War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 1969
ตอนที่ 1,969 : ปราการเต่าทมิฬ!

ต้วนหลิงเทียนที่ได้แปลงร่างเป็นนักรบมังกกร 9 กรงเล็บ คนกำลังคิดใช้ร่างกายทานรับอัสนีอันน่าพรั่นพรึงนับร้อยอย่างไร้ครั่นคร้าม!

ทว่าแม้พยุหะอัสนีกระหน่ำฟาดผ่าเจียนถึงตัว ร่างเขายังคงนิ่งไม่ไหวติงปานขุนเขา!

และห้วงเวลาพริบตาก่อนที่อัสนีสีม่วงจะได้สำแดงความพิโรธฟาดผ่าทำลายร่างต้วนหลิงเทียนนั้นเอง เกล็ดมังกรทั่วร่างพลันส่องแสงสว่างวับวาวออกมา!

เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง!

……

ในที่สุดพยุหะอัสนีนับร้อยสายก็กระหน่ำฟาดเข้าใส่ร่างต้วนหลิงเทียนอย่างจัง! จนคนคล้ายจะถูกมวลหมู่อัสนีกลืนกิน!!

อัสนีนับร้อยสายนี้ แต่ละเส้นสายก็มีพลังอำนาจทำลายล้างไม่ได้ต่างอะไรกับการลงมือของยอดฝีมือขอบเขตเซียนนภาชั้นต้นแม้แต่น้อย!

และขณะที่พวกมันกำลังฟาดผ่าใกล้ถึงตัวต้วนหลิงเทียน พวกมันก็คล้ายจะผสานหลอมรวมเข้าด้วยกัน พร้อมใจโถมถันเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนหมายกลืนกินร่างเขาในคำเดียว! จนก่อเกิดเป็นอำนาจพลังทำลายดั่งยอดฝีมือขอบเขตเซียนนภาขั้นเชี่ยวชาญ!!

พริบตานี้ต้วนหลิงเทียนสัมผัสได้ถึงพลังอำนาจมหาศาลน่าเกรงขามที่กำลังเคี่ยวกรำตกกระทบไปทั่วร่าง!

ทว่าครู่ต่อมาต้วนหลิงเทียนพลันตระหนักได้ถึงเรื่องราวอีกอย่างหนึ่ง…

อาศัยพลังดิบเถื่อนและความเข้มแข็งทางกายภาพของร่างนักรบมังกร 9 กรงเล็บ ที่มีพลังเซียนสุริยันโคจรฉาบคลุม เขาแทบไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย!

ถึงแม้ว่าผลกระทบจะไม่น้อยถึงขั้นไม่รู้สึกอะไร กระทั่งยังทำให้อวัยวะภายในเขาสะท้านจนรู้สึกเสมือนถูกจับเขย่า แต่มันก็ไม่ได้ทำร้ายอะไรเขา

เรียกว่าด้วยพลังอันแข็งแกร่งของร่างนักรบมังกร 9กรงเล็บควบคู่ไปกับพลังเซียนสุริยันที่เทียบได้กับเซียนนภาขั้นกลาง เขาสามารถป้องกันการโจมตีของซุนเต๋อที่ผสานมาทั้งเวทย์พลังและกลเต๋าได้อย่างหมดจด!

‘สมแล้วที่เป็นถึงร่างนักรบมังกร 9 กรงเล็บ ความแข็งแกร่งของร่างกายข้าตอนนี้สามารถเทียบได้กับมังกรเทพยาดา 8 กรงเล็บที่แท้จริง!’

ต้วนหลิงเทียนระบายลมหายใจออกมาอย่างตื่นใจ

‘จากด่านพลังของซุนเต๋อ ดูเหมือนการโจมตีครั้งนี้น่าจะเป็นการโจมตีที่รุนแรงที่สุดเท่าที่มันใช้ได้แล้ว…’

ต้วนหลิงเทียนที่ยืนรับห่าอัสนีเท่าแขนเด็กนับร้อยอย่างจังโดยที่ร่างกายเขาไม่มีรอยขีดข่วนใดๆ พลันครุ่นคิดในใจพร้อมๆกันกับที่ร่างกายของเขาเริ่มหวนคืนกลับสู่รูปลักษณ์มนุษย์ปกติ

ไม่นานร่างแปลงนักรบมังกร 9 กรงเล็บก็หายไปอย่างสิ้นเชิง

‘คราวนี้เป็นตาข้าลงมือบ้าง!’

ครู่ต่อมาสองตาต้วนหลิงเทียนก็ลุกวาวขึ้นดว้ยประกายคมกล้า เขตแดนหมื่นกระบี่ที่ปิดกั้นสายตาของทุกคนพลันสลายหายไปทันที

ครู่ต่อมา ร่างต้วนหลิงเทียนที่ปลอดภัยไร้รอยขีดข่วนพลันปรากฏสู่สายตาของทุกผู้คนอีกครั้ง!

ห่างออกไปไม่ไกลนัก ซุนเต๋อที่เป็นคนลงมือเมื่อครู่ถึงกับชักหน้าเครียด แววตายังเผยความหวาดกลัวเล็กน้อย…

มันคิดว่าการลงมือด้วยพลังสูงสุดของมัน อย่างน้อยๆก็น่าจะทำร้ายต้วนหลิงเทียนได้บ้าง…

ตราบใดที่ต้วนหลิงเทียนได้รับบาดเจ็บอะไรล่ะก็ มันอาจจะยังพอมีโอกาส…โอกาสในการสู้ยืดเยื้อกับต้วนหลิงเทียน จนกว่าเวลาแสดงผลของเวทย์พลังหนุนเสริมของต้วนหลิเทียนจะหมดลง!

เพราะเมื่อเวลาแสดงผลของเวทย์พลังสายสนับสนุนของต้วนหลิงเทียนหมดสิ้นลง 9 ใน 10 ส่วนต้วนหลิงเทียนต้องได้รับผลกระทบอะไรบางอย่างแน่ ไม่พลังฝึกปรือตกลงก็จำต้องหวนคืนสู่ด่านพลังดั้งเดิม!

และต้วนหลิงเทียนที่ด่านพลังดั้งเดิมเป็นเพียงเซียนปฐพีขั้นสูงสุดไร้พลังอำนาจหนุนเสริมจากเวทย์พลังอันใด แน่นอนว่าไม่ใช่คู่มือมัน!

อย่างไรก็ตามภาพฝันมันสวยหรู แต่มองดูความเป็นจริงแล้วช่างโหดร้ายนัก!

ถึงแม้มันจะลงมือด้วยการจู่โจมที่รุนแรงที่สุดเท่าที่มันมี หากแต่กลับไม่อาจทำร้ายต้วนหลิงเทียนได้สักกะผีกเดียว!

ถึงแม้มันจะไม่รู้ว่าต้วนหลิงเทียนใช้วิธีการอันใดในการป้องกันกระบวนท่าของมันกันแน่ เพราะมีเขตแดนสีทองประหลาดปิดกั้นสายตา…

แต่ที่มันรู้แน่ๆคือต้วนหลิงเทียนรับกระบวนท่าไม้ตายของมันได้อย่างสบายๆ เพราะคนกลับยืนอย่างปลอดภัยไร้รอยขีดข่วนให้เห็นตำตาเช่นนี้!

ด้วยเหตุนี้มันจึงคิดว่าโอกาสสุดท้ายของมันได้สาบสูญไปเสียแล้ว…ตอนนี้มันตกเป็นรองอีกฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด!

“มะ…ไม่เป็นอะไรเลยหรือ?”

ในขณะเดียวกัน เหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์ที่ได้เห็นต้วนหลิงเทียนปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน พวกมันก็ตื่นตระหนกหนักหนา!

ถึงแม้พวกมันจะรู้แล้วว่าต้วนหลิงเทียนแข็งแกร่งกว่าซุนเต๋อ แต่พวกมันไม่คิดจริงๆว่าพลังอำนาจจะต่างชั้นกันขนาดนี้

“น่าเสียดายนักที่เมื่อครู่ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนกลับกางกั้นเขตแดนประหลาดนั่นออกมา หาไม่แล้วพวกเราคงได้เปิดหูเปิดตากันไม่น้อย ว่าศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนรับกระบวนท่าน่ากลัวนั่นของศิษย์พี่ซุนเต๋ออีท่าไหนกันแน่…”

เหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์ล้วนเสียดายกันไม่น้อย

แน่นอนว่าพวกมันไม่คิดว่าต้วนหลิงเทียนกางกั้นเขตแดนออกเพราะจงใจปกปิดพวกมัน

พวกมันคิดว่าการลงมือป้องกันเต็มที่ของต้วนหลิงเทียนจำต้องพึ่งพาพลังอำนาจของเขตแดนประหลาดดังกล่าว

“ศิษย์พี่ซุนเต๋อกำลังจะแพ้แล้วล่ะ…”

ในเวลาเดียวกัน เหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์ทุกคน ก็คิดว่าผลการประมือครั้งนี้สมควรตัดสินแล้ว…

“ขออภัยด้วยศิษย์พี่ซุนเต๋อ!”

และแทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่เหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์ที่คิดว่าผลการต่อสู้ของออกมาแล้ว ต้วนหลิงเทียนมองกล่าวกับซุนเต๋อออกมา

และหลังจากกล่าวคำแล้ว ปีกเปลวเพลิงคู่มหึมจากเวทย์พลังปีกอีกาทองคำพลันปะทุออกที่แผ่นหลังของต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง!

พริบตาต่อมาปีกอีกาทองคำก็กระพืออย่างแรง!

ทันใดนั้น

ปง! ปง! ปง! ปง!

……………………

เสียงแตกระเบิดของมวลอากาศดังขึ้นอีกครา ร่างต้วนหลิงเทียนกลับกลายคล้ายอัสนีสายหนึ่ง พุ่งตรงเข้าใส่ซุนเต็อด้วยความรวดเร็วปานเส้นแสง!

ด้านซุนเต๋อพอเห็นต้วนหลิงเทียนใช้ออกด้วยปีกอีกาทองคำ สีหน้าของมันก็ฉายความตึงเครียดออกชัด!

พลังเซียนทั่วร่างของมันโคจรออกเร็วรี่ และมวลพลังคล้ายจะโคจรในแนวทางพิสดารประการหนึ่ง เห็นชัดว่าซุนเต๋อคิดใช้พลังชั่วชีวิตของมันทำอะไรบ่างอย่าง!

ชั่วพริบตาร่างต้วนหลิงเทียนที่พุ่งมาปานอัสนีวาบ ก็บรรลุถึงเบื้องหน้าซุนเต๋อแล้ว!

วู้ม! วู้ม! วู้ม! วู้ม!

…………

เมื่อพลังเซียนสุริยันปะทุออกทั่วร่าง บัดนี้ต้วนหลิงเทียนมองไปคล้ายกระบี่สีทองมหึมาเล่มหนึ่ง!

กลิ่นอายคมกล้าเสียดแทงของกระบี่พลันแผ่ซ่านออกมาให้ทุกผู้คนได้สัมผัส!

และทันใดนั้นเองรอบกายต้วนหลิงเทียนพลันอุบัติกระบี่พลังสีทองมีสภาพนับร้อยเล่มขึ้นมาม้วนวนโคจรรอบกายเขาปานดาวบริวาร!

‘ไป!’

เพียงห้วงคิดกระบี่พลังสีทองมีสภาพนับร้อยเล่มที่โคจรรอบกายดั่งดาวบริวารก็คล้ายได้รับคำสั่ง ต่างพุ่งทะยานแซงร่างต้วนหลิงเทียนออกไปฉับไว ถล่มใส่ซุนเต๋อราวห่าพิรุณร่วงฟ้า!

กระบี่พลังมีสภาพสีทองนับร้อยเล่มพุ่งทะยานแหวกอากาศออกไปด้วยพลังอำนาจอันน่าเกรงขาม!

แม้ฉากเรื่องราวจะไม่ได้อลังการงานสร้างเหมือนกระบวนท่าไม้ตายของซุนเต๋อก่อนหน้านี้ แต่เหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์ทราบดีว่าอานุภาพพลังของกระบวนท่ากระบี่บินของต้วนหลิงเทียน หาได้มีพลังทำลายล้างอ่อนด้อยไปกว่าท่าไม้ตายของซุนเต่อแม้ครึ่งส่วน กระทั่งยังให้ความรู้สึกกดดันมากกว่าเสียอีก!

“ปราการเต่าทมิฬ!!”

ภายใต้สายตาของทุกคน ซุนเต๋อที่บัดนี้สองตาแดงก่ำไปด้วยเส้นเลือดฝอยพลันคำรามออกลั่น พลังชั่วชีวิตที่โคจรเร็วรี่รอบกาย พลันก่อเกิดลัษณ์หนึ่งในชั่วพริบตา!

เสียงคำรามราวกับจะปลดปล่อยอะไรบางสิ่งที่ยากจะกระทำได้ของซุนเต๋อ ไม่เพียงแต่จะทำให้ศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์ตกใจเท่านั้น

กระทั่งต้วนหลิงเทียนยังอดตกใจเสียไม่ได้!

ปราการเต่าทมิฬ!?

พริบตาต่อมาต้วนหลิงเทียนก็แลเห็นฉากเรื่องราวได้ชัดเจน!

กระบี่พลังสีทองมีสภาพที่เขาใช้พลังวิญญาณควบคุมให้พุ่งทะยานออกไปฉับไว แม้กระบี่พลังนับร้อยจะแฝงเร้นไปด้วยมรรคากระบี่อันสูงล้ำจากยอดใจกระบี่ ทว่าเมื่อพุ่งทะยานเจียนบรรลุถึงร่างซุนเต๋อ พวกมันกลับถูกพลังไร้ลักษณ์ขุมหนึ่งหยุดยั้งเอาไว้ให้มิอาจฝ่าไปต่อ!

ประหนึ่งชนกำแพงที่มองไม่เห็นก็ไม่ปาน!

ภายใต้สายตาของทุกคน ตอนนี้รอบกายซุนเต่อเริ่มปรากฏร่างเงาหนึ่งขึ้นมาห้อมล้อมปกคลุมไปทั่วกาย! เป็นเงาร่างเต่าทมิฬ!!

แต่เงาร่างเต่าทมิฬนี้ช่างโปร่งใสนัก หากไม่สังเกตให้ดีก็แทบจะมองไม่เห็น!

กระบี่พลังสีทองมีสภาพนับร้อยของต้วนหลิงเทียน ก็ถูกปราการเต่าทมิฬนี้หยุดยั้งเอาไว้นั่นเอง…ตอนนี้กระบี่ทั้งมวลคล้ายพยายามจะเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความยากลำบาก คล้ายพุ่งชนกำแพงเหล็กเย็นหมื่นปีที่ขวางกั้นร่างซุนเต่อเอาไว้อย่างแน่นหนา!!

แน่นอนว่าแม้กระบี่พลังสีทองมีสภาพนับร้อยจะถูกหยุดเอาไว้ด้วยปราการเต่าทมิฬ หากแต่ซุนเต๋อก็มิใช่ว่าจะหยุดยั้งมันได้อย่างสบาย เส้นเลือดขอดปูดโปนที่ขมับ ทั่วร่างเกร็งแน่นจนสั่นสะเทิ้ม มวลพลังทั่วร่างถูกชักนำไปเสริมสร้างม่านพลังโปร่งใส่รอบกายอย่างเอาเป็นเอาตาย!

เงาร่างเต่าทมิฬยิ่งมายิ่งปะทุพลังอำนาจกล้าแข็ง มวลพลังสะท้อนอันเกิดจากการปะทะของสองขุมพลังเข้มแข็งกำจายกวาดซัดออกไประลอกแล้วระลอกเล่า สะเทือนสะท้านจนบรรยากาศโดยรอบสั่นไหวกระเพื่อม!!

เรื่องนี้พาลให้ใจผู้คนตื่นตระหนกครั้งใหญ่แล้ว!!

“นี่น่ะเหรอปราการเต่าทมิฬ?”

แม้การโจมตีของเขาจะล้มเหลว หากแต่ต้วนหลิงเทียนกลับไม่รีบร้อนลงมือจู่โจมซ้ำอะไร

ถึงแม้เขาจะรู้ดีว่าตอนนี้ขอเพียงใช้ออกด้วยเซียนอมตะข้ามภพ ซุนเต๋อก็จำต้องปราชัยไปอย่างไร้หนทางโต้ตอบ แต่เขาก็ไม่คิดจะรีบร้อนลงมือ

เพราะตอนนี้เขามีสิ่งที่ต้องรีบกระทำอย่างไม่อาจรอได้!

ทันใดนั้นตาซ้ายของต้วนหลิงเทียนพลันเผยประกายลี้ลับ สายตาจับจ้องมองเพ่งไปยังร่างซุนต๋อที่กำลังเร่งเร้าพลังชั่วชีวิตต้านทานกระบี่พลังมีสภาพสีทองนับร้อยไม่วางตา!!

ขณะเดียวกันในใจของเขาคล้ายมีสายน้ำหนึ่งแล่นทะลวงฝ่าทำนบจนพังทลาย!

ด้านเหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์ก็ทยอยกันดึงสติกลับคืนได้คนแล้วคนเล่า หากแต่ยามนี้ใบหน้าของพวกมันเผยความประหวั่นระคนยำเกรงนัก ลูกตายังเผยให้เห็นถึงความไม่อยากจะเชื่อออกมาชัดแจ้ง “ศะ…ศิษย์พี่…ซุนเต๋อ…สำเร็จเวทย์พลังปราการเต่าทมิฬแล้ว!”

“สวรรค์! ศิษย์พี่ซุนเต๋อกลับแตกฉานเวทย์พลังปราการเต่าทมิฬประจำแท่นบูชาเต่าทมิฬแล้ว? นั่นเป็นเวทย์พลังสายป้องกันอันดับ 1 ในลัทธิบูชาไฟของพวกเรา! ข้าล่ะไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆว่าศิษย์พี่ซุนเต๋อจะตีความมันได้สำเร็จจริงๆ!!”

“ให้ตายเถอะ…เข้าใจเวทย์พลังปราการเต่าทมิฬแล้วเช่นนี้ หมายความว่าศิษย์พี่สามารถเดินเข้าไปในดินแดนสักดิ์สิทธิ์ด้วยฐานะศิษย์ฝ่ายในได้อย่างภาคภูมิ!!”

“นี่ศิษย์พี่ซุนเต๋อแตกฉานเวทย์พลังปราการเต่าทมิฬตั้งแต่เมื่อใดกัน…แล้วหากเข้าใจกระทั่งเพาะสร้างต้นแบบจนใช้ออกได้เช่นนี้ ไยก่อนหน้าถึงไม่เคยใช้เลยเล่า? หากใช้ได้เช่นนี้ก็มิใช่ว่าสามารถออกจากเขตลงทัณฑ์ได้เลยหรือ?”

……

เหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์เริ่มสนทนากันดังเซ็งแซ่อีกครั้ง และตอนนี้ทุกคนกำลังสงสัยเรื่องหนึ่งไม่น้อย…หากซุนเต่อใช้เวทย์พลังปราการเต่าทมิฬได้แล้ว ไฉนยังรั้งอยู่ที่เขตลงทัณฑ์ของเหมืองลำดับที่ 1แห่งนี้?

“อย่าบอกข้านะ…ว่าศิษย์พี่ซุนเต๋อพึ่งบังเกิดอาการรู้แจ้งบางประการและพึ่งมาใช้ปราการเต่าทมิฬออกได้เอาตอนนี้!”

ทันใดนั้นลูกตาศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์คนหนึ่งที่สังเกตเห็นสภาพร่างคล้ายฝืนทนเต็มกลืนของซุนเต๋อ พลันโพล่งกล่าวออกมาราวกับตระหนักได้ถึงบางสิ่ง

ทันใดนั้นคำพูดของมันก็สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่

หลังจากนั้นสายตาของทุกคนก็มองไปยังซุนเต๋อเขม็ง ยังคล้ายจะใช้สายตาถามไถ่ซุนเต๋อ…

ว่าท่านพึ่งรู้แจ้งและเข้าใจเวทย์พลังปราการเต่าทมิฬ!?

ที่แท้ใช่เป็นเช่นนี้จริงๆหรือ!

พวกมันบังเกิดอาการคันในหัวใจยากจะเกานัก อยากจะตะโกนถามให้รู้แล้วรู้รอด!

“ศิษย์พี่ซุนเต๋อ…นี่ท่านพึ่งตีความเวทย์พลังปราการเต่าทมิฬได้สำเร็จงั้นหรือ?”

ด้านต้วนหลิงเทียนไม่นานก็หลุดออกจากภวังค์หยั่งรู้ สลายกระบี่พลังสีทองมีสภาพที่กำลังพยายามทำลายม่านพลังโปร่งใส ก่อนจะมองถามซุนเต๋อที่บัดนี้ทั่วร่างปรากฏเงาร่างเต่าทมิฬคลุมกายออกไปด้วยสองตากระจ่างใส

เพราะตอนนี้เขาเองก็ตระหนักได้ว่า กระทั่งตัวซุนเต๋อเองยังคล้ายประหลาดใจ ระคนตื่นเต้นไม่น้อย

ด้วยเหตุนี้เขาจึงกล่าวถามออกไป

ที่สำคัญจากสายตาของต้วนหลิงเทียน เขาสามารถมองออกได้ทันทีว่าปราการเต่าทมิฬของซุนเต๋อนั้นกลับเต็มไปด้วยช่องโหว่

ดังนั้นตอนแรกเขาจึงคาดเดาไป…

ว่าซุนเต๋าสมควรพึ่งตีความเวทย์พลังปราการเต่าทมิฬได้สำเร็จไม่นาน…

แต่ทว่าพอเขาได้เห็นแววตาตื่นเต้นทั้งประหลาดใจของซุนเต๋อ เขาก็ตระหนักได้ว่าไม่ใช่อย่างที่คิดไว้ตอนแรก…

แต่ซุนเต๋อคนนี้ 9 ใน 10 ส่วน ล้วนสมควรพึ่งเข้าใจเวทย์พลังปราการเต่าทมิฬสดๆร้อนๆเมื่อครู่!

“ใช่แล้ว!”

เผชิญกับคำถามไถ่ของต้วนหลิงเทียน ซุนเต๋อพยายามระงับความตื่นเต้นยินดีของตัวเองไว้ไม่ให้เสียอาการอย่างยากลำบาก ค่อยประสานมือไว้ระดับอก “ศิษย์น้องหลิงเทียนข้าต้องขอบคุณเจ้ามาก เป็นเพราะเจ้าคนเดียวจึงทำให้ข้าสามารถตีความเวทย์พลังปราการเต่าทมิฬได้สำเร็จวันนี้!ขอบคุณเจ้ายิ่ง!!”

ทันทีที่กล่าวจบคำ ซุนเต๋อก็โค้งคารวะต้วนหลิงเทียนด้วยความสุข

เห็นฉากนี้เหล่าศิษย์แท่นบูชาเต่าทมิฬถึงกับงุนงงเป็นไก่ตาแตก

เรื่องนี้มันยังไงกันแน่?

ซุนเต๋อที่สามารถตีความเวทย์พลังปราการเต่าทมิฬจนใช้ออกได้สำเร็จ ไฉนถึงไปกลับกล่าวขอบคุณคู่ต่อสู้ทั้งยกความดีความชอบให้แบบนี้?

เหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์สงสัย ต้วนหลิงเทียนก็โค้งคิ้วถามด้วยความสนใจ “ทำไมศิษย์พี่ซุนเต๋อถึงมาขอบคุณข้าล่ะ?”

“นั่นเพราะภายใต้กระบี่พลังที่เจ้าจู่โจมออกมาเมื่อครู่ ทำให้ข้าสัมผัสได้ถึงความรู้สึกเสมือนตกอยู่ในห้วงแห่งความเป็นตาย…พอข้าตกอยู่ในห้วงนั้นทุกเคล็ดความในใจข้าเสมือนพบหนทางสายหนึ่ง และนั่นยังผลให้เวทย์พลังปราการเต่าทมิฬที่ก่อนหน้าข้ามิอาจผ่านพ้นจุดรอคอยไปได้ กลับกลายเป็นกระจ่างถึงขั้นสำเร็จมันได้เช่นนี้!”

“กล่าวได้ว่าทั้หมดล้วนเป็นเพราะแรงกดดันของเจ้า จึงทำให้ข้าตีความมันได้สำเร็จ!”

ซุนเต๋อที่กำลังอารมณ์เบิกบาน กล่าวอธิบายออกมาให้ต้วนหลิงเทียนฟังอย่างอดทน