องการอย่างแน่นอน!

ลูกชายและหลานชายจะอาศัยอยู่ข้างนอกได้อย่างไร?

เขาเป็นกระดูกสันหลังของตระกูลกู้ หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงให้ความหวังกับกู้จือเหวินเสมอ ดังนั้นเขาจึงสนใจครอบครัวของกู้ฉวนลู่มาโดยตลอด

หากกู้จือเหวินเริ่มต้นอาชีพในอนาคต เขาก็สามารถดูแลเหลียงต้าเปาได้เช่นกัน

นั่นเป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้ด้วยที่ดินมากมายตรงหน้า เขาจะไม่สนใจได้อย่างไร? จะไม่อยากได้ได้อย่างไร!

เขาต้องการมาก!

ตนช่วยกู้ฉวนลู่ไว้มาก และถ้ากู้ฉวนลู่ไม่ตอบแทนเลยสักนิด เขาก็คงเป็นคนไม่มีมโนธรรมจริง ๆ

กู้ฉวนลู่มองไปที่หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงด้วยสีหน้าเย็นชา สีหน้าของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงในตอนนี้ราวกับจะบอกว่า ข้าสมควรได้รับมัน!

กู้ฉวนลู่ไม่พอใจมาก แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถทำให้หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงขุ่นเคืองได้ และเมื่อถึงเวลานั้น พวกเขาทั้งสองจะขัดแย้งกันและจะไม่เกิดประโยชน์ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ กู้ฉวนลู่ก็พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะระงับความโกรธในหัวใจของเขา และพยายามฝืนยิ้มออกมา ท่าทางที่ยิ้มแต่ไม่ยิ้มนั้นน่าเกลียดมาก แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ต้องฝืนแสดงสีหน้าเช่นนั้นต่อไป “เอาล่ะ ในเมื่อท่านถึงกับเอ่ยปาก หากข้าไม่เห็นด้วย ความช่วยเหลือมากมายของท่านคงเป็นการเสียประโยชน์! ข้อที่สอง ข้าเห็นด้วย!”

เมื่อได้ยินว่ากู้ฉวนลู่เห็นด้วย หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงก็แอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก ด้วยใบหน้าที่พอใจราวกับว่าเขารู้อยู่แล้วว่า ไม่ว่าอย่างไรกู้ฉวนลู่ก็จะเห็นด้วยกับคำขอของเขา!

“แล้วข้องตกลงข้อที่สามคืออะไร?” กู้ฉวนลู่มองใบหน้าที่พึงพอใจของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงและเอ่ยถามอย่างโกรธเคือง “ข้อตกลงข้อที่สามคืออะไร? พูดออกมาเร็วเข้า!”

“ข้อตกลงข้อที่สามคือ เจ้าต้องสัญญาว่าจะทำตามเงื่อนไขของข้าหนึ่งข้อ!” หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงต้องการวางแผนสำหรับอนาคต คราวนี้เขาทำให้กู้ฉวนลู่ขุ่นเคืองแล้ว ในอนาคตกู้ฉวนลู่จะไม่สนใจเขาหรือไม่?

นอกจากนี้เขายังวางแผนที่จะพึ่งพากู้จือเหวินจากครอบครัวของกู้ฉวนลู่เพื่อหาทางให้เหลียงต้าเปา!

เหลียงต้าเปาคือหัวใจของเขา เด็กคนนี้ไม่เชื่อฟัง เกียจคร้าน ชอบสร้างปัญหา ไม่รู้อนาคตจะเป็นอย่างไร!

ตนเป็นเพียงหัวหน้าหมู่บ้าน หากเหลียงต้าเปาอยู่ในหมู่บ้านอู๋ซี ตนก็ยังสามารถปกป้องเขาได้ แต่ถ้าเหลียงต้าเปาไม่อยู่ในหมู่บ้านอู๋ซี ในอนาคตตนก็ไม่สามารถดูแลความปลอดภัยให้เข้าได้

ดังนั้นเขาจึงต้องการหาหนทางให้เหลียงต้าเปา